ตอนที่ 31 ทำไมคุณถึงกินอาหารขยะแบบนี้
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มเมื่อเขามองดูเธอ ชายหนุ่มรู้ดีว่าเขาจะต้องเกิด อาการผื่นคันทันทีที่เขาสัมผัสถูกตัวเธอ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ เขาไม่เคยปรารถนาที่จะแตะเนื้อต้องตัว ไม่ยุ่ยหลิง แต่ถึงอย่าง นั้นตอนนี้เขาก็ยังอดรู้สึกอึดอัดไปทั่วทั้งตัวเหมือนกับว่าตัวเอง จะมีอาการผื่นคันขึ้นมาไม่ได้อยู่นั่นเอง เขาขมวดคิ้วเมื่อหันไป มองดูเธอ “นี่เธอทำอะไรกับห้องหรือเปล่านะ ทำไมฉันถึงรู้สึก ว่ามันอึดอัดแปลกๆ
โม่ฮุ่ยหลิงชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “ฉัน…ฉันฉีด น้ำหอมนิดหน่อยน่ะค่ะ”
จิ้งเจ๋อถอนหายใจแล้วมองดูเธอ “ฮุ่ยหลิง เธอบอกฉัน ตรงๆ ก็ได้ว่าเธออยากให้ฉันมาหา เธอหลอกฉันว่าตัวเองป่วย แบบนี้ทำไมกัน”
กู้จิ้งเจ๋อถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เพราะเขารู้ตั้งแต่นาที แรกที่ก้าวเข้ามาในห้องแล้วว่าเธอแกล้งป่วย
โม่ฮุ่ยหลิงตกใจด้วยไม่คาดคิดว่าเขาจะจับได้เธอได้ แต่ ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังคงกัดริมฝีปากและพูดว่า “ก็ฉันคิดว่า คุณไม่อยากมาหาฉันนี่คะ ฉันก็เลย….
จิ้งเจอก้มหน้าลง เพียงเพื่อที่จะได้เห็นว่าตัวเองเริ่มมีร่อง รอยของผืนปรากฏออกมาให้เห็น
เมื่อไม่ฮุ่ยหลิงเห็นจิ้งเจือเหลียวมองไปรอบๆ ห้องด้วย สีหน้าไม่พึงใจ เธอจึงรีบพูดว่า “ออกไปนั่งคุยกันข้างนอกเถอะ
โชคดีที่เธอเลือกสวมชุดนอนสวยเซ็กซี่นี่เอาไว้ เธอลุกขึ้น แล้วจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่สวยงาม จิ้งเจ๋อทอดสายตามอง เรือนร่างของอีกฝ่าย แล้วก็ได้พบว่าชุดที่โม่ฮุ่ยหลิงสวมอยู่นั้น ออกจะอวดเนื้อหนังมังสามากไปอยู่สักหน่อย แต่ชายหนุ่มก็ไม่ ได้พูดว่าอะไร เขายิ้มให้เธอและเดินนำออกไป
กู้จิ้งเจ๋อรู้ดีว่า โม่ฮุ่ยหลิงนั้นดูเซ็กซี่อย่างมากในเสื้อผ้าเช่น นี้ แต่อาจจะเป็นเพราะเขารู้ดีว่าตัวเองจะต้องตื่นขึ้นทันทีที่แตะ ต้องตัวเธอ เขาจึงไม่เคยรู้สึกดึงดูดหรือเย้ายวนใดๆ ไม่ว่าเธอ จะดูสวยแค่ไหนก็ตาม
เมื่อเห็นว่าจิ้งเจ๋อไม่แม้แต่จะปรายตามอง โม่ฮุ่ยหลิง เริ่มที่จะรู้สึกผิดหวังขึ้นมานิดๆ ไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ค่อน ข้างจะคุ้นชินกับเรื่องนี้และคิดว่าถึงอย่างไรกู้จิ้งเจ๋อก็เป็นเช่นนี้ ไม่เปลี่ยน ตั้งแต่เขาล้มป่วยด้วยโรคดังกล่าว เขาก็ไม่รู้สึกเร้า อารมณ์กับผู้หญิงหน้าไหนอีกเลย
เขาไม่สนใจในตัวเธอ แล้วเขาก็ไม่สนใจยัยหลินเชื่อนั่น
ด้วยเหมือนกันนั่นแหละ
เธอบอกกู้จิ้งเจ๋อว่า “กินข้าวเป็นเพื่อนฉันก่อนคุณกลับหน่อยนะคะ”
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ได้สิ ฉันเองก็ยังไม่ทันได้กินอะไรก่อนจะมา ทีนี่เหมือนกัน” เมื่อได้ยินว่าเขาวิตกมากที่ได้ยินว่าเธอป่วยทำให้ไม่ยุ่ย หลังยิ้มออกมาอย่างยินดี “ดีเลยค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันจะสั่งให้คนทำ
สเต็ก คุณต้องชดเชยให้ฉันด้วยการดินเนอร์ใต้แสงเทียนนะ
คะ”
อย่างไรก็ตามสาวใช้ที่เข้ามากลับแจ้งให้ทราบว่า “คุณผู้ หญิงคะ บ้านถูกตัดไฟค่ะ ไม่สามารถทำอาหารอะไรได้เลย
โม่ฮุ่ยหลิงตะโกนอย่างโกรธจัด “จะเป็นไปได้ยังไงกัน ลองโทรไปถาม จัดการเรื่องนี้ให้ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!
สาวใช้ตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรน “คุณผู้หญิงคะ ไฟดับไป
ครึ่งเมืองได้นะค่ะ พวกเขาบอกว่าไฟฟ้าถูกตัดระหว่างที่กำลัง
ซ่อมบำรุงแผงวงจร ตอนนี้ก็กำลังรีบซ่อมกันอยู่
โม่ฮุ่ยหลิงโกรธจนทนไม่ไหว ทำไมถึงเกิดเรื่องเฮงซวย
ได้นะ นานๆ ทีจิ้งเจ๋อจะยอมมาหาเธอถึงนี้ เธอกับเขาน่าจะ ได้กินอาหารเย็นด้วยกัน ดื่มไวน์ แล้วก็ถ้าเขาเกิดเหนื่อยเกิน ไป เขาก็อาจจะค้างที่นี่กับเธอก็ได้
เมื่อคิดว่าเขามีภรรยาที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน เธอ ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เสียแล้วที่จะปล่อยให้เขากลับบ้านไป กู้จิ้งเจ๋อบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก ฮียหลิง อย่าให้พวกเขาต้องวุ่นวายเลย” เขายังไม่ได้กินอาหารเย็นและก็รู้สึกหิวอย่าง มาก หลังจากคิดอยู่เป็นครู เขาก็หันไปบอกสาวใช้อย่างไม่มี มีขลุ่ยว่า “ถ้ามีเตาที่ใช้เชื้อเพลิงก้อนได้อยู่ละก็ ช่วยออกไปซื้อ บะหมี่ถ้วยมาให้พวกฉันแทนก็แล้วกัน
สาวใช้ทำตาโตอยู่เป็นครูใหญ่เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไม่ย หลิงเองก็ไม่ต่างกัน เธอถามขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า “คุณ อยากกินบะหมี่ถ้วยเหรอคะ”
จิ้งเจ๋อตอบ “ใช่ ฮุ่ยหลิง ถ้านานๆ เธอได้กินบะหมี่ถ้วย สักทีมันก็อร่อยดีอยู่เหมือนกันนะ” จากนั้นเขาจึงหันไปสั่งสาว ใช้ด้วยเสียงจริงจังขึ้นว่า “แค่ออกไปซื้อบะหมี่ถ้วยมาก็พอ
ด้วยไม่อาจขัดขืนคำสั่ง สาวใช้จึงรีบออกจากห้องไป
โม่ฮุ่ยหลิงมองหน้าจิ้งเจออย่างไม่รู้แน่ใจ “ทำไมอยู่ๆ ถึงอยากจะกินของแบบนี้ขึ้นมาละคะ
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “อร่อยดีออก ลองกินดูสิ แล้วเธอจะรู้
แน่ละว่าโม่ฮุ่ยหลิงไม่ได้อยากกิน คนที่โตมาในสถานะ อยังพวกเธอจะให้มากินอาหารขยะชั้นต่ำแบบนั้นได้อย่างไรกัน แต่ถึงกระนั้นจะให้ปฏิเสธก็ทำไม่ได้ เพราะจิ้งเพื่อเป็นคน
เสนอเอง
ไม่ช้าสาวใช้กลับมาพร้อมบะหมี่ถ้วย นำเข้าไปในห้อง ครัวและเตรียมปรุงให้สุกภายในเวลาไม่นาน กลิ่นของมันแรง จนกลบกลิ่นน้ำหอมราคาแพงลิบบนตัวเธอไปจนหมด นั่นยิ่งทำให้ไม่ฮุ่ยหลิงรังเกียจมากขึ้นอีก
หญิงสาวทำหน้านิ้วเมื่อบะหมี่ถูกยกมาเสิร์ฟ แม้ว่ามันจะ
ถูกตกแต่งและจัดใส่ถ้วยมาอย่างสวยงาม แต่ต้อง
เมื่อได้เห็นเขารับประทานมันอย่างเพลิดเพลิน ไม่ยหลิ งก็ยิ่งช็อกหนัก เมื่อลองหันกลับไปมอง ยังกลืนมันไม่
จะให้ระดับเธอมากินบะหมี่ถ้วยแบบนี้ได้ยังไง มัน ไม่ใช่พาสต้านะ
เมื่อรับประทานของหมดจิ้งเจ๋อถึงสังเกตว่า โม่ฮุ่ยหลิงเพิ่งจะตักอาหารไปเพียงสองคำเท่านั้น เขาเงยหน้าแล้วถามว่า “ทำไมล่ะ ไม่อร่อยเหรอ”
โม่ฮุ่ยหลิงไม่อาจซ่อนแววเหยียดหยามในสีหน้าเอาคะ นี่มันเป็นอาหารขยะคะ คุณเองไม่ควรกิน เหมือนกัน มันไม่ต่อร่างกาย แถมยังสกปรกด้วย
ความอยากอาหารของจิ้งเจ๋อแทบจะวับไปด้วยค่
พูดดังกล่าว เขากลับรู้สึกกับเธอกำลังด่าทอหลิน ว่าเป็นของสกปรก
ทำไมเขาถึงเอาบะหมี่ถ้วยมาโยงกับหลินเชื่อได้ไม่รู้เหมือนกัน
เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถบังคับไม่ยุ่ยหลิงให้กินในสิ่งที่เธอ ไม่ชอบได้ แต่เขาก็ยังอดผิดหวังนิดๆ ไม่ได้อยู่ดี เขาไม่คิดเลย ว่าเธอจะเกลียดมัน ชายหนุ่มจึงเพียงแต่พูดเรียบๆ ว่า “ถ้าเธอ ไม่ชอบก็ไม่ต้องกิน ฉันรู้ว่ามันเป็นของไม่ดีต่อสุขภาพ
เขาเข้าใจดี ถึงอย่างไรไม่ยุ่ยหลิงก็เหมือนกันเขา ถูกเลี้ยง ดูและให้การศึกษามาเป็นอย่างดีตั้งแต่วัยเด็ก มันทำให้พวก เขาไม่คุ้นเคยกับอาหารอย่างบะหมี่ถ้วยพวกนี้
เมื่อเห็นว่าไม่ฮุ่ยหลิงสบายดีแล้ว เขาก็ผุดลุกขึ้นแล้วบอก ว่า “ฉันอิ่มแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วละก็ ฉันจะกลับก่อนละ
หลินเชื่อยังอยู่ในโรงพยาบาล การที่เขาจะหายตัวมาใน ช่วงระหว่างวันนั้นก็พอจะทำได้อยู่ แต่สำหรับตอนกลางคืนสิ เจ้าหล่อนนอนดิ้นเกินไป เขาไม่ไว้ใจที่จะปล่อยให้ใครเป็นคน เฝ้าเธอตอนนอนหลับ ถ้าหลินเชื่อเผลอทำแผลเปิดเข้าละก็
รอยแผลเป็นบนขาจะต้องใหญ่กว่าเดิมแน่
แบบนั้นคงน่าเกลียดเกินไปสำหรับผู้หญิง
อีกอย่าง ผิวของเธอก็สวยเหลือเกิน ทั้งขาวนุ่มเนียนและ ขาวผุดผาดราวกับหิมะ เขาทนไม่ได้เลยที่จะต้องเห็นตำหนิ ใดๆ บนผิวสวยๆ นั่น
“คุณงานยุ่งเหรอคะ” ไม่ยุ่ยหลิงไม่อยากให้เขากลับ เธอ ส่งสายตาวิงวอนให้
เมื่อกู้จิ้งเพื่อได้เห็นสีหน้าชวนให้สงสารนั้น เขาก็เริ่มที่จะ ลังเล แต่เมื่อคิดถึงหลินเชื่อ การตัดสินใจของเขาก็กลับมา แข็งแกร่งอีกครั้ง
“ฮุ่ยหลิง ฉันก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอตอนที่สะสางธุระ ต่างๆ เสร็จหมดแล้วก็แล้วกันนะ
เมื่อได้เห็นว่าเขายืนยันหนักแน่นเช่นนั้น ไม่ยุ่ยหลิง ทําได้เพียงปุ๋ยปากและเดินมาส่งเขาจนถึงข้างนอกตัวบ้าน เธอ รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปลี่ยนใจผู้ชายคนนี้ทันทีที่เขาได้ ตัดสินใจลงไปเรียบร้อยแล้ว
หลังจากจิ้งเจ๋อกลับไป ไม่ยุ่ยหลิงก็หันกลับมาหาชามใส่ บะหมี่ทั้งสอง เธอสั่งสาวใช้ด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่า “ใครที่ไป ซื้อมา เอาไปโยนทิ้งให้หมดเลยนะ กล้าดียังไงมาซื้อของ สกปรกพรรค์นี้แล้วยังกล้าเอาเข้าบ้านฉันอีก…กลิ่นชวนอ้วกตื้น ดี ทำความสะอาดทั้งห้องนี้ด้วย ฉันไม่ต้องการให้มีหลงเหลือก ลิ่นอยู่แม้แต่นิดเดียว”
เมื่อไม่มีอะไรจะทำขณะอยู่โรงพยาบาล หลินเชื่อก็ไล่กดดู
ช่องโทรทัศน์ต่างๆ เพื่อดูข่าวบันเทิง เธอได้เห็นกู้จิ้งอวี่ให้
สัมภาษณ์ในระหว่างการถ่ายทำซีรีส์ เพราะอาการบาดเจ็บของ
เธอ ทำให้หญิงสาวขอลาพักสองสามวัน ซึ่งทางทีมงานก็
อนุญาตโดยทันทีและทำให้การหยุดงานของเธอไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
เมื่อได้เห็นว่ากองถ่ายยังคงบุกตะลุยทำงานกันอย่างไม่หยุดยั้ง เธอก็อดร้อนใจขึ้นมาไม่ได้และอยากที่จะกลับไปร่วม ถ่ายทําเร็วๆ นี่เป็นโอกาสสำคัญสำหรับเธอ และเธอก็ไม่อยาก ที่จะยอมปล่อยมันไปง่ายๆ ด้วย
ขณะที่หลินเชื่อกำลังนั่งวิตกอยู่นั้นเอง จิ้งเจ๋อก็กลับมา และเห็นเธอกำลังนั่งดูทีวีอยู่ เขาก้าวเข้ามาในห้องพลางถามว่า “เธอกินอาหารเย็นหรือยัง
หลินเชื่อตอบด้วยเสียง “อ้อ” เมื่อมองเห็นท่าทางสดชื่น ของอีกฝ่าย เขาคงจะไปหาโม่ฮุ่ยหลิงมาละสิ แต่เธอก็ไม่ได้พูด ออกไป “กินแล้วค่ะ แล้วก็กินยาแล้วด้วย
“ดีแล้ว”
“หมอบอกว่าพรุ่งนี้ฉันก็กลับไปนอนพักที่บ้านได้แล้วนะ คะ” เธอบอก
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว “จริงรี ฉันว่าเธอน่าจะอยู่ให้หมอดูแลต่อ
อีกสักสองสามวันนะ
ที่จริงหมอก็พูดแบบนั้นนั่นแหละ แต่หลินเชื่ออยากจะกลับ
ไปทํางานใจจะขาดแล้ว
เธอจะอยู่เป็นคุณผู้หญิงตระกูลไปได้แค่ไม่กี่ปีเท่านั้น ไม่ ช้าก็เร็วเธอก็ต้องหย่ากับเขา เพราะฉะนั้นเธอจะต้องหาทางยืน ด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ