ตอนที่ 27 ฉันไม่ยอมให้เธอตายหรอก
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบตามองดูเธอเพียงแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไป มองข้างหน้าอย่างไม่ใส่ใจ
“ก็แค่โฉนดที่ดินแล้วก็เอกสารกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน เท่านั้นเอง มีปัญหาอะไรเหรอ
“บ้านคุณจะใจดีเกินไปแล้วนะคะเนี่ย” เธอร้อง
จิ้งเจ๋อตอบว่า “ในฐานะสะใภ้ตระกูล เธอก็สมควรได้ รับแล้วนี่”
หลินเชื่อว่า “ทั้งหมดนี้ให้ฉันเหรอคะ”
กู้จิ้งเจ๋อว่า “ก็ใช่น่ะสิ
หลินเชื่อก้มลงมองดูโฉนดที่ดินและเอกสารต่างๆ ก่อนจะ เงยหน้าขึ้น “มันมีค่ามากเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ
จิ้งเจ๋อว่า “รับไปเถอะ ของพวกนี้ถูกเตรียมเอาไว้มอบให้ สะใภ้ตระกูลอยู่แล้ว และเธอก็เป็นสะใภ้ตระกูล ไม่จำเป็น ต้องรู้สึกอึดอัดใจหรอก”
หลินเชื่อคิดว่าคำพูดของเขาก็ฟังมีเหตุผลอยู่ เธอจึงยิ้ม แล้วก้มลงมองซองแดงทั้งสองอีกรอบ “การอดทนกับอารมณ์ แย่ๆ ของคุณก็มีข้อดีอยู่เหมือนกันนะคะ
จิ้งเจ๋อตวัดสายตามอง “ยัยผู้หญิงหิวเงิน
หลินเซ๊อกำลังอารณ์ดีถึงขนาด เธอหันหน้ามาแล้วตอก กลับเขาว่า “ไม่งั้นจะแต่งงานไปทำไมล่ะ จริงมั้ยคะ ถ้าไม่เพื่อ ความรักก็เพื่อเงิน เห็นอยู่ชัดๆ ว่าการแต่งงานกับคุณเพราะ ความรักมันฟังไม่ขึ้นนะ เพราะงั้นก็ต้องเพื่อเงินนี่แหละ
กู้จิ้งเจ๋อส่ายหน้าโดยไม่พูดอะไร เขามองดูหญิงสาวที่ยิ้ม จนตาหยี แก้มยุ้ยเป็นพวง แก้มนั้นขาวผ่องอมแดงระเรือจน ทำให้เธอดูน่ารักอย่างยิ่ง
เขามองเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันหน้ากลับมา แล้วเขาก็ได้ ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นสายจากโม่ฮุ่ยหลิงนั่นเอง
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองหลินเชื่อที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างไม่ทันรู้ตัว เมื่อเห็นเธอยังคงชื่นชมกับโฉนดที่ดินอยู่ไม่รู้จบ เขาจึงกดรับ สาย
แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ลดเสียงจนเบากว่าปกติ
“ว่าไง”
“จิ้งเจ๋อคะ คุณสัญญาไว้ว่าจะมาฉลองวันเกิดกับฉันคืนนี้ นะคะ ฉันเลยโทรมาคอนเฟิร์มว่าเราจะไปทานกันที่ร้านไหน คุณอยากทานอะไรคะ”
“วันเกิดเธอ เธอเลือกสี” เขาบอก
“ก็ได้ค่ะ ถ้างั้นฉันจะจองโต๊ะที่ภัตตาคารอาหารตะวันตกที่เราชอบไปทานกันนะคะ
“ตกลง”
“จิ้งเจ๋อคะ คุณไม่สบายหรือเปล่า ทำไมเสียงคุณเบาอย่าง นั้นล่ะ” โมฮุ่ยหลิงถามด้วยความสงสัย
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองคนข้างตัวอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอเงย หน้าขึ้นและมองตรงมา เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ยัง ตอบกลับไปในโทรศัพท์ว่า “ไม่มีอะไรหรอก ฉันอยู่ในรถนะ เอาไว้ถึงบ้านแล้วค่อยคุยกันก็แล้วกันนะ ถ้าเธอจองโต๊ะ เรียบร้อยแล้วก็บอกฉันละกัน
“อ้อ ได้ค่ะ แล้วโม่ฮุ่ยหลิงก็วางสายไป
กู้จิ้งเจ๋อวางโทรศัพท์ลงแล้วหันมามองหลินเชื่อ “มองอะไรล่ะ”
หลินเชื่อรู้ได้ทันทีว่าเขาเพิ่งคุยโทรศัพท์กับโม่ฮุ่ยหลิง เธอ ทำที่เป็นไม่ใส่ใจแล้วยักไหล่ก่อนจะพูดว่า “ไม่มีอะไรนี่คะ ก็มี กันอยู่แค่สองคนในรถ จะให้ฉันมองใครล่ะ
เมื่อพูดจบ เธอก็ก้มหน้าก้มตาลูบไล้โฉนดที่ดินด้วยท่าที แบบยัยผู้หญิงหิวเงินอย่างที่เขาบอกไม่มีผิด
จิ้งเจ๋อถอนหายใจยาวก่อนจะเบือนหน้าหนี
หลินเชอคิดกับตัวเองว่า ช่างมันเถอะ ยังไงซะนี่มันก็ เป็นการแต่งงานปลอมๆ เขาจะไปออกเดตกับใครมันก็ไม่ใช่ เรื่องของเธอ
ทรัพย์สินตรงหน้าต่างหากที่เชื่อถือพึ่งพาได้มากที่สุด
ทั้งสองมาถึงบ้านในไม่ช้า
อย่างไรก็ตาม ขณะที่รถกำลังตีโค้งตรงหัวมุมถนนนั้นเอง อยู่ๆ ก็มีรถอีกคันหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาชนรถของพวกเธอ โดยแรง
ด้านหนึ่งของรถยุบพังเข้ามา มีควันพวยพุ่งออกมาทาง ด้านหน้าในทันที
ผู้คนในรถหลายคันที่วิ่งตามหลังมานั้น รีบลงจากรถแล้ว พุ่งเข้ามาหา เมื่อประตูรถเปิดออก พวกเขาก็ได้เห็นจิ้งเจ๋อ และหลินเชื่อกำลังกอดกันแน่น
ตอนที่เกิดอุบัติเหตุ หลินเชื่อไม่ทันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ เมื่อตัวเธอมากองอยู่บนร่างใหญ่แข็งแรง สติของหญิงสาวก็ เริ่มกลับคืนมา
สภาพภายในรถนั้นค่อนข้างยับเยินทีเดียว สีหน้าของจิ้ง เจ๋อเคร่งเครียดและเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง สายตาที่พร่ามัวของ เขาค่อยๆ โฟกัสไปที่ใบหน้าของหลินเชื่อ
เป็นรถทางฝั่งเขาที่ถูกพุ่งเข้าชน และทำให้หลินเชื่อตกใจ กลัวสุดขีด
กู้จิ้งเจ๋อมองใบหน้าซีดขาวของเธอ ก่อนจะนึกอะไรบาง อย่างขึ้นมาได้ เขารีบยกแขนเธอขึ้นอย่างรวดเร็ว
บนหน้าขาของเธอมีรอยบาดขนาดใหญ่ มองเห็นผิวเนื้อที่ มีเลือดไหลซึมออกมาได้อย่างชัดเจน
สีหน้าของกู้จิ้งเจ๋อเครียดขึ้นมาทันตา
“ทุกคน หลบไป คุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บ” เสียงของจิ้ง เจ๋อแผ่วเบาและแหบพร่า โดยไม่รอให้คนที่อยู่นอกรถได้ทัน ลงมือทำอะไร เขาก็ดึงแขนหลินเชื่อเข้าหาตัวแล้วช้อนร่างเธอ ขึ้นมา
ในเสี้ยววินาทีที่เกิดอุบัติเหตุนั้น หลินเชื่อโถมตัวเอง เข้าหาเขา โดยไม่คิดอะไรทั้งสิ้น
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เขาคงจะเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บแทน
เสียเอง
หลินเชื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นปราดขึ้นมาเมื่อเขา ยกร่างเธอไว้ในอ้อมแขน ความเจ็บนั้นทวีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บุคคลที่ยืนล้อมอยู่ภายนอกต่างพากันช็อก เมื่อเห็นจิ้ง เจออุ้มร่างของหลินเซ่อออกมาอย่างเร่งร้อน ทุกคนรีบวิ่งตาม เขาไป
ที่โรงพยาบาล
หลินเชอเสียเลือดไปมากจนทำให้เธออ่อนเพลียและไร้ เรี่ยวแรง เธอหันไปมองจิ้งเพื่อที่อยู่ข้างๆ รู้สึกได้ว่ามือเขา กำลังกุมมือเธออยู่ เธอไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่ ความอบอุ่นจากมือนั้นช่วยปลอบประโลมเธอได้ไม่น้อย รู้สึก ว่าอาการเจ็บในตอนแรกเริ่มทุเลาเบาบางลงไปมาก
แต่เมื่อก้มลงไปมอง เธอก็เห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาที่ชุ่ม ไปด้วยเลือด
หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ เธอมอง ใบหน้าเฉยชาของเขาแล้วถามว่า “จิ้งเจ๋อคะ ฉันจะไม่ตายใช้ ไหมคะ”
หัวใจของปู้จิ้งเจ๋อเย็นเฉียบ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวโดย
ไม่รู้ตัว สายตาอันแน่นิ่งของเขาจับจ้องอยู่ที่หลินเชื่อด้วยท่าที ตำหนิ แต่เขาก็ไม่กล้าเธอรุนแรงนัก “พูดอะไรไร้สาระแบ บนั้นน่ะ เธอไม่ได้กำลังจะตายสักหน่อย
“แต่ฉันเสียเลือดมากนะคะ” เธอว่า
“หมอกำลังรักษาเธออยู่นี่ไงล่ะ เธอเสียเลือดมากเพราะว่า เส้นเลือดใหญ่ที่ต้นขาถูกตัดจนขาด
“อา เส้นเลือดใหญ่เหรอคะ…ฟังดูน่ากลัวจัง บอกฉัน หน่อยสิคะ ถ้าฉันตาย คุณจะได้เป็นอิสระแล้วก็ได้ไปอยู่กับโม่ ฮุ่ยหลิงไหมคะ”
สีหน้าของกู้จิ้งเจ๋อเคร่งขรึมลง ดวงตาสีดำสนิทของเขามี แววสับสนผุดขึ้นมา คิ้วขมวดเข้าหากัน “หุบปากน่ะ ฉันไม่ยอม ให้เธอตายหรอก” เมื่อเขาได้ยินชื่อ “ไม่ยุ่ยหลิง” เขาก็อดรู้สึก เหมือนจะหมดความอดทนขึ้นมาหน่อยๆ ไม่ได้ มันเป็นความ รู้สึกไม่อยากจะเอ่ยถึงหล่อนที่ผุดขึ้นมาในใจ
ถ้าโม่ฮุ่ยหลิงไม่โทรมา เขาก็คงไม่ถูกดึงความสนใจไป และเขาก็คงจะทันไหวตัวกับความไม่ปกติที่เกิดขึ้นข้างนอกรถ
หลินเช่อถามขึ้น “จริงเหรอคะ แต่มันเจ็บมากจริงๆ นะคะ
จิ้งเจ๋อมองดวงหน้าเล็กๆ ที่เหยเกด้วยความเจ็บ มันด ขาวราวกับกระดาษ ริมฝีปากเล็กๆ เม้มแน่นเข้าหากัน สภาพ ของเธอตอนนี้ทําให้หัวใจเขากระตุก
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น “ไม่ได้ยินหรือไง คุณผู้หญิงบอกว่า เจ็บยังไงล่ะ รีบไปตามหมอมารักษาเธอเร็วเข้าสิ
ฉินเฮ่าตามติดอยู่ข้างตัวจิ้งเจ๋อ เมื่อเขาได้เห็นสีหน้า เคร่งเครียดถึงขีดสุดของเจ้านายแล้วก็รีบหมุนตัวออกไป ตะโกนเร่งคนอื่นในทันที
สายตาของจิ้งเจ๋อจับจ้องอยู่ที่หลินเชื่อ เมื่อเขาเห็นเธอ เบือนหน้าหนีไปเพราะต้องการซ่อนความเจ็บปวด แววตาของ เขาก็ยิ่งหม่นหมอง เขาใช้มือใหญ่ของเขาประคองหน้าเธอให้ หันกลับมาหา เชยคางเล็กๆ ของเธอขึ้น ดวงตาของเขา สนิทล้ำลึก “มองฉันนี่ อย่าฟุ้งซ่านไปเลย
“ได้ค่ะ…” เธอพึมพำตอบ ยังคงทนเจ็บแทบไม่ไหวอยู่ นั่นเอง
สายตาของจิ้งเจ๋อเคลื่อนไปที่ริมฝีปากของเธอ มันแห้ง ผากและซีดเซียวจากการเสียเลือดจำนวนมาก ริมฝีปากคู่นั้น เผยอแยกออกจากกันเล็กน้อย ลมหายใจของเธอหนักหน่วง คิ้วขมวดแน่น เขาแตะคางของเธอ ขยับตัวเข้าไปใกล้ขึ้น ก่อน ที่จะประทับริมฝีปากของตัวเองลงไปบนปากที่ยังคงขยับไม่ หยุดของเธอ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ