ตอนที่ 91 ฉันทนเห็นเธอมีน้ำตาไม่ได้
จิ้งเจ๋อพูด “ถ้าเธอทำผิดอีก ฉันจะลงโทษเธอ พูดจบชายหนุ่มก็แตะจูบลงบนริมฝีปากเธออีกครั้ง
“ลงโทษด้วยจูบนี่ไงล่ะ”
ใบหน้าของหลินเชื่อเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อ ใต้แสงจันทร์ เธอมองเขาด้วยสีหน้าเง้างอ “มีใครเค้าสอนกันแบบนี้บ้างฮะ จิ้งเจ๋อ! “
สีหน้าหงุดหงิดของเธอทำเอาเขาอดยิ้มออกมาไม่ได้
ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกอยู่เป็นนิจกลับ ยิ้มออกมาในตอนนี้ มันเป็นรอยยิ้มที่น่าดูที่สุดเลย
หลินเซ่อตะลึง เขาขยับเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นอีก “หลิน
เธอ เธอจ้องหน้าฉันทำไม
หญิงสาวสะดุ้ง “ใครจ้องคุณ! “
“จะบอกไม่ต้องได้ยังไง ก็เห็นอยู่ชัดๆ นี่ ทำไม ฉันหล่อเห รอ” เขายังขยับเข้ามาอีกขณะที่หลินเชื่อพยายามจะซ่อนสีหน้า และก่อนที่เธอจะทันรู้ตัว คนตัวใหญ่กว่าก็เข้ามาประชิดถึงข้าง ตัวเสียแล้ว
ด้วยพื้นที่อันจำกัดในรถนั้น จิ้งเพื่อใช้มือข้างหนึ่งจับพวงมาลัยรถ และมืออีกข้างหนึ่ง โอบที่หลังเบาะนั่งของหลินเชื่อ ทำให้ตำแหน่งของตัวเธอตอนนี้อยู่ตรงกลางหน้าอกเขาพอดิบ พอดี เขาโน้มตัวเข้ามาให้ใกล้ใบหน้าของเธอยิ่งขึ้นพลาง พิจารณาดูพวงแก้มที่เนียนละเอียด เมื่อได้เข้ามาเห็นใกล้ๆ เขาจึงได้รู้ว่าใบหน้าขาวกระจ่างนั้นไม่มีริ้วรอยจุดด่างดำใดๆ ให้เห็นเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงแล้วเมื่อได้เห็นชัดๆ แบบนี้ เธอ ยิ่งดูดีมากขึ้นไปอีกด้วย
ปกติแล้วเวลาอยู่บ้าน หลินเชื่อจะไม่ค่อยแต่งหน้ามากนัก ผิวของเธอจึงดูใสกระจ่าง สะอาดสะอ้านยากจะห้ามใจไม่ให้ จุมพิตเป็นอย่างยิ่ง
เขามองหน้าเธออย่างขบขัน “เอ้าบอกมาสิ ฉันหล่อ เปล่า”
“คุณ…จิ้งเจ๋อ คุณมันหน้าไม่อาย! ”
“เป็นสามีภรรยากันแบบนี้ ไม่เห็นมีอะไรต้องปิดบังเลย จริงมั้ยล่ะ” จิ้งเจ๋อก้มลงมาคอยดูสีหน้าคนถูกถาม
หลินเชื่อมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เขาขยับเข้ามาใกล้เสียจน เข้ามาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
หน้าอกเธอแทบจะแนบติดกับอกเขา ทำเอาหญิงสาวซัก
ไม่กล้าหายใจ
จิ้งเจ๋อยังซักใช้ไม่หยุด “นี่ตกลงเธอจะยอมรับหรือเปล่า ว่าที่เอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่นี้ เป็นเพราะฉันหล่อน่ะ
หลินเซ่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกกดดันหนักเสียจนแทบจะ หายใจไม่ออกอยู่รอมร่อ
ในที่สุดเธอก็โพล่งออกไปอย่างโกรธจัด “ใช่ คุณหล่อ
คุณเป็นคนที่หล่อที่สุดในโลกเลย กู้จิ้งเจ๋อไม่สบอารมณ์กับคำตอบที่พูดออกมาส่งๆ นั้น “ตอบแบบนี้ไม่จริงใจนี่นา”
“ฉันก็ได้ คุณเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดเลยค่ะ จิ้งเพื่อ เป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา คุณหล่อยิ่งกว่าผู้ชาย ทุกคน! ” หลินเซ่อพูดพลางยกมือขึ้นมาบังหน้าอกตัวเอง
จิ้งเจ๋อยอมเลิกราเสียที่ไหน “จริงเหรอ งั้นบอกฉันมาว่า ใครหล่อกว่ากันระหว่างฉันกับกู้จิ้งอว
หลินเชื่อไม่เคยพบเคยเจอใครที่หลงตัวเองจนถึงขั้น
เปรียบเทียบตัวเองกับน้องชายอย่างอีตานี่เลย
“คุณหล่อกว่าค่ะ พอใจหรือยังคะ
เธอตอบออกไปอย่างนั้นแม้ความจริงแล้วเธอจะคิดว่าจิ้ง เจ๋อออกจะหล่อกว่าหน่อยจริงๆ นั่นแหละ
บางทีอาจเป็นเพราะกู้จิ้งอวี่ไม่ได้เป็นคนมีเสน่ห์ดึงดูดใน แบบของกู้จิ้งเจ๋อก็เป็นได้ แม้ว่าจิ้งจะดูเป็นธรรมชาติ มากกว่าก็ตาม
มันเป็นวิธีมองของเขานั่นแหละ การมองแบบดูดดื่มล้ำลึก จนดูราวกับว่าเขากำลังจะสูบเอาวิญญาณของเธอเข้าไปยังไงอย่างงั้น…
จิ้งเจ๋อพยักหน้าอย่างพอใจ อย่างน้อยหลินเชื่อที่มี รสนิยมดี “ถ้าอย่างนั้นละก็…
เขาก้มหน้าลง มองดูราวกับจะกลืนกิน และถามอย่างไม่ แน่ใจนักว่า “บอกมาว่า ใครดีกว่ากัน ฉันหรือฉันชิง
สีหน้าของหลินเชื่อเปลี่ยนไปในทันที
คนฉลาดอย่างจิ้งเจ๋อรู้ได้ในทันทีที่ได้เห็น ว่าคำตอบ คราวนี้คงจะแตกต่างไปจากเดิม สายตาของเขาดุดันขึ้นและ กำลังจ้องเขม็งมาที่เธอ “บอกมาส
หลินเชื่อนั้นรู้ดีว่าฉันชิงไม่ใช่ผู้ชายหล่อเหลาคมคายแบบ จิ้งเจ๋อ เขาเหมือนเด็กหนุ่มข้างบ้านเสียมากกว่า ผู้คนมองเขา เหมือนเจ้าชายเจ้าเสน่ห์ ในขณะที่กู้จิ้งเจ๋อนั้นเป็นเหมือนอัศวิน หนุ่ม ยามค่ำคืนที่คุณต้องการเขามากที่สุด เขาจะปรากฏตัว ขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ ดูราวกับวีรบุรุษในสายตาของทุกคน
อย่างไรก็ตามมีบางอย่างเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ที่ไม่อาจดู ออก มันทำให้คนที่อยู่ด้วยรู้สึกหวาดหวั่น เศร้าซึมและไม่ สามารถจะขจัดความมืดดำของยามราตรีออกไปได้
หล่อเหลา เซ็กซี่ แต่แตกต่าง
“ฉัน…”
กู้จิ้งเจ๋อรู้อยู่แล้ว
เขาคว้าข้อมือเธอ และด้วยการกระชากเพียงครั้งเดียว ร่างเล็กก็ถูกรั้งเข้าไปหา
หลินเซ่อพยายามห้ามเสียงร้อง รู้สึกได้ถึงดวงตาดำสนิท ราวกับท้องฟ้ายามราตรีอันเวิ้งว้างกว้างไกลที่เงาทะมึนของมัน กำลังเข้าปกคลุมครอบงำตัวเธอ
จิ้งเจ๋อจ้องหน้าแล้วกอดเธอไว้ หลินเชื่ออยู่บนตัวเขา เธอกำลังเขินอาย อาการขัดขืนน้อยๆ นั้นปลุกไฟปรารถนาใน ตัวให้ปะทุขึ้น ชายหนุ่มก้มหน้าลงมา
เขาตระกองกอดเธอไว้แล้วบดเบียดริมฝีปากลงมาบนปาก
เธอ
“อืม…อืม…” หลินเชื่อคร่ำครวญพลางผลักไส
“คุณ…อืม…
เมื่อเขาปล่อยมือจากเธอ ชายหนุ่มก็พูดขึ้นว่า “ไม่คิดว่า ในรถมันจะน่าตื่นเต้นดีหรอกเหรอ”
“ หลินเชอร้องบอกด้วยความสับสนปั่นป่วนใจ “อย่าทำ
แบบนี้ค่ะ กู้จิ้งเจ๋อ ปล่อยฉัน
ในความชุลมุนที่มือไม้เปะปะไปทั่วนั้นเอง อาภรณ์ของเธอ ก็ถูกเปลื้องออกจากร่าง เผยให้เห็นเนื้อตัวของเธอต่อหน้าเขา
ด้วยอารมณ์อันสับสน หลินเชื่อเหลียวมองไปรอบๆ ก่อน จะกระแทกแตรรถจนส่งเสียงดังยาวแหวกอากาศไปไกล
กู้จิ้งเจอรีบปล่อยข้อมือเธอให้เป็นอิสระในทันที หลินเซ่อไม่อาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ เมื่อได้เห็นดวงตาแดงคู่นั้น หัวใจของเขาก็หล่นวูบ
เขาขมวดคิ้วแล้วก้มลงมองเธอ มือใหญ่ช่วยรวบเสื้อผ้าที่ หลุดลุ่ยนั้นกลับขึ้นไปบนร่างของหญิงสาว
หลินเชื่อรู้สึกเหมือนผู้ชายตรงหน้ากลายเป็นปีศาจ น่า หวาดหวั่นเป็นที่ยิ่ง
เธอสะบัดหน้าหนี โกรธจนไม่อยากมองหน้าเขา พลาง ขยับจัดการเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ปรับลมหายใจให้เป็นปกติ แต่ ยังคงไม่ยอมปริปากพูดอะไรทั้งสิ้น
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกและหันไปมองคนข้างตัว สายตาหลุบต่ำลงมองพื้นที่ส่วนล่างที่เพิ่งจะถูกปลุกเร้าอารมณ์ ไปหมาดๆ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอุ่นใจ
เขาอดใจถามออกไปด้วยน้ำเสียงห้วนจัดไม่ได้ว่า “ถ้าเธอ ยังชอบฉินชิงขนาดนั้นละก็ เธอควรจะบอกเขานะ การไม่ได้ บอกใครสักคนว่าเราชอบเขาเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
หลินเชื่อมองหน้าเขาอย่างไม่รู้จะพูดอะไรได้ออก
เธอตอบกลับไปว่า “ฉันจะไม่บอกเขาหรอกค่ะ…อันที่จริง พอมาลองๆ คิดดูแล้ว ทั้งหมดมันก็เป็นเรื่องในอดีตเท่านั้น ตอนนี้ฉันไม่ได้ชอบเขาขนาดนั้นแล้วละค่ะ มันก็แค่ว่าถ้าคุณ เคยชอบใครมาก่อน คุณก็ยังคงแคร์เขาเสมอไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็เท่านั้นเอง”
กู้จิ้งเจ๋อเลิกคิ้วแล้วหันขวับไป
หลินเชื่อเงยหน้าขึ้น “คุณไม่รู้เหรอคะว่าหัวใจคนเราน่ะมี เลือดเนื้อนะ การที่เราไม่ได้อยู่กับคนที่เราชอบและตัดสินใจว่า จะไม่ชอบเขาอีกแล้วนะ ไม่ได้แปลว่าเราสามารถลืมเขาได้จน หมดสิ้นไม่เหลือเยื่อใยและมองเขาเป็นคนแปลกหน้าหรอกนะ
จิ้งเจ๋อมองเธอแล้วส่ายหน้า
ตอนนี้อารมณ์เขาค่อยดีขึ้นหน่อยแล้ว
การสอนขับรถไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่าเดิมนัก เขา สัญญาว่าจะสอนให้ช้าลง แต่หลินเชื่อไม่อยากจะเรียนกับเขา อีกต่อไป เขาเป็นครูสอนขับรถที่น่าสยองเหลือเกิน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หลินเชื่อก็ได้รับโทรศัพท์จากทาง
บริษัท
อวีหมินหมิ่นส่งเสียงตื่นเต้นมาตามสายว่า เธอได้รับการ เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ในงานเทศกาลแพนด้า ทีวีแน่ะ เตรียมตัวเอาไว้ให้ดีล่ะ! เราอาจจะต้องไปร่วมงาน ประกาศรางวัลกันนะ
หลินเชื่อประหลาดใจแต่ก็ยินดีเป็นที่สุด
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ