แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 47 กู้จิ้งอวี่บอกว่ามันไม่เกี่ยว อะไรกับฉัน



ตอนที่ 47 กู้จิ้งอวี่บอกว่ามันไม่เกี่ยว อะไรกับฉัน

เมื่อกลายเป็นข่าวใหญ่ หลินเชื่อก็รู้สึกได้ว่าทุกคนต่างพากัน จ้องมองมาที่เธอเมื่อไปถึงกองถ่าย

เมื่อเห็นหลินเซ่อมาถึง ผู้กำกับก็รีบร้องเรียกว่า “อา คุณนายกู้มาแล้ว”

หลินเชื่อหัวเสียทันที “คุณนายกอะไรกันคะ

“ก็กู้จิ้งอวี่เพิ่งยอมรับว่าเธอเป็นภรรยาของเขาไม่ใช่เรอะ งั้นเธอก็ต้องเป็นคุณนายสิ

“บ้าบอที่สุด! ไม่อะไรเป็นความจริงเลยจนนิดเดียว กรุณา ระวังคำพูดด้วยนะคะ มีนักข่าวอยู่ทั่วไปหมด

นักข่าวนั้นอยู่ในทุกที่จริง ถ้าพวกเขาบังเอิญได้ยินคำพูดนี้ เข้าละก็ หลินเชื่อไม่กล้าคิดเลยว่าพาดหัวข่าวของวันรุ่งขึ้นจะ ถูกเขียนว่าอย่างไร ทีมงานในกองถ่ายทั้งหมดต่างก็รู้ถึงความ สัมพันธ์ของเธอและกู้จิ้งอวี่แล้วเช่นกัน

ไม่ว่าเธอจะเพียรแก้ตัวแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด

ผู้กำกับเชื้อเชิญเธอให้นั่งเก้าอี้ “มาเถอะ มา จะให้ คุณนายกู้นั่งเก้าอี้ตัวเล็กอย่างนี้ได้ยังไง นี่มันสำหรับพวกนักแสดงท้ายแถว เราควรเตรียมเก้าอี้ที่เหมาะสมเอาไว้ให้เธอ มาเถอะ มานั่งตรงนี้ นี่เก้าอี้ของเธอ

หลินเชื่อนึกอยากจะชกหน้าเขาเป็นกำลัง “นี่คุณกำลัง พยายามหาเรื่องให้ฉันลำบากเหรอคะ”

คนในกองถ่ายนั้นมีการแบ่งชั้นวรรณะกันไว้อย่างชัดเจน นักแสดงตัวเล็กๆ อย่างหลินเชื่อไม่ควรจะทำอะไรที่เป็นการ เรียกร้องความสนใจ โซฟาตัวใหญ่นุ่มสบายนี้จะถูกจัดเอาไว้ ให้กับดาราเบอร์ใหญ่ๆ เท่านั้น หลินเชื่อเองก็พอใจกับเก้าอี้ พับที่เธอนั่งอยู่เป็นประจำ

แต่ผู้กำกับฟูหัวเราะเสียงดังแล้วบอกว่า “นี่เป็นคำสั่งผู้ กำกับนะ มีใครกล้าขัดบ้าง เอาเถอะน่า หลินเชื่อ หัดทำตัวให้ ชินได้แล้ว ตอนนี้เธอเกือบจะเป็นข่าวดังกว่าเผยหรานอยู่แล้ว เธอไม่ใช่นักแสดงเล็กๆ อีกแล้วนะ”

“…” ผู้กำกับฟูพูดพลางบังคับให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้

หลินเชื่ออดยิ้มน้อยๆ ไม่ได้เมื่อทรุดตัวลงนั่ง นี่มันสบาย กว่าเก้าอี้พับจริงๆ เสียด้วยสิ

การต้องรอเข้าฉากเป็นเรื่องน่าเบื่อก็จริง แต่เมื่อได้นั่งบน เก้าอี้แสนสบายอย่างนี้ อะไรๆ ก็แตกต่างไปจากเดิม

นักแสดงที่อยู่ระดับเดียวกันกับหลินเชื่อมองเห็นเหตุการณ์ ทุกอย่างและเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์ เธอมองไปทางหลินเช่ อด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยแววริษยา
แย่ที่สุดที่กลายเป็นหลินเชื่อที่กู้จิ้งอวี่เลือกที่จะสนใจ

ในตอนแรกเธอคิดว่าหลินเชื่อเป็นคนจงใจสร้างเรื่องราว ทั้งหมดนี้ขึ้น แต่พอมาตอนนี้ที่กู้จิ้งอวี่เป็นฝ่ายออกมายอมรับ เสียเองก็ไม่มีใครจะสามารถพูดอะไรได้อีก

พวกเธอคงบอกได้แต่เพียงว่า หลินเชื่อนั้นเป็นผู้หญิงที่

โชคดี

และแล้วกู้จิ้งอวี่ก็มาถึงกองถ่าย

เขาเห็นหลินเชื่อกำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ จึงเดินเข้ามา หาเธอ โดยไม่สนใจฟังคำทัดทานของผู้จัดการส่วนตัวแต่อย่างได

สายตาทุกคู่พากันมองตามคู่รักใหม่ที่แตกต่างกันราวกับ

คนละขั้ว

หลินเชื่อได้ยินเสียงบางอย่างจึงยันตัวขึ้นนั่ง แล้วเธอก็ได้ เห็นจิ้งอวี่ส่งยิ้มร้ายๆ มาให้ แถมยังกล้าที่เดินมาหาเธอแบบ นี้อีก หญิงสาวนึกอยากชกเข้าขึ้นมาติดหมัดทีเดียว

“เฮ้ มาเร็วดีนี่” เขาทักทายพร้อมรอยยิ้ม

หลินเชอลุกขึ้นนั่งแล้วพูดว่า “กู้จิ้งอวี่ คุณ…ที่คุณโพสต์ใน เวยป้อหมายถึงอะไร

กู้จิ้งอวี่ยกมือขึ้นทำท่าไร้เดียงสา “ฉันโพสต์อะไรเหรอ

“คุณโพสต์อะไรงั้น ก็คุณเป็นคนโพสต์เองในข้อความล่าสุดทั้งไอ้เรื่องความเหงา ทั้งเรื่องขาดอิสรภาพ ทั้งเรื่อง

“อ้อ เรื่องนั้นนั่นเอง คือว่า…มันก็เป็นแค่โพสต์ตามปกติ

ในเวยป๋อเท่านั้นแหละ ก็แค่ระบายความรู้สึกเพื่อเรียกร้อง ความเห็นใจไงล่ะ” กู้จิ้งอวี่ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้และทิ้งตัวลงนั่ง หลินเชือกระโดดตึง ขึ้นเสียงใส่เขาเต็มที่ “คุณ คุณ คุณ

มัน นั่นน่ะเรียกปกติของคุณเหรอคะ คุณไม่เห็นข่าวหรือไงกัน

“ฉันเห็นแล้ว” เขาเงยหน้าขึ้นมองหลินเชื่อที่ดูเหมือนกำลัง จะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความโกรธ เขาคิดว่าเธอดูน่ารักดี อย่างที่เธอคิดจริงๆ เขาตั้งใจโพสต์ข้อความมั่น

กู้จิ้งอวี่พูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “เธอก็รู้ว่าพวกนักข่าวชอบ จินตนาการกันไปเอง จะให้ฉันทำยังไงได้ ดูสิ ฉันไม่ได้เอ่ยชื่อ เธอด้วยซ้ำ พวกเขายังเอาไปโยงให้เกี่ยวกับเธอได้เลย ฉันไม่ ได้พูดอะไรเกี่ยวกับคนรักเลยสักนิด นักข่าวก็ยังอุตส่าห์คิดว่า เป็นเรื่องนั้นจนได้ แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ”

หลินเชื่อมองหน้าตาที่ทำทีเหมือนทองไม่รู้ร้อนของ งอวี่ เห็นแล้วอยากจะฉีกปากเขาออกมานัก

จริงอยู่ที่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อเธอ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องความสัมพันธ์ออกไปตรงๆ แต่…โพสต์ในเวยป๋อนั่นก็ โจ่งแจ้งเสียเหลือเกิน ถ้าจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจโพสต์ก็คงเป็น เรื่องโกหก

“ถ้าเป็นแบบนั้น คุณก็ต้องลบโพสต์ในเวยป๋อนั่นซะหลินเซ่อสั่งเสียงเฉียบขาด

กู้จิ้งอวี่ยิ้มแล้วเอนหลังพิงเก้าอี้ “ก็ได้ งั้นฉันจะบอกว่าเพ ราะหลินเชื่อไม่ต้องการให้เราสองคนถูกเข้าใจผิด เพราะฉะนั้น ฉันก็เลยจะลบโพสต์นั่นทิ้งซะ

“ให้ตายสิ!”

“ก็ไม่ใช่แบบนั้นหรอกเหรอ”

“คะ คะ คุณ…” หลินเซ่อถึงกับพูดไม่ออก แม้จะโกรธเขา แทบคลั่งแต่เธอก็ไม่รู้จะเอาชนะเขาได้ยังไง

ใครกันนะที่บอกว่ากู้จิ้งอวเป็นยอดชาย หมอนี่เป็นจอมน่า รําคาญสิ้นดีต่างหากในขณะเดียวกันนั้นเอง..

กู้จิ้งเจ๋อยังคงไม่รับรู้ถึงข่าวอื้อฉาวระหว่างภรรยาของตัวเองกับชายอื่นโม่ฮุ่ยหลิงโทรมาหาเขาแต่เช้าเธออยากเจอเขา

จิ้งเจ๋อมาถึงหน้าประตูบ้านของโม่ฮุ่ยหลิง

ประตูรับเขาพร้อมแววตาเศร้าสลดในดวงตาหญิงสาวเปิดกู้จิ้งเจ๋อจึงถามว่า “มีอะไรหรือเปล่า”

โม่ฮุ่ยหลิงตอบ “ทำไมคุณถึงหายหน้าไปทั้งสองวันละคะ
“ฉัน…” จิ้งเจ๋ออึกอัก “ไปร่วมงานเลี้ยงฉลองหมั้นที่บ้าน ของหลินเซ่อน่ะ”

“อะไรนะคะ” ไม่ยุ่ยหลิงเริ่มเดือดปุดๆ “นี่คุณไม่สนใจฉัน เพราะว่าไปกับเจ้าหล่อนนั่นเหรอคะ”

กู้จิ้งเจ๋อรู้สึกได้ถึงสุ่มเสียงอันชิงชังของโม่ฮุ่ยหลิงที่มีต่อ

หลินเชอ

ชายหนุ่มนิ่วหน้าและพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่รู้จะพอใจ นักว่า “ฮุ่ยหลิง มันไม่ใช่ความผิดของเขา ฉันต้องแต่งงานกับ เขา แล้วก็เป็นเพราะฉันเองที่ทำให้เขาถูกบังคับให้ต้อง แต่งงานในครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน”

หัวใจของโม่ฮุ่ยหลิงเจ็บแปลบเมื่อเงยหน้าขึ้นมองจิ้งเจ๋อ เธอรู้ดีว่าเผลอตัวอาละวาดและพูดสิ่งที่ไม่รื่นหูออกไป

หญิงสาวจึงปุ๋ยปาก แล้วดึงแขนเสื้อชายหนุ่มก่อนจะพูด ว่า “แต่ฉันไม่ชอบหล่อนเลยนี่คะ”

กู้จิ้งเจ๋อรู้ดีว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะรู้สึกเช่นนี้ จึงปลอบ ใจว่า “ฉันรู้ ฉันเพียงแค่อยากจะบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็น ความผิดของฉันเอง อย่าไปตำหนิเขาเลย

โม่ฮุ่ยหลิงเม้มปากแน่นเมื่อหันไปมองอีกฝ่าย “เวลาที่คุณ แก้ตัวแทนแม่นั่นแบบนี้ ฉันยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่

“ฉัน…”
“จิ้งเจือคะ ฉันเหงา เวลาที่ฉันอยู่คนเดียวฉันก็เฝ้าแต่ คิดถึงแต่ภาพคุณและแม่นั่นอยู่ด้วยกัน ได้แต่งงานกันเป็นเรื่อง เป็นราว แล้วก็ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เราสองคนต้องการมาโดย ตลอด ได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบและมีความสุข คุณรู้ไหมคะว่า ฉันรู้สึกยังไง ฉันอดคิดถึงภาพนั้นไม่ได้หรอกค่ะ

จิ้งเจ๋อรู้สึกเจ็บหนีบขึ้นมาในหัวใจ

โม่ฮุ่ยหลิงพูดต่อไป “ตั้งแต่ที่คุณเริ่มล้มป่วย เราสองคนก็ ยังคงอยู่ด้วยกัน แต่ครอบครัวคุณไม่เคยยอมรับเราเลย ฉัน เองก็ต้องรับแรงกดดันมากมายนะคะ คุณรู้หรือเปล่า

กู้จิ้งเจ๋อรู้ดีว่าเธอเองก็อดทนเพื่อเขามาไม่น้อย

น้ำตาของโม่ฮุ่ยหลิงไหลพรากลงอาบแก้มเมื่อเธอยังคง พูดต่อไป “คุณเดินเล่นไปที่วิลล่าเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหมคะ”

จิ้งเจ๋อถอนหายใจ “ได้สิ”

ทั้งสองขับรถไปยังวิลล่าริมแม่น้ำ

วิลล่าแห่งนี้เป็นของปู้จิ้งเจ๋อเอง ทิวทัศน์งดงามและวิลล่า ไม้หลังใหญ่ก่อให้เกิดภาพที่ดูแล้วชวนอบอุ่นหัวใจ

โม่ฮุ่ยหลิงเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาก เธอถอดเสื้อโค้ตออกขณะที่ นั่งมองกู้จิ้งเจ๋อเก็บรวบรวมพื้นเพื่อนำไปใส่เตาผิง กลิ่นหอม ของไม้สน และการได้นั่งดูหนังด้วยกัน เป็นช่วงเวลาแห่งความ สุข โดยแท้

โม่ฮุ่ยหลิงมองดูปู้จิ้งเจ๋อที่กำลังคุกเข่าลงเพื่อเก็บรวบรวมไม้ฟื้นอย่างตั้งใจ แลเห็นกล้ามเนื้อที่ท่อนแขนสุดเซ็กซี่ชวนมอง เธอไม่อาจถอนสายตาไปจากเขาได้เลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ