แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 70 พวกเธอสองคนเหมาะสมกันมากจริงๆ



ตอนที่ 70 พวกเธอสองคนเหมาะสมกันมากจริงๆ

ทั้งสองคนจับมือกันอย่างเป็นกันเอง จากทางด้านหลัง มีหว่าน ฉิงยืนยิ้มย่องผ่องใสพลางพูดว่า “เร็วเข้า มานั่งเถอะจ้ะ นั่น กำลังมองหาอะไรอยู่เหรอ

หลินเชื่อรีบเดินเข้าไปประชิดข้างตัวมู่หว่านฉิง “แม่คะ หนู

อยากนั่งข้างคุณแม่

มหว่านฉิงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอคิดว่าคง เป็นการดีกว่าถ้าจะให้กู้จิ้งหญิงและกู้จิ้งเจ๋อได้คุยกันตามลำพัง ด้วยเหตุนี้เธอจึงเลือกที่จะเงียบไว้แล้วหันมาหาหลินเชื่อก่อ นพูดว่า “จะมาทำตัวติดกันกับแม่อะไรตลอดเวลาละจ๊ะ เดี๋ยวจิ้ง เจ๋อก็โกรธเอาหรอก

หลินเชื่อกอดแขนมหว่านฉิงเอาไว้อย่างรักใคร่ เขาอยาก โกรธก็ให้เขาโกรธไปสิคะ หนูอยากอยู่กับคุณแม่ที่สุด หนูไม่ ชอบเขานี่นา”

มู่หว่านฉิงเองก็อยากมีลูกสาวมาคลอเคลียแบบนี้บ้าง เธอคิดมาตลอดว่าถ้าได้มีลูกสาวสักคนน่าจะดี มาตอนนี้เมื่อมี หลินเซ่อมาคอยเกาะแกะก็ดูเหมือนว่าจะช่วยเติมเต็มความ ปรารถนาให้มหว่านจึงได้เป็นอย่างดี เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขยิ่งขึ้นกว่าเดิม เมื่อหลินเซ่อมากอดแขนเคล้าเคลีย

เธอจึงปล่อยให้หญิงสาวเกาะแกะตามสบาย อีกด้านหนึ่ง สายตาของจิ้งเจ๋อก็จับจ้องไปที่หญิงสาว

อย่างมีความหมาย

จนกระทั่งจิ้งหมิงเรียกขึ้นนั่นแหละ เขาจึงหันหน้ากลับมา

“คะแนนป๊อปปูลาร์โหวตในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ควร จะยังเป็นของเราอยู่นะ” จิ้งเพื่อเริ่มถกเรื่องเครียดกับจิ้งหมิง

จิ้งหญิงตอบว่า “ทิศทางเสียงโหวตในเมือง – ยังไม่ แน่ชัดเท่าไหร่ แล้วยังมีอีกสองเมืองที่ทิศทางคะแนนโหวตยัง ไม่ชัดเจน

“เมือง H กับเมือง S น่ะเหรอ

“ใช่แล้วล่ะ”

“เมือง 4 นะประชาชนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรากหญ้า ถ้าพี่ ยินดีที่จะแต่งงานกับคุณนายของท่านประธานาธิบดีที่มาจาก ชนชั้นพลเรือน พี่ก็น่าจะได้รับคะแนนโหวตจำนวนมากเป็นสิ่ง แลกเปลี่ยนนะ ฉันกำลังจะลงทุนสร้างโรงงานหลายๆ โรงงาน ในเมือง S อีกครั้งเพื่อจ้างงานคนที่นั่น ทีนี้ก็จะเหลือแค่เมือง H เท่านั้นแล้วที่เราต้องหาทางรับมือ พี่ก็ยังไม่มีภรรยาเสียที่นี่ นะ…”

จิ้งหญิงหน้าตึง เขาเงยหน้ามองหว่านฉิงที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม
แน่ล่ะว่าทันทีที่มหว่านจึงได้ยินเช่นนั้น เธอก็ดีใจจนเนื้อ เต้น “ใช่ๆ น้องชายของลูกพูดถูกแล้ว จึงหมิง ตอนนี้ลูกก็อายุ มากแล้วนะจ๊ะ ถึงเวลาที่จะต้องคิดลงหลักปักฐานแล้วก็สร้าง ครอบครัวได้แล้ว ผู้ชายน่ะจะดูมั่นคงแล้วก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวได้ ก็ต่อเมื่อเขาแต่งงานแล้ว นี่จะส่งผลดีกับงานของลูกด้วย ยิ่งไป กว่านั้นลูกเองก็แก่มากแล้วนะ…

“แม่ครับ!” จึงหมิงวางถ้วยชาแล้วตวัดสายตามองจิ้ง เจ๋อ “พอจัดการเรื่องของน้องได้ ตอนนี้ก็เลยหันมาเล่นงานผม กันใหญ่สินะ”

หว่านจึงบอก “ก็เพราะแม่คิดว่าที่จิ้งเจ๋อพูดมามันเข้าท่า ต่างหากล่ะ อันที่จริงผู้หญิงที่มาจากครอบครัวพื้นเพธรรมดาๆ ก็ดีเหมือนกันนะจ๊ะ พวกเธอจริงใจ ไม่เสแสร้ง แล้วก็ไม่ได้มี เจตนาร้ายๆ แอบซ่อนด้วย จึงหมิง ถ้าลูกยอมละก็แม่จะช่วย เลือกให้เอง บางทีถ้าเป็นคุณครูหรือคุณหมอก็ไม่เลวเหมือน กันนะ”

หลินเชื่อไม่คิดเลยว่าท่านประธานาธิบดีจะตกที่นั่งลำบาก เช่นนี้ได้เพราะถูกกดดันให้แต่งงาน เธออดนึกสนุกไม่ได้ที่ได้ เฝ้าดูอยู่ตรงนี้

สายตาของจิ้งหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาหันมองออกไป ด้านนอก และดูเหมือนว่าจะอับจนด้วยคำพูด

หว่านฉิงดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ เธอหันไปหาจิ้งเจ๋อ และหลินเซ่อ “พวกเธอสองคนก็อย่ามัวแต่นั่งมองกันล่ะ ถึงแม้ตอนนี้จะแต่งงานกันแล้ว แต่จึงเจ๋อก็ถึงวัยที่ควรจะมีลูกได้แล้ว เหมือนกัน ฉันไม่ได้อยากจะบังคับพวกเธอหรอกเพราะยังไง ต่างคนต่างก็ยังต้องก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่ถึงยังไงพวก เธอก็ควรจะเริ่มคิดเรื่องนี้กันได้แล้วนะ ได้ยินหรือเปล่าจ๊ะ

หลินเซ่อตัวแข็งทื่อ รู้สึกเหมือนตั้งตัวไม่ติด อดเหลือบ มองสีหน้าของจิ้งเพื่อที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามไม่ได้

ต่างคนต่างก็มองหน้ากันด้วยความท้อแท้ใจ ด้วยความ

เป็นห่วงกลัวว่าจิ้งเจ๋อจะโกรธ หลินเชื่อจึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณ แม่คะ พวกเรายังสนุกกับการใช้ชีวิตในฐานะคู่รักกันอยู่ สำหรับตอนนี้เรายังไม่อยากมีลูกน่ะค่ะ

หว่านฉิงหยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อไป “นั่นก็จริงอยู่ หรอกนะ พวกเธอเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน คงจะยังไม่อยากมี ลูกกันแน่ๆ”

กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว เขามองดูสีหน้าตื่นตระหนกของหลินเชื่อ เมื่อได้ยินเรื่องลูก

ถ้าเขามีลูกกับหลินเชื่อ….

เขาอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขามีลูกกับเธอ เด็กชายหรือเด็ก หญิงคนนั้นจะต้องออกมาน่ารักอย่างแน่นอนที่สุด

ผิวของหลินเชื่อนั้นขาวจัดจนดูราวกับอาบด้วยน้ำนม ส่วน ตัวเขาก็หน้าตาไม่เลวเช่นกัน หากความสัมพันธ์ของเธอและ เขาไปถึงจุดนั้น ลูกที่ออกมาคงจะต้องดูดีไร้ที่ติอย่างแน่นอน
ส่วนเรื่องสติปัญญาของเด็กอาจจะต้องพึ่งพาโชคเสีย หน่อย เพราะถ้าลูกชายหรือลูกสาวของเขาได้รับมรดกมัน สมองที่ฉลาดน้อยของแม่มาละก็ อนาคตของพวกแกคงจะน่า เป็นห่วงทีเดียว

เมื่อเห็นจิ้งเจ๋อหน้านิ่วอย่างหนัก หลินเชื่อก็รีบพูดต่อ “ใช่ค่ะ ใช่ และทันทีที่พวกเรามีลูกกัน คุณแม่ก็จะไม่ชอบฉัน อีกแล้ว คุณแม่ก็จะรักแต่หลานเท่านั้น ฉันยังอยากให้คุณแม่ รักฉันต่อไปอีกหน่อยนะค่ะ

“นั่นก็จริงอีกเหมือนกันจ้ะ เธอยังเด็กมาก เอาไว้โตกว่านี้

อีกหน่อยเราค่อยมาว่ากันก็แล้วกันนะ

มู่หว่านฉิงลูบหลังลูบไหล่หลินเชื่ออย่างรักใคร่

หญิงสาวถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอหันไปยิ้มให้ จิ้งเจ๋อที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม แต่สีหน้าเขายังคงเคร่งเครียดอยู่ เช่นเดิม

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ท่าทางเหมือน ไม่อยากจะเสียเวลาพูดกับเธอ

หลินเชื่อคิด ยังจะมาทำท่ามากอีก ไม่ได้ยินหรือไงที่เธอ บอกว่าเธอกับเขายังไม่อยากมีลูกน่ะ

ช่วยพูดให้ขนาดนี้แล้ว ยังจะโกรธกันอีกเหรอ

อย่างไรก็ตามหญิงสาวรู้สึกถึงบางอย่างใต้โต๊ะที่กำลังคืบ คลานเข้ามาใกล้ นิ้วเท้าที่ขยับเข้ามาจั๊กจี้ผิวเนื้อบอบบางที่ต้นขาของเธอ หลินเชื่อตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่นั่งตัวแข็ง

ดวงตาที่แทบจะลุกเป็นไฟตวัดไปมองกู้จิ้งเจ๋อที่นั่งทำ หน้าตายอยู่ฝั่งตรงกันข้าม พลางนึกแข่งชักเขาอยู่ในหัว นี่เขา ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่

แต่ถึงกระนั้น ขาของเขาก็ยังของขยับสูงขึ้น

ชุดกระโปรงของเธอถูกถลกดึงขึ้นมา เธอได้รู้สึกถึงผิว คร้ามของเขาที่ขยับสูงขึ้นมาอย่างช้าๆ ตามหน้าขาของเธอ และกำลังตรงไปยังพื้นที่ที่อ่อนไหวที่สุดของร่างกายเธอ

หลินเชื่อรีบเอียงตัววูบทันทีจ๊ะ”

มหว่านฉิงถามขึ้นด้วยความแปลกใจ “เกิดอะไรขึ้นเหรอหลินเชื่อหน้าแดง “ไม่มีอะไรค่ะ แค่ยงเท่านั้นเองเมื่อผู้เป็นแม่สามีได้ยินเช่นนั้น เธอก็ยกมือขึ้นแล้วร้องสั่ง ว่า “อะไรกัน ทำไมถึงมียุงในห้องได้

สาวใช้รีบกุลีกุจอเข้ามาจัดการกับปัญหาหลินเชื่อถลึงตามองหน้าคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามอย่างจะกิน เลือดกินเนื้อ

แต่จิ้งเจ๋อกลับทําเป็นไม่รู้ไม่ชี้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังคงก้มหน้าจิบน้ำชาด้วยท่วงที่อันเหมาะเจาะสง่างามตามปกติ
หญิงสาวอดคิดในใจไม่ได้ หมอนี่คืออสูรร้ายในคราบ

มนุษย์ชัดๆ

เธอพยายามข่มใจแล้วนั่งลงแต่โดยดี แต่แล้วก็รู้สึกได้ถึง แขนยาวๆ ที่ยื่นออกมาใต้โต๊ะ ปลายนิ้วแตะลงแผ่วเบาที่ขา เธอ สัมผัสอันจาบจ้วงนั้นทำเอาเธอสะดุ้งสุดตัว

อีตาบ้าน!

นี่เขากล้ามาทำตัวรุ่มร่ามเกเรในช่วงเวลาแบบนี้ได้ยังไง

กันนะ

ตรงกันข้ามกับเธอ มุมปากของจิ้งเจ๋อขยับยกขึ้นเป็น รอยยิ้ม เมื่อรู้สึกได้ถึงผิวเนื้อนุ่มนิ่มในฝ่ามือ สายตาของเขาก็ เป็นประกายมีชีวิตชีวาราวกับว่ากำลังพึงใจเป็นอย่างยิ่ง

ความร้อนผะผ่าวจากร่างกายเขาถูกถ่ายทอดผ่านถึงเธอ ทางฝ่ามือใหญ่

เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังค่อยๆ โลมไล้เธอ อย่างช้าๆ ความร้อนที่เกิดจากการเสียดสีทำให้ร่างทั้งร่างของ เธอเกร็งเครียดยิ่งกว่าเดิม

ความดื่ม ซาบซ่านค่อยๆ กระจายไปทั่วร่างของเธอทีละ น้อย การลูบไล้ของเขาราวกับมีพลังวิเศษ

หญิงสาวนึกอยากตบเขาจะให้หน้าหัน แต่ติดที่ยังมีคนอื่น อยู่ที่โต๊ะด้วย

หลินเชื่อจึงทำได้แค่นั่งกระสับกระส่ายอย่างไม่เป็นสุขอยู่กับที่ เธอตวัดสายตาใส่ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยสีหน้า ราวกับว่าเธออยากจะขย้ำหัวเขา

แต่คนถูกมองกลับทำท่าไขสือเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยัง

คงนั่งหลับตาทําท่าอภิรมย์อยู่อย่างนั้น หลินเชื่อแทบทนไม่ได้ ด้วยฝีมือการแสดงระดับนี้ เขาเป็น

มืออาชีพยิ่งกว่าเธอที่เป็นนักแสดงอาชีพเสียด้วยซ้ำ

มหว่านฉิงมองหลินเชื่อด้วยความงุนงง “ยังมียุงอยู่อีกเห

รอจ๊ะ”

หญิงสาวพยักหน้าโดยไวแล้วปรายตามองคนที่นั่งอยู่ตรง ข้าม “เฮอะ ยุงตัวใหญ่เสียด้วยสิคะ

มหวานนิ่งมองตามสายตาของหญิงสาวไปยังทิศตรงกัน ข้ามด้วย

จิ้งเจ๋อค่อยๆ เงยหน้าขึ้นด้วยท่วงท่าอันไร้ที่ติ เขามอง

หน้าหลินเชื่อด้วยสายตาสุดจะไร้เดียงสา

หว่านฉิงยิ้มออกมา เธอมองหนุ่มสาวทั้งสองสลับกันไป มาและคิดว่า สองคนนี้เข้ากันได้ดีกว่าที่เธอคิดเสียอีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ