ตอนที่ 18 สามีคะ ฉันเมาค่ะ
หลินเชื่อมองหน้าฉันซึ่ง บางทีอาจเป็นพราะเธอดื่มไวน์มากเกิน ไป ถึงได้ขาดสติจนควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้ “แล้วถ้าฉัน บังเอิญไปล่วงเกินพวกเขาเข้าแล้วล่ะ
ฉันชิงหน้าซีดเผือด ถอนหายใจยาว “ถ้าเกิดไปล่วงเกิน จิ้งอวี่ก็คงไม่เป็นอะไรนักหรอก แต่ถ้าเป็นจิ้งหนึ่ง พี่ชายคน โตของเขาที่เป็นประธานบริษัทของเรา กับจิ้งเจ๋อ พี่ชายคน รองที่เป็นมหาเศรษฐีผู้ลึกลับน่ะ คนพวกนี้ไม่ใช่คนที่เราจะไป ต่อกรได้เลย เพราะฉะนั้นแล้วถ้าจะอยู่ในประเทศนี้ละก็ จะ เป็นการดีกว่าถ้าเธอจะอยู่ห่างๆ คนตระกูลเอาไว้ เข้าใจหรือ เปล่า”
หลินเชื่อรู้สึกได้ว่าความคิดในหัวของเธอกำลังวุ่นวายใน ป่วนขนาดหนัก
“ฉันจะไปสนิทสนมกับเขาได้ยังไงกัน ช่างฉันเถอะ ปล่อย ฉันสิ คุณควรจะกลับไปดูแลหลินจะดีกว่า อย่ามาห่วงฉันเลย
“usi…”
เมื่อฉันชิงมองหน้าเธอ หลินเชื่อก็ปัดมือเขาที่จับแขนเธอ ไว้ออก ความนุ่มนิ่มของฝ่ามือนั้นทำให้เขาเคลิบเคลิ้มไปทั่วขณะ
เพียงครู่เดียว หลินลี่ก็ตามหลังมาทัน
หลินเชื่อหันไปมองหลินลี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหัวเราะ อื่นๆ ออกมา ทั้งที่รู้สึกมึนเมาอย่างนั้น เธอก็เดินจากมา ทิ้งไว้ ก็แต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของฉันชิงที่เฝ้าดูเธอเดิน จากไป
หลินลี่จึงเขากลับมาและถามว่า “ที่คุณพูดนั่นจริงหรือ เปล่าคะ กู้จิ้งอวี่เป็นคนมีอิทธิพลขนาดนั้นเชียวเหรอ”
ฉันซึ่งยังคงมองตามหลินเชื่อไปโดยไม่ยอมละสายตา “จริง แต่ดูเหมือนหลินเชื่อจะโตขึ้นมากทีเดียว เธอไม่ใช่เด็ก ผู้หญิงตัวเล็กๆ อีกแล้วนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น คิ้วเรียวสวยของหลินลี่ขมวดมุ่นเข้าด้วย กัน เธอไม่อยากได้ยินเขาพูดถึงหลินเชื่อ อีก อีกอย่าง เธอรู้สึก ไม่ค่อยดีนักเมื่อนึกภาพของหลินเชื่อที่นั่งคุยกับกู้จิ้งอวี่ที่โดย ปกติแล้วจะเย็นชาอยู่เสมอขึ้นมาในหัว
และตอนนี้เธอก็กำลังจะมอดไหม้ด้วยความริษยาเมื่อได้รู้ ว่ากู้จิ้งอวี่ไม่ได้เป็นเพียงดาราดังระดับซูเปอร์สตาร์เท่านั้น แต่ ยังมาจากตระกูลที่ทรงอิทธิพลถึงเพียงนั้นด้วย
แล้วคนอย่างหลินเชื่อไปทำยังไงให้สะดุดตาคนระดับนั้น
ขึ้นมาได้กันนะ
เมื่อหลินเชื่อก้าวออกมาจากอุโมงค์ทางเข้ามืดๆ เธอก็ชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
เธอเงยหน้าขึ้นและได้เห็นพ่อบ้านหู จึงอดยิ้มออกมาไม่ได้
“พ่อบ้านหู คุณมาทำอะไรที่นี่คะ
“คุณผู้หญิง คุณเมามากแล้ว ผมมารับคุณกลับบ้านครับ
เมื่อได้ยินคนเรียกตัวเองว่า “คุณผู้หญิง
ว่ามันฟังดูตลกเป็นบ้า
หญิงสาวก็คิด
คนอย่างเธอเนี่ยนะจะเป็นคุณผู้หญิงกับเขาได้
เธอถูกพาตัวกลับมาทั้งที่ไม่ค่อยจะได้สตินัก
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อได้ยินเสียงดังขึ้นที่ด้านนอก เขาจึงก้าวยาวๆ
ออกนอกประตูไปดู แล้วร่างนุ่มนิ่มและอ่อนปวกเปียกร่างหนึ่งก็ทรุดฮวบลงมา
ใส่ทันทีที่เขาเปิดประตู
เมื่อตั้งสติได้ จิ้งเจ๋อก็รู้สึกถึงก้อนเนื้อหยุ่นๆ ของหน้าอก เธอที่เบียดแนบอยู่กับอกเขา ทำเอาหัวใจเริ่มสั่นขึ้นมาทันควัน แล้วเขาก็ได้เห็นพวงแก้มแดงของเธอ ขนตากะพริบแผ่วเบา และริมฝีปากที่ดูราวกับกลีบดอกไม้อันชุ่มฉ่บอบบาง หูของ เธอซุกไซ้ไปมาอยู่ที่ซอกคอ ทำเอาเขารู้สึกก
ชายหนุ่มตัวแข็งขณะมองดูเธอ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
กลิ่นเหล้าโชยมาปะทะประสาทสัมผัสรุนแรงราวกับว่าผู้ หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้เพิ่งปืนออกมาจากถังบ่มเหล้าก็ไม่ปาน
“เฮ้…” เธอมองดูเขา จิ้งเจ๋อนิ่วหน้า สายตาของเขา วาววับของเขาต่อประกายลึกที่ยากจะหยั่งถึง “คุณสามีคะ ฉัน กลับมาแล้ว”
“ จิ้งเพื่อไม่มีทางเลือกนอกจากต้องประคองเธอเอาไว้ เพราะถ้าเขาปล่อยมือ ร่างของเธอจะต้องทรุดฮวบลงไปกองบน พื้นอย่างแน่นอน สถานการณ์นี้ทำให้ใครต่อใครรอบตัวนัก ตกใจ พวกเขาเกรงว่าจิ้งเจ๋อจะทำร้ายคุณผู้หญิงของเขาด้วย ความโกรธ
“ทำไมถึงดื่มเข้าไปมากขนาดนี้” เขาถามอย่างหัวเสีย ก่อนจะตวัดสายตามองบรรดาผู้ที่ยืนอยู่โดยรอบ แล้วทุกคนก็ รีบพากันถอยกรูดออกจากห้องอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้สอง สามีภรรยาอยู่กันตามลำพังในบ้าน
“อ้อ เรามีงานเลี้ยงเปิดกล้องน่ะค่ะ คุณสามี
หน้าของจิ้งเจ๋อยิ่งทิ้งตึงหนักเมื่อรู้สึกได้ถึงมือเธอที่เที่ยว ลูบไล้เขาไปทั่ว
“นี่เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ
หลินเชื่อยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาคล้องคอเขา “ก็สามีได้ ล่ะ จะเรียกว่าอะไรได้อีก คุณกับฉันจดทะเบียนสมรสกันแล้วนะ คะ เพราะฉะนั้นคุณก็เป็นสามีของฉันไง ถูกมั้ยล่ะ
“เรียกชื่อฉันสิ เขาบอกช้าๆ
“เต๋อ”
“นี่เธอ…” จิ้งเจ๋อเอื้อมแขนเข้าไปสอดใต้ร่างแล้วยกขึ้น ก่อนจะอุ้มเข้ามาในห้องนอน
ระหว่างทางที่เข้ามาในห้องนอน หลินเชื่อไม่ได้ยอมอยู่ นิ่งๆ เธอเกลือกหน้าไปมากับหน้าอกเขาจนทั่วราวกับลูกแมว ทําเอากู้จิ้งเจ๋อยิ่งหงุดหงิดหนัก
จนกระทั่งได้โยนร่างเธอลงบนเตียงได้นั่นแหละ ความ รู้สึกผ่าวร้อนในร่างกายเขาจึงค่อยบรรเทาเบาบางลง
จิ้งเจ๋อเองก็เพิ่งกลับถึงบ้านและยังไม่ทันได้มีเวลาเปลี่ยน เสื้อผ้าเช่นกัน ชายหนุ่มจึงเริ่มรู้สึกอึดอัดเพราะเนกไทที่ยังผูก แน่นอยู่แนบคอ เขาเอื้อมมือขึ้นไปคลายเนกไท ให้หลวมลงสัก หน่อยพลางมองดูร่างกระเซอะกระเซิงของหลินเชื่อที่พังพาบอยู่ บนเตียง
อันที่จริงสภาพของหลินเชื่อก็ชวนให้รู้สึกสงสารอยู่ ชาย หนุ่มจึงตัดสินใจว่าจะช่วยคลายเสื้อผ้าที่สวมอยู่นั้นให้หลวมขึ้น เพื่อให้เธอได้นอนสบายขึ้นสักหน่อย
แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อเธอคว้าหมับเอาเนกไทเขา แล้วกระชากเข้าทันควัน ส่งผลให้ร่างใหญ่ล้มคว่ำลงบนร่าง
นุ่มๆ ที่นอนอยู่ด้านล่างทันที
สองมือของเขาวางทาบอยู่ข้างศีรษะเธอ เขาได้เห็นใบหน้าของเธอที่อยู่ห่างเพียงชั่วนิ้วมือ
พวงแก้มของเธอแดงเรื่อเหมือนคนปิดบรัชออน ทำให้เธอ
มองดูเหมือนผลแอปเปิลที่กำลังสุกงอมเต็มที่ ริมฝีปากเผยออ้า เธอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปาก การกระทำนั้นทำให้จิ้งเจ๋อ รู้สึกถึงความพลุ่งพล่าน ในร่างกายส่วนล่าง
“ให้ตายสิ เขาพึมพำกับตัวเอง รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ บางอย่างบริเวณหน้าอก
เมื่อก้มลงมองเขาก็ได้เห็นว่าหน้าอกเธอนั้นแทบจะทาบติด อยู่กับหน้าอกเขา คอเสื้อที่เปิดอ้าอยู่นั้นเผยให้เห็นร่องอกขาว เนียนและอ่อนนุ่ม
หลินเซ่อนั้นเป็นคนผอมบางก็จริง แต่ในส่วนที่ควรจะต้อง อวบอัด เธอก็อวบอัดอย่างสมส่วนเต็มที่
เป็นครั้งแรกที่กู้จิ้งเจ๋อได้มองเห็นเรือนร่างของสตรีเพศใน ระยะประชิดขนาดนี้ แถมยังอยู่ในท่วงท่าที่ชวนกระอักกระอ่วน ยิ่งอีกต่างหาก…
สายตาของเขามีประกายลึกล้ำขึ้น ในขณะพยายามพลิก ร่างเพื่อเบี่ยงตัวเองออกจากเธอ จนกระทั่งทิ้งตัวลงนอนหงาย อยู่ข้างหลินเชื่อได้สำเร็จ เขาถอนหายใจยาว
ชายหนุ่มคำนึงอยู่ในความคิด ร่างกายของเขาดูเหมือน จะมีอาการดีขึ้นมากนับตั้งแต่เปลี่ยนยาที่ใช้ อาการป่วยของ เขาไม่ปรากฏออกมาถึงแม้ว่าจะสัมผัสแตะต้องเนื้อตัวของหลินเช่อ
เขาหันศีรษะไป ยัยนี่ยังคงนอนนิ่งไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้น
ในตอนนี้
ผิวของเธอผุดผาดนวลเนียนยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหนแม้ว่าจะ ไม่ได้ลงทุนลงแรงกับการบำรุงรักษามากนักเท่าไหร่ ความขาว กระจ่างของผิวพรรณนี้เองที่ทำให้เธอดูสวยต้องตา
เธอไม่ใช่คนขี้เหร่เลย
แม้ใบหน้าจะแดงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่แล่นอยู่ทั่วร่าง แต่นั่นกลับทำให้เธอยิ่งดูมีเสน่ห์ ราวกับดอกไม้แรกบานที่ สดใสด้วยสีสันอันเย้ายวนใจ
แต่แล้วหลินเชื่อก็เริ่มกระสับกระส่ายไปมา
“โอ๊ย อะไรเนี่ย ทำไมยังไม่มีคนเปิดแอร์อีกนะ” เธอเริ่ม ดึงทิ้งเสื้อผ้าที่สวมอยู่ “ฉันร้อนจนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดอันไร้กิริยามารยาทของอีกฝ่ายเข้า จึง เจ๋อก็นึกอยากจะปล่อยให้เธอนอนตายอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังหันไปมองดูและได้เห็นอีกฝ่าย กำลังสาละวนถอดทิ้งเสื้อผ้าอย่างสะเปะสะปะไปทั่วตัว อันเป็น ความพยายามที่ดูจะไร้ประโยชน์ ชายหนุ่มหยุดคิดอยู่เป็นครู ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับไปหา
“หยุดดึงสักที ฉันช่วยเอง” แต่ถึงจะพูดเช่นนั้น เขาก็ยัง คิดไม่ออกว่าจะเอามือตัวเองไปวางไว้ตรงไหน หรือจับต้องอะไร แม้จะอายุเท่านี้แล้วแต่เขาก็ไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคน ไหน
ในท้ายที่สุด เขาก็จัดการถอดเสื้อผ้าเธอได้สำเร็จ โดย เริ่มจากการรูดซิปทางด้านหลังชุด
ผิวขาวๆ ของเธอเผยออกมา ดูราวกับฤดูใบไม้ผลิ โบกบิน
มาเยี่ยมเยือน
หลินเชื่อรู้สึกสบายขึ้นและเริ่มขยับยุกยิกเพื่อถอดชุดออก จากตัว
แล้วชุดชั้นในลูกไม้ของเธอก็โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมา
“นี่เธอ…หลินเชื่อ!
นี่เจ้าหล่อนมีความเคารพตัวเองบ้างรึเปล่านะ รู้ตัวบ้างมั้ย ว่าเป็นผู้หญิงน่ะ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ