แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 72 เกิดเหตุขึ้นระหว่างการถ่าย



ตอนที่ 72 เกิดเหตุขึ้นระหว่างการถ่าย

หลังจากนั้นไม่นาน ภายในห้องแต่งตัว

ผู้ช่วยร่างเล็กของหลินลี่ก็แอบดอดเข้ามาเงียบๆ

ที่ด้านหน้า หลินเชื่อเพิ่งจะแต่งหน้าเสร็จ แต่แล้วเธอก็ได้ ยินเสียงอึกทึกครึกโครมดังมาจากข้างนอก หญิงสาวเหลียว มองหาอวหมินหมิ่นแต่ก็ไม่พบ เธอจึงถามช่างแต่งหน้าว่าเกิด อะไรขึ้น ช่างแต่งหน้าตอบว่า “ถ้าเสียงดังขนาดนี้ก็น่าจะเป็น เพราะกู้จิ้งอวี่มาถึงแล้วนั่นแหละ

ทันทีที่พูดจบ แน่นอนว่าเธอก็ได้เห็นกู้จิ้งอวผลักประตูและ เดินเข้ามาในห้องแต่งตัวจริงๆ เสียด้วย

นี่เป็นครั้งแรกที่ช่างแต่งหน้าได้เห็นดาราหนุ่มเข้ามาใน ห้องแต่งตัวธรรมดาแบบนี้ เมื่อเห็นเขา พวกเธอจึงพากันยิ้ม กว้างอย่างยินดี

กู้จิ้งอวี่เดินตรงเข้ามาหาหลินเชื่อทันที เขานั่งลงแล้วส่ง

ยิ้มก่อนจะพูดว่า “นี่ ดูเหมือนเธอจะผอมไปแล้วนะ เป็นเพราะ ว่าไม่ได้เจอฉันทุกวันหลังจากถ่ายทำจบละ ที่ซูบผอมขนาดนี้ เพราะคิดถึงฉันใช่ไหมล่ะ

” หลินเชื่อมองหน้าเขาและพูดอะไรไม่ออก
ถัดไปไม่ไกลกัน บรรดาช่างแต่งหน้าเองก็ตั้งใจฟังบท สนทนาของทั้งคู่ พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าคนอย่าง งอวี่จะพูดจาหยอกล้อกันเองแบบนี้เป็นด้วย ช่างแตกต่างจาก ภาพลักษณ์ที่พวกเธอเคยคาดคิดเอาไว้ยิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้นเขา ยังเป็นดาราดังที่มักจะมีสไตลิสต์ส่วนตัวติดตามไปด้วยทุกที่ ไม่ใช่คนที่ช่างแต่งหน้าทั่วไปจะสามารถเข้าถึงตัวได้ง่ายเลย ทุกคนจึงดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สัมผัสกู้จิ้งอวอย่างใกล้ชิดใน ครั้งนี้

เวลาผ่านไป ผู้กำกับก็ส่งคนเข้ามาเร่งเพราะการถ่ายทำ ใกล้จะเริ่มต้นขึ้นเต็มที่

หลินเชื่อรีบสำรวจดูความเรียบร้อยของเครื่องสำอางบน ใบหน้าก่อนจะสวมเสื้อผ้าที่เธอนำมาด้วย

ชุดของเธอเป็นชุดกระโปรงสั้นเปิดไหล่ ปักลวดลาย ดอกไม้อ่อนหวานเข้าชุดกันกับรองเท้าส้นสูงที่ทำให้เธอดูสวย สบายตาน่ามอง ดูแล้วเหมาะเจาะอย่างยิ่งที่จะเข้าร่วมกับ รายการวาไรตี้ชื่อดังเช่นนี้

กู้จิ้งอวี่แตะไหล่เธอพลางพูดว่า “ทำให้ดีที่สุดนะ

หลินเชื่อยังกังวลใจนิดๆ แต่เธอก็สูดลมหายใจลึกๆ แล้ว เดินเข้าไป

แล้วการถ่ายทำก็เริ่มต้นขึ้นทันทีพร้อมด้วยเสียงดนตรี เพราะมีดาราดังอย่างกู้จิ้งอวี่มาร่วมด้วย ทางทีมโปรดักชันจึงไม่กล้าที่จะจัดหนักเท่าไหร่ พวกเขาได้เล่นเกมสองสาม ช่วง ส่วนช่วงที่เหลือจะเป็นการให้สัมภาษณ์จากกู้จิ้งอวี่ที่เป็น ดาวเด่นเป็นหลัก

จากด้านข้าง หลินเชื่อมองเห็นหลินลี่ที่เดินออกมาด้วย เช่นกัน

ฝ่ายนั้นมองเธอแล้วก็พ่นลมพรืดออกทางจมูกด้วยท่าที

ถือตัว หล่อนเชิดหน้าสูง

หลังจากนั้นทีมงานทุกคนก็ขึ้นมาบนเวที หลินเชื่อยืนอยู่ บนเวทีขณะมองลงมายังแฟนๆ และผู้ชมที่แน่นขนัดเต็มห้องส่ง เพราะเขากำลังส่งเสียงเชียร์อย่างกึกก้อง แสงไฟดวงใหญ่สาด ส่องลงมาขนทำให้หน้าของเธอเริ่มรู้สึกร้อน

เมื่อหลินเชื่อจะขยับตัว หลินลี่ก็ผลักเธอออกไปด้านข้าง

โดยเร็ว

หญิงสาวงุนงงตั้งตัวไม่ถูก เธอยังไม่มีประสบการณ์บนเวที มากนัก จึงยังไม่รู้ว่าจะหาทางพาตัวเองกลับเข้าไปในแถวได้ อย่างไร

ในจังหวะนั้นเองเธอก็รู้สึกถึงมือของกู้จิ้งอวี่ที่โผเข้ามาจับ และดึงเธอเข้าไปยืนข้างเขา

พิธีกรผู้มากประสบการณ์มองเห็นเหตุการณ์นั้นได้ในทันที เขาฉีกยิ้มกว้างพลางกวาดตามองไปยังคณะทีมงานและนัก แสดงที่ยืนเข้าแถวเรียงราย สายตาของเขาหันมาจับจ้องอยู่ที่หลินเซ่อและกู้จิ้งอวี่

“เมื่อครู่นี้เราแอบเห็นว่าจิ้งอวี่สังเกตเห็นว่าหลินเชื่อหาที่ ยืนไม่ได้ เขาก็เลยดึงเธอเข้าไปยืนข้างๆ เลยนะครับ” คำพูดของพิธีกรทำให้คนทั้งคู่กลายเป็นหัวข้อสนทนาใน

ทันที

จากทางด้านหลัง หลินลี่ทำหน้าตึงขณะมองดูหลินเชื่อที่ ยืนอยู่ข้างกู้จิ้งอวี่

สีหน้าของหลินเชื่อออกจะดูขัดเขินเล็กน้อยเมื่อถูกพูดถึง เช่นนั้น ส่วนกู้จิ้งอวี่พูดออกมาหน้าตาเฉยว่า “นี่เป็นครั้งแรก ของหลินเชื่อบนเวทีนะครับ เธอยังไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่า ไหร่ ในฐานะรุ่นพี่ผมก็คงต้องยื่นมือเข้าช่วยสักหน่อยล่ะ

พิธีกรรีบรับลูกทันควัน “อำ ช่างคิดจริงๆ เลยนะครับจิ้งอ วี่ แล้วหลินเชื่อล่ะครับ เป็นยังไงบ้าง รู้สึกยังไงที่มีจิ้งอวี่คอย ดูแลแบบนี้”

หญิงสาวยิ้มแล้วตอบว่า “ก็รู้สึก… ฉันคิดว่าหลังจากการ ถ่ายทำวันนี้เสร็จสิ้นลง ฉันน่าจะถูกแฟนๆ ของเขารุมทำร้ายจน ตายแน่เลยค่ะ ระบบรักษาความปลอดภัยของรายการนี้ดีอยู่ ใช่ไหมคะ คุณจะช่วยดูแลและส่งฉันกลับไปอย่างปลอดภัยหลัง จบงานใช่ไหมคะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็พากันหัวเราะคน หลินเชื่อเริ่มที่จะเข้าใจได้ทีละน้อย ว่าหัวข้อสนทนาที่เกี่ยวข้องกับกู้จิ้งอวี่ก็มักจะกลายมาเป็นหัวข้อสนทนาที่ เกี่ยวข้องกับเธอด้วย ในการให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่เธอจึงมี โอกาสที่จะได้พูดอยู่ตลอดเวลา

ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น หลินลี่กลับไม่ได้มีบทบาทมากเท่า ไหร่ เธอถูกเอ่ยถึงเพียงแค่ช่วงแนะนำตัวและอีกครั้งในการ สัมภาษณ์เกี่ยวกับพิธีหมั้นของเธอที่เพิ่งผ่านพ้นไป นอกจากนั้น แล้วเธอก็ไม่ได้รับความสนใจใดๆ มากนัก

หลินลี่หน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธ เธอตวัดสายตาไปมอง หลินเชื่อที่กำลังหัวเราะและพูดคุยอย่างสนุกสนานอยู่ทางด้าน หน้า เมื่อหลินเชื่อถูกสัมภาษณ์ เธอก็จะพูดคุยอย่างมีชีวิตชีวา ด้วยท่าทีที่เป็นกันเอง ทำให้ทุกคนรู้สึกสบายใจ เมื่อเห็นการ ให้สัมภาษณ์ของอีกฝ่ายได้รับการตอบรับที่ดี หลินลี่ก็อดไม่ ได้ที่จะย้อนกลับมามองตัวเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าแม่นั่นมี จิ้งอวี่คอยช่วยอยู่น่ะสิ เฮอะ

หลินลี่คิดอย่างมาดร้าย แต่แกจะยังสนุกอยู่ได้อีกไม่นาน

หรอก

ขณะที่คิด หล่อนก็หันไปมองรองเท้าส้นสูงของหลินเช่ อด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

ถึงตอนนี้ พิธีกรรายการได้ขอให้นักแสดงหลักในทีมทุก คนเดินไปหยิบขนมในตะกร้าพร้อมกันเพื่อโยนให้กับผู้ชมที่อยู่ ด้านล่าง

ผู้ชมในห้องส่งพากันร้องตะโกนเสียงดังสนั่น ร้องขอขนมกันอื้ออึง โดยเฉพาะเมื่อหันไปทางทิศที่กู้จิ้งอวี่ยืนอยู่

หลินเซอหยิบขนมมาเต็มฝ่ามือ เมื่อเธอโยนขนมลงไป หญิงสาวก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของรองเท้า เธอนิ่วหน้า อยากจะก้มลงไปมองแต่ก็ไม่มีเวลาพอที่จะทำเช่นนั้น เมื่อเธอ หยิบขนมเต็มกำมืออีกครั้ง คราวนี้เธอก็ได้ยินเสียงส้นรองเท้า ที่ขยับอย่างรวดเร็ว

เท้าของหลินเชื่อพลิกวูบจนเธอเกือบล้มคว่ำลง

ใครบางคนที่ด้านหลังร้องเสียงดังออกมา

โชคดีที่กู้จิ้งอวี่คว้าตัวเธอไว้จากด้านหลังได้ทันการ ส้นรองเท้าของเธอหักนั่นเอง

ที่ด้านหลังพิธีกรตกตะลึง “โอ้ รองเท้าของคุณดังนี้ครับ เปลี่ยนคู่ใหม่เถอะ”

หลินเชื่อหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกได้ว่ากล้องกำลังจับภาพอยู่ ที่เธอ ในช่วงเวลาอันน่าวิตกนั่นเอง หลินเชื่อก็เงยหน้าขึ้นมา ส่งยิ้มและพูดว่า “นี่ฉันน้ำหนักขึ้นเยอะขนาดนั้นเลยเหรอคะเนี่ย ถึงขนาดที่ส้นรองเท้ารับไม่ไหวเลยเชียวนะ

ทุกคนพากันหัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเชื่อตัดสินใจ

ในจังหวะนั้นเอง หญิงสาวก้มลงถอดรองเท้าออก เธอดึงส้น รองเท้าที่หักคาอยู่ทิ้งไปและหันไปถอดรองเท้าอีกข้างออกมา ด้วย จากนั้นก็หยิบมันฟาดเข้ากับบันไดจนส้นรองเท้าที่เหลือ หักออกมาเป็นที่เรียบร้อย เธอโยนส้นรองเท้าทิ้งไปโดยเร็วและสวมรองเท้ากลับเข้าที่เดิมท่ามกลางสายตาทุกคนที่มองมา อย่างประหลาดใจ “เสร็จแล้วค่ะ”

พิธีกรรายการมองพลางอ้าปากค้าง แต่ถึงกระนั้นเขาก็รับ

ลูกเธออย่างรวดเร็วว่า “หลินเชื่อ คุณโหดจริงเลยนะครับ กู้จิ้งอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ไหลตามน้ำมาด้วย “ใช่ครับ ไม่มี ใครในกองถ่ายที่มองเธอว่าเป็นผู้หญิงหรอก

หลินเชื่อเงยหน้าหันไปมองกล้องก่อนจะฉีกยิ้มกว้างสดใส บันทึกเอาไว้ในกล้องเป็นที่

ภาพเหตุการณ์น่าประทับใจที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งหมดถูก เรียบร้อยแล้ว

ที่ด้านล่างผู้กำกับยิ้มและพยักหน้าอย่างพอใจ เขาไม่ลืมที่ จะหันไปสั่งผู้ช่วยว่า “เก็บฉากนี้เอาไว้ด้วยนะ มันดูดีทีเดียว แล้วก็น่าจะทำให้คนสนใจได้มากด้วย เราจะใช้มันตัดเป็นภาพ ตัวอย่าง

ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างของเวทีก็อดไม่ได้ที่จะมองดูการกระทำ ของหลินเชื่อซึ่งเป็นเรื่องผิดกับที่คาดคิดเอาไว้มาก แม่สาวคน นี้ใจเด็ดดีทีเดียว

หลินลี่ยืนฟีดฟัดอยู่ทางด้านหลัง ตอนแรกเธอดีใจที่จะได้ ยืนมองหลินเชื่อต้องอับอายขายหน้าอยู่ที่หน้าเวที

แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าแม่นั่นจะยังใจเย็นและแก้ไข เหตุการณ์น่าอายได้อย่างราบรื่น เสียดายชะมัดที่มันไม่ล้มโครมลงพื้น

เอกมาการถ่ายรายการบังเอิญเห็นสายตาเย่อหยิ่งของหลินลี่ นั่นทำให้หญิง สาวเริ่มฉุกอะไรขึ้นมาทันที

จนกระทั่งการถ่ายทำสิ้นสุดลง ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี

จิ้งอวี่เดินจากเวทีและไปมองหลินเชื่อ ขาเธอ เป็นไรใช่ไหม”

หญิงสาวหน้าและส่งยิ้มให้ ฉันไม่เป็นค่ะ ขอบคุณสำหรับช่วยเหลือเธอเป็นอย่างมากแทบตลอดการถ่ายทำ

กู้จิ้งอวี่พูด จะมาขอบคุณทำไม คราวหน้าเธอก็เลี้ยงข้าวฉัน”

หลิน

หญิงสาวเห็นหลินเดินหน้าเชิดผ่านมา หลินเชื่อยิ้มค้าง อยู่บนใบหน้าขณะมองอีกฝ่ายเดินผ่านไป

มาถึงตอนนี้ อหมินหมิ่นกลับมาแล้วนี่มันเกิดอะไรกัน” อวหมินหมิ่นยังคงหวาดเสียวที่เกิดมองจากด้านล่างเวทีหลินเชื่อหยิบรองเท้าของมา เองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะแต่รองเท้าคู่นี้น่าจะแพงมากทีเดียว

อวีหมินหมิ่นยกรองเท้าขึ้นพิจารณาดูใกล้ๆ แล้วพูดว่า “ใครบางคนทำมันพังนี้ มีรอยกรีดอยู่ตรงนี้นี่ไงล่ะ หลินเชื่อหรี่ตา พ่นลมออกทางจมูกและพูดว่า “ฉันรู้ค่ะว่าใครทําหลินน่ะสิ จะเป็นใครไปได้อีกล่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ