แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 17 อย่าบังอาจทำให้ตระกูลต้องแปดเปื้อนนะ



ตอนที่ 17 อย่าบังอาจทำให้ตระกูลต้องแปดเปื้อนนะ

กู้จิ้งอวี่พูด “ฉันมีบางฉากที่ไม่ค่อยเข้าใจอยู่ เธอช่วยฉันหน่อย ได้ไหม”

หลินเชื่อกะพริบตาอย่างพาชื่อก่อนจะตอบว่า “อันที่จริง ฉันตั้งใจอ่านเฉพาะฉากที่ฉันจะต้องแสดงเท่านั้นเองค่ะพี่จิ้งอว ถ้ามีตรงไหนที่ไม่เข้าใจ ฉันจะขอให้โปรดิวเซอร์ช่วยแล้วกันนะ คะ มันคงไม่ดีแน่ค่ะถ้าฉันไปบิดเบือนความหมายที่ควรจะเป็น ของฉากพวกนั้น

เมื่อสังเกตเห็นว่ากู้จิ้งอวี่ยังคงมองดูเธอโดยไม่พูดอะไร หญิงสาวจึงถามว่า “ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่าคะ

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้เล่นบทสำคัญขนาดนี้ ตัวเธอเองก็ยังอดกังวลไม่ได้ว่ามีบางส่วนของบทที่เธอเองก็ไม่ เข้าใจอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเธอจึงยิ่งระมัดระวังมากขึ้นไป อีกเมื่อต้องพูดอะไรกับคนที่เป็น “รุ่นพี่

กู้จิ้งอวี่หัวเราะเมื่อได้เห็นความกังวลที่ระบายอยู่เต็ม สีหน้า เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่หรอก ก็แค่…ขอบใจในความ ช่างคิดของเธอด้วยนะ แต่ไม่จำเป็นต้องไปรบกวนโปรดิวเซอร์หรอก ฉันให้ใครสักคนมาที่บ้านแล้วก็ช่วยฉันเรื่องนั้นได้ หลินเชื่อตอบออกไปเพียง “อ้อ” ก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้

อีกครั้ง

เธอรู้สึกได้ว่าสายตาของจิ้งอวี่ยังคงจับจ้องอยู่ หลินเชื่อ จึงยกศีรษะขึ้นแล้วถามออกไปอย่างระมัดระวัง “รุ่นพี่ต้องการ อะไรอีกหรือเปล่าคะ

“เปล่าเลย” กู้จิ้งอวี่หัวเราะ “นี่เป็นครั้งแรกนะที่ฉันได้เจอ นักแสดงหน้าใหม่ที่ขยันขันแข็งอย่างเธอน่ะ

เมื่อหลินเชื่อได้ยินเช่นนั้น เธอจึงมองดูเขาด้วยความ ซาบซึ้งใจ ขอบคุณที่ชมค่ะ ฉันเรียนรู้จากพี่ยังไงล่ะคะ”

กู้จิ้งอวี่เอ่ยว่า “นี่เธอคงได้บทนี้มาด้วยความสามารถ

ทางการแสดงจริงๆ สินะ ฉันคิดว่าเธอต้องทำได้ดีแน่ๆ

แน่ละสิ ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถทางการแสดงแล้ว ละก็ เด็กสาวใสซื่อและไร้เดียงสาอย่างเธอก็คงยากที่จะมีที่ทาง ในวงการนี้แน่ๆ ดูจากความจริงที่ว่าเธอดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าเขา ตั้งใจเปิดโอกาสให้เธอได้เข้ามาใกล้ชิด ก็คงจะเป็นเรื่องที่บ่ง บอกได้ชัดเจนแล้วว่าเธอไม่ค่อยจะทันคนนัก

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายชมเช่นนั้น หลินเชื่อก็ยิ่งรู้สึกซึ้งใจ “จริง เหรอคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะรุ่นพี่ ฉันจะพยายามให้ เต็มที่ที่สุดเลยค่ะ”
อืม คงเป็นความสามารถของเธอจริงๆ ที่ทำให้เธอได้

บทนี้ไป

ถัดออกมา ผู้กำกับกำลังมองดูหลินเชื่อและกู้จิ้งอวี่ที่นั่งอยู่ ด้วยกันด้วยความประหลาดใจ เขาเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยว่า “วันนี้จิ้งอวี่เป็นอะไรไปนะ

ปกติเขาไม่ค่อยยอมพูดกับใครนี่นา”

ผู้จัดการส่วนตัวเอ่ยขึ้นช้าๆ “ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ครับ เขาจองห้องส่วนตัวเอาไว้ข้างในแล้วด้วย แต่อยู่ๆ ก็เดิน ออกมานั่งอยู่ตรงนี้ คนที่เขากำลังคุยด้วยอยู่นั่นคือนักแสดง หน้าใหม่ใช่ไหมครับ ผมไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย

“ใช่ เรายอมยกเว้นแล้วก็ให้เธอได้รับบทนี้ไปนะ อิมเมจ ของเธอใช้ได้อยู่ แล้วเธอก็เหมาะกับบทนี้จริงๆ

ในงานปาร์ตี้เปิดกล้อง สายตาหลายคู่พากันจ้องมองมาที่ เธอและกู้จิ้งอวี่ไม่วางตา เรื่องของเรื่องก็คือ กู้จิ้งอวนั้นเป็นที่ รู้จักกันดีว่าเป็นคนเย็นชาและไม่ยินดียินร้ายกับอะไรนัก แต่ ตอนนี้เขากลับมานั่งพูดคุยอยู่กับนักแสดงคนหนึ่งในซีรีส์อยู่

แถมนักแสดงหญิงคนนั้นยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ในเน

มอีกต่างหาก

ทุกคนจึงพากันมองดูแม่สาวหน้าใหม่ด้วยความสนเท่ห์

“นักแสดงใหม่นั่นก็ไม่เลวนะ”

“ฉันได้ยินมาว่าทีมงานยกเว้นให้เธอเป็นพิเศษนะ
เมื่อหลินลี่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็ตวัดสายตาเย็นชาใส่ บรรดาคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง แล้วทั้งหมดก็ยุติการสนทนาลงทัน ควัน

ใครต่อใครในวงการต่างรู้กันดีว่า หลินลี่นั้นเป็นดารา อารมณ์ร้อนเกรี้ยวกราดและทุกคนก็นึกกลัวว่าเธอจะสร้าง ปัญหา

แม้จะไม่ชอบใจหลินนัก แต่พื้นเพตระกูลที่ค่อนข้างมี อิทธิพลของเธอก็ทำให้ไม่มีใครกล้าแตะต้อง

ด้วยเหตุนี้แม้ว่าหลินลี่จะนั่งอยู่ตรงกลางห้อง แต่ก็ไม่มี ใครใส่ใจพอที่จะเข้าไปหาเธอ

หลินลี่มองดูคนทั้งคู่ด้วยความฉุนเฉียว นั่งแพศยานั่นมัน ยังไงกันนะ ทำไมมันถึงไปสนิทสนมกับดาราดังอย่างกู้จิ้งอวได้

เป็นไปไม่ได้ คนอย่างนังหลินเชื่อจะไปโอภาปราศรัยกับ จิ้งอวี้ได้ยังไงกัน จะต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้สองคนนั้นต้อง จำใจมานั่งด้วยกันแน่ๆ

แต่ถึงอย่างนั้น กู้จิ้งอวี่ที่ปกติไม่เคยอินังขังขอบกับใคร

กลับมานั่งอยู่ตรงนั้น ยังทำท่าพูดคุยอย่างออกรสกับแม่นั่น มันทำให้หลินริษยาอย่างถึงที่สุด เธอยิ่งหงุดหงิดขึ้นอีกหลาย เท่าเมื่อได้เห็นว่าใครต่อใครต่างก็พากันหันไปสนใจนั่งเด็กนั่น เพราะกู้จิ้งอวี่

นังหลินเชื่อจะต้องวางแผนเอาไว้แน่ๆ มันคงตั้งใจทำทีเข้าไปร่วมวงกับกู้จิ้งอวี่ มันคงมีมารยาสาไทยอะไรสักอย่างนั้น แหละ

งานเลี้ยงเปิดกล้องยังคงดำเนินต่อไป

เมื่อหลินเชื่อเดินผ่านระเบียงที่ทอดยาวไปสู่ห้องน้ำ เธอก็ พบกับหลินลี่

“หลินเชื่อ” เธอกวาดตามองหลินเชื่อขึ้นๆ ลงๆ พลางคิด ว่า อีกฝ่ายดูไม่เหมือนเดิมอีกแล้วในตอนนี้ หลินเชื่อดูโตเป็น สาวและมีเสน่ห์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร แต่นั่งเด็กนี่ก็ ไม่ดูเป็นเด็กกะโปโลอีกแล้ว แต่กลับเป็นผู้หญิงเต็มตัว

หลินลี่ยิ้มเยาะแล้วเอ่ยว่า “ฉันขอแนะนำให้เธอถอนตัว จากเรื่องนี้ซะ”

หลินเซ่อจ้องตอบอย่างไม่ลดละ “ทำไมฉันจะต้องถอนตัว

ด้วยคะ ถ้าพี่อึดอัดนักก็ถอนตัวไปเอง

หลินลี่พ่นลมพรืด “ทำหัวดื้อไปเถอะ หลินเชื่อ เธอรู้มั้ยว่า ฉันชิงชอบอะไรในตัวฉันที่สุด เธอรู้หรือเปล่าว่าทำไมเขาถึงไม่ เคยสนใจเธอเลย เพราะเขาชอบเสน่ห์ของความเป็นผู้หญิง มากที่สุดยังไงล่ะ เขาไม่ตกหลุมรักเธอซะทีก็เพราะว่าเธอควร จะไปชะโงกดูเงาตัวเองในกระจกเสียก่อน ถ้าเธอไม่มีเงินไปทำ ศัลยกรรมละก็ ฉันพอจะให้เธอยืมเอาบุญได้อยู่นะ แต่ถ้าเธอ คิดว่าจะสามารถหว่านเสน่ห์ยั่วยวนใครต่อใครทั้งที่หน้าตา อัปลักษณ์แบบนี้ละก็ ขอบอกว่าเธอคิดผิด
หลินเชื่อขมวดคิ้วพลางจ้องหน้าอีกฝ่าย หมายความว่า ยังไงพี่หลินลี่”

หลินลี่เหยียดปาก “อย่ามาเสแสร้งไปหน่อยเลยยะ ทีม งานทุกคนเขาเห็นกันอยู่ว่าเธอนะพยายามยั่วยวนกู้จิ้งอวี่ชัดๆ ยังจะแก้ตัวอะไรอีก คือ ดูตัวเองเสียบ้างเถอะ คนอย่างเธอนี่นะ กล้าที่จะไปยั่วยวนเขา เธอรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใครน่ะ เธอคิด ว่าคนอย่างกู้จิ้งอวี่จะเหลียวแลผู้หญิงอย่างเธอเหรอ”

“พี่ช่วยพูดกับฉันมาตรงๆ เลยก็ได้นะคะ พี่หลินลี่ อย่าไป โยนความผิดให้คนอื่นเพราะว่าตัวพี่เองไม่มีความสามารถพอ เลย” เมื่อได้ยินคำพูดของหลินลี่ หลินเชื่อจึงไม่อาจห้ามตัวเอง ให้ขึ้นเสียงกลับไปได้

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของทั้งคู่ หลินเชื่อหันหน้าไปและได้เห็นฉันชิงยืนอยู่ที่นั่น

หัวใจของเธอเต้นแรง ทันทีที่ได้เห็นฉันชิง ท่าทีแข็งกร้าว ของเธอก็แหลกสลายลงโดยสิ้นเชิง เธออดรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา นิดๆ ไม่ได้ เมื่อมองดูฉินชิง สีหน้าของเธอก็อ่อนโยนลง

หลินลี่รีบเดินเข้าไปสู่อ้อมแขนของชายหนุ่ม

“ฉันกำลังพยายามเตือนเธอน่ะค่ะว่าอย่าปล่อยตัวให้มาก นักในวงการนี้ ทีมงานทุกคนเห็นเธอพยายามยั่วยวนกู้จิ้งอว เมื่อครู่นี้ มันจะส่งผลให้ชื่อเสียงของเธอต้องมัวหมอง แต่เธอ กลับไม่ยอมฟังฉันแถมยังตะคอกใส่ฉันอีกต่างหาก ฉัน…ฉันแค่ อยากจะให้คำแนะนำเธอเพราะเห็นว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ๆเขียว”

รอ

ฉันชิงมองดูหลินเซ่อด้วยความประหลาดใจ “กู้จิ้งอวิ่งั้นเห

หลินเซ่อรู้สึกผิดหวัง ถึงแม้ฉันซึ่งจะไม่ได้เชื่อคำพูดของ หลินเสียทีเดียว แต่เขาก็ยังคงปลอบประโลมหลินลี่ที่ร้องไห้ กระซิกกระจนไหล่โยนอยู่ในอ้อมแขน “หลินกู้จิ้งอวน่ะเป็น คุณชายสามของตระกูล เขาไม่ได้เป็นแค่ดาราดังเท่านั้น แต่ เขายังเป็นทายาทลำดับที่สามของตระกูลด้วย มีบางอย่างที่ เธอยังไม่รู้อยู่นะ เธอควรจะอยู่ห่างคนจากตระกูลกู้เอาไว้

หลินเซ่อมองดูฉินซิงอย่างไม่อาจพูดอะไรได้ออก

หลินลี่เหลือบมองดูสีหน้าที่ระบายไปด้วยความเจ็บปวด ของหลินเชื่อ ใบหน้าเย่อหยิ่งเต็มไปด้วยความยโสของเธอช่าง ชวนโมโหสิ้นดี

“พวกคุณจะคิดยังไงก็ตามใจ ฉันยังมีเรื่องต้องทำอยู่ เชิญพวกคุณไปกันก่อนเถอะค่ะ

โดยไม่หันกลับมามอง หลินเชื่อเดินจากไปท่ามกลาง ความตกใจของฉันชิง

หลังจากพยายามปลอบใจหลินลี่ ชายหนุ่มก็รีบไล่ตาม หลินเซ่อไป

เมื่อคว้าแขนของหลินเชื่อได้ เธอก็เดินออกมาอยู่ด้านนอก สตูดิโอแล้ว ความมืดและท้องฟ้ายามค่ำคืนทำให้ใบหน้าของเธอดูจะยิ่งขาวกระจ่างกว่าปกติ เมื่อเขาได้เห็นดวงหน้าขาวสะ อาดใสนั้น ฉันซึ่งก็รู้สึกได้เป็นครั้งแรกว่าใบหน้าของเธอนั้น ช่างดูขาวผ่องราวกับไข่ปอกเปลือกก็ไม่ปาน ขาวใสจนแทบจะ มองทะลุได้

เมื่อมองตรงเข้าไปในดวงตาของเธอ เขาก็เอ่ยขึ้น “ฉันพูด จริงนะ หลินเชื่อ ไม่ว่าจะยังไง ตระกูลเดียวในประเทศนี้ที่เธอ จะเข้าไปข้องแวะหรือลบหลู่ไม่ได้ก็คือตระกูลนี่แหละ กู้จิ้งอว เป็นนายน้อยสามของบ้านตระกูล ด้วยสถานะของเขา เธอคิด ว่าเขาควบคุมคนจำนวนมหาศาลให้จงรักภักดีกับเขาได้ยังไง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ