แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 23 ฉันเป็นสามีของเธอ ฉันก็จะ ต้องดูแลเธอสิ



ตอนที่ 23 ฉันเป็นสามีของเธอ ฉันก็จะ ต้องดูแลเธอสิ

จึงเลือกดกริ่งที่อยู่ด้านข้างพลางบอกเธอว่า “ถ้าเธอต้องการ อะไร อย่าขยับตัว แค่กดปุ่มนี้ เดี๋ยวคนใช้ก็จะเข้ามาเอง

เป็นครั้งแรกที่เขาตั้งใจอธิบายบางอย่างให้เธอฟัง เป็นการส่วนตัว ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เธอไม่เคยรู้เลยสัก นิดว่ามีอะไรแบบนี้อยู่ด้วย

เธอมองปุ่มที่อยู่บนหัวเตียงแล้วพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “เป็นคนรวยนี่ดีจังเลยนะคะ คุณสามารถนอนอยู่บนเตียงเฉยๆ ได้ทั้งวัน โดยไม่ต้องกระดิกตัวทำอะไร แถมยังไม่ต้องหิวตาย ด้วย”

จิ้งเจ๋อมองหน้าเธอ “ตอนนี้เธอเองก็เป็นคนรวยเหมือนกัน

“ไม่ใช่เลยสักนิดค่ะ” หลินเชื่อว่า

จิ้งเจ๋อพูด “มีสามีรวยๆ อย่างฉัน ตอนนี้เธอก็รวยแล้วล่ะ”

เมื่อหลินเชื่อได้ยินเช่นนั้น เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นบาง อย่างวูบวาบขึ้นในอก แต่ก็อีกนั่นแหละ เธอรู้ดีว่ามันเพียงแค่ สองสามปีเท่านั้น หญิงสาวจึงครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า“อย่าเลยค่ะ ถ้าฉันเคยชินกับอะไรแบบนี้มากเกินไป อีกหน่อย ฉันจะกลับไปใช้ชีวิตลำบากแบบเดิมๆ ไม่ได้หลังจากที่เราหย่า กัน”

จิ้งเจ๋อมองเธออย่างขัดใจ “เธอคิดมากเกินไป

“ต้องคิดสิคะ”

กู้จิ้งเจ๋อนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง เขามองเธอแล้วพูดว่า “อย่า กังวลไปเลย ฉันจะให้เงินเธอก้อนใหญ่หลังจากที่เราหย่ากัน ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอต้องกลับไปตกระกำลำบากอีกหรอก

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเชื่ออดยิ้มออกมาไม่ได้ “งั้นเรามา

รอดูกันไหมคะ”

ด้วยเหตุผลบางอย่าง จิ้งเจ๋อรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยกับคำ

พูดของเธอ

แล้วสาวใช้ก็เดินเข้ามา

กู้จิ้งเจ๋อสั่งสาวใช้ให้นำยาเข้ามาให้ ไม่ช้ายาก็มาถึงมือ

ในระหว่างที่หลินเชื่อกำลังคิดถึงความสะดวกสบายใน ชีวิตของบรรดาคนมีฐานะอยู่นั้นเอง จึงเลือก็ย่อตัวลงและดึง ขาเธอมาไว้ในมือข้างหนึ่ง

ด้วยความตกใจ หลินเซ่อรีบดึงขาหนีแล้วบอกว่า “ไม่ต้อง หรอกค่ะ เดี๋ยวฉันทำเอง

“อย่าขยับ” กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว เขาตวัดสายตาดุดันใส่ผู้ที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง

กู้จิ้งเจ๋อบอกว่า “เธอเพิ่งหกล้มมา อยู่นิ่งๆ ก็พอ

หลินเชื่อจึงได้แต่นิ่งอยู่กับที่ เธอมองดูเขาใช้นิ้วยาวป้าย ยาด้วยมือข้างหนึ่งและจับขาเธอไว้ด้วยมืออีกข้างหนึ่ง เขา เอียงศีรษะเล็กน้อยก่อนจะป้ายตัวยาลงไปบนข้อเท้าเธอ หญิง สาวอดรู้สึกถึงความอบอุ่นที่พองโตขึ้นมาในอกไม่ได้

สีหน้าจริงจังยิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลามากขึ้นกว่าเดิม

เธอรู้สึกได้ว่าในท่านั่งกึ่งหมอบลงไปแบบนี้ จึงเจอยิ่งดู เซ็กซี่น่าดึงดูดเป็นที่สุด

หลินเชื่อเผลอยิ้มออกไปโดยไม่รู้สึกตัวพูดว่า “ฉันทำเอง

ได้ค่ะ”

“เธอไม่คุ้นกับการได้รับการดูแลจากคนอื่นสินะ” เขาเลย

หน้าขึ้น

หลินเชื่อตอบ “ใช่ค่ะ ฉันดูแลตัวเองมาตลอดนี่นา”

จิ้งเจ๋อมองดูด้วยสายตาลึกล้ำ “ฉันเป็นสามีของเธอ มัน เขียนไว้ชัดเจนในสัญญาแล้วนี่ นอกจากเรื่องที่ว่าเราจะไม่ยุ่ง เกี่ยวกับชีวิตรักของกันและกันแล้ว เราจะต้องใช้ชีวิตร่วมกัน เหมือนคู่แต่งงานอื่นๆ

หลินเซ่อมขณะมองดูเขา อยู่ๆ เธอก็รู้สึกขึ้นมาว่าความ จริงการแต่งงานกับเขาก็เป็นเรื่องไม่เลวนัก ถึงแม้หัวใจของเขา จะเป็นของคนอื่น แต่วันเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันของเขาและเธอก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นสุขและน่าจดจำไม่น้อยทีเดียว

กู้จิ้งเจ๋อค่อยๆ นวดคลึงตัวยาลงบนข้อเท้า หลินเชื่อนั้นแม้ จะสูงแต่ตัวเธอกลับไม่หนักเลย ตอนที่เขาอุ้มเธอก่อนหน้านี้ เขารู้สึกได้ว่าร่างของเธอนั้นเบาหวิวแทบจะไร้น้ำหนัก พอมอง ดูท่อนขาเรียวยาวของเธอ เขาก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าตัวของเธอ ผอมบางมากจริงๆ

เท้าเล็กๆ ของเธอน่ารักยิ่งนัก นิ้วเท้าแต่ละนิ้วกลมกลึง และอิ่มเต็ม

นิ้วของเขาปัดโดนไปทั่วเท้าเธออย่างแผ่วเบา แต่กลับ เป็นหัวใจของเขาเองที่ถูกสัมผัสคลึงเคล้าจนเริ่มหนึบชา

เมื่อหลินเชื่อเห็นการเคลื่อนไหวที่ช้าลงของเขา เธอจึงก้ม หน้าลงมองแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ มีปัญหาอะไรหรือ เปล่า”

จิ้งเจ๋อเงยหน้าแล้วตอบว่า “อ๋อ…เปล่า ไม่มีอะไร หลังจากเลื่อนสายตากลับมายังนิ้วเท้าของเธอ เขาก็พูด ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปพร้อมกล่องอุปกรณ์ปฐมพยาบาล

หลินเชื่อก้มลงดูที่รอยแผล กู้จิ้งเจ๋อทายาให้เธอเป็นอย่าง ดี ตัวยานั้นถูกบรรจงทาด้วยความตั้งใจจนเธออดรู้สึกประทับ ใจไม่ได้

โชคดีที่เป็นเพียงแผลฟกช้ำเล็กน้อยเท่านั้น วันต่อมาหลิน เชือก็สามารถกลับไปกระโดดโลดเต้นได้เหมือนเดิม
ไม่ช้าซีรีส์โทรทัศน์ของเธอก็เริ่มถ่ายทำ ในวันนั้นหลินเซ อรีบไปถึงกองถ่ายก่อนเวลานัดหมาย

เมื่อเธอแต่งตัวสำหรับเข้าฉากเรียบร้อย นักแสดงคนอื่นๆ ก็ค่อยๆ ทยอยกันมาถึง

กู้จิ้งอวนั้นมาถึงช้ากว่าใครตามเคย ทันทีที่เขาก้าวเข้ามา เธอก็ได้เห็นบรรดาคนติดตามขบวนใหญ่ที่ส่งเสียงเอะอะมะเพิ่ง

ตามมาด้านหลังด้วย

ผู้ช่วยคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างเธอยกมือขึ้นเท้าคางแล้วพูดด้วย น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหลงใหลว่า “กู้จิ้งอวี่นี่ตัวจริงดูหล่อ กว่าในทีวีอีกเนอะ

“ใช่ ตัวจริงหน้าเล็กกว่าในทีวีเยอะ แล้วดูสายตาชวนให้ หลงนั่นสิ

หลินเชื่อเงยหน้าขึ้นมองบ้าง เธอคิดว่าเขาหล่อมากที

เดียว คนตระกูลนกรรมพันธุ์ดีจริงๆ

เมื่อถึงตาหลินเชื่อต้องลองออกไปซ้อมบทโดยยังไม่มี กล้อง เธอก็รีบยกชายกระโปรงยาวขึ้นแล้ววิ่งออกไปทันที การ สวมชุดจีนโบราณแบบนี้ออกจะเป็นปัญหาเล็กน้อย โดยเฉพาะ เมื่อเป็นซีรีส์ที่มีงบประมาณการถ่ายทำสูงแบบนี้ เพราะชุดนั้น จะถูกออกแบบตัดเย็บและตกแต่งมาอย่างชนิดที่เต็มไปด้วย รายละเอียดมากมาย ทำให้เป็นการยากสำหรับผู้สวมแม้จะแค่ จะก้าวเดินธรรมดาก็ตามเพราะน้ำหนักของชุดนั้นไม่น้อยเลย
ขณะที่หลินเชื่อรีบวิ่งไปนั้น เธอก็เหยียบลงบนอะไรบาง อย่างโดยที่เจ้าตัวไม่ได้สนใจ

“ไอ้หยา นี่เธอเหยียบชุดของเผยทรานเข้าแล้ว” หลินเชื่อ ได้ยินใครบางคนร้องบอก เมื่อหันกลับมา เธอก็ได้เห็นเสีย หรานกำลังยกชุดขึ้นดูก่อนจะหันมามองหลินเชื่อ เธอส่งยิ้มแล้ว เอ่ยว่า “ไม่เป็นไรหรอก

หลินเชอรีบขอโทษเป็นพัลวัน “ขอโทษค่ะ ขอโทษด้วยค่ะ พี่เผยหราน”

เผยหรานมองหลินเชื่อแล้วตอบว่า “นี่เธอเป็นนักแสดง หน้าใหม่ที่เล่นเป็นเฉินอี้หันสินะ”

หลินเชอรีบตอบโดยไว “ใช่แล้วค่ะ พี่เสียหราน

มู่เผยหรานยกมือขึ้นลูบไหล่หลินเชื่อแล้วพูดอย่างใจเย็น ว่า “เธอทำได้ไม่เลวเลยนะ ฉันชื่นชมเธอมาก ฉันคอยเชียร์เธอ ยู่นะ”

เมื่อได้ยินคำชื่นชมเช่นนั้น หลินเชื่อยิ่งมองดูอีกฝ่ายด้วย สายตายินดียิ่ง “ขอบคุณมากค่ะ พี่เผยหราน

ไม่ช้ามเผยหรานก็ออกจากห้องไปพร้อมบรรดาผู้ช่วยของ

เธอ

คนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังมองดูหลินเชื่อแล้วพูดด้วยอาการ ที่ยังหวั่นใจไม่หายว่า “ทำไมเธอถึงไม่ระวังหน่อยล่ะ นี่โชคดีนะ ที่เผยหรานน่ะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วก็ยังใจเย็นด้วย
หลินเชื่อเองก็ประทับใจกับเหตุการณ์ที่ได้เจอเอามากๆ เธอจึงตอบว่า “ใช่ค่ะ เธอใจเย็นจริงๆ

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเธอถึงโด่งดังขนาดนี้ ในวงกา

รนี้นะ ไม่ใช่แค่ต้องหน้าตาสวยอย่างเดียวเท่านั้น เธอต้องมี ทักษะในการเข้าสังคมที่ดีด้วยนะ

หลินเซ่อถ่ายฉากของตัวเองเสร็จอย่างรวดเร็ว เพราะการ ถ่ายทำเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น เธอจึงมีฉากที่ต้องเข้าเป็นเพียง ฉากสั้นๆ ไม่กี่ฉาก เมื่อเสร็จเรียบร้อยเธอก็หาเก้าอี้นั่งและพัก ผ่อน

เธอเป็นเพียงนักแสดงเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่ มีผู้ช่วยและผู้จัดการคอยดูแล แต่จะว่าไปการได้นั่งคนเดียวก็ เป็นอะไรที่สบายดีเหมือนกัน หลินเชื่อนั่งอ่านบทและครุ่นคิดถึง เรื่องราวตอนต่อไปของซีรีส์อย่างเคร่งเครียด

เมื่อการถ่ายทำเสร็จสิ้นลง กู้จิ้งอวี่ก็หันกลับมาและได้เห็น หลินเชื่อที่กำลังนั่งอยู่เพียงลำพัง หญิงสาวกำลังก้มหน้าก้มตา อ่านบทและเขาคิดว่าเธอดูน่าเอามากๆ นักแสดงหนุ่มส่ง สัญญาณบอกทีมของเขาให้หยุดก่อนจะหันไปบอกกับผู้จัดการ ส่วนตัวว่า “ฉันไม่เข้าห้องพักนะ ตรงนั้นพอจะมีที่ว่างมั้ย ยก เก้าอี้ไปให้หน่อยสิ ฉันจะนั่งตรงนั้น

ผู้ช่วยชะงักก่อนจะบอกกู้จิ้งอวี่ด้วยความลังเลว่า “จิ้งอว พื้นที่นั่งพักตรงนั้นเอาไว้สำหรับนักแสดงเล็กๆ นะ

“ฉันเองก็เป็นนักแสดงเล็กๆ คนหนึ่งเหมือนกัน ทำตามที่ฉันบอก อย่าพูดจาเหลวไหลน่า” กู้จิ้งอวบอกพลางเดินตรง เข้าไปหาหลินเชื่อ

“เฮ้ หลินเซ่อ” เขาก้มหน้าลงแล้วร้องทัก

หลินเชื่อเงยหน้าขึ้น เมื่อได้เห็นว่าเป็นกู้จิ้งอวี่ เธอก็ช็อก สนิทและรีบลุกพรวดพราดขึ้นทันที “พี่จิ้งอวี่

“ไม่ต้องลุกๆ นั่งลงเถอะ เดี๋ยวเรามีเข้าฉากด้วยกัน ฉันก็ เลยว่าจะมาซ้อมบทกับเธอสักหน่อย

“อ้อ โอเคค่ะ พี่จิ้งอวี่ ว่าแต่วันนี้เรามีฉากที่ต้องถ่ายด้วย

กันด้วยเหรอคะ” เธอจำได้ว่าฉากที่ว่านั่นต้องถ่ายทำพรุ่งนี้นี่นา

กู้จิ้งอวี่ยิ้มแล้วพยักหน้า “อืม วันนี้ฉันว่างนะ ก็เลยว่าจะ

ถ่ายเพิ่มอีกสักฉาก

หลินเชื่อหมดความสงสัย เธอมองดูจิ้งอวี่แล้วหยิบบทของตัวเองขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ