แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 39 นี่เธอร้องไห้เพราะผู้ชายคนอื่นงั้นเหรอ



ตอนที่ 39 นี่เธอร้องไห้เพราะผู้ชายคนอื่นงั้นเหรอ

แน่นอนว่าข่าวลือดังกล่าวค่อยๆ ชาหายไปในอีกสองวันต่อมา แต่อย่างไรก็ดี ผลกระทบหลังจากนั้นยังคงมีอยู่ หน้าเพจเวย ป๋อของหลินเชื่อยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม แต่ เป็นไปในทางตรงกันข้ามกับที่เธอคาดเอาไว้ เพราะแฟนๆ ผู้ ติดตามที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอนั้น ไม่ได้เข้ามาคนด่าอะไรอีก แล้ว และเป็นครั้งแรกที่เธอได้มีชื่อเสียงในฐานะนักแสดงอย่าง แท้จริง

ในระหว่างนั้นเอง แม่เลี้ยงของหลินเชื่อก็โทรเข้ามาและ บอกกับเธอว่า งานหมั้นระหว่างพี่สาวของแกกับฉันซึ่งจะจัด ขึ้นสุดสัปดาห์นี้ แกคงจะหาเวลามาร่วมงานได้สินะ ใช่มั้ย

หัวใจหลินเชื่อแทบหยุดเต้น

นี่พวกเขาจะหมั้นหมายกันอย่างเป็นทางการแล้วจริงๆ เห รอเนี่ย

มือของหลินเชื่อที่จับโทรศัพท์สั่นระริก แต่เธอก็ยังบังคับ ตัวเองให้สงบนิ่งอยู่ได้ เธอตอบหันไม่อิงกลับไปตามสายว่า “ทำไมฉันถึงจะต้องไปด้วยละคะ คุณแม่เลี้ยง นี่คุณเชิญฉันเห รอคะ”
แน่ละว่าเธอไม่อยากไป เธอไม่อยากกลับไปยังบ้านที่เต็ม ไปด้วยใบหน้าของสมาชิกครอบครัวที่ดูถูกเหยียดหยามเธอ หรือบางทีอาจเป็นเพราะเธอไม่อยากไปเห็นฉันจึงแต่งงานกับ คนอื่น

หันไม่อิงท่าเสียงฟืดฟัดแล้วพูดว่า ทำไมล่ะ ไม่กล้ามา ยังไง หรือว่าแกยังตัดใจจากฉินชิงเขาไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้น แกยิ่งต้องมานะ มาดูซะให้เต็มตาจะได้ตัดใจง่ายๆ ไงล่ะ

“คุณแม่เลี้ยงคะ ถ้าคุณยังจะยืนยันว่าฉันเป็นแบบนั้น ฉัน ก็คงจะทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ

(หน่อย นี่เป็นคำพูดฉันหรือเป็นสิ่งที่แกคิดอยู่ในหัวจริงๆ กันแน่ยะ สองสามวันที่ผ่านมาฉันเห็นแกพยายามอย่างเอาเป็น เอาตายที่จะเอาชนะหลินลื่นี่นะ ยอมทำกระทั่งเอาตัวไปสนิท สนมกับกู้จิ้งอวี่เพื่อจะได้ตกเป็นข่าวพาดหัวกับเขา น่าสงสาร จริงที่กู้จิ้งอวี่นั่นเขาไม่ได้อยากจะเป็นข่าวกับแก แค่สองวัน เท่านั้นก็โดนลบไปหมดแล้ว งานแต่งของหลินลี่ครั้งนี้จะต้อง กลายเป็นข่าวใหญ่แน่ นี่เป็นโอกาสงามของแกเชียวนะ จะไม่ โผล่มาให้ได้พื้นที่ข่าวฟรีๆ หน่อยรึไง

หลินเชื่อนิ่งฟังคำพูดของหันไม่อิง และคิดกับตัวเองว่าอีก ฝ่ายช่างเพ้อเจ้อไปไกลดีเหลือเกิน

ถึงแม้เธอจะไม่รู้แน่ว่ากู้จิ้งอวี่เป็นคนระงับข่าวนี้หรือเปล่า แต่เธอก็รับรองได้ว่ากู้จิ้งอวี่ไม่ได้รู้สึกกับเธอเหมือนที่หันไม่อิง บอกอย่างแน่นอน
ในที่สุดหันไม่อิงก็เอ่ยขึ้นว่า เอาเถอะ ยังไงก็แล้วแต่ แกนะว่าจะมาหรือไม่มา ถ้าไม่อยากเห็นฉันชิงแต่งงานกับหลิน จริงๆ งั้นก็อย่ามาแล้วกัน

หลินเชื่อยังคงนิ่งฟังแม้อีกฝ่ายจะตัดสายไปแล้ว เธอนั่งลง และตกอยู่ในภวังค์อันนิ่งงันอยู่เช่นนั้นเนิ่นนาน

หญิงสาวนั่งอยู่จนจิ้งเพื่อเดินเข้ามาเห็นเธอกำลังนั่งเหม่อ ลอยอย่างไร้ความรู้สึก เขาจึงเดินเข้ามาใกล้และถามว่า “เกิด อะไรขึ้นเหรอ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า

หลินเชื่อเงยหน้าขึ้นมอง “บอกตามตรงนะคะ ฉันเห็นใจ คุณหนูโม่เหลือเกิน

สายตาของจิ้งเจ๋อฉายแวววุ่นวายใจเมื่อมองดูเธอ ไม่รู้ ทำไมอยู่ๆ เธอถึงพูดถง โม่ฮุ่ยหลิงขึ้นมาแบบนี้นะ

“เกิดอะไรขึ้นกับโม่ฮุ่ยหลิงเหรอ”

หลินเชื่อนั่งกอดหมอน “เธอจะต้องเศร้ามากแน่ที่เห็นฉัน อยู่กับคุณแบบนี้ ต้องมาเห็นคนที่ตัวเองรักอยู่กับคนอื่น แต่ไม่ สามารถทำอะไรได้นอกจากแสร้งทำเป็นหน้าชื่น นั่นเป็นเรื่องที่ ปวดใจมากเลยนะคะ ทั้งที่ความจริงแล้วเรื่องนี้คงตามหลอก หลอนและทำให้เธอต้องเศร้าใจอยู่ทุกคืน เธอคงนอนร้องไห้ ใต้ผ้าห่มเพียงลำพัง แต่คุณกลับมีผู้หญิงคนอื่นอยู่เคียงข้าง

ขณะที่พูด หลินเชื่อก็หลุบตาลงต่ำ ขนตายาวของเธอแล เป็นแพเหมือนพัดที่ปกคลุมดวงตาใสแจ๋ว ใบหน้าขาวเนียนราวกับกระเบื้องเนื้อดีระบายไปด้วยความขมขื่น ดวงตาที่ปกติ แล้วจะสดใสก็เต็มไปด้วยระลอกคลื่นแห่งความเศร้าสร้อย

หญิงสาวยิ้มแม้คิ้วจะขมวดคิ้ว ทำให้คนมองมารู้สึกถึง

ความอ่อนโยนและอยากจะปกป้อง

เธอพูดเหมือนจะกำลังสงสารไม่ยุ่ยหลิง แต่ความจริงแล้ว เป็นตัวเธอเองต่างหากที่กำลังดำดิ่งอยู่กับความเศร้าสร้อย

จิ้งเจ๋อสบตาเธอ เขารู้สึกขมขื่นใจอยู่ข้างในลึกๆ ด้วย เหตุผลบางอย่าง และเขารู้ดีว่าเธอไม่ได้กำลังพูดถึงโม่ฮุ่ยหลิง แต่เป็นตัวเธอเองต่างหาก

ชายหนุ่มขมวดคิ้วและถามออกไปว่า “เธอไม่จำเป็นต้อง เป็นห่วงเรื่องของฉันกับโม่ฮุ่ยหลิง

หลินเชื่อพ่นลมพรืดและมองหน้าอีกฝ่าย “แน่ละ ผู้ชาย

ทุกคนก็เลวกันหมดแบบนี้นี่แหละ

จิ้งเจ๋อมองหน้าเธออีกครั้ง ก่อนจะยืดตัวขึ้นและเดินออก

หล่อนเป็นผู้หญิงไร้หัวใจไป

แต่ถึงอย่างนั้นสีหน้าของชายหนุ่มก็ยังไม่คลายความวิตก เขารู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ และเขาอยากรู้ว่ามันคืออะไรกันแน่
ในห้องทํางาน เขามองฉันเช่าแล้วถามว่า “ไปสืบมาได้ ความว่ายังไงบ้าง

ฉันเอาตอบ “ท่านครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ทราบว่าท่าน

กําลังต้องการทราบเรื่องไหนบ้าง แต่ดูเหมือนว่าลูกสาวคนโต ของตระกูลหลิน หลินลี่และคุณชายน้อยของตระกูลฉิน ฉันชิง จะหมั้นหมายกันสุดสัปดาห์นี้ครับ

ฉินชิงงั้นรี

นั่นคือผู้ชายที่หลินเชื่อแอบชอบมาตลอดนี่นา

กู้จิ้งเจ๋อยิ่งขมวดคิ้วหนักขึ้นไปอีก สีหน้าเคร่งเครียดของ เขาซ่อนความรู้สึกเอาไว้ลึกล้ำ

แน่ละว่าก่อนหน้านี้เธอไม่ได้กำลังพูดถึงโม่ฮุ่ยหลิงกับเขา แต่เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นต่างหาก

นี่หล่อนยังตัดใจจากเขาไม่ได้อีกงั้นเหรอ

กู้จิ้งเจ๋อไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาจะต้องหงุดหงิดกับเรื่อง

นควย

ทุกวันเธอนอนอยู่บนเตียงเดียวกับเขาและหลับไปก่อนเขา

แถมยังกล้านอนดิ้นสะเปะสะปะไปทั่วทุกทิศตลอดคืน แต่กลับ มาแอบร่ำไห้อยู่ใต้ผ้าห่มอย่างนั้น

ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงยิ่งคิดยิ่งหัวเสีย จึงส่งสัญญาณบอกฉินเฮ่าให้ออกไป
ฉินเฮ่าท้วง “ท่านครับ…

“ออกไป”

ด้วยความตกใจ ฉินเฮ่ารีบลนลานออกจากห้องทันที

แม้หลินเชื่อจะบอกว่าไม่ได้อยากไปร่วมงานหมั้น แต่นั่น ก็ได้ทำให้เธอหยุดคิดเรื่องนี้ได้เลย แต่กลับยิ่งคิดวนเวียนถึง เรื่องนี้เมื่อนึกถึงตอนที่หันไม่อิงพยายามตั้งใจที่จะยั่วยุเธอ รู้ทั้ง รู้ว่ามันไม่อิงเจตนาที่จะทำเช่นนั้น แต่หลินเชื่อก็ยังอดตกหลุม พรางของอีกฝ่ายไม่ได้อยู่นั่นเอง

ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจไปร่วมงานเพื่อที่จะได้ดูให้เห็นกับ

หญิงสาวขอยืมชุดราตรีผ่านบริษัทตัวแทนของเธอ และ เมื่ออวหมินหมิ่นได้ยินว่าหลินเชื่อต้องการที่จะไปร่วมงาน แต่งงานของหลินลี่ เธอก็รีบจัดหาชุดสวยให้อย่างรวดเร็ว ทันใจ

ถึงอย่างไรหลินลี่ก็เป็นดาราดัง งานแต่งงานของหล่อน และฉินชิงจะต้องกลายเป็นข่าวใหญ่ที่มีคนสนใจจำนวนไม่น้อย และจะต้องมีสื่อบางสำนักตามไปทำข่าวในวันนั้นด้วย บริษัท ต้องการหยิบยืมโอกาสนี้ในการสร้างข่าวให้นักแสดงของตัว เอง อวีหมินหมิ่นจึงยินดีอย่างที่สุด

ในวันหมั้น ท้องฟ้าแจ่มใสปราศจากเมฆ

แต่อารมณ์ของหลินเชื่อกลับขุ่นมัวและดูจะยิ่งบูดสนิทขึ้นทุกขณะ

เธอไปร่วมงานหมั้นด้วยรถยนต์ เมื่อไปถึง เธอก็ได้เห็น ป้ายตัวอักษรวิบวับขนาดใหญ่ตรงบริเวณทางเข้าโรงแรมเขียน เอาไว้ว่า “หลินลี่และฉันชิง ขอให้ถือไม้เท้ายอดทองกระบอง ยอดเพชร”

ไม้เท้ายอดทองกระบอกยอดเพชรนั้นเหรอ….

หญิงสาวกล้ำกลืนความขื่นขมลงคอ และบอกตัวเองว่า อย่าไปมองเขา อย่าคิดถึงเขาอีก หลังจากวันนี้ เขาจะไม่ใช่คน ที่เธอเคยใฝ่ฝันถึงในวัยเยาว์อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นคู่หมั้นของ คนอื่นต่างหาก

เมื่อลงจากรถ เธอก็ขึ้นไปนั่งบนวีลแชร์ ถึงแม้การเดินจะ ไม่ได้ทำให้แผลเจ็บอะไรมากแล้วในตอนนี้ แต่เธอก็ไม่อยากจะ เดินกะโผลกกะเผลกไปทั่วงานฉลองหมั้น การนั่งบนวีลแชร์ แบบนี้น่าจะดีกว่า

เธอเลื่อนรถเข็นของตัวเองเข้าไปด้านในโรงแรม สวมชุด ราตรีสีน้ำเงิน แต่ก่อนที่จะทันได้เข้าไปถึงด้านใน นักข่าวก็เห็น เธอเข้าเสียก่อน

“ดูนั่นสิ นั่นหลินเชื่อใช่มั้ยนะ

หลินเชื่อยังไม่ได้สติเท่าไหร่เมื่อเห็นกล้องหลายตัวเริ่มเบน ทิศทางมาหาเธอ บรรดานักข่าวต่างแห่แหนกันเข้ามาใกล้ ก่อนจะถูกกันเอาไว้โดยพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรม แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังตะโกนถามเธออย่างอื่น เต้นว่า “คุณมาร่วมงานหมั้นของพี่สาวเหรอครับ คุณกับหลิน เป็นพี่น้องกันแท้ๆ หรือเปล่าครับ

หลินเชื่อทำได้เพียงส่งยิ้มหวานให้

ช่างภาพยิงกล้องกันมือเป็นระวิงพลางถามต่อไปไม่หยุด “คราวนี้คุณกับหลินลี่ได้แสดงซีรีส์โทรทัศน์เรื่องเดียวกันด้วย การได้ร่วมงานกันระหว่างพี่น้องสองสาวเป็นยังไงบ้างครับ

“หลินได้เชิญทีมงานคนไหนมาร่วมงานด้วยหรือเปล่า “กู้จิ้งอวี่ได้รับเชิญมางานนี้หรือเปล่า แล้วเขาจะมามั้ย

ครับ”

“หลินเชื่อ คุณติดต่อพูดคุยกับกู้จิ้งอวี่เป็นการส่วนตัวด้วย หรือเปล่า”

นี่เป็นครั้งแรกที่หลินเชื่อได้มีโอกาสเจออะไรแบบนี้ ถ้า ไม่ใช่เพราะข่าวลือนั่น เธอคงไม่เป็นที่รู้จักของนักข่าวขึ้นมาใน ชั่วข้ามคืนแบบนี้แน่

หันไม่อิงอยู่ภายในงาน แต่เมื่อมองออกไป เธอก็ได้เห็น หลินเชื่อที่กำลังถูกบรรดานักข่าวกำลังล้อมหน้าล้อมหลังอยู่ที่ ด้านนอกจนไม่สามารถขยับไปไหนได้

เมื่อได้เห็นหลินเชื่อได้รับความสนใจอย่างมากเช่นนั้น สีหน้าของหันไม่อิงก็เริ่มวิ่งตึงขึ้นมาทันควัน

นังหลินเชื่อนยังไงกันนะ ทำไมพวกนักข่าวถึงไปห้อมล้อมหล่อนกับคนสำคัญแบบนั้นได้ หรือว่าที่หล่อนมาเพราะตั้งใจจะมาขโมยกันแน่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ