แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 99 เธอต้องเลี้ยงข้าวฉันสิ



ตอนที่ 99 เธอต้องเลี้ยงข้าวฉันสิ

หวังฉิงเดินฉับๆ กลับไปยังที่นั่ง หลินเชื่อกัดริมฝีปากแล้วจ้อง มองด้านหลังของอีกฝ่าย มือกหมัดแน่น

อวหมินหมุนเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าหวังฉิงจะยโสได้ถึง ขนาดนี้

บางทีหล่อนอาจจะอายุน้อยเกินกว่าจะสามารถควบคุม

กิริยามารยาทได้

หลินเชื่อยิ้มเย็น “ถามจริงๆ เถอะว่าตกลงรางวัลนี้เขาดูกัน ที่ฝีมือในจอหรือนอกจอกันแน่คะ”

อวหมินหมิ่นกดมือหลินเชื่อไว้ “อย่ากังวลไปเลย เดี๋ยวฉัน

จะไปดูเอง”

ผู้จัดการสาวลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ทิ้งหลินเซ่อเอาไว้เพียง คนเดียว ทันใดนั้นหญิงสาวก็ได้ยินใครบางคนพูดขึ้นจากทาง ด้านหลังว่า

“ดูเหมือนว่ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่จะเป็นของหวังฉิง เสียละมั้ง

“แต่หลินเชื่อก็แสดงได้ไม่เลวนะ

“อันที่จริงฉันรู้มานานแล้วละว่ายัยหวังฉิงน่ะเป็นคนได้รางวัลนักแสดงหน้าใหม่

ฉันเห็นรายชื่อมาก่อนแล้วก่อนหน้า

“ให้ตายเถอะ งั้นก็เป็นหล่อนจริงๆ น่ะสิ มิน่าหล่อนถึงได้ ดูมั่นหน้านัก เดินพรมแดงคนเดียวแบบเชิดสุดอะไรสุดทีเดียว นี่เดาว่าคงจะเป็นผลตัดสินภายในสินะ น่าสงสารหลินเชื่อจัง

“ก็จะให้ทำยังไงได้ล่ะ

แม้หลินเซ่อจะไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้สูงมากมายว่าตัว เองจะได้รางวัล แต่เธอก็ยังไม่สบอารมณ์นักที่จะได้ฟังคำพูด เช่นนี้ ถ้าหากตัดสินกันที่ความสามารถจริงๆ เธอก็ยังเต็มใจที่ จะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่การใช้วิธีตกตึกเพื่อเขียเธอให้พ้น ทางแบบนี้เป็นเรื่องที่หญิงสาวไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่นัก

โลกนี้ไม่มีอะไรยุติธรรม ยิ่งในวงการนี้ด้วยแล้ว หลินเชื่อ ไม่ชอบเลยที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเธอ

ทำไมถึงไม่สู้กันด้วยความสามารถและชื่อเสียงแบบแฟร์ๆ

ล่ะ

หวังฉิงคู่หันมาหาหลินเชื่อ หล่อนเลิกคิ้วแล้วยิ้มเยาะ ทำท่าราวกับเป็นผู้ชนะ

หลินเซ่อมองตรงไปข้างหน้าและสูดลมหายใจเข้าอย่าง

เงียบงัน

เหล่าดาราชื่อดังหลายคนเริ่มทยอยขึ้นไปบนเวทีเมื่อเริ่มมี การประกาศรางวัลดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม หลินเซ่อมองตรงไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ และเมื่อถึงเวลาประกาศ รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ เธอก็ขยับนั่งยึดตัวขึ้นตรง

หวังจึงหันกลับมาอีกครั้ง ส่งยิ้มน้อยๆ ให้หลินเชื่อ “ไม่ ต้องตื่นเต้นไปหรอกนะ ยังไงรางวัลก็เป็นของฉันอยู่แล้ว โชค ร้ายหน่อยนะจ๊ะที่ต้องมาแข่งกับฉันปีนี้ ขอให้คราวหน้าเธอ โชคดีกว่านี้ก็แล้วกัน” หวังฉิงยกมือขึ้นปิดปากแล้วทำท่า ราวกับเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ “โอ๊ะ เพิ่งนึกออก เธอมีโอกาสที่จะ เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนี้แค่ครั้งเดียวในชีวิตนี่นา ปีหน้าก็ไม่ได้ เป็นดาราหน้าใหม่แล้วนะจ๊ะ

หลินเซ่อจ้องหน้าอีกฝ่าย “อย่างน้อยฉันก็มาถึงตรงนี้ได้ ด้วยความพยายามและความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่อะไร ก็ตามที่อยู่หลังเวทีก็แล้วกัน

“ฮา หลังเวทีก็เป็นส่วนหนึ่งของความสามารถของเราเช่น กันจ้ะ โดยเฉพาะในวงการนี้ แต่ถึงยังไงเธอก็คงไม่มีปัญญา ชนะฉันได้อยู่ดีนั่นแหละ”

คนทั้งฮอลล์อยู่ในความเงียบเมื่อผู้ดำเนินรายการเริ่มพูด “นักแสดงหน้าใหม่ในปีนี้นับว่าเป็นคนรุ่นใหม่กันทั้งนั้นเลยนะ ครับ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปีที่มีละครดังต่อกันหลาย ต่อหลายเรื่องทีเดียว ส่วนครึ่งหลังของปีก็เต็มไปด้วยเรื่องน่า ประหลาดใจเช่นกัน มีผลงานดีๆ ที่ทั้งมีชื่อและได้รับเรตติ้ง ถล่มทลายออกมาอยู่หลายเรื่อง…

“เพราะฉะนั้น ตอนนี้เราจะมาประกาศรางวัลนักแสดงหน้าใหม่สำหรับปีนี้กันนะครับ

หลังจากฉายภาพวิดีโอของบรรดาผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ เป็นที่เรียบร้อย พิธีกรก็ยิ้มและพูดต่อไปว่า “ใครจะเป็นนัก แสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปีกันแน่ จะเป็นหวังฉิง หรือจะ เป็นผู้หญิงหนึ่ง หรือจะเป็นซื้อตู้ซิง หรือหลินเชื่อ

ในชั่วขณะนั้นเอง พิธีกรรับเชิญอีกคนก็เดินฝ่าบรรดาผู้ชม

ขึ้นไปยังเวที กล้องทุกตัวผลัดกันจับภาพผู้ได้รับการเสนอชื่อ หลินเชื่อนั่งนิ่งสีหน้าปราศจากความรู้สึกใดๆ หญิงสาวยังไม่ คุ้นกับการต้องถูกจับจ้องแบบนี้ ในขณะที่ทางด้านหวังฉิงนั้น กลับเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและมองตรงเข้าใส่กล้องอย่าง ภาคภูมิใจ

จากนั้นพิธีกรรับเชิญก็ยิ้มและประกาศผล “รางวัลนัก แสดงหน้าใหม่ปีนี้เป็นของหลินเชื่อค่ะ! “

บริเวณด้านล่าง หลินเชื่อซึ่งได้ยินชื่อตัวเองกำลังอยู่ใน

อาการช็อกสนิท

เธอนั่งนิ่งไม่อาจขยับตัวจนกระทั่งคนที่อยู่ข้างๆ เริ่มรุน หลังนั่นแหละ หญิงสาวจึงรีบลุกขึ้น

ด้วยความงงไม่หาย เธอแทบมองไม่เห็นอะไรนอกจาก แสงสปอตไลต์ที่สาดลงมาบนหน้า เธอก้าวขึ้นไปบนเวทีและรับ รางวัลจากมือของพิธีกรรับเชิญ

ที่ด้านล่างเวที หวังฉิงนั้นลุกขึ้นยืนเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่เมื่อหล่อนได้ยินชื่อหลินเชื่อ สีหน้าของหล่อนก็เปลี่ยนเป็น

เขียวคล้ำ

หลินเชื่อถือรางวัลของเธอและก้าวเข้าไปยืนที่หน้าแท่น มือจับไมโครโฟนด้วยท่าที่ประหม่าอาย ก่อนจะยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณผู้สร้างซีรีส์กระบี่ยอดดวงใจด้วยนะคะ ขอบคุณผู้ กำกับที่ให้โอกาสฉันได้แสดงบทสำคัญในเรื่องนี้ และขอบคุณ เพื่อนร่วมงานทุกคนที่ช่วยสอนอะไรให้ฉันมากมายเหลือเกิน ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยค่ะ…

หวังฉิงไม่อยากทนฟังอีกต่อไป หล่อนไม่แยแสสายตาที่ พากันจ้องมองมาและเดินปังปังออกไปอย่างโกรธจัด

ด้านนอก หล่อนเดินพล่านไปทั่วทุกที่จนกระทั่งพบตัว ประธานเฉินที่ด้านหลังของงาน

นักแสดงสาวตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดใส่ว่า “คุณเป็นบ้า อะไร ไหนคุณบอกว่าจะให้รางวัลนั่นกับฉันไงล่ะ แล้วทำไม ถึง…ทำไมคุณถึงกล้าโกหกฉันแบบนี้ นี่คุณเห็นฉันเป็นของ เล่นหรือยังไง”

เธอขายหน้าจะแย่อยู่แล้ว อุตส่าห์ไปพูดจาวางโตชะ มากมายขนาดนั้น แต่สุดท้ายกลับคว้าน้ำเหลว

“ฉัน…ฉันก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนั้นหรอก ฉันเขียนชื่อเธอ

ลงไปแล้วจริงๆ นะ ถึงแม้ว่าทุกคนจะเห็นว่าหลินเชื่อแสดงได้ดี กว่าก็เถอะ แต่ฉันก็ยังเชื่อในตัวเธอ แต่ว่าวันนี้ ประธานเฉ นอุบอิบ “ฉันบอกได้แค่ว่าคนหนุนหลังหลินเชื่อนะใหญ่โตกว่าของเธอมากนัก ฉันไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้นะ

“อะไรนะ”

“บอกตามตรงว่าไม่มีทางเลย ฉันเองก็ไม่คิดว่าแบ็คของ หลินเชื่อจะเป็นคนระดับนั้นเหมือนกัน เขาใหญ่ขนาดที่ฉันไม่มี ปัญญาแตะต้องได้ ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก ต่อให้อยากจะ ช่วยก็เถอะ”

หวังฉิงถึงกับอึ้งไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของหล่อน ยับยู่ด้วยโทสะ

ในไม่ช้า หลินเชื่อก็เดินลงมาจากเวทีและได้เห็นอวหมิน หมิ่น เธอพูดกับอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ “บอกตามตรง นะคะ ฉันไม่เคยคิดเลยว่ารางวัลนี้จะเป็นของฉันน่ะ พระเจ้า นี่ มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย

อวหมินหมิ่นยิ้มและบอกว่า “ดูเหมือนว่าโลกนี้จะยังมี ความยุติธรรมอยู่น่ะสิ”

หลินเชอผงกหัวโดยแรง

เธอไม่อาจซ่อนความยินดีในสีหน้าเอาไว้ได้

อวหมินหมิ่นพูดต่อไปว่า “อย่าลืมเลี้ยงพวกเราด้วยล่ะ

“แน่นอนค่ะ ฉันจะเลี้ยงทุกคนเลย ฮ่าๆ “

งานประกาศผลรางวัลสิ้นสุดลงแล้ว และในขณะที่หลินเช่ อกำลังเดินออกจากงาน โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
เธอล้วงมันออกมาและได้เห็นว่าเป็นจิ้งเจ๋อนั่นเอง เธอรีบรับสายโดยไว “จิ้งเจือคะ” เมื่อได้ยินความดีใจในน้ำเสียงของเธอ ชายหนุ่มก็ยิ้ม

ออกมาอย่างพอใจ (งานเลิกแล้วเหรอ

“เลิกแล้วค่ะ เพิ่งเลิกเดี๋ยวนี้เอง”

(ฉันรอเธออยู่ข้างนอกนะ ออกมาส

“อา จริงเหรอคะ”

(จริงสิ เธอชนะรางวัลนี่นา เธอควรต้องเลี้ยงข้าวฉันไม่ใช่ เหรอ เขาถาม

“โอเคๆ ได้เลยค่ะ ฉันจะพาคุณไปเลี้ยงข้าวเอง

หลินเชอวางสายแล้ววิ่งออกไป เธอเห็นรถของเขาจอดรอ

อยู่ข้างนอก

หลินเชือกระโดดขึ้นรถแล้วยื่นถ้วยรางวัลอวดเขาด้วย

ความตื่นเต้น

กู้จิ้งเจ๋อยิ้มแล้วบอก “ยินดีด้วยนะ

เธอพูดด้วยท่าทีเนื้อเต้นทีเดียว “ฉันยังคิดอยู่เลยนะคะว่า มันแปลกจังที่ใครต่อใครก็พากันพูดว่าหวังฉิงน่ะรู้จักคนมี อิทธิพลในวงการ เพราะฉะนั้นรางวัลนี้จะต้องเป็นของเธออย่าง แน่นอน แต่มันก็ยังกลายเป็นของฉันแบบนี้
จิ้งเจ๋อยิ้มให้ “นั่นพิสูจน์ให้เห็นแล้วไงล่ะ ว่ามีคนที่มี

อิทธิพลมากยิ่งกว่า

“อะไรนะคะ”

ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรอีกแต่เริ่มออกรถ “ไปกันเถอะ เธอ ติดเลี้ยงข้าวฉันอยู่นะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ