แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 57 แม่สาว น่ารักดีนะ



ตอนที่ 57 แม่สาว น่ารักดีนะ

ในไม่ช้างานโปรโมตแรกก็มาถึง

กู้จิ้งอวี่มาร่วมงานพร้อมกับหลินเชื่อ ภายในงาน หลินเช่ อมองเห็นหลินลี่ที่มาร่วมโปรโมตซีรีส์ด้วยแต่ไกล หล่อนสาว เท้ายาวเดินตรงเข้ามาหาเธอและกู้จิ้งอวี่ บรรดาผู้ช่วยและเจ้า หน้าที่ส่วนตัวชักแถวตามหลังมาเป็นพรวนทำให้หลินลี่ดูโดด เด่นเป็นสง่าอย่างมาก

หลินเชื่อกำลังนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวรวม เมื่อเธอเห็นหลินลี่ หญิงสาวก็อดถามขึ้นไม่ได้ว่า “แล้วนั่นเขาไม่มาแต่งหน้าเหรอ จะออกไปไหนล่ะนั่น

ช่างแต่งหน้ามองหลินลี่ที่เดินผ่านไปอย่างไม่แยแสแล้วยิ้ม ก่อนจะตอบว่า “เขาจะไปที่ห้องแต่งตัวส่วนตัวน่ะสิ เขามีช่าง ภาพมือหนึ่งมาแต่งหน้าให้ เขาจะมาใช้ห้องนี้กับเราทำไมล่ะ จะ

“โอ้…” หลินเชื่อเข้าใจในที่สุด หลินลี่เป็นดาราดังนี้นะ แน่ ละว่าหล่อนแตกต่างจากพวกเธอที่เป็นเพียงนักแสดงหน้าใหม่ ที่ยังไม่มีใครรู้จัก

ทางด้านหลัง นักแสดงโนเนมอีกคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ ค่อยพอใจเท่าไหร่ว่า “หล่อนก็ไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้นหรอกไม่รู้ทำไมถึงได้ทำตัวยิ่งใหญ่เปล่งรัศมีเทียบชั้นมเสียหราน แบบนี้ก็ไม่รู้”

ช่างแต่งหน้าที่กำลังลงคอนทัวร์หน้าให้หลินเซ่ออธิบาย ต่อ “ถึงยังไงหลินลี่ก็ไม่ใช่ดาราธรรมดา พื้นเพครอบครัวเขา ร่ำรวยใช่ย่อย แถมยังเป็นว่าที่คุณนายของตระกูลฉินอีกต่าง หาก มีเงินขนาดนี้ก็ไม่แปลกหรอกที่จะไปไหนมาไหนแบบไม่ธร รมดานะ

หลินเชื่อคิดว่าตลกดีทีเดียว เธอและหลินต่างก็เป็น สมาชิกของตระกูลหลินเหมือนกันอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กลับ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้

เพราะตระกูลหลินยังคงพยายามเลี่ยงที่จะเปิดเผยสถานะ ของหลินเชื่อที่เป็นเพียงลูกสาวนอกสมรส เธอเป็นเพียงคนไม่ สำคัญในบ้านหลังนั้น ออกจะเป็นที่ชิงชังรังเกียจเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเธอก็เข้าใจว่าทำไมถึงไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน

โชคดีที่หลินเชื่อเองก็ไม่ได้แคร์อะไรกับเรื่องนี้เหมือนกัน

และเธอก็คิดว่ามันคงจะฟังดูเหมือนเรื่องหลอกลวง ถ้าเธอ และหลินลี่มาร่วมกัน โปรโมตซีรีส์เรื่องนี้ ในฐานะพี่สาวและน้อง สาว

เมื่อแต่งหน้าเสร็จแล้วก็รู้สึกสบายอารมณ์ เธอจึงหันไป เปิดดูในเวยป๋อ

ภาพสำหรับโปรโมตซีรีส์ชุดแรกถูกปล่อยออกไปแล้วโปสเตอร์ของตัวละครทุกตัวถูกถ่ายออกมาอย่างสวยงาม และ นำไปอัปโหลดไว้ในช่องทางข่าวสารต่างๆ รวมถึงหน้าเพจเลย ป๋อเพื่อโฆษณา

หลินเชื่อเห็นคอมเมนต์ใต้ภาพ บางคอมเมนต์ก็ไม่มีอคติ พวกเขาเห็นโปสเตอร์ของหลินเชื่อแล้วก็คิดว่าเธอสวยดี แต่ก็มี บางคนที่ติดจะมุ่งร้ายและคอมเมนต์เอาไว้ว่า หล่อนขี้เหร่เป็น บ้าเลย หรือไม่ก็พูดในทำนองว่า หล่อนไม่เหมาะกับตัวละคร ตัวนี้เลยสักนิด) [จมูกนั่นทำมาชัดๆ] (หล่อนไปกรีดตาที่โรง พยาบาลไหนนะ ทำไมถึงออกมาเหมือนคนนั้นเลย หรือว่าจะ เป็นหมอคนเดียวกัน

เมื่อได้เห็นคอมเมนต์เหล่านี้ หลินเชื่อก็ชักจะมีน้ำโหขึ้นมา เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ขณะถือโทรศัพท์ไว้ในมือว่า “พวก เขามาบอกว่าฉันทำศัลยกรรมพลาสติกได้ไงนะ ฉันออกจะดู เป็นธรรมชาติทั้งตัวขนาดนี้

เธอเงยหน้าขึ้นถามช่างแต่งหน้า “ฉันดูเหมือนทำ ศัลยกรรมมาเหรอคะ แน่ล่ะ ใครก็อยากทำทั้งนั้น แต่ก่อนอื่น มันต้องมีเงินมั้ยล่ะ นี่เพิ่งจะได้บทใหญ่ครั้งแรก ฉันจะไปหาเงิน จากไหนมาทำหน้ากัน

ช่างแต่งหน้าระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่น แม่หลินเชื่อคนนี้

ตลกจริง

อวหมินหมิ่นที่กำลังนั่งกินอะไรอยู่ข้างๆ และรอคิวแต่ง หน้าของตัวเองเช่นกันพูดขึ้นว่า “เอาน่า มีดาราเปิดตัวใหม่คนไหนบ้างที่ไม่โดนด่านะ อีกอย่าง ศัลยกรรมพลาสติกเดี๋ยวนี้หา ทําง่ายออกจะตายไป แต่ฉันก็ไม่เข้าใจเลยนะว่าทำไมพวกเขา ถึงบอกว่าจมูกของเธอเป็นของปลอมนะ มันออกอย่างนั้น ถ้า เธอเสียเงินทำมาก็คงจะเป็นโรงพยาบาลที่ฝีมือแย่เอามากๆ เชียวล่ะ”

หลินเชื่อหันขวับแล้วโอดครวญ “มันก็ไม่ได้ขนาดนั้น

หรอกนะคะ

อวหมินหมุนไม่สนใจและหันไปบอกช่างแต่งหน้าว่า “ลง คอนทัวร์จมูกเธออีกหน่อยสิ มันไป น่าเกลียดด้วย

ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันสนุกสนานอยู่นั้น กู้จิ้งอวี่ที่ ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากห้องแต่งตัว ก็อดไม่ได้ที่จะโผล่เข้า มาดู

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่เหรอ” เขาหันไปถามใครบางคน

“หลินเชื่อนะครับ” ผู้จัดการของเขาตอบ “เธอเป็นคนช่าง พูดช่างคุยในทุกที่ที่เธอไป แถมคุยเก่งซะด้วย เป็นคนอัธยาศัย ดี ทำตัวง่ายๆ แต่บุคลิกของเธอก็ไม่เลวทีเดียว ก็เลยทำให้คน เข้ามาคุยกับเธอง่ายๆ แล้วเธอก็ไม่ทำด้วยโสหัวสูงด้วย

กู้จิ้งอวี่ยิ้มเมื่อหันไปทางคนที่กำลังพูดถึง เขามองหลินเช่ อด้วยสายตามีความหมายก่อนจะเดินตรงเข้าไปหา

“คุยอะไรกันสนุกใหญ่เลย กู้จิ้งอวถามขึ้น กลุ่มช่างแต่งหน้าและนักแสดงที่ล้อมวงกันอยู่ต่างพากันขยับตัวถอยห่างเมื่อเห็นจิ้งอวี่ แต่แล้วพวกเขาก็ได้เห็นว่า ดาราหนุ่มกำลังอารมณ์ดีทีเดียว ดังนั้นเมื่อกู้จิ้งอวี่ทิ้งตัวลงนั่ง ทุกคนจึงค่อยรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้าง

กู้จิ้งอวี่มองหลินเชื่อ “ฉันได้ยินเสียงหัวเราะแต่ไกลเลย เสียงเธอน่ะดังมากเลยนะ

หลังจากคุ้นเคยกับกู้จิ้งอวี่แล้ว หลินเชื่อก็ไม่ได้คิดว่าเขา เป็นคนเข้าหายากเหมือนที่ใครต่อใครพูดอีกต่อไป เธอกลับ คิดว่าเขาไม่เสแสร้งดีด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึงพูดคุยกับ เขาด้วยท่าทีสบายๆ “คุณไม่ชอบเสียงดังเหรอคะ ถ้าไม่ชอบนั้น ก็ไปที่ห้องส่วนตัวสิคะ ทำไมดาราดังๆ อย่างคุณถึงได้มารวม กลุ่มกับพวกเราแบบนี้ล่ะ

“เฮ้ นี่จะไม่ต้อนรับกันสักนิดเลยเหรอ นี่เธอไม่เห็นหรือไง ว่าใครๆ เขาก็ตีฆ้องร้องป่าวอยากเชิญฉันเข้าไปร่วมวงด้วยทั้ง นั้นน่ะ

บรรดาผู้คนในห้องพากันมองคนทั้งสองที่กำลังพูดคุยกัน ด้วยท่าที่ตกตะลึงเล็กน้อย

ใครกันนะที่บอกว่าคนอย่างกู้จิ้งอวี่จะไม่พูดคุยกับนัก แสดงคนอื่นที่ร่วมงานกัน นี่เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเป็นกันเองเอา

มากๆ

ส่วนคนที่พอจะรู้ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองก็ยิ่ง แปลกใจหนักขึ้นไปกว่า เพราะพวกเขารู้แล้วว่าความสัมพันธ์ ระหว่างกู้จิ้งอวี่และหลินเชื่อนั้นไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เห็นข่าวหนำซ้ำคนทั้งคู่ยังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานแบบนี้

เมื่อหลินลี่ออกมาจากห้องแต่งตัว เธอก็ได้เห็นคนทั้งสอง นั่งอยู่ตรงกลางวงล้อมรอบด้วยคนอื่นๆ เธอไม่รู้เหมือนกันว่า พวกเขากำลังคุยกันเรื่องอะไร ถึงได้ทำให้ใครต่อใครที่ใช้ห้อง แต่งตัวร่วมด้วยดูจะรื่นรมย์อารมณ์ดีกันอย่างมาก เพราะทั้ง ห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนานและเสียงพูดคุยร่าเริง

หลินพ่นลมออกทางจมูกอย่างเหยียดหยามคนอื่น “นั่ง หลินเซ่อนให้ท่าเขาไปทั่วเลยนะ”

ผู้ช่วยคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างเธอจึงพลอยผสมโรงไปด้วยว่า “แหม ก็คนทั่วไปเขาไม่ได้มีข้อได้เปรียบอย่างพี่นี่คะ แม่นั่นไม่ ได้มีทั้งเงินและอำนาจ พื้นเพครอบครัวก็ไร้หัวนอนปลายเท้า แถมยังไม่ได้มีคู่หมั้นทั้งหล่อทั้งรวยอย่างคุณชายสามอีก ก็แน่ ล่ะว่าหล่อนจะต้องพึ่งพาความสามารถในการยั่วยวนผู้ชายเพื่อ ที่จะไต่เต้าทางสังคมแบบนี้ละค่ะ

เมื่อได้ยินคำพูดถูกหู หลินลี่จึงรู้สึกสบอารมณ์ขึ้นอย่าง

มาก

“อันที่จริงคนอย่างฉันน่ะ ไม่มาเสียเวลาโอภาปราศรัยกับ คนแปลกหน้าด้วยซ้ำ” คนพวกนั้นไม่ได้มีค่ามากพอที่เธอจะ เสียเวลาด้วยนี่นา

แต่การได้เห็นกู้จิ้งอวี่สนิทสนมกับหล่อนแบบนี้ หลินลี่ก็อด รู้สึกริษยานมาไม่ได้อยู่เหมือนกัน
ไม่ช้าทุกคนก็เริ่มออกไปให้สัมภาษณ์ด้านหน้าตามคิวที่ จัดเอาไว้

และที่คาดไม่ถึง เมื่อกู้จิ้งอวออกไปให้สัมภาษณ์ เขากลับ ลากเอาหลินเซอติดมือออกไปด้วย

หญิงสาวลังเลในทีแรก แต่เมื่อเห็นบรรดานักข่าวดูจะ ยินดีกับเรื่องนี้ แถมยังพยายามเกลี้ยกล่อมคนทั้งคู่ให้ยอมให้ สัมภาษณ์คู่กัน เธอก็ยอมแต่โดยดี

หลินเซ่อยืนข้างจิ้งอวี่ มองดูบรรดานักข่าวจำนวนคับคั่ง ที่แวดล้อมพวกเขาอยู่พร้อมด้วยไมโครโฟน เธอมองดูพวกเขา คนแล้วคนเล่า ทำเอาเธอเริ่มรู้สึกสับสนขึ้นมาทันที

เมื่อสองสามเดือนก่อนหน้า เธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่าวันหนึ่ง เธอจะได้มายืนอยู่ในแสงไฟและให้สัมภาษณ์แบบนี้

แต่ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน โลกของเธอดูจะเปลี่ยนแปลงไป อย่างชนิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินเลยทีเดียว

นักข่าวคนหนึ่งยิงคำถามอย่างดุดันมาจากด้านล่าง เขา มองดูหลินเชื่อแล้วถามออกมาตรงๆ ว่า “หลินเชื่อ คุณรู้สึกยัง ไงบ้างที่ตกเป็นข่าวจับคู่กับกู้จิ้งอวก่อนหน้านี้

หลินเชื่อไม่คิดเลยว่าจะถูกถามตรงๆ แบบนี้ เจ้าตัวจึงนิ่ง

อึ้ง พูดอะไรไม่ออกอยู่เป็นครู

แต่ข้างตัวเธอนั้น กู้จิ้งอวี่กลับคว้าไมโครโฟนไปตอบเสีย เองว่า “เธอรู้สึกดีมากเลยละครับ เพราะถึงยังไงการได้ตกเป็นข่าวลือกับผู้ชายหล่อๆ อย่างผมก็นับว่าเป็นเรื่องที่เป็นเกียรติ อย่างมาก”

หลินเชื่อเงยหน้ามองเขาอย่างรู้สึกขอบคุณ กู้จิ้งอวี่ส่งยิ้ม ปลอบใจราวกับจะบอกว่าเธอสามารถเชื่อใจเขาได้ในทุกเรื่อง

นักข่าวยังขถามต่อ “หลินเชื่อ พวกคุณไปนัดเจอกัน

เป็นการส่วนตัวบ้างหรือเปล่า”

กู้จิ้งอวี่จับไมค์อีกรอบแล้วตอบว่า “นี่เราสามารถนัดเจอ กันได้ด้วยเหรอครับ โอ๊ย ขอบคุณทุกคนมากเลย เพราะตอนนี้ เราไม่กล้าแม้แต่จะนัดเจอกันฉันเพื่อนแล้ว ผมอุตส่าห์หาเพื่อน ได้อย่างยากลำบากขนาดนี้ พวกคุณน่าจะเลิกสร้างปัญหาให้ ผมได้แล้วนะครับ

ทุกคนต่างพากันหัวเราะเสียงดังลั่นกับคำตำหนิแบบหยิก แกมหยอกของเขา

หลินเชื่อรู้สึกว่ากู้จิ้งอวี่รับมือกับการสัมภาษณ์ได้ดีจริงๆ ทุกครั้งที่นักข่าวถามอะไร เขาจะสามารถเปลี่ยนประเด็นได้ อย่างแนบเนียนเสมอ เขาทำให้การสัมภาษณ์น่าสนใจ ใน ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องคอยตอบบรรดาคำถามเกี่ยวกับข่าว ซุบซิบทั้งหลายที่เขาไม่อยากตอบให้มากจนเกินไปด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ