แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 25 มันเป็นของฉัน ฉันเอา นํ้าลายป้ายไว้หมดแล้ว



ตอนที่ 25 มันเป็นของฉัน ฉันเอา นํ้าลายป้ายไว้หมดแล้ว

ระหว่างที่เขียนเมื่อพูด หว่านฉิงซึ่งยืนอยู่ด้านหลังก็เอ่ยขึ้น ว่า “พาคุณผู้หญิงลงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างล่างก่อนนะ จิ้งเพื่อน ไม่รู้จักคิดเลย เสื้อผ้าที่ใส่มานรัดตัวเกินไป สวมอยู่บ้านแล้วจะ สบายตรงไหนกัน

สาวใช้รีบเดินนำหลินเชื่อไปยังห้องเปลี่ยนชุดอย่างว่องไว

ระหว่างที่กู้จิ้งเจ๋อมองเธอเดินห่างออกไป เขาก็ได้ยิน เซียนเพื่อเอ่ยขึ้นจากในห้องว่า “เป็นผู้หญิงที่ไม่เลวเลยนะ

กู้จิ้งเจ๋อว่า “ที่คิดว่าเธอไม่เลวเลยก็เพราะว่าเธอไม่ใช่ฮีย

หลิงละมั้งครับ”

กู้เขียนเมื่อมองดูจิ้งเจ๋อ “แค่มองครั้งเดียวฉันก็รู้ว่าแล้ว เธอเป็นเด็กดีและไร้เล่ห์เหลี่ยมมารยา เธอเป็นผู้หญิงที่ดี เมื่อ เทียบกับฮุ่ยหลิงของแกแล้ว คนหนึ่งเป็นเพชร คนหนึ่งเป็นก รวดเลยทีเดียวละ

มู่หว่านฉิงยิ้มแล้วพูดต่อว่า “ใช่แล้ว แม่ชอบผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่แรกที่ได้เห็นเลย ปู่ของลูกไม่เคยชมใครมาก่อนเลยนะจ๊ะ ถ้าท่านบอกว่าดีก็แสดงว่าเธอจะต้องดีมากแน่ๆ

คำกล่าวของหว่านฉิงเป็นความจริงอย่างที่สุด เซียนเต๋อเป็นคนช่าง เขาไม่มีทางเอ่ยชมใครง่ายๆ แน่

น่าแปลกทีเดียวที่หลินเซ่อสามารถทำให้ของเขายอม เอ่ยปากชมได้

กู้จิ้งเจ๋อไม่คิดเลยว่าหลินเชื่อจะสามารถทำตัวให้เป็นที่รัก ของคนในครอบครัวเขาได้ง่ายดายขนาดนี้ หว่านฉิงพูดต่อ ไปว่า “ยังไงก็มาถึงนี่กันแล้ว คืนนี้ค้างที่นี่นะจ๊ะ

หลินเชื่อช็อก รีบหันไปมองหน้าจิ้งเจ๋อ แต่ก็ไม่คาดคิด ว่าเขาจะตอบรับอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ตกลงครับ

ในเวลานั้น หลินเชื่อรู้สึกถึงคำถามมากมายร้อยแปดที่ผิด ขึ้นมาในความคิด

จนกระทั่งทั้งคู่เข้ามาอยู่ในห้องนอนของเขาเป็นที่ เรียบร้อยและเธอเห็นประตูปิดลงแล้วนั่นแหละ เธอจึงเงยหน้า ขึ้นถามเขาว่า “ทำไมเราถึงต้องค้างที่นี่ด้วยละคะ

กู้จิ้งเจ๋อตอบว่า “ก็ถ้าค้างแล้วมันไม่ดีตรงไหนล่ะ

“ไม่ดีสิคะ! ฉันไม่คุ้นกับการอยู่ที่นี่นี่นา”

จิ้งเจ๋อมองหน้าเธอ “แล้วเราจะทำอะไรได้อีกล่ะ ถ้าเรา

ยืนยันกับพวกเขาว่าจะขอกลับบ้าน มันก็จะไม่เป็นการดึงดูด ความสนใจมากไปหน่อยเหรอว่าเรากำลังพยายามปิดบังอะไร บางอย่างน่ะ”

หลินเชื่อว่า “เราก็…เราก็บอกว่าเรายังเป็นคู่รักข้าวใหม่ ปลามันก็ได้นี่คะ เรากลัวว่าจะส่งเสียงดังตอนกลางคืนแล้วก็อาจจะรบกวนพวกเขาได้น่ะ

จิ้งเจ๋อตอบว่า “ห้องเก็บเสียงเป็นอย่างดี ไม่มี ปัญญาแบบนั้นหรอก

* หลินเซ่อไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปได้อีก เธอมองดูเขาแล้ว คิดกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นกรณีแบบไหน มันก็สามารถหาข้อ อ้างดีๆ ได้ทั้งนั้นแหละ แต่แทนที่จะทำแบบนั้นเขากลับตอบ ตกลงหน้าตาเฉย

หลินเชื่อทำได้แค่มองหน้าอีกฝ่ายก่อนหันมองและกวาด สายตาไปรอบๆ ห้อง ขนาดของมันเทียบไม่ได้เลยกับห้องของ เขาที่บ้าน มันเป็นห้องชุดที่มีห้องนอนอยู่ข้างในและมีห้อง ทำงานอยู่ข้างนอก มีเก้าอี้ตัวโตและไม่มีโซฟา

หลินเชือยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความห่อเหี่ยวพลางคิดว่า เธอกับเขาจะนอนกันยังไง ในคืนนี้

แต่แล้วกู้จิ้งเจ๋อก็ถอดเสื้อนอกออก เขาหันไปมองเตียง นอนแล้วบอกเธอว่า “ฉันนอนพื้นก็แล้วกัน เธอนอนบนเตียงนั่น แหละ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น หัวใจของหลินเชื่อก็สะดุด เธอไม่คาด คิดเลยว่าเขาจะเป็นฝ่ายเสนอตัวนอนบนพื้นเองแบบนี้ เธออด รู้สึกดีไม่ได้แต่มันก็ยังน่าขัดเขินอยู่ดี “ทำไมไม่ให้ฉันนอนพื้น แทนละคะ ฉันขอแค่ผ้าห่มรองนอนก็พอ

ขณะที่พูด เธอก็เดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าและเปิดมันออกเธอมองเห็นเสื้อผ้าของเขาแขวนเรียงรายเป็นแถว ทุกตัว ประณีตงดงามและแพงลิบเลยทีเดียว แต่เธอไม่ยังเห็นผ้าห่ม สักผืนแฮะ

ให้ตายเถอะ นี่คนในบ้านต้องตั้งใจทำแบบนี้แน่ๆ

หลินเซ่อไม่อยากจะเชื่อ เธอพูดว่า “ฉันคงนอนพื้นไม่ได้ แล้ว แต่เตียงก็มีอยู่แค่เตียงเดียว เราขอให้ใครส่งเตียงเข้า มา…

“นี่เธอกำลังพยายามจะบอกทุกคนอยู่หรือไงว่าเราแยก เตียงกันนอนน่ะ

“งั้น…เราจะทำยังไงกันดีล่ะคะ”

เมื่อได้เห็นความพยายามของเธอที่จะรักษาระยะห่างจาก เขา กู้จิ้งเจ๋อก็อดหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้

เขาโยนเสื้อนอกลงบนเตียแล้วพูดว่า “ฉันไม่สนว่าเธอจะ ทำยังไง แต่ฉันจะนอนแล้ว

หลินเชื่อเหลือบดูเขา อีตานี่เพิ่งจะเสนอตัวว่าจะนอนบน

พื้นอยู่แหม่บๆ พอมาตอนนี้ที่รู้ว่าไม่มีผ้าห่ม เขาก็เลยจะแย่ง เตียงคืนสินะ

“ไม่ ฉันก็อยากนอนบนเตียงด้วยเหมือนกัน คุณเป็นคน ยืนกรานที่จะค้างที่นี่เอง เพราะงั้นคุณก็หาทางเอาเองก็แล้วกัน เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้

ระหว่างที่พูด หลินเชื่อก็กระโจนขึ้นเตียงทันที เธอซุกตัวลงใต้ผ้าห่มแล้วกลิ้งไปกลิ้งมาก่อนจะโผล่ออกมาเปิดคาง ใส่ เขาอย่างท้าทายเต็มที่ “ตอนนี้ทั้งเตียงมีกลิ่นของฉันติดเต็มไป หมดแล้ว แถมมีแบคทีเรียจากตัวฉันแล้วก็อย่างอื่นด้วย คุณยัง อยากนอนบนนี้อีกหรือเปล่าล่ะ

เธอพูดพลางแลบลิ้นเลียมือตัวเองแล้วป้ายไปด้วยผ้าห่ม อย่างไม่ยอมแพ้

หน้าของจิ้งเพื่อถอดสี “หลินเชื่อ นี่เธอทำอะไรน่ะ

หลินเชื่อผงกหัวขึ้น “อะไร คุณไม่เคยเห็นเวลาที่หมา ประกาศอาณาเขตเหรอคะ พวกมันก็จะฉี่รดไปทั่วเพื่อบอกว่า ตรงไหนเป็นของพวกมันบ้าง ฉันก็กำลังทำแบบเดียวกันอยู่นี่ไง ตอนนี้เตียงเป็นของฉันแล้วนะ

จิ้งเพื่อชี้ไปที่ผ้าห่ม “ฉันกำลังพูดถึงไอ้ที่เธอกำลังทำอยู่ ตอนนี้ต่างหาก”

“เช็ดน้ำลายเหรอคะ ทำไม คุณอยากได้มั่งมั้ยล่ะ

“นี่เธอ…”

แค่คิดว่าเธอเที่ยวเอาน้ำลายเช็ดไว้ทั่วผ้าห่ม จิ้งเพื่อ แทบทนไม่ได้แล้ว เขาจ้องเธอเขม็งก่อนจะหมุนตัว เปิดประตู แล้วเดินหนีออกไ

หลินเชื่อเริ่มหัวเราะลั่นดังไปทั่วห้อง “ทำไมยอมแพ้ง่ายจัง ล่ะกู้จิ้งเจ๋อ แบบนี้ไม่แน่จริงนี่นา

เธอกลิ้งไปทั่วเตียงอย่างภูมิใจในชัยชนะ แต่แล้วเธอก็ได้เห็นประตูเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้จิ้งเจ๋อย่างสามขุมเข้ามา เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาคุกคามทําเอาหญิงสาวอดรู้สึกผิด ขึ้นมาหน่อยๆ ไม่ได้ เธอถอยกรูด

“เฮ้ จิ้งเจือ คุณจะทำอะไรน่ะ ฉันแค่ล้อเล่นหรอกน่า เธอรีบบอก

แต่แล้วเธอก็ได้เห็นจิ้งเจ๋อกระโดดขึ้นเตียงมา ลากเธอ

เข้าไปหา แล้วเหวี่ยงเธอพาดไว้บนไหล่อย่างง่ายดาย

ร่างกายของจิ้งเจ๋อนั้นแข็งแรงมาก ทั้งสูงทั้งล่ำสัน เมื่อ เขาลงมือ ทุกอย่างจึงง่ายดายและรวดเร็ว

หลินเชื่อดิ้นขลุกขลักอยู่บนไหล่อย่างไร้ทางสู้ “จิ้งเจ๋อ คุณจะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ เธอใช้กำปั้นเล็กๆ ระดมทุบไม่ยั้งแต่ก็เปล่าประโยชน์

ประตูห้องเปิดออก แล้วหลินเชื่อก็ถูกโยนจากห้องนอน ออกไปอยู่ในห้องทำงานด้านนอก

เธอมองประตูปิดลงต่อหน้าต่อตา หลินเชื่อลงมือทุบประตู โครมๆ อย่างมีน้ำโห “จิ้งเจ๋อ นี่คุณเป็นผู้ชายหรือเปล่านะ นี่ คุณจะมาแย่งเตียงนอนผู้หญิงแบบนี้น่ะเหรอ”

“เสียใจด้วย ฉันไม่เห็นเลยว่าเธอจะดูเหมือนผู้หญิงตรง ไหน เขาตอบอย่างไร้ซึ่งอารมณ์

นั่นยิ่งชวนให้โมโหหนักขึ้นไปอีก หลินเชื่อรู้สึกเหมือนใน อกร้อนผ่าวราวกับไฟ “ใช่สิ ฉันทำตัวไม่เหมือนผู้หญิง ฮียหลิงของคุณต่างหากที่เป็นกุลสตรีเรียบร้อยดีงามที่สุด จิ้งเจ๋อร้องตอบมาทันควัน แน่นอน

หลินเซ่อหายใจสะดุดเมื่อได้ยิน “ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ออก ไปหาเธอซะล่ะ พอไปไม่ได้ก็เลยมารังแกฉันแทนแบบนี้น่ะเห รอ”

เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น จิ้งเจ๋อยิ่งพาลหนักและตอบไป ว่า “เธอคิดว่าถ้าฉันทำได้ ฉันจะยังอยู่ที่นี่ตอนนี้เหรอ

“คุณมัน…คุณ…”

หลินเซ่อมองดูสภาพห้องรอบๆ ตัว มีแค่เก้าอี้ทำงานตัว หรูตัวเดียวเท่านั้นและมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะนอนบนนั้น หรือมองดูอีกที พรมชั้นดีที่ปูพื้นอยู่นี่ก็ดูน่าสบายทีเดียว เธอนั่ง ลงและลองสัมผัสมัน นิ่มดีแฮะ แต่ถึงอย่างนั้นจะให้เธอนอน แบบนี้ได้ยังไงกัน

“จิ้งเจ๋อ นี่คุณมีหัวใจบ้างหรือเปล่าถึงจะปล่อยให้ฉัน นอนตรงนี้นะ มันหนาวนะ

ข้างในห้อง หัวใจของชายหนุ่มอ่อนยวบลงเมื่อได้ยินแว่ว

เสียงเว้าวอนของเธอ

แต่ถึงยังไงซะ เมื่อมองดูเตียงนอนที่ยับเยินจนดูไม่ได้ โทสะของเขาก็เริ่มผุดปุดๆ ขึ้นมาอีกครั้ง เขาเดินไปหยิบผ้าห่ม ขึ้นมา กลิ่นของเธอยังอบอวลอยู่เต็มไปหมด แต่ก็เป็นกลิ่น หอมชวนดมและมากพอที่จะทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหว
“คุณเป็นสามีที่ปฏิบัติกับภรรยาอย่างนี้ได้ยังไงกันคะ จิ้ง เจ๋อ นี่คุณใจร้ายแบบนี้จริงๆ เหรอ

เขาวางผ้าห่มลงและนึกขึ้นได้ว่าเธอเอาน้ำลายป้ายไว้จน ทั่วไปหมด

เขารู้สึกอึดอัดขึ้นมา โดยไม่รู้ตัวและหันไปพูดว่า “เธอออก จะตัวสูงแล้วก็แข็งแรงแบบนั้น เธอไม่เป็นไรหรอกน่า ต่อให้

ต้องนอนข้างนอกห้องสักคืนก็เถอะ

“คุณนี่มัน…” หลินเชื่อหมดหวังแล้วจริงๆ เธอทอดตัวลง นอนและครุ่นคิดด้วยความผิดหวัง จิ้งเจ๋อ รอก่อนเถอะนะ

เพราะว่าเขามีแต่ไม่ยุ่ยหลิงเต็มหัวใจ เขาถึงได้ใจร้ายกับ ผู้หญิงอื่นแบบนี้นี่เอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ