แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 11 อย่าเอาความโกรธของคุณ มาลงที่ฉัน



ตอนที่ 11 อย่าเอาความโกรธของคุณ มาลงที่ฉัน

โม่ฮุ่ยหลิงคิดตลอดมาว่าสักวันหนึ่งเธอและกู้จิ้งเพื่อจะได้เป็น ของกันและกัน แม้ว่าเขาจะหัวแข็งและถือทิฐิมากแค่ไหนก็ตาม ที แต่ดูเถอะ เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะมีผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ โผล่เข้ามาในชีวิตเขาแบบนี้

“ผมเสียใจ ฮุ่ยหลิง ผมจะไม่โทษคุณเลยถ้าคุณไปพบชีวิต ที่มีความสุขกับคนอื่น

“ฉันจะทิ้งคุณไปได้ยังไงล่ะคะ… จิ้งเจ๋อ ฉันอยู่กับคุณมาตั้ง กี่ปีแล้ว ถ้าฉันทิ้งคุณไปตอนนี้ ฉันก็ไม่รู้เลยว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ ต่อไปได้อย่างไร ฉันฝันมาตั้งแต่เด็กว่าจะได้แต่งงานกับคุณใน

วันหนึ่ง”

หัวใจของกู้จิ้งเจ๋ออ่อนยวบลงเมื่อมองหน้าเธอ “ฮุ่ยหลิง ผมแค่ไม่อยากเห็นคุณต้องทุกข์ทรมาน

โม่ฮุ่ยหลิงยิ้ม “ฉันเชื่อค่ะว่าคุณจะหย่ากับผู้หญิงคนนั้นสัก วัน ฉันจะรอคุณค่ะ!”

เมื่อเห็นภาพเช่นนั้น หลินเชื่อก็นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ สาวใช้คิดว่าเธอคงกำลังโกรธจึงเดินเข้าไปและอธิบายอย่าง ระมัดระวังว่า “คุณผู้หญิงคะ นายท่านกับคุณไม่เป็นเพื่อนวัยเด็กกันมาก่อน พวกเขาสนิทกันมากแต่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ เกินเลยกันไปกว่านั้น ไม่มีอะไรระหว่างพวกเขาทั้งสองคน หรอกค่ะ”

“จริงเหรอ” หลินเซ่อรู้สึกตัวว่ากำลังทำให้สาวใช้ผู้นี้ เข้าใจผิด เธอจึงรีบโบกมือเป็นพัลวันก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่ได้ หมายความแบบนั้นนะ ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็คงจะดี แหละ… ว่าแต่พวกเขารู้จักกันมานานขนาดนั้นเลยเหรอ

สาวใช้ตอบว่า “ใช่ค่ะ พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่เกิดเลย นั่นแหละ

นานขนาดนั้นเลยหรือนี่ หลินเซ่อคิด

“งั้นพวกเขาก็คงสนิทกันมากเลยสินะ” เธอถามต่อ

สาวใช้ตอบ “ใช่ค่ะ คุณไม่เป็นคนอารมณ์ร้อน แต่นาย ท่านก็มักจะยอมเธออยู่ตลอดเวลา เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ละค่ะ แต่ฉันคิดว่ามันเหมือนความสัมพันธ์แบบพี่ชายน้องสาว เสียมากกว่า คุณผู้หญิงอย่าโกรธไปเลยนะคะ ถึงอย่างไรฉันก็รู้ ดีว่านายท่าน…

ป่วยเป็นโรคประหลาดแถมยังแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงไม่ได้ แย่จังแฮะ หลินเชื่อคิด

ลึกลงไปเธอรู้สึกว่าจิ้งเจ๋อตกอยู่ในสถานการณ์ที่โชค ร้ายอย่างยิ่ง

เขามีผู้หญิงที่เขารักอยู่เคียงข้างแต่กลับไม่อาจสัมผัสตัวเธอได้

เธอนึกไม่ออกเลยว่าเขาต้องทนกับสภาพแบบนี้มาได้ อย่างไรตั้งหลายปี

หลินเชื่อไม่ได้โกรธ เธอแค่สงสัยเท่านั้นเอง

เธอหันไปบอกกับสาวใช้ว่า “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันไม่ได้ โกรธ แค่อยากจะถามเท่านั้น ฉันเข้าใจจิ้งเจ๋อ ฉันไม่โกรธ เขาหรอก”

เมื่อได้ยินหลินเช่อพูดเช่นนี้ ความชื่นชมประทับใจของ สาวใช้ที่มีต่อตัวนายหญิงก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก สาวใช้ยิ้มให้ และพูดต่อไปว่า “คุณผู้หญิงคะ คุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ ฉันเคยพบมา แถมยังใจดีอีกด้วย คุณกับนายท่านเข้ากันได้ดี มากเลยนะคะ พวกคุณจะต้องครองคู่อยู่กันได้อย่างมีความสุข ในอนาคตแน่”

หลินเชื่อไม่ได้โกรธจริงๆ เพราะเขาและเธอเห็นพ้องกันมา ตั้งแต่ต้นแล้วว่า นี่จะเป็นการแต่งงานตามข้อตกลง และจิ้ง เจ๋อก็บอกกับเธออย่างซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาทุกประการ แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องโกรธเขา

หลินเชื่อถามต่อไปว่า “แต่กู้จิ้งเจ๋อกับคุณหนูโม่ก็ดูรักกันดี ออก ทำไมทั้งสองตระกูลถึงไม่เห็นดีเห็นงามให้แต่งงานกัน ล่ะจ๊ะ”

สาวใช้ตอบว่า “คุณหนูโม่เป็นลูกสาวคนที่สามของตระกูลโม่ แต่นายท่านใหญ่ของบ้านตระกูลไม่ค่อยจะพอใจเธอนัก หรอกค่ะ ท่านไม่ชอบพฤติกรรมบางอย่างของครอบครัวนั้น แต่ถึงยังไงท่านก็ไม่ได้กีดกันอะไรจริงจังหรอกนะคะ จนกระทั่ง นายท่านมาป่วยเข้าเสียก่อนนั่นล่ะ ส่วนทางครอบครัวเองก็ อยากจะให้ท่านหาใครสักคนที่จะสามารถมีทายาทสืบสกุลให้ กับท่านได้ แต่นายท่านของเราเป็นคนหัวแข็งมากค่ะ ท่านไม่ ยอมเลิกกับคุณหนูโม่ ส่วนคุณหนูไม่เองก็มาคุยวุ่นวายอยู่ ตลอดและไม่ยอมให้นายท่านแต่งงานกับผู้หญิงหน้าไหน เรื่อง มันก็เลยคาราคาซังกันอยู่อย่างนี้นี่แหละค่ะ

เมื่อสาวใช้เห็นว่าหลินเชื่อตั้งใจฟังเป็นอันดี เธอจึงยิ้ม แล้วเล่าต่อไปว่า “แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็ลงตัวเรียบร้อยแล้วนี่คะ นายท่านกับคุณผู้หญิงน่ะสมกันดีออกจะตาย คุณผู้หญิงสวย ส่วนนายท่านก็หล่อเหลา นายน้อยที่จะเกิดมาในอนาคตต้อง น่ารักน่าชังมากแน่ๆ

หลินเซ่อฟังแล้วแทบกระอักเลือด

แน่ล่ะว่าเธอไม่ได้อยากจะมีลูกกับจิ้งเจ๋อเพราะถึง อย่างไรมันก็คงเป็นไปไม่ได้ ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้น เขาแตะต้อง เธอก็เพราะว่าเธอวางยาเขาเท่านั้นเอง แน่นอนว่าเธอไม่ใช่คน ที่จะมารักษาอาการป่วยของเขาได้

หลินเซ๊ออดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่พยายาม ตามหาผู้หญิงคนอื่นที่จะมาช่วยเยียวยาโรคร้ายของจิ้งเจ๋อกันนะ
แต่หลังจากที่ลองใคร่ครวญดู เธอก็เข้าใจได้ บางทีอาจ เป็นเพราะกู้จิ้งเจ๋อเองยังคงรักโม่ฮุ่ยหลิงอย่างสุดหัวใจจน กระทั่งไม่ยอมแตะต้องผู้หญิงหน้าไหนทั้งสิ้น แต่ตอนนี้เป็น เพราะเธอแท้ๆ ..

หลินเชื่อเอาอาหารใส่ปากพลางครุ่นคิดจนกระทั่งจิ้งเพื่อ เดินเข้ามาในบ้าน

ทันทีที่เขามองเห็นหลินเชื่อกำลังสวาปามอาหารขณะนั่ง อยู่บนโซฟา ขาทั้งสองข้างพาดบ่ายปะไปทั่วดูแล้วไม่สำรวมยิ่ง

ชายหนุ่มจึงนิ่วหน้าและตำหนิว่า “เธอช่วยทำอะไรให้ถูก สุขอนามัยกว่านี้หน่อยได้ไหม

หลินเชื่อเงยหน้าขึ้น “ฉันล้างมือแล้วนะคะ แล้วมันยังจะไม่ ถูกสุขอนามัยตรงไหนอีก

เมื่อกู้จิ้งเจ๋อเห็นว่าเธอกำลังใช้มือเปล่าจัดการอาหาร แถมยังมีเศษอาหารหล่นเกลื่อนกลาดไปทั่ว คิ้วที่ขมวดไว้ก็ยิ่ง นิ่วหนักจนเป็นปม

หลินเชื่อจึงเงยหน้าขึ้นแล้วโพล่งออกมาว่า “ค่ะ ก็ไม่ใช่ ทุกคนจะได้รับการอบรมมาดีเหมือนคุณหนูโม่นี่คะ คุณพูดถูก แล้วละ ฉันมันคงไร้มารยาท แม้แต่จะกินข้าวก็ยังไม่มีมารยาท เลย แม่ฉันตายไปตั้งแต่ฉันยังวัยรุ่น ส่วนพ่อก็ไม่เคยเห็นฉัน เป็นลูกสาว แถมแม่เลี้ยงก็พยายามจะขายฉันเพื่อแลกกับเงิน เพราะฉะนั้นก็เลยไม่เคยมีใครสอนฉันทั้งเรื่องมารยาทและ สมบัติผู้ดี อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเวลามาสนใจวางท่าเป็นผู้มีกิริยาเหมือนพวกคุณตลอดเวลาหรอกนะคะ สำหรับ ฉัน แค่มีชีวิตอยู่ได้ก็น่านับถือตัวเองมากพอแล้ว เพราะฉะนั้น ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเทือกนี้หรอกค่ะ แล้วฉันก็ไม่มีวันเป็นอย่างคุณ หนูโม่ได้ด้วย”

เธอมองดูจิ้งเจ๋อแล้วพูดต่อไปว่า “โอเค ถ้าคุณอึดอัดนัก ที่จะต้องมองดูฉันกินอาหารในสภาพนี้ถ้างั้นฉันจะพยายามไม่ กินต่อหน้าคุณละกันค่ะ อีกอย่าง อีกหน่อยคุณก็คงไม่ค่อยอยู่ บ้านสักเท่าไหร่ด้วยแหละ

ก็ในเมื่อเขามีคุณหนูไม่อยู่อย่างนี้ เขาน่าจะอยากใช้เวลา อยู่กับเธอมากกว่าที่จะมาขลุกอยู่กับหลินเชื่อที่บ้านตลอดเวลา แบบนี้

จิ้งเจ๋อพ่นลมออกทางจมูก “ใช่แล้ว ฮุ่ยหลิงเป็นกุลสตรีที่ ได้รับการอบรมมาอย่างดี อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช้มือกินอาหาร อย่างที่เธอทํา

ขณะที่พูดชายหนุ่มก็จ้องเป่งไปยังมือที่เป็นมันย่องของอีก ฝ่าย

หลินเชื่อก้มลงดู อันที่จริงเธอก็ออกจะเขินอยู่นิดหน่อย แหละ แต่เธอก็ชินเสียแล้วกับการทำแบบนี้จึงไม่ใส่ใจนัก

หลินเช่อรีบเลียนิ้วมือของตัวเองทีละนิ้ว ลิ้นสีชมพูของเธอ ตวัดพันรอบนิ้วอย่างคล่องแคล่ว

การต้องมาอยู่ร่วมชายคนกับผู้ชายแบบนี้เป็นเรื่องทรมานชะมัด ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆ ต่างก็บอกว่าคนเราควรจะ แต่งงานกับคนที่มีพื้นเพเหมือนกัน เธอและกู้จิ้งเจ๋อเป็น ตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของคู่สามีภรรยาที่ผิดฝาผิดตัวอย่าง ที่สุด

เธอเงยหน้าขึ้นมองจิ้งเจ๋อและได้เห็นว่าสายตาของเขา เหมือนจะลุกเป็นไฟ เขาจ้องเขม็งมาที่หน้าเธอ ดวงตาแดงก่ำ ราวกับอยากจะเข้ามาฉีกร่างเธอเป็นชิ้นๆ

นี่เธอไปทําอะไรให้เขาโกรธเข้าอีกล่ะ

หลินเชอละล่ำละลักบอก “อย่าเพิ่งโกรธนะคะ ฉันจะไม่กิน อาหารต่อหน้าคุณอีกแล้ว

ก็จะให้เธอทำยังไงได้ นิสัยแบบนี้ไม่ใช่ของที่จะเปลี่ยนกัน

ง่ายๆ เสียหน่อย

แน่ละว่าคุณหนูไม่นั้นช่างเลอเลิศสวยสง่า แต่เธอไม่ใช่ คุณหนูโม่นี่นา

หญิงสาวส่งยิ้มอย่างเหนียมอายให้ แต่จิ้งเพื่อกลับผลุน ผลันออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไร

“เฮ้ ฉัน…” เธอมองตามเขาไปด้วยความงุนงง ”

“คราวหน้าคราวหลังอย่าแลบลิ้นออกมาเลียนิ้วแบบนี้อีก เป็นอันขาด” อยู่ๆ เขาก็หันขวับมามอง สายตาเขาจับจ้องอยู่ที่ นิ้วเธอ โดยเฉพาะต่อหน้าเพศตรงข้าม

“อะไรนะคะ” หลินเชื่อรีบก้มลงดูดนิ้วมือตัวเองพลางกระดกมันไปมา เธองงไปหมดแล้ว ไม่เข้าใจเลยว่าเขาหมาย ถึงอะไร

กู้จิ้งเจ๋อส่ายหน้าโดยปราศจากคำพูดแล้วคิดว่ายัยนี่เป็นผู้ หญิงที่ซื่อบื้อที่สุด

หลังจากล้างมือเป็นที่เรียบร้อย หลินเชื่อก็เดินเข้าไปใน

ห้องนอน

กู้จิ้งเจ๋อนั่งลงบนโซฟายกขาขึ้นไขว่ห้าง ท่วงท่านั้นช่างดู สง่าไร้ที่ติ แสงไฟจากเพดานส่องลงมายังร่างสูง ส่งให้เหลี่ยม มุมของรูปร่างยิ่งปรากฏชัด เขานั่งด้วยท่าทีสบายๆ แต่ถึงยัง ไงก็ยังดูดีอยู่นั่นเอง

หลินเชื่อหยุดยืนแล้วมองดูอีกฝ่าย ก่อนจะเดินเข้าไปใน ห้องอย่างเงียบๆ แต่แล้วเขาก็ร้องเรียกขึ้นว่า “คุณหลิน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ