ตอนที่ 81 เพื่ออนาคตของคนรุ่นหลัง
หลินเชื่อทำตาขวางใส่ “ใครจะไปชอบคุณ คุณมันหลงตัวเอง จะตายไป!”
จิ้งเจ๋อเงยหน้ามองเธอ แต่ตอนที่ฉันจูบเธอเมื่อวาน เธอ
ก็ดูเหมือนจะชอบนี่
“ ” หลินเซ่อร้องขึ้นทันที “ใครชอบกันยะ คะ…คะ…คุณ พูดมาให้ชัดๆ นะ ตอนนั้นฉันกลัวต่างหากล่ะ โอเคมั้ย
จิ้งเจ๋อหรี่ตา “เธอกลัวจริงๆ น่ะเหรอ ทำไมฉันคิดว่าเธอ ออกจะเพลิดเพลินกับมันต่างหาก
“คุณเข้าใจผิดน่ะสิ!”
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มเจ้าเล่ห์ ริมฝีปากเขาขยับเป็นรอยยิ้มเย้ายวน
“ต้องลองอีกครั้งถึงจะรู้” เขาพูดพลางขยับปรู๊ดเข้ามาใกล้
หลินเชื่อตกใจกับการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วจนต้องเอนตัว หนี แต่จิ้งเพื่อไวยิ่งกว่า มือข้างหนึ่งของเขาอยู่บนโซฟา ใน ขณะที่คว้ามือเธอที่กำลังพยายามผลักไสเขาด้วยมืออีกข้าง หนึ่ง เขาจับข้อมือเธอไว้แล้วกดลงกับโซฟา
ด้วยความตกใจ หลินเชอร้อง “ปล่อยฉันนะ จิ้งเจ๋อ นี่มัน ห้องรับแขกนะคะ”
จิ้งเจ๋อมองเห็นแววซอกในดวงตาเธอ ใบหน้าแดงก่ำ ด้วยความอาย ยิ่งทำให้เขาพอใจยิ่งนัก
“ห้องรับแขกแล้วจะทำไมล่ะ นี่เป็นบ้านของเรา แล้วเราก็ เป็นสามีภรรยากัน ไม่มีใครว่าอะไรหรอกไม่ว่าเราจะทำกันใน ห้องไหนน่ะ”
หลินเชื่อพยายามผลักผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าออกไป มือของ เธอวางทาบหน้าอกเขาจนรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อสันที่อยู่ตรง นั้น มันเต็มแน่นฝ่ามือของเธอทีเดียวแม้ว่าจะเพียงแค่แตะลงไป เท่านั้น
จะว่าไป ไม่ว่าส่วนไหนของร่างกายเขาก็ดูดีไปหมดทั้งนั้น
นั่นแหละ
หลินเชื่อทำอะไรไม่ถูก จิ้งเจ๋อกำลังก้มลงมาหาเธอแล้ว มองดูเธอที่พยายามจะดิ้นรนหาทางหนี ริมฝีปากเขาแตะลงบน ปลายจมูกเธอและค้างอยู่อย่างนั้น เขากำลังสนุกที่เห็นเธอสติ แตก เขาค่อยๆ ทรมานเธอทีละนิด
“เอาละ ทีนี้บอกฉันหน่อยสิว่าชอบหรือเปล่า” ริมฝีปาก เขาแตะไล้ไปบนปากเธอขณะที่เขากำลังยิ้มสนุก
หลินเชื่อกัดริมฝีปากตัวเอง “ปล่อยฉันนะ จิ้งเจ๋อ!
“ตกลงชอบหรือเปล่า
“ไม่ชอบ!”
“ตอบผิดแล้ว!” เขาจับลงมาอีก
หน้าของหลินเซอแดงร้อนไปหมด
“กู้จิ้งเพื่อนคุณกำลังล้อเลียนฉันนะ ระวังไว้ให้ดีเหอะ ฉัน อาจจะถุยน้ำลายใส่คุณก็ได้
“น้ำลายเหรอ” เขายิ้ม “ทำอย่างกับฉันไม่เคยชิมมาก่อน
งั้นแหละ”
“กู้จิ้งเจ๋อ คุณนี่มันรสนิยมประหลาดที่สุดเลย
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ไม่อย่างนั้นฉันจะแต่งงานกับเธอทำไมล่ะ
“คุณ”
เขากำลังทำนิสัยไม่ดีจริงๆ เสียด้วย!
“กู้จิ้งเจ๋อ ถ้าคุณไม่ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะเอาจริงแล้วนะ”
“ฮ่า ฉันก็อยากเห็นเธอเอาจริงเหมือนกัน
“คุณประเมินฉันไปแล้ว จิ้งเจ๋อ” หลินเชื่อยิ้มแล้ว ทันใดนั้นเธอก็ยกเข่านั้น เล็งเป้าไปที่หว่างขาของเขาเต็มที่
“โอ๊ย” จิ้งเจ๋อผงะและปล่อยเธอทันที ส่วนตัวเองนอน กลิ้งเค้าก้อยู่บนโซฟา
หลินเชื่อตกใจ เธอคิดว่าเขาจะหยุดเธอได้ทันแต่กลับ
ไม่ใช่คราวนี้
ชายหนุ่มนั่งกองอยู่บนผืนพรมราคาแพง ท่าทางเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด
หลินเซ่อรีบคุกเข่าลงบนพรมข้างตัวเขาและมองดูอีกฝ่าย ด้วยความเป็นห่วง เธอพร่ำขอโทษ “ขอโทษนะคะ จิ้งเพื่อ คุณเป็นยังไงบ้างนะ เจ็บมากมั้ย
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเชื่อแล้วส่ายหน้า “ก็ไม่แย่เท่าไหร่ ฉันไม่ เป็นไร”
“ถ้าเจ็บมากฉันขอโทษด้วยนะคะ ฉันเคยเล่นแบบนี้กับ พวกเด็กผู้ชายสมัยยังเป็นเด็ก มันดูไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่สำหรับ พวกเขา”
จิ้งเจ๋อมองหน้าเธอ “ก็แน่ละสิ พวกเด็กๆ ยังโตไม่เต็มที่
นี่ มันก็เลยไม่เจ็บเท่าไหร่สำหรับพวกเขา เธอรู้ดีอยู่แล้วว่า ขนาดของฉันน่ะแตกต่างจากพวกเด็กๆ ขนาดไหน หลินเชื่อมองหน้าผู้ชายไร้ยางอายตรงหน้า นี่มันใช่
เวลามาพูดอะไรแบบนี้มั้ยล่ะเนี่ย
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เจ็บเท่าไหร่นี่คะ! ยังพูดตลกแบบนี้ ได้น่ะ”
จิ้งเจ๋อยิ้มอีกครั้ง “ฉันก็พูดตลกได้กับทุกเรื่องนั่นแหละ แต่ฉันไม่พูดตลกเรื่องขนาดหรอกนะ
“จิ้งเจ๋อ คุณนี่เปลี่ยนไปจริงๆ เมื่อก่อนคุณไม่ทำตัวหน้า ไม่อายแบบนี้สักหน่อยนี่นา”
ชายหนุ่มกวาดตามองมาที่หลินเชื่อ “มันช่วยไม่ได้ ฉันอยากทำตัวหน้าไม่อายเวลาอยู่ใกล้ๆ เธอนี่นา
นี่กลายเป็นความผิดของเธอไปแล้วเหรอ
“คะ…คะ…คุณ คุณไปหัดพูดจาแบบนี้มาจากไหนน่ะ
“เรื่องแบบนี้ไม่ต้องสอนหรอกน่า ฉันเดาว่าผู้ชายทุกคนก็ อยากมีลูกกันทั้งนั้นนั่นแหละ แล้วเวลาที่เราได้พบผู้หญิงที่เรา อยากให้อุ้มท้องลูกของเรา พวกเขาก็จะพูดจาแบบนี้เป็นเอง โดยอัตโนมัติ เพราะอย่างนี้ไงมนุษย์เราถึงสืบพันธุ์ได้
“ไปให้พ้นเลยนะ คุณทำตัวหน้าไม่อาย ไม่ต้องมาทำเป็น พูดให้ฟังดูเข้าท่าเลย
จิ้งเจ๋อยิ้ม ทั้งที่ความจริงยังคงเจ็บหนัก
เมื่อเห็นสีหน้าเขา หลินเชื่อจึงยังคงนั่งอยู่บนพื้นด้วยท่าที
อายๆ แล้วก้มหน้างุด
“เราควรไปโรงพยาบาลมั้ยคะ”
จิ้งเจ๋อมองหน้าเธอแล้วเข้าไปกระซิบที่ข้างหูว่า “ฉันไม่ เป็นไรหรอก แค่ช่วยนวดหน่อยเท่านั้นเอง
หลินเชอร้องลั่น “นวดงั้นเหรอ ไร้สาระน่ะ
จะให้นวดที่อื่นก็คงนวดได้ แต่จะให้เธอนวดตรงส่วนนั้น ได้ยังไงกันล่ะ
กู้จิ้งเจ๋อจับข้อมือเธอแล้วดึงเข้าไปใกล้ “ถ้าไม่ลองจะรู้ได้ยังไงกันล่ะ”
หลินเชื่อคิดว่าเขากำลังจะดึงมือเธอลงไปตรงนั้นเมื่อเสียง หนึ่งดังขึ้นที่ประตู
“จะ…จิ้งเจ๋อ นั่นคุณกำลังทำอะไรน่ะ
โม่ฮุ่ยหลิงมาทำอะไรเวลานี้นะ
จิ้งเจ๋อตกใจสุดขีด เขาไม่คิดว่าไม่ยุ่ยหลิงจะเดินเข้ามา ในบ้านอย่างง่ายดายแบบนี้
เขารีบปล่อยมือหลินเชื่อและลุกขึ้นทันที
ที่ข้างตัว หลินเชื่อเองก็ผุดลุกรวดเร็วไม่แพ้กัน
กู้จิ้งเจ๋อมองดูโม่ฮุ่ยหลิงด้วยท่าที่ไม่ค่อยพอใจนัก “ฮุย หลิง เธอเดินเข้ามาแบบนี้ได้ยังไงกันนะ” นี่เป็นบ้านของเขากับ หลินเชอ
นอกจากนี้เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กเล็กๆ ที่ยังจะ
สามารถเดินเข้าไปในห้องของเพศตรงข้ามได้
จะเป็นยังไงถ้าเขากำลังเปลือยกายอยู่
ไม่ยหลิงมองดูท่าทีสนิทสนมของคนทั้งสองเมื่อ
ครู่นี้
ถ้าเธอเข้าใจไม่ผิดละก็ จิ้งเจ๋อกำลังดึงมือของหลินเชื่อ
และไม่ยอมปล่อยงั้นเหรอพวกเขาอยู่ใกล้ชิดกันมากเสียจนแทบจะกลายเป็นคนคน เดียวกัน
อาการป่วยของจิ้งเจ๋อตีขึ้นแล้วหรือยังไงนะ
โม่ฮุ่ยหลิงเหลือบมองหลินเชื่อด้วยสายตาริษยาและชิงชัง หลินเชื่อมองดูคนทั้งคู่ก่อนจะเอื้อมไปหยิบบทละครบน โต๊ะ “พวกคุณคุยกันไปเถอะนะคะ ฉันจะเข้าไปอ่านบทก่อนล่ะ
“หลินเชื่อ กู้จิ้งเจออยากเรียกเธอเอาไว้แต่โม่ฮุ่ยหลิงรีบ ตัดบทว่า “โอเค ขอบใจนะจ๊ะ หลินเชื่อ
จากนั้นเธอก็เดินเข้ามาคว้าแขนเขาเอาไว้
จิ้งเจ๋อมองดูมือของอีกฝ่ายแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว “ฮุ่ยหลิง ปล่อยฉันก่อน มีคนรับใช้อยู่กันเต็มไปหมด ให้พวกเขาเห็นเรา เข้าจะไม่ดี”
โม่ฮุ่ยหลิงจ้องหน้าเขาด้วยความขัดเคืองใจ “แล้วมันไม่ เป็นไรที่จะเห็นคุณกับหลินเชื่อนั้นเหรอคะ ฉันแค่ดึงแขนคุณ เท่านั้นเองนะ ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีสักหน่อย
“ฮุ่ยหลิง เขาเป็นภรรยาของฉัน ถึงใครเห็นก็ไม่เป็นไร หรอก”
“คุณ” โม่ฮุ่ยหลิงยิ่งโกรธจัดเสียจนเธอกัดริมฝีปากแน่น และตะโกนลั่น “แต่ฉันก็ใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณมาตั้งแต่เรายัง เป็นเด็กนะคะ ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้น แล้วก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร ด้วย แล้วทำไมมาตอนนี้มันถึงจะเป็นเรื่องไม่ดีไปได้ล่ะ
“โอเค ปล่อยฉันก่อนก็แล้วกัน แล้วเราออกไปคุยกันข้างนอก”
สีหน้าจิ้งเพื่อทิ้งตึง เขามองหน้าไม่ฮุ่ยหลิงด้วยท่าที่ดุดัน
เมื่อได้เห็นสีหน้าของชายหนุ่มแล้ว ไม่ยุ่ยหลิงก็ไม่กล้าที่ จะพูดอะไรอีก ได้แต่ยอมปล่อยมืออย่างไม่เต็มใจ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ