แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 14 ฉันไม่ชอบเห็นพวกคุณอยู่ ด้วยกัน



ตอนที่ 14 ฉันไม่ชอบเห็นพวกคุณอยู่ ด้วยกัน

เขาพูดถูก ก็นี่เป็นบ้านของเขานี่นา เธอไม่มีสิทธิ์ขับไสไล่ส่งเขา ไปไหน

“ตกลงค่ะ ถ้าคุณว่าอย่างนั้นล่ะก็ งั้นฉันจะเป็นคนย้าย ออกไปเอง” หลินเชอพูดจากใจจริง

สีหน้าของจิ้งเจ๋อดูจะหม่นลงเล็กน้อย เขาละสายตาจาก เธอแล้วหันมาวุ่นวายกับเอกสารในมือเธอ “ถ้าเธอทำแบบนั้น ครอบครัวของฉันก็จะจับพิรุธได้ พวกเขาจะสงสัยว่าความ สัมพันธ์ของเรามีปัญหา และในที่สุดพวกเขาก็จะรู้ว่านี่เป็นการ แต่งงานจอมปลอม ถ้าเราไม่อยู่ด้วยกัน พวกเขาจะต้องยื่นมือ เข้ามายุ่มย่ามกับเรื่องนี้และทำให้เรากลับมาอยู่ด้วยกันจนได้ ถ้าเป็นแบบนั้นจะไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่หรอกเหรอ”

ที่เขาพูดก็มีเหตุผลอยู่นะ หลินเชื่อคิด ปกติแล้วเธอไม่ใช่ คนคิดอะไรมากมายซับซ้อนเหมือนเขา แต่เธอก็ยังพยายามที่ จะมองหาทางออกอื่น มันจะต้องมีข้ออ้างดีๆ สักอย่างน่า

“ฉันแค่กลัวว่าแฟนของคุณจะโกรธเท่านั้นเองค่ะ ถ้าคุณ ต้องอยู่ที่นี่กับฉันตลอดเวลา เธอจะต้องคิดมากกับเรื่องนี้แน่ๆลองคิดดูสิคะ ว่ามันจะส่งผลกับความสัมพันธ์ของคุณขนาด ไหน”

“พอได้แล้ว” จึงเจอผุดลุกขึ้นทันควัน สีหน้านั้นบ่งบอก ความขัดเคืองไม่พอใจ สีหน้าที่ทำให้หลินเชื่อนึกหวาดหวั่นขึ้น มาจนพูดอะไรไม่ออก

เขาเดินออกจากห้องไปพร้อมเอกสารในมือ ขณะที่จะเดิน เฉียดตัวเธอไปเขาก็พูดขึ้นว่า “เล่นบทของเธอให้ดีเถอะ คุณนาย เรื่องของฉันกับผู้หญิงคนอื่นมันไม่ใช่กงการอะไร ของเธอ

หลังจากจิ้งเจ๋อออกไปแล้ว หลินเชื่อก็พึมพำกับตัวเอง ด้วยความท้อแท้ “ก็ได้ ฉันผิดเองแหละที่เสนอหน้าเข้าไปยุ่ง คนเราทำดีแล้วไม่ได้ดีนี่นะ ในเมื่อคุณไม่เข้าใจเจตนาอันดีของ ฉัน นั้นต่อไปนี้ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องนี้อีกแล้ว

ไม่ช้ากู้จิ้งเจ๋อก็กลับเข้ามาในห้องนั่งเล่น เขาวางแฟ้มลง ก่อนจะใช้มือยึดโต๊ะเอาไว้เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง

ถึงอย่างนั้นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว และมันทำให้เขาหงุดหงิด

ขณะเขาสูดลมหายใจเข้าลึก เขาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ หน้าจอบ่งบอกว่าสายที่โทรเข้ามาคือ โม่ฮุ่ยหลิง

“ฮุ่ยหลิง เธออยากเจอฉันเหรอ”

[ใช่ค่ะจิ้งเจ๋อ คุณช่วยแวะมาที่บ้านฉันหน่อยได้มั้ยคะ ฉันอยู่คนเดียว เบื่อมากเลย ฉันมีเรื่องที่อยากพูดกับคุณด้วย จิ้งเจ๋อตอบกลับไปว่า “ทำไมเหรอ เธอมีอะไรจะพูดกับ

ฉัน”

ก็ค่ะ ฉันอยากจะพูดกับคุณมาตั้งนานแล้ว มาหน่อยเถอะ นะคะ ฉันอยากจะบอกคุณด้วยตัวเอง

เสียงของโม่ฮุ่ยหลิงฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องสำคัญ จิ้งเพื่อ เดาไม่ออกจริงๆ ว่าเป็นเรื่องอะไร

หลังจากที่คบหากับเธอมาหลายปี เขารู้ดีว่าเธอไม่ยุ่ยหลิง เป็นคนค่อนข้างเอาแต่ใจ เธอเป็นคุณหนูน้อยของตระกูลที่ ร่ำรวยที่ได้รับการเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าเธอจะได้ รับการอบรมกิริยามารยาทมาเป็นอย่างดี ได้รับการศึกษาชั้น สูง แต่เธอก็ยังเป็นคนอารมณ์ร้อน เขาคิดเสมอว่านั่นเป็นเรื่อง ธรรมดาและเป็นฝ่ายยอมให้เธอมาโดยตลอด ไม่ว่าเธอจะพูด กับเขาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างหรืออ่อนหวานตามปกติ เขาก็ รับได้ทุกครั้ง

กู้จิ้งเจ๋อไปถึงบ้านของเธอในเวลาไม่นาน

โม่ฮุ่ยหลิงอยู่เพียงลำพังคนเดียว อพาร์ทเมนท์ของเธอ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจทุกครั้ง

เมื่อเขาก้าวเข้าไปในห้อง เขาก็เห็นโม่ฮุ่ยหลิงอยู่ในห้อง นั่งเล่น ท่าทางเธอดูเศร้าโศกทีเดียวเมื่อนั่งอยู่ตรงนั้น ดูห่อ เที่ยวและเดียวดาย
จิ้งเจ๋อถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปหา

“ฮุ่ยหลิง โทรหาฉันมีอะไรเหรอ

โม่ฮุ่ยหลิงเงยหน้าขึ้นมองแล้วพึมพำเสียงแผ่วเบาว่า “จิ้ง เจ๋อ… ฉันรู้ว่าคุณไม่อาจปฏิเสธการแต่งงานได้และมันไม่ใช่การ ตัดสินใจของคุณ แต่ฉันก็ยังอดหงุดหงิดกับเรื่องนี้อยู่หน่อยๆ ไม่ได้น่ะค่ะ”

ด้วยความรู้สึกเห็นใจ หัวใจของจิ้งเจ๋อก็อ่อนยวบเมื่อ เห็นสีหน้าของเธอ

เมื่อโม่ฮุ่ยหลิงมองดูจิ้งเจ๋อ ร่องรอยของความวิตกกังวล บนใบหน้ายิ่งทำให้เธอดูน่าสงสารและทุกข์ทรมานขึ้นไปอีก หลายเท่า “ฉันรู้ดีว่าฉันไม่ควรจะโกรธ แล้วฉันก็ไม่ควรที่จะ ทำให้คุณร้อนใจด้วย แต่พอคิดถึงภาพที่คุณมีผู้หญิงอื่นอยู่ ด้วยตลอดเวลาแล้ว ฉันทนรับมันไม่ได้จริงๆ ค่ะ…

จิ้งเจ๋อมองดูเธอแล้วทอดถอนใจ “ฉันเข้าใจดี มันเป็น ความผิดของฉันเอง ฉันขอโทษสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ ฮุ่ยหลิง ฉันรู้ว่าเธอโกรธ แต่…ฉันไม่มีทางที่จะหลบเลี่ยงคำสั่งของ ครอบครัวจริงๆ ของฉันรู้วิธีที่จะเดินเกมเป็นอย่างดี ซึ่งฉันจะ ทำอะไรพลาดพลั้งไปไม่ได้เป็นอันขาด

ด้วยเกรงว่าโม่ฮุ่ยหลิงจะยิ่งรู้สึกกดดัน เขาจึงไม่ได้เล่าให้ เธอฟังถึงคำขู่ของผู้เป็น

“ฉันรู้ค่ะ…” โม่ยุ่ยหลิงเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอเป็นประกาย “ฉันเข้าใจดีและเต็มใจที่จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ฉัน แค่หวังว่าคุณจะสามารถย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ อย่า อยู่กับผู้หญิงคนนั้นเลยค่ะ คุณมีบ้านอื่นอีกตั้งหลายหลัง มันจะ ต้องมีสักที่ที่คุณสามารถไปอยู่ได้ เรามาอยู่ด้วยกันเถอะนะคะ ฉันรู้ดีว่าถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่สามารถนอนร่วมเตียงกับคุณได้ แต่ฉันก็อยากจะอยู่ข้างๆ คุณ ฉันไม่ชอบให้คุณอยู่กับผู้หญิง คนนั้น”

จิ้งเจ๋อชะงัก ไม่คาดคิดมาก่อนว่าไม่ฮุ่ยหลิงจะร้องขอ อะไรเช่นนี้

จะว่าไปนี่ก็เป็นคำขอที่มีเหตุผลอยู่ เขาเข้าใจเธอดี การ ได้รู้ว่าเขาอาศัยอยู่ร่วมชายคากับหลินเชื่อทำให้เธอเป็นกังวล เขายังไม่ได้เล่าให้โม่ฮุ่ยหลิงฟังว่าเขามีอะไรกับหลินเชื่อไปแล้ว เพราะเขาคิดว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นอีก เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นแค่ อุบัติเหตุที่เขาไม่อยากให้โม่ฮุ่ยหลิงต้องคิดมากขึ้นไปอีก แต่ สุดท้ายโม่ฮุ่ยหลิงก็ยังคงคิดมากอยู่ดี

ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนรับได้กับการแต่งงานที่เกิดขึ้นอย่าง กะทันหันเช่นนี้หรอก ต่อให้เขาและเธอเติบโตมาด้วยกันและ เชื่อใจกันเป็นอย่างดี แต่ตอนนี้เขามีภรรยาแล้ว

โม่ฮุ่ยหลิงเป็นลูกผู้ดีมีตระกูลที่มาจากตระกูลใหญ่อย่าง ตระกูลโม่ พวกเขาอบรมขัดเกลาเธอมาเป็นอย่างดีเรื่องกิริยา มารยาท ต่อให้ไม่ได้แต่งงานกับเขา โม่ฮุ่ยหลิงก็สามารถหา ผู้ชายที่เหมาะสมมาแต่งงานกับเธอได้ คนที่ไม่ปฏิบัติต่อเธอ อย่างไร้ความยุติธรรมแบบนี้ แต่ไม่ยหลิงกลับเสียสละศักดิ์ศรีของเธอเพื่อเขา

จิ้งเจ๋อเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น “จะลองดูนะ

เมื่อโม่ฮุ่ยหลิงได้ยินเช่นนั้น ความผิดหวังผุดขึ้นมา บนใบหน้าทันที

แค่

จิ้งเจ๋อพูดต่อไป ฮุ่ยหลิง ฉันเข้าใจความรู้สึกของว่าเธอรู้สึกไม่มีความสุขล่ะก็เธอสิทธิ์จะหาความสุขของ เธอที่อื่นฉันเองมีเรื่องต้องจัดการก่อน ฉันจะลองไป คิดก็แล้วกัน แต่สำหรับตอนนี้ ฉันยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ทั้ง นั้นนั่นแหละ”

ลึกๆ ข้างในนั้น จิ้งเจ๋อยังคงไม่ชอบที่ต้องอาศัยอยู่ คนอาการป่วย เขารู้สึกอึดอัดต่อให้ผู้หญิงคนเป็นโม่ฮุ่ยหลิง เถอะ ส่วนหลินเชื่อเขาไม่มีทางเลือก เขาพยายามอย่าง หนักจะตัวให้ชินกับเธอ แต่ต่อเขาทางที่อยู่บ้านกับโม่ฮุ่ยหลิงอยู่ที่นั่นแหละ

เมื่อฮุ่ยหลิงได้ยินประโยคสุดท้าย เธอก็ยิ้มมา คุณรักษาสัญญาคะ

เมื่อจิ้งเจ๋อเดินกลับไปรถ เขาก็หันมองออกมานอกหน้าต่างด้วยสีหน้าบึ้งตึง

โม่ฮุ่ยหลิงเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาเคยใกล้ชิดด้วย นั่น เป็นเพราะพวกเขาคบหากันมานานหลายปี และเธอสามารถ อดทนกับอาการป่วยของเขาได้ เขาและเธอไม่เคยจับมือกัน ไม่เคยจูบกัน หรืออะไรก็ตามที่คนรักทำต่อกัน เพราะทุกครั้งที่ เขาสัมผัสเธอ ผื่นคันทั้งหลายจะผุดขึ้นเต็มไปหมด แต่เธอก็ยัง คงอยู่กับเขา ชายหนุ่มรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมากกับเรื่องนี้

ตลอดหลายปีที่คบหากันมา เขามีความสุขดี และเขา ต้องการแต่งงานกับเธออย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ตาม เขากลับไปหลับนอนกับผู้หญิงคนอื่น

เมื่อกู้จิ้งเจ๋อเดินกลับเข้าบ้าน เขาก็ได้กลิ่นหอมบางอย่าง ลอยละล่องอยู่ในอากาศ

ใกล้รุ่งสางแล้ว สาวใช้ก็กลับที่พักของตัวเองไปนานแล้ว

ถ้าอย่างนั้นก็คงเหลือเพียงแค่

เมื่อเขาเข้าไปในครัว เขาก็ได้เห็นหลินเชื่อยืนอยู่ที่ เคาน์เตอร์ ขาข้างหนึ่งยกพาดเก้าอี้อีกตัว ขาอีกข้างงอเข่าขึ้น มาไว้บนเก้าอี้ ขาเรียวยาวของเธอขาวสะอาดและอ่อนนุ่ม ผิว ของเธอเกลี้ยงเกลาไร้ตำหนิไม่มีไฟฟ้าใดๆ เธอสวมเพียง กางเกงและเสื้อกล้ามสีขาว ตรงหน้าคือชามอาหารร้อนๆ ที่ กำลังส่งกลิ่นฟุ้งไปทั่วบ้านในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังกิน มื้อดึกอยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ