ตอนที่ 75 ฉันจะไปชอปปิ้งกับเธอ
ซีรีส์โทรทัศน์ได้ออกอากาศตอนปฐมทัศน์ในที่สุด พร้อมกับ การโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างยิ่งใหญ่
ในระหว่างนั้นการโฆษณาซีรีส์ “กระบี่ยอดดวงใจ ก็
ปรากฏให้เห็นทั่วไปหมดในทุกถนน ทุกตรอกซอกซอย
บางครั้งหลินเชื่อก็เห็นโฆษณาซีรีส์ของตัวเองในขณะ กำลังเดินชอปปิ้งด้วย
แต่ตอนนี้ ตอนที่เธอแสดงเพิ่งจะเริ่มออกฉายบ้างเท่านั้น เธอจึงไม่ได้เป็นที่รู้จักของทุกคนเหมือนอย่างกู้จิ้งอวี่ ผู้คนที่เดิน ไปมาอยู่ตามท้องถนนจึงจำเธอไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้ว่าจะ ออกมาเดินชอปปิ้งก็ยังไม่มีใครสังเกตเห็นเธอ หลินเชื่อจึงดูไม่ ต่างอะไรจากคนธรรมดาทั่วไป แต่ก็เห็นได้ชัดว่าซีรีส์นั้นได้รับ ความสนใจเป็นอย่างดีเมื่อออกฉายในตอนแรก
เรตติงผู้ชมนั้นขึ้นอันดับหนึ่งอย่างสวยงาม และข่าวที่ เกี่ยวข้องกับซีรีส์ก็ถูกพูดถึง ในฐานะประเด็นร้อนของรายการ ต่างๆ เต็มไปหมด
ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะกระแสสนับสนุนจาก แฟนๆ ของจิ้งอวนั้นนับว่ามหาศาล ทุกๆ วัน บรรดาแฟน คลับของเขาจะติดตามไปให้กำลังใจเขาในทุกกิจกรรมการโปรโมตจนทำให้ทุกคนต้องนึก
อิจฉา
ส่วนเสียทรานพยายามที่จะไม่เป็นจุดสนใจ เธอไม่ค่อย เข้าร่วมกิจกรรมการประชาสัมพันธ์มากนัก แต่จะเลือกไป เฉพาะในงานที่สำคัญจริงๆ เท่านั้น ไม่ว่าใครต่างก็บอกว่านี่ คือลักษณะของนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ จริงๆ
ส่วนนักแสดงเล็กๆ อย่างหลินเชื่อนั้นสามารถไปที่ไหน ก็ได้ที่เธออยากไป เธอจึงเข้าร่วมกิจกรรมการโปรโมตทุก อย่างชนิดที่เรียกว่าวิ่งจนขาขวิดเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามเธอเองก็ได้รับประโยชน์มากมายจากการ ทุ่มเทเช่นนี้ เพราะมันทำให้เธอค่อยๆ พัฒนาความสามารถใน การตอบคำถามของนักข่าวขึ้น เธอเริ่มเรียนรู้จากกู้จิ้งอวี่ที่รู้จัก ตอบคำถามอย่างอ้อมค้อม และจากการที่กู้จิ้งอวี่ดูแลเธอเป็น อย่างดีตลอดเวลา ผลที่ตามมาก็คือการที่ชื่อเสียงของเธอก็เริ่ม โด่งดังมากขึ้นทุกขณะ
ที่น่ายินดีไปกว่านั้นคือบทบาทสาวโหด ในซีรีส์ของเธอนั้น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หลายคนเริ่มออกตัวว่าเป็นแฟน ของหลินเชื่อ และเริ่มมีการจัดตั้งกลุ่มแฟนคลับขึ้นอย่างเป็น จริงเป็นจัง
หญิงสาวรู้ดีว่านี่เป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น ปรากฏการณ์ครั้งนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะพัฒนาตัวเองได้มากแค่ไหนใน
อย่างไรก็พอใจมันแล้ว
วันหนึ่งและเจ๋อรับประทานอาหารที่คฤหาสน์ ตระกูล เป็นจังหวะพอดีกับซีรีส์โทรทัศน์นี้กำลังออก อากาศ
อยู่ในมือ เด็ดเดี่ยวและสวยสง่าอย่างเรียกว่าเปล่ง ประกายเลยทีเดียวล่ะ
ตรงกันข้ามกับที่เขาเคยคาดคิดเอาในการแสดงอย่างมาก เขาอดใจได้ต้องไป มองอีกครั้งว่าปกติแล้วเขาไม่เคยอะไรประเภทเลย
เธอดูทึ่งจริงๆ เขาไม่อยากบอกเลยว่าเธอนั่นน่ะเรียก
ได้มีพรสวรรค์ทางการแสดงทีเดียวเชียว
หลังจากรับประทานกลับบ้าน
ระหว่างกำลังตรงทางเข้าเพื่อรอคนขับรถมาอยู่ นั้นเอง ๆ หลินเชื่อเอ่ยว่า อันจริง ก็ไม่ไกลจาก บ้านเลยนะกว่าค่ะ กินมื้อเย็นเข้าตั้งเยอะ ได้ย่อยหน่อยนะคะ
ที่ด้านหลังพวกเขา ฉินเฮ่าทำท่าจะเข้ามาห้าม แต่แล้ว จิ้งเจ๋อก็ยื่นมือออกมาเป็นสัญญาณบอกให้ฉินเฮ่าเงียบเอาไว้
ชายหนุ่มแหงนหน้ามองดูท้องฟ้าแล้ว ใช้สายตาส่ง
สัญญาณให้บอดี้การ์ดทั้งหลายทั้งยืนอยู่ทางด้านหลัง จากนั้นก็หันมาพยักหน้ากับหลินเชื่อ “เอาสิ ทำอย่างที่เธอ
บอกนั่นแหละ”
เมื่อก้าวออกมาสู่นอกตัวบ้าน บอดี้การ์ดของจิ้งเพื่อ กระจายตัวกันออกเล็กน้อย เขาเหลียวไปมอง เมื่อได้เห็นว่าทุก อย่างเรียบร้อยดี ชายหนุ่มก็เริ่มผ่อนคลายและออกเดินไป ตามถนนพร้อมกันกับหลินเชื่อ
นี่เป็นพื้นที่ของเมือง 8 ย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องความมั่งคั่ง หรูหรา ทางด้านหลังของพื้นที่แถบนี้เต็มไปด้วยวิลล่าหลังงาม มีสวนขนาดใหญ่และคฤหาสน์มากมายเรียงรายอยู่เต็มไปหมด มีคนอาศัยอยู่แถบนี้ไม่มากนัก
แต่อย่างไรเสีย หลินเชื่อกลับรู้สึกว่าวันนี้ดูจะยิ่งมีผู้คน บางตากว่าปกติเสียอีก
เธอไม่ได้สังเกตว่ามีบอดี้การ์ดหลายคนเดินตามหลังเธอ มา หญิงสาวเตร็ดเตร่ไปตามทางเดินอย่างสบายอารมณ์
แสงไฟจากข้างถนนสาดส่องลงมายังทางเดินแคบๆ ที่ ด้วยกระเบื้องหิน ทั้งเงียบสงบและสันโดษ เมื่อมองจากระยะ ไกล สถานที่แห่งนี้ก็ให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมทีเดียว
เมื่อกวาดตามอง หลินเชื่อก็ได้เห็นร้านสบู่แฮนด์เมดที่เปิด ขายอยู่ข้างทาง เธอนึกสนใจข้าวของกระจุกกระจิก ในร้านและ หันไปตะโกนเรียกก่อนจะเดินตรงเข้าไปว่า “จิ้งเจ๋อ ดูสิคะ กระต่ายน้อยนทำซะเหมือนของจริงเลย ฉันอยากซื้อจัง
เมื่อเจ้าของร้านมองเห็นกลุ่มคนที่เดินตามหลังทั้งสองมา เขาก็เริ่มรู้สึกได้ว่าไม่น่าจะใช่ลูกค้าธรรมดาทั่วไป หนำซ้ำ พวกเขาเองก็ดูไม่ธรรมดาเลย บรรดาบอดี้การ์ดที่ห้อมล้อมนั้น อยู่ในชุดสีดำสนิ เดินตามหลังคนทั้งคู่เข้ามาเงียบๆ เห็นเพียง เท่านี้ก็เริ่มเย็นสันหลังวาบเสียแล้ว
เจ้าของร้านสบู่นึกกลัวว่าน่าจะมีคนสำคัญบางคนเข้ามา ในร้านค้าเล็กๆ ของเขาเสียแล้ว จึงพูดกับหลินเชื่อด้วยความ ระมัดระวังว่า “ทั้งหมดนี้เป็นงานแฮนด์เมดน่ะครับ มันสามารถ ทำเป็นรูปทรงต่างๆ ได้ง่ายและยังมีกลิ่นที่มาจากธรรมชาติ มากๆ ด้วย”
เมื่อได้ยินแบบนั้น จิ้งเจ๋อจึงหันไปบอกหลินเชื่อว่า “ถ้า เธอชอบ เธอก็สามารถทำสบู่ด้วยตัวเองได้นะ
หลินเชื่อถาม “จริงเหรอคะ ฉันทำได้ด้วยเหรอคะ”
เจ้าของร้านรีบตอบโดยไว “ได้แน่นอนครับ เรามีแม่พิมพ์ เอาไว้บริการลูกค้าที่อยากจะลองลงมือทำเอง
หลินเชื่อดีใจเป็นที่สุด เธอฉีกยิ้มเสียจนปากแทบจรดใบหู เมื่อกู้จิ้งเจ๋อได้เห็น มุมปากของเขาก็เริ่มกระตุกยิ้มตาม
เธอเป็นคนที่พอใจกับอะไรง่ายดายเสียจริงๆ แค่ข้าวของ เล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ก็ทำให้เธอยิ้มแก้มแทบปริได้แล้ว
คนทั้งสองก้าวเข้าไปในร้าน ส่วนบรรดาบอดี้การ์ดนั้นยืน
รออยู่เงียบๆ บริเวณด้านนอก เมื่อหลินเซ่อมองหน้าจิ้งเพื่อ เธอก็ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วถาม ขึ้นว่า “ขอโทษนะคะ ถ้าฉันจะทำสบู่รูปหน้าเขาบ้างเนี่ย คุณคิด
ว่าจะทำได้มั้ยคะ”
เจ้าของร้านเอ่ยขึ้น “นั่นก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้หรอกนะ ครับ”
จิ้งเพื่อเดินเข้ามายืนข้างๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาจึงก้ม หน้าลงแล้วยิ้ม “เธอไม่คิดว่านั่นน่ะดูไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่บ้าง เหรอ”
“ไม่เข้าท่ายังไงล่ะคะ” หลินเชื่อถาม
ชายหนุ่มหัวเราะ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอ่อนโยน “สบู่ แฮนด์เมดนี้จะต้องถูกใช้เวลาที่เธออาบน้ำใช่ไหมล่ะ แสดงว่า เธอคิดจะใช้สบู่ที่หน้าตาเหมือนฉันไปทั่วตัวเธอตอนอาบน้ำ อย่างนั้นหรือไง”
“” หน้าของหลินเชื่อแดงเป็นลูกตำลึง “ฉันไม่ได้ หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย
กู้จิ้งเจ๋อย่อตัวลงมาจนใกล้ เขามองลำคอระหงของเธอ ค่อยๆ สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ เข้าปอด ชายหนุ่มเจตนาที่จะเข้ามาจนใกล้เส้นผมเธอและพูดเบาๆ ว่า “ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันเอง ก็อยากให้เธอได้ใช้อยู่เหมือนกัน เอา
“ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากได้แล้ว ฉันอยากทำเป็นรูปกระต่าย
น้อยมากกว่า”
เจ้าของร้านถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ได้ยินเช่นนั้น
เขาคอยช่วยหลินเชื่อทำสบู่ด้วยการคอยยืนอยู่ข้างๆ แต่ ความสามารถของหญิงสาวนั้นค่อนข้างจะมีน้อย สบู่ที่ออกมา จึงมีหน้าตาพิลึกทีเดียว
จิ้งเจอบ่นพึมพำ “ดูสิว่าเธอซุ่มซ่ามแค่ไหน
เมื่อทนกับความเฟอะฟะป่าเบื่อของเธอไม่ได้ ชายหนุ่มจึง เริ่มลงมือช่วยเธออย่างจริงจัง
“ฉันต้องทำยังไงเนี่ย
“โง่จริง ขยับมือออกไปอีกหน่อยสิ นั่นมันดูเหมือน กระต่ายที่ไหนกันเล่า
“หลินเชื่อ ทำไมเธอโง่อย่างนี้นะ
หลินเชื่อจ้องหน้าคนตัวใหญ่กว่า “เป็นใครก็ประสาทเสีย ทั้งนั้นแหละค่ะถ้ามีคุณมาคอยเร่งยิกๆ อยู่แบบนี้นะ
ทั้งสองทะเลาะทุ่มเถียงกันอีกพักใหญ่ จนกระทั่งสามารถ ทำสบู่แฮนด์เมดออกมาสำเร็จได้ในที่สุด
เจ้าของร้านยิ้มกริ่มแล้วถามว่า “จะให้ผมช่วยสลักชื่อของพวกคุณลงบนสบู่เพื่อเป็นที่ระลึกด้วยไหมครับ จิ้งเจอพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็เอาสิ
หัวใจหลินเชื่อลิงโลดด้วยความยินดี เมื่อเธอได้เห็นชื่อ ของเธอและกู้จิ้งเจ๋อถูกสลักเอาไว้คู่กันที่ข้างก้อนสบู่ เธอก็ยิ่ง ยิ้มกว้างขึ้นไปอีก
หลังจากผ่านความลำบากยากเย็นทั้งหลายมาได้ ทั้งสอง
ก็เสร็จสิ้นจากกิจกรรมผลิตสบู่ เจ้าของร้านจัดการห่อสบู่ด้วย ถุงอย่างสวยงามให้เป็นที่เรียบร้อย จึงเจ๋อหยิบถุงแล้วเดิน ออกจากร้านมาพร้อมหลินเชื่อ
หลินเชื่อพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจยิ่งในความสำเร็จ “ฉันนี่ เก่งจริงๆ ดูสิว่าฉันทำออกมาสวยขนาดไหน
“เห็นๆ อยู่ว่าเป็นฝีมือฉันทั้งหมดนะ
“ไร้สาระน่า ฉันเป็น ยืนมองเท่านั้นเองนะ
คนจัดการพวกงานหลักๆ คุณน่ะแค่
“ก็ได้ ตราบใดที่ทำให้เธอแฮปปี้
“เฮ้ นั่นไอศกรีมนี่นา ฉันอยากกินจังค่ะ”
จิ้งเจ๋อเหลือบมอง มีร้านไอศกรีมอยู่ตรงนั้น เขาเห็นเด็ก เล็กๆ สองสามคนกำลังรับประทานอยู่อย่างเอร็ดอร่อย
“มันไม่สะอาดนะ อย่ากินเลย
“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไรหรอก ต่อให้สกปรกจริงๆ ฉันกินแล้วก็ไม่ป่วยหรอกน่า นะคะคุณสามีซื้อให้ฉันอันนึงนะ เมื่อได้ยินเธอเรียกว่า “สามี” ร่างกายของจิ้งเจ๋อก็รู้สึก ซาบซาวูบวาบขึ้นมาทันควัน
เขาลังเลอยู่เป็นครู่ ก่อนจะมองหน้าหลินเชื่อและเอ่ยขึ้น อย่างไม่เต็มใจนักว่า “ไป
“โอ้ เย้”
ทั้งสองรีบเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว แต่ทันทีที่ก้าวมา ถึงบันไดขั้นสุดท้าย พวกเขาก็ได้ยินเสียงคุ้นหูดังขึ้นจากด้าน
หลัง
“จิ้งเจ๋อคะ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ
ใครจะคิดเล่าว่าพวกเขาจะได้เจอโม่ฮุ่ยหลิงที่นี่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ