ตอนที่ 82 ฉันรู้สึกขยะแขยง
“ถ้าอย่างนั้น ไปบ้านฉันกันนะคะ” ไม่ยุ่ยหลิงบอก
จิ้งเจ๋อมองดูเธอแล้วพยักหน้ารับ ทั้งสองขับรถออกจากบ้านตระกูล
เมื่อมาถึงบ้านของโม่ฮุ่ยหลิง ทั้งจิ้งเจ๋อและไม่ยุ่ยหลิง ลงจากรถ จากนั้นหญิงสาวก็ลากตัวฝ่ายชายเข้าไปในห้องของ เธอ
โม่ฮุ่ยหลิงอุ้ยปากอย่างแสนงอนเมื่อมองดูอีกฝ่าย “จิ้งเจ๋อ คะ ฉันคิดถึงคุณมากเลยนะคะ ฉันอยากอยู่กับคุณทุกวัน
จิ้งเจ๋อมองดูเธออย่างชั่งใจ แต่ฮุ่ยหลิง ฉันแต่งงานแล้วนะ”
โม่ฮุ่ยหลิงเงยหน้าขึ้นมาทันควัน “คุณแต่งงานแล้วแต่คุณ รักฉันนี่คะ จึงเจ๋อ อย่างบอกนะว่าคุณตกหลุมรักแม่นั่นน่ะ ไม่ อย่างนั้นคุณจะอยากอยู่ใกล้ชิดหล่อนไปทำไม นี่คุณสองคนไป กันถึงไหนต่อไหนแล้วคะเนี่ย”
กู้จิ้งเจ๋อไม่แน่ใจเรื่องนั้นเหมือนกัน แต่เขาก็อยากจะอยู่ใกล้หลินเชอตลอดเวลาทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้เธอ มันทำให้เขาลืมทุกอย่างและทำตามความปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ในใจ
มันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากการได้อยู่กับโม่ฮุ่ยหลิง โดยสิ้นเชิง
เขานึกสงสัยว่า มันเป็นเพราะเขาไม่เกิดอาการใดๆ ยาม ที่ได้แตะต้องเธอหรือเปล่านะ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้การได้ อยู่ใกล้เธอทำให้เขารู้สึกปลอดภัย
กระนั้นเขากับโม่ฮุ่ยหลิงก็มีความผูกพันทางความรู้สึกต่อ กัน มันเป็นเหมือนความรู้สึกคุ้นเคย เขาและเธอเป็นเหมือน เนื้อคู่ของกันและกัน
กู้จิ้งเจ๋อหลับตาและรู้สึกว่าเขากำลังทำให้โม่ฮุ่ยหลิงต้อง ผิดหวัง ชายหนุ่มถอนหายใจและปล่อยมือเธอ “ฮุ่ยหลิง ฉันคิด ว่ามันจะเป็นการดีกว่าถ้าเราจะไม่ทำแบบนี้กันอีกต่อไป
โม่ฮุ่ยหลิงตกตะลึง
จิ้งเจ๋อพูดต่อไป “ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันไม่อยากให้เธอ
ต้องมาเสียเวลาในชีวิตวัยสาวของเธออีกต่อไปแล้ว ฉันทำเธอ เสียเวลามาหลายปีมากแล้ว มันควรจะพอได้แล้ว ฉันแต่งงาน กับเธอไม่ได้เพราะฉันไม่อาจแตะต้องตัวเธอได้ ตราบใดที่ฉัน ยังไม่สามารถรักษาตัวเองให้หาย ฉันก็จะไม่สามารถโดนตัว เธอได้เลย เธอจะต้องเป็นทุกข์อยู่กับฉันทุกเมื่อเชื่อวัน ครอบครัวของเธอก็ไม่มีวันยอมรับเรา เพราะฉะนั้นสำหรับเรา แล้วมันแทบไม่มีอนาคตเลย และเป็นเพราะฉันที่เห็นแก่ตัวเกิน ไปที่ยังอยู่กับเธอมาจนถึงป่านนี้
โม่ฮุ่ยหลิงตัวสั่นสะท้าน
ใบหน้าเธอซีดเผือดเมื่อมองไปยังชายหนุ่มคนรักอย่างไม่ อยากจะเชื่อหู
ริมฝีปากของเธอไร้สีเลือด
“ถ้าเธอยังอยู่กับฉันแม้ว่าฉันจะแต่งงานแล้ว แบบนี้มีแต่ จะทำให้เธอต้องเสียเวลา ฮุ่ยหลิง เราเลิกกันเถอะ
จิ้งเจ๋อไม่อาจทนมองหน้าโม่ฮุ่ยหลิงได้
ถึงอย่างไรพวกเขาก็คบหากันมานานหลายปี
แม้ว่าเขาจะเลือดเย็นและไร้ความปรานีในการทำธุรกิจ
แต่เรื่องอื่นนอกเหนือจากนั้นแล้ว หัวใจของชายหนุ่มกลับเต็ม ไปด้วยความอ่อนโยน
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้น เตรียมตัวจะกลับ
แต่โม่ฮุ่ยหลิงคว้าแขนเขาไว้โดยไม่ทันตั้งตัว ทั้งฉุดทั้งดึง
ไม่ยอมให้ไป
“จิ้งเจ๋อคะ อย่าทิ้งฉัน อย่าทิ้งฉันไปนะ” เธอคร่ำครวญ
ร่ำไห้
กู้จิ้งเจ๋อหลับตา “ปล่อยเถอะ ฮียหลิง เมื่อเธอได้พบกับคน ใหม่ เธอก็จะลืมเรื่องของเราได้เองนั่นแหละ
“ไม่นะ ฉันจะลืมได้ยังไง ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ คุณ
เป็นเพียงคนเดียวของฉัน คุณคือชีวิตของฉัน จิ้งเจ๋อ ฉันไม่สนหรอกค่ะว่าคุณจะป่วย ฉันไม่สนด้วยว่าฉันจะไม่สามารถสัมผัส เนื้อตัวคุณได้ ฉันแค่ต้องการมีคุณอยู่ข้างๆ ฉัน ฉันไม่สนอีก เหมือนกันค่ะว่าคุณจะแต่งงานแล้ว ฉันจะรอคุณ ฉันจะรอ จนกว่าทุกคนในตระกูลและตระกูลโม่จะตายหมด จนกว่าจะ ไม่เหลือใครที่คอยขัดขวางความสัมพันธ์ของเรา นะคะ”
“ฮุ่ยหลิง นี่เธอพูดอะไรไร้สาระแบบนี้” จิ้งเจ๋อห้ามเธอไม่ ให้แซงซักคนในครอบครัว แม้จะรู้ดีว่าที่หญิงสาวพูดไปเช่นนั้น ก็เพราะความหวาดหวั่นกังวลใจ เขาถอนหายใจ จับตัวเธอไว้ ให้สงบสติอารมณ์
“เธอรู้หรือเปล่าว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ความจริงก็คือ ฉันเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว และฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ฉันจะหย่า หลินเชื่อกับฉัน เราไม่ได้เลิกกันง่ายๆ ขนาดนั้น เราเป็นสามี ภรรยากัน เราใกล้ชิดกันก็เพราะว่าเราต้องอาศัยอยู่ด้วยกัน เพราะฉะนั้นมันไม่ยุติธรรมทั้งสำหรับเธอแล้วก็เขา
“ฉันรู้ค่ะ แต่ถ้าไม่มีคุณ ฉันต้องตายแน่ ฉันแค่อยากที่จะ เจอคุณ ได้พูดคุยกับคุณ มีคุณอยู่เป็นเพื่อน เท่านั้นเองนะคะ ฉันไม่อยากจากคุณไป ฉันจะขอรอคุณไปตลอดชีวิตค่ะ ฉันจะ ไม่ยอมแต่งงานหรือคบหาผู้ชายคนอื่น เพราะฉะนั้นอย่าเลิกกับ ฉันเลยนะคะ ฉันจะต้องตายแน่ๆ!
กู้จิ้งเจ๋อมองดูใบหน้าอาบน้ำตาของโม่ฮุ่ยหลิง
เขารู้ดีว่าเธอรักเขามาก รักมากจริงๆ น่าสงสารเหลือเกิน ทำไมเขาถึงไม่สามารถสัมผัสตัวเธอได้นะ
เมื่อโม่ฮุ่ยหลิงสังเกตเห็นสีหน้าที่เริ่มจะอ่อนลงของชาย หนุ่ม เธอก็ค่อยใจชื้นขึ้นมา
เธอคิดว่าในเมื่อหลินเชื่อยังสามารถเข้าใกล้เขาได้โดยที่ อาการของชายหนุ่มไม่กำเริบ งั้นบางทีอาการป่วยของจิ้งเพื่อ อาจจะดีขึ้นแล้วก็เป็นได้
แล้วทำไมเธอจะลองโดนตัวเขาบ้างไม่ได้ล่ะ
โม่ฮุ่ยหลิงตรงเข้าไปหาเขาโดยที่ชายหนุ่มไม่ทันได้ตั้งตัว แล้วจูบเขาที่ริมฝีปาก
กู้จิ้งเจ๋อรู้สึกได้ว่าโม่ฮุ่ยหลิงโผเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เขาผลักเธอออกไป ไม่ใช่เพราะรู้สึกอึดอัด แต่เขาผลัก เธอออกไปเพราะเขารู้สึกขยะแขยง
โม่ฮุ่ยหลิงล้มลงบนเตียง เธอโกรธจัดทีเดียวเมื่อเงยหน้า ขึ้นมองกู้จิ้งเจือด้วยความเสียใจ
ชายหนุ่มกำลังใช้มือของตัวเองเช็ดปากเป็นพัลวันอย่าง ลืมตัว จนกระทั่งเขานึกขึ้นได้ว่าโม่ฮุ่ยหลิงยังคงอยู่ตรงนั้น เขา จึงก้มหน้าลงมองเธอและพูดว่า “ฮุ่ยหลิง นี่เธอ
โม่ฮุ่ยหลิงอยากจะบีบคอหลินเชื่อให้ตายนัก
ทำไมหลินเชื่อถึงสามารถเข้าใกล้เขาได้ แต่เธอกลับทำไม่ได้ล่ะ
จิ้งเจ๋อเองก็โกรธจัด เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า จู่ๆ ไม่ย หลังจะทะลึ่งมาจูบเขาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้
“ฮุ่ยหลิง ฉันบอกว่าฉันแต่งงานแล้วยังไงล่ะ ทำไมเธอถึง ยังทำแบบนี้อีก
เธอรู้ดีว่าเขาไม่เคยใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหน และเธอก็รู้ดี ด้วยว่าการทำแบบนี้อาจจะทำให้อาการป่วยของเขากำเริบขึ้น ได้ ซึ่งเขาก็เข้าใจดีว่าทำไมเธอถึงได้ลุกขึ้นมาจูบเขาส่งเดช แบบนี้ แต่เขาก็บอกเธอไปแล้วว่าเขาแต่งงานแล้ว และการทำ เช่นนี้ก็เป็นเรื่องไม่ยุติธรรมกับทั้งสามคน แต่เธอก็ยังทำอยู่ดี
จิ้งเจ๋อโกรธมาก เขามองหน้าโม่ฮุ่ยหลิงด้วยสายตาอัน ดุดันก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินออกไป
โม่ฮุ่ยหลิงตกใจยิ่งนักขณะมองเขาเดินออกไป แต่เธอก็ กลัวเกินกว่าที่จะวิ่งไล่ตามเขา เธอเกรงว่าเขาจะโกรธเธอมาก เสียจนไม่ยอมพบหน้าเธออีกเลย
กู้จิ้งเจ๋อมาถึงบ้านของเฉินอวี่เฉิงหลังจากนั้นเพียงไม่นาน
เขารีบแปรงฟันอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังรู้สึกอึดอัดและ
พะอืดพะอมในปาก
ชายหนุ่มไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเพราะร่างกายหรือ สภาพจิตใจของเขากันแน่ที่ทำให้รู้สึกเช่นนี้ แต่เขารู้สึกไม่ดี เอามากๆ
เขาแปรงฟันอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น แล้วก็แปรงอีกครั้ง
เฉินอวี่เฉิงได้ยินเสียงดังมาจากในห้อง เขาจึงเคาะประตู “นี่คุณล้อเล่นหรือเปล่านี่ แค่จูบเอง แต่คุณกำลังจะแปรงฟันจน ยาสีฟันหมดหลอดอยู่แล้วนะ ขึ้นแปรงมากกว่านี้จะต้องเจ็บ ปากแน่ๆ ครับ
กู้จิ้งเจ๋อกระชากประตูให้เปิดออก โดยแรง
สีหน้าจริงจังของเขาทำเอาเฉินอวี่เฉิงต้องรีบหุบปาก “คุณ ครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมแค่กำลังจะบอกว่า ในเมื่อเธอเป็นคนที่คุณรู้จักคุ้นเคยดีอย่างนี้ มันก็ไม่น่าที่จะเป็น เรื่องน่ากลัวหรอก จริงไหมล่ะครับ ทำไมคุณไม่ลองควบคุม ความคิดให้ได้ล่ะครับ แบบนั้นคุณจะได้สามารถบอกได้ว่าที่ คุณรู้สึกอึดอัดไม่สบายนี่มันเป็นเพราะอาการทางใจหรือทาง ร่างกายกันแน่”
กู้จิ้งเจ๋อสะกดอารมณ์เอาไว้ เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันนั่น แหละ แต่เขารู้สึกสกปรกและขยะแขยงเหลือเกิน ยิ่งคิด เขาก็ ยิ่งอยากจะแปรงฟันอีกครั้ง
แต่น่าแปลกที่เมื่อเวลาเขาจูบหลินเชื่อ
เขากลับรู้สึกโหยหาและคิดถึง เขากลืนน้ำลายเธอโดยไม่ แม้แต่จะลังเลเลยด้วยซ้ำ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ