ตอนที่ 28 ไม่มีคำตอบว่าทำไมฉันรักเธอ
หลินเชื่อรู้สึกราวกับว่าอยู่ๆ เลือดในกายก็ไหลพุ่งขึ้นไปที่สมอง จนกลายเป็นความสับสนอลหม่าน
แต่เมื่อริมฝีปากเย็นๆ ของเขาแตะลงมาบนปากเธอ และ ทิ้งความชุ่มชื้นอ้อยอิ่งอยู่บนนั้น เธอก็เริ่มได้สติ
เขาจูบเธอ…
และตอนนี้ก็ยังจูบอยู่
เขาบังคับให้เธออ้าปากออกและปล้นเอาอากาศเกือบ ทั้งหมดไปจากเธอ โดยไม่ให้โอกาสเธอได้คิดอะไรทั้งสิ้น
ลิ้นของเธอและเขาพบกัน ปลายลิ้นทั้งสองกระหวัดเกี่ยว พัน ดูดดื่มรุนแรง เลือดลมในร่างดูเหมือนจะแล่นสลับทิศ ทิ้ง ไว้เพียงความมึนชาที่แผ่กระจายไปทั่วร่าง
ดวงตาของหลินเชื่อเบิกโพลง เธอมองดูใบหน้าสลักเสลา ของเขา ในระยะประชิด กลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว แตะแต้มด้วย ความคลุมเครืออันผ่าวร้อน จนทำให้เธอแทบลืมความเจ็บปวด ไปหมดสิ้น
นิ้วเธอเกี่ยวรอบมือใหญ่แข็งแรงเอาไว้แน่น ความร้อนจากมือเขายังคงแล่นผ่านมือเธอเข้ามา
เธอไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไปแม้ในขณะที่นายแพทย์กำลัง ลงมือเย็บแผล
จนกระทั่งจิ้งเจ๋อถอนริมฝีปากออกนั่นแหละ
กลิ่นตัวของเธอหอมเหมือนอย่างที่เขาจําได้
หลังจากถอยห่างออกมา เศษส่วนของความปรารถนา
ยังคงอ้อยอิ่งวนเวียนอยู่กับเขา
อาจจะเป็นเพราะอะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่านจากอุบัติเหตุ เป็นได้ที่ทำให้หลินเชื่อซึ่งเสียเลือดไปจำนวนมากยังคงมีสติตื่น ตัวอยู่จนถึงตอนนี้ได้ แต่ทันทีที่หมอลุกขึ้นยืนและบอกว่าการ รักษาเสร็จสิ้นแล้วนั้น เธอก็หมดสติพับไปราวกับสายเชือกที่ ขาดผึ้ง
เมื่อหลินเชื่อลืมตาตื่น เธอก็มองเห็นสีฟ้าที่แวดล้อมอยู่ รอบตัว มีเครื่องมือแพทย์มากมายหลายชนิดเต็มไปหมด
เธอพยายามตะกายตัวลุกขึ้นจนไปดึงเอาแผลที่เย็บไว้เข้า ความเจ็บชนิดสาหัสพุ่งวาบขึ้นมา แต่หญิงสาวก็รู้สึกได้ว่ามี ใครบางคนกำลังกุมมือเธออยู่
เป็นกู้จิ้งเจ๋อนั่นเองที่นั่งอยู่ข้างเตียง เขาหลับสนิทไม่รู้สึกตัว
การขยับตัวเล็กน้อยของเธอทำให้เขาลืมตาตื่นในทันที
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
เขามองดูเธออย่างเป็นกังวล เธอเป็นอะไรหรือเปล่า”
เขาดูอิดโรยเล็กน้อย หลินเชื่อกำลังสงสัยว่าเขาคงจะนั่ง อยู่เป็นเพื่อนเธอมาตลอดทั้งคืน
คะ
หญิงสาวรีบตอบ “เปล่าค่ะ เปล่า ฉันไปโดนแผลเข้านะ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จึงเจ๋อก็รีบผุดลุกขึ้นแล้วยกผ้าห่มขึ้น ตรวจดูแผลที่เย็บไว้ทันที
ผ้าปิดแผลยังคงปิดแน่นดี และดูไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะหันไปนิ่วหน้า ใส่เธอ ระวังหน่อยสิ อย่าขยับตัวโดยไม่จำเป็น
เมื่อคืนที่ผ่านมา เธอเอาแต่พึมพำเป็นระยะ และเสียงร้อง
ครางด้วยความเจ็บปวดของเธอก็ทำให้เขาไม่สบายใจเอาเลย
เขาทำได้เพียงกุมมือเธอเอาไว้และคอยอยู่ข้างเตียงเธอ ตลอดทั้งคืน จนกระทั่งเกือบรุ่งสางนั่นแหละ ที่เขาเพลียมาก เสียจนเผลอหลับไป
ฉินเฮ่าทนเห็นเขาในสภาพนี้ไม่ได้และอยากให้เขาย้ายไป นอนในห้องติดกัน แต่ทุกครั้งที่เขาขยับตัว หลินเชื่อก็จะร้อง ออกมา
ชายหนุ่มจึงได้แต่ยกมือห้ามและส่งสัญญาณให้ฉินเฮ่า กลับออกไปเสีย และเขาก็นั่งเฝ้าไข้เธอตลอดทั้งคืน
โชคดีที่คุณหมอบอกว่าถึงแม้เส้นเลือดใหญ่จะขาด แต่ก็ สามารถห้ามเลือดได้แล้ว บาดแผลของหลินเชื่อจะค่อยๆ ทุเลา ลงตามเวลา
หลินเชื่อดูจะตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อหันมองไปรอบๆ ห้องพัก ไอพอันสุดหรูหรา หากไม่นับอุปกรณ์การแพทย์ที่มีอยู่มากมาย แล้วล่ะก็ ห้องพักที่นี่ก็ดูไม่เหมือนโรงพยาบาลเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้อาการของเธอคงจะดีขึ้นมากแล้ว ใน ระหว่างที่เจ้าตัวกำลังรู้สึกโล่งใจอยู่นั่นเอง เธอก็นึกขึ้นได้ว่า “โอ๊ย ตายแล้ว โฉนดที่ดินกับเอกสารกรรมสิทธิ์ของฉันละคะ
จิ้งเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความงุนงง “ฉันไม่รู้
หลินเชือตกใจสุดขีด “ไม่ได้นะคะ! เธอคงเผลอเหวี่ยงมันทิ้งไปตอนเกิดเหตุ จะมีใครเก็บเอา ไว้ให้เธอหรือเปล่านะ
หลินเชื่อร้องถาม “มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย นั่นมัน
เป็นของสำคัญนะคะ
จิ้งเจ๋อมองเธอนิ่งนาน “ก็ได้ งั้นถ้ามันเป็นของสำคัญ ทำไมเธอไม่นอนกอด โฉนดพวกนั้นแล้วหนีไปซุกอยู่ที่มุมรถ แทนล่ะ ตอนเกิดเรื่องเธอโยนมันทิ้งแล้วมากระโดดใส่ฉันนี่
เขาอดรู้สึกผิดต่อเธอไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะทำ แบบนั้นเลย
หลินเชื่อกะพริบตา “ฉันลืมไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นน่ะค่ะบางทีฉันคงจะทำไปเพราะความตกใจละมั้ง
จิ้งเจ๋อมองหน้า “คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีก มันอันตราย เกินไป”
หลินเชื่อว่า “แน่นอนค่ะ หลังจากได้บทเรียนคราวนี้แล้ว คราวหน้าฉันรู้แน่ค่ะว่าต้องทำยังไง นี่มันครั้งแรกนี่นา ฉันไม่ เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลยไม่รู้ว่าจะต้องหนีไปซ่อนตรง ไหน”
กู้จิ้งเจ๋อส่ายหน้า
หลินเชื่อว่า “ว่าแต่โฉนดที่ดินกับเอกสารกรรมสิทธิ์ของฉัน สามารถไปขอมาใหม่ได้ไหมคะ
“ได้สิ ถ้ามันมีชื่อเธออยู่บนนั้น ยังไงมันก็เป็นของเธอ
“เยี่ยมไปเลย” ท่าทางหลินเชื่อดูโล่งใจ
กู้จิ้งเจ๋อเหน็บแนมต่อว่า “เอาละ แม่คนหิวเงิน ตอนนี้ หน่อยแล้วล่ะ”
ปัญหาทุกอย่างก็จบหมดแล้ว ถึงเวลาที่เธอต้องกินอะไรสัก
หมอแจ้งว่าเธอสามารถรับประทานอาหารได้ทันทีที่ตื่นขึ้น มา ชายหนุ่มจึงจัดแจงเรียกคนจากที่บ้านให้เตรียมอาหารเอา
ไว้ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อหลินเชื่อลืมตาขึ้น เขาก็จัดแจงเรียกอาหารเข้ามา แต่ เมื่อเห็นเธอทำท่าจะขยับตัว จิ้งเจ๋อก็กดเธอให้นั่งอยู่กับเตียง ดังเดิม “อยู่เฉยๆ เถอะ เดี๋ยวฉันป้อนเอง”
หลินเชื่อมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ
จิ้งเจ๋อเตรียมทุกอย่างไว้บนโต๊ะตัวเล็กแล้ว เขาหยิบซ้อน
ขึ้นแล้วตักโจ๊กจากถ้วยก่อนจะยกขึ้นมาเป่า และส่งให้หลินเชื่อ ถึงปาก เธอมองดูการเคลื่อนไหวของเขา มันคล่องแคล่วราบรื่น
ตั้งแต่ต้นจนจบ แถมยังดูดีมากอีกต่างหาก จนเธออดยิ้มออก
มาไม่ได้
เธออ้าปากกินโจ๊กค่นั้น แต่ก็เผลอกัดซ้อนเข้าโดยไม่รู้ตัว
จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว มองดูริมฝีปากคู่นั้น มันยังคงแดงเรื่อ เหมือนเมื่อวาน และชุ่มด้วยความชื้นจากโจ๊กอุ่นๆ ชายหนุ่ม กลืนน้ำลายยากเย็น คิ้วที่ขมวดอยู่แล้วดูจะยิ่งผูกเป็นปมหนัก ขึ้นไปอีก
“โอ๊ะ…ขอโทษค่ธ” เธอบอกเบาๆ หลังจากกลืนอาหาร ลงคอ โดยไม่ทันสังเกตท่าทีที่เปลี่ยนไปของจิ้งเจ๋อ
“กินระวังๆ หน่อยสิ” เขาบอก
แม้น้ำเสียงจะหงุดหงิด แต่เขาก็ยังอุตส่าห์เอื้อมนิ้วมาเช็ด เศษข้าวที่หลงเหลืออยู่ตรงมุมปากให้
นิ้วยาวนั้นแตะลงมาบนริมฝีปากอ่อนนุ่ม ทุกจุดที่ปลายนิ้ว นั้นแตะต้องลงมาดูจะชาจนได้ความรู้สึกไปหมด
ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ที่เขาเอาวางไว้ข้างๆ ก็ดังขึ้น
กู้จิ้งเจ๋อวางชามอาหารลงแล้วหันไปมอง
เป็นสายจากโม่ฮุ่ยหลิงนั่นเอง
จิ้งเจ๋อหันมามองหลินเชื่อก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นและ เดินออกไปรับสายข้างนอก
หลินเชื่อนั่งนิ่ง มองดูประตูปิดลง หญิงสาวบอกกับตัวเอง ว่า ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าใครโทรมา
เมื่อจิ้งเพื่อรับสาย เขาก็ได้ยินเสียงอันร้อนรนของไม่ย หลิงดังขึ้นมา
“จิ้งเจ๋อคะ ทำไมเมื่อคืนคุณไม่มาละคะ แถมคุณยังไม่รับ โทรศัพท์ฉันด้วย”
โทรศัพท์เขาดังขึ้นครั้งหนึ่งเมื่อคืนนี้ แต่ตอนนี้อาการของ
หลินเชื่อยังคงไม่ดีนัก และเขากลัวว่ามันจะรบกวนเธอ จิ้งเจ๋อ
จึงสั่งให้ฉินเฮ่าเอาโทรศัพท์ออกไปจากห้อง
เมื่อได้ยินสุ่มเสียงไม่พอใจของโม่ฮุ่ยหลิง เขาจึงตอบไป ว่า “มีเหตุนิดหน่อยเมื่อคืนน่ะ ฉันก็เลยไปไม่ได้”
“ฉันไม่สนหรอกว่าจะมีเหตุอะไรนะคะ จิ้งเจ๋อ ถ้ามันจะเกิด ขึ้นวันอื่นละก็ ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดฉัน นะคะ คุณกล้าปล่อยให้ฉันรอคุณอยู่คนเดียวเป็นนานสองนาน แบบนั้นได้ยังไงน่ะ โม่ฮุ่ยหลิงเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
กู้จิ้งเจ๋อรู้ดีว่าโม่ฮุ่ยหลิงนั้นเป็นคนเจ้าน้ำตา แต่เมื่อเขา ได้ยินเธอร้องไห้ในเวลานี้ เขากลับอดคิดไม่ได้ว่าหลินเชื่อนั้นก็เป็นผู้หญิงที่ไม่ร้องไห้เอาเลย แม้กระทั่งเมื่อวานที่เธอเจ็บจน ฟันกระทบกันสั่นระริก แม้กระทั่งตอนที่เธอคิดว่าตัวเองอาจจะ ตาย เธอก็ไม่มีน้ำตาแม้สักหยด
จิ้งเจ๋อตอบไปว่า “เมื่อวานเป็นเรื่องเร่งด่วนนะ ฉันก็เลย ไปไม่ได้ ฉันขอโทษด้วยนะ ฮียหลิง คราวหน้าที่พบกันฉันจะ เล่าให้ฟังอีกที”
“งั้นคืนนี้คุณจะมาหาฉันมั้ยคะ” เสียงโม่ฮุ่ยหลิงทำเสียง
อ่อน
จิ้งเจ๋อคิดอยู่เป็นครู “วันนี้คงไปไม่ได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ