แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 37 เฝ้ารอที่จะได้นอนร่วมเตียง เดียวกันอีกครั้ง



ตอนที่ 37 เฝ้ารอที่จะได้นอนร่วมเตียง เดียวกันอีกครั้ง

“แน่ละสิคะ ของฉันเนี่ยของแท้ทั้งแท่งนะคะ! ทำไมฉันจะต้อง

ไปทำศัลยกรรมด้วย ในเมื่อหน้าอกฉันเป็นทรงลูกพืชอย่างนี้

แล้ว มันไม่แข็งไปไม่นิ่มไป แล้วยังขนาดกำลังเหมาะอีกต่าง

หาก! อีกอย่างนะคะ ถ้าคุณทำศัลยกรรมมาละก็ เวลาคุณนอน

ราบลงไป คนก็จะจับได้ทันที นี่ฉันจะบอกให้นะคะ พวกเขา

บอกว่าเวลานอนนะ หน้าอกที่ทำมาจะไม่แบนราบไปด้วย แต่

จะกลมเด้งเลยละ!”

* กู้จิ้งเจ๋อเผลอมองหน้าอกเธออีกรอบ

เขาบังคับสายตาให้หันไปทางอื่นก่อนจะพูดว่า “รู้เยอะดี

“แน่นอนค่ะ” หลินเชื่อโม้ต่อ “ฉันเองก็มีความรู้ไม่ใช่น้อย

นะคะ”

ระหว่างพูด หลินเชื่อก็ยกมือขึ้นแตะขาโดยไม่รู้ตัว จึง เจ๋อจึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ขาเธอรู้สึกเจ็บ และนึกห่วงว่าเธอ ไปโดนแผลเข้าหรือเปล่า ชายหนุ่มจึงรีบพูดขึ้นว่า “เอาละ เลิก ขยับตัวไปมาซะที แล้วให้ฉันดูแผลที่ขาเธอหน่อย

เธอนั่งลงบนเตียงในขณะที่เขาย่อตัวลง จิ้งเจ๋อเลิกขากางเกงเธอขึ้นแล้วสำรวจดูบาดแผล เขาค่อยๆ แตะลงอย่าง ระมัดระวังด้วยกลัวเธอจะเจ็บ “เป็นยังไงบ้าง

หลินเชื่อรู้สึกปกติดีและไม่ได้เจ็บอะไร “คงไม่เป็นไรแล้วละ ค่ะ แค่ตอนที่เหยียบเท้าลงบนพื้น มันคงจะรั้งแผล ก็เลยเจ็บ เท่านั้นเอง”

กู้จิ้งเจ๋อสั่งว่า “เธอควรอยู่นิ่งๆ

ก็ก่อนหน้านั้นเธอร้อนใจนี่นา หลินเชื่อคิด

ก็ไม่ใช่ความผิดเขาหรอกเหรอ ที่อยู่ๆ ก็มาทำเฉยใส่เธอ

จิ้งเจ๋อเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย แต่สายตาเขากลับยังคง

จ้องที่หน้าอกไม่วางตา เขาไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลย แต่อยู่ๆ

ตอนนี้ เขากลับรู้สึกว่าหน้าอกของเธอช่างยวนใจอย่างที่สุด

เมื่อมองจากตำแหน่งนี้ มันมีขนาดเท่ากันพอดิบพอดี อวบอิ่ม

เต่งตึงและน่ารัก ไม่ใหญ่ไปไม่เล็กไป แล้วก็ดูเหมือนจะมีขนาด

พอเหมาะที่จะประคองเอาไว้ในมือ

น่ะ

เขานึกถึงคำพูดของเธอก่อนหน้านี้ที่บอกว่ามันมีรูปทรง เหมือนลูกพืช…

แล้วก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแบบที่เธอพูดจริงๆ เสียด้วย

ด้วยความสงสัย เขานึกอยากจะลองสัมผัสมันแบบไม่ผ่าน เสื้อผ้า ดูว่ามันจะนุ่มนิ่มเหมือนที่เจ้าตัวอวดอ้างจริงหรือเปล่า

บริเวณช่วงท้องของเขาเริ่มแข็งข็ง เขารู้สึกว่าร่างกายถูกกระตุ้นเร้าอีกครั้ง

จิ้งเพื่อยืนนิ่งนาน พยายามซ่อนสีหน้า หันศีรษะหนีและ นึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่

เมื่อได้เห็นสีหน้าที่เริ่มกลับมาเคร่งเครียดอีกครั้ง หลินเชื่อ จึงคิดว่าอาการป่วยของเขากลับกำเริบขึ้นอีกครั้ง

เธอมองเขาอย่างเป็นกังวลและถามด้วยความร้อนใจว่า “ทำไมเหรอคะ จิ้งเจ๋อ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคะ คุณอยาก ให้ฉันตามหมอมั้ย ถ้าฉันทันคิดเสียก่อนหน้านี้ ฉันจะไม่ขอให้ คุณโดนตัวฉันแน่ๆ

ยัยซื่อบือเอ๊ย

ยัยนี่คิดว่าเขาพยายามหลบเลี่ยงเธอเพราะอาการป่วย

ของเขางั้นเรอะ

ตอนนี้อาการแพ้ผู้หญิงของเขากลายเป็นเรื่องรองไปแล้ว เพราะอาการป่วยอย่างอื่นต่างหากที่กำลังสำคัญกว่า

นี่เป็นสิ่งที่ออกจะคาดไม่ถึง และมันทำให้เขารู้สึก หงุดหงิดไม่น้อยทีเดียว

ให้เป็นเรื่องเป็นราว ว่าอาการป่วยดั้งเดิมของเขาตอนนี้ทำไม

ชายหนุ่มคิดว่าเขาจำเป็นจะต้องขอคุยกับหมอเฉินอวี่เฉิง ถึงเปลี่ยนแปลงกลายเป็นอาการอื่นไปเสียอย่างนี้ หรือไม่อย่าง นั้น ทำไมเขาถึงเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาได้

แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะคุยกับยัยซื่อบื้อ ชายหนุ่มจึงหันหน้าหนีแล้วพูดว่า “เอาละ ฉันไม่เป็นไรแล้ว เธอไปนอน เถอะ”

หลินเชื่อบอกว่า “งั้นคุณอยากจะแบ่งเตียงกันนอนกับฉัน คืนนี้มั้ยละคะ หรือคุณอยากจะออกไปหาที่นอนที่อื่น

เมื่อหันไปมองดูเตียงนอน คนตัวใหญ่ก็ชักไม่อยากจะ ออกไป หลังจากลังเลอยู่เป็นครู เขาก็ตัดสินใจว่า “นี่ก็ดึกมาก แล้ว ฉันจะไปหาที่นอนที่ไหนได้อีก ทนๆ นอนที่นี่สักสองสาม ชั่วโมงก็ได้”

หลินเชื่อตอบด้วยเสียง “อ้อ” แล้วจัดแจงแบ่งพื้นที่ให้เขา

เธอไม่ถือหรอก ตราบใดที่เขาไม่ได้รู้สึกอึดอัดที่จะนอน ร่วมเตียงเดียวกันกับเธอ นั่นก็โอเคแล้ว

ตอนนี้เธอต้องคอยนึกถึงความรู้สึกของคนป่วย

ถึงแม้ว่าดูเหมือนจะเป็นเธอต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องมาโรง พยาบาล ในตอนแรก

หลินเซ่อนอนลงแล้วหยิบหมอนมาวางกั้นกลางเอาไว้ เหมือนเดิม เมื่อจิ้งเจ๋อมองดู เขาก็นึกสงสัยว่าเจ้าหมอนที่ว่า นั่นจะช่วยได้ตามวัตถุประสงค์ของคนวางหรือเปล่า แต่ถึง อย่างไรเขาก็ไม่ได้พูดออกไป

ชายหนุ่มเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขาแอบรอคอยเวลานี้อยู่นิดๆ ข้างในถ้าเธอหลับไปแล้วเริ่มนอนดิ้นอีกครั้ง คราวนี้เธอจะกลิ้งมานอนทับเขาเอาไว้อีกมั้ยนะ

แล้วเขาจะมีโอกาสได้สัมผัสหรือเปล่าว่าเจ้าหน้าอกทรง ลูกพืชของเธอนั่นมันให้ความรู้สึกเป็นยังไง

ทั้งสองนอนร่วมเตียงกันโดยไม่ได้ปิดไฟ หลินเซ่อนอน เล่นโทรศัพท์ เมื่อมันส่งเสียงร้องเตือน เธอก็ได้เห็นใครบางคน

ส่งคำขอเป็นเพื่อนเธอเข้ามาในวีแชทเมื่อเปิดดู เธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าเป็นกู้จิ้งอวนั่นเอง

แม้จะอดแปลกใจไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็รีบกดรับเพื่อนโดยเร็ว

เมื่อกดรับ เขาก็ส่งข้อความมาถามทันที เธอยังไม่นอนอีกเหรอ

หลินเชื่อรีบถามกลับไป (พี่ซุป ตาร์แอดฉันมาทำไมละคะนี่]

เธอนึกขึ้นได้ว่า บางทีเขาอาจจะอยากคุยเรื่องข่าวลือนั่นละมั้ง

หลินเชื่อจึงรีบถามกลับไปว่า นี่เกี่ยวกับข่าวลือวันนี้หรือ เปล่าคะ ทางพี่จะจัดการเรื่องนี้ใช่ไหมคะ

เธอจำได้ว่ากู้จิ้งอวี่ไม่ค่อยตกเป็นข่าวลือทำนองนี้นัก ใครๆ พากันพูดว่าตัวจิ้งอวี่เองรังเกียจข่าวประเภทนี้มาก เพราะเหตุนี้ทุกครั้ง ทําท่าว่าจะเกิดข่าวลือแบบนี้ขึ้นมา เขาก็
จะรีบจัดการมันเสียก่อนทันที

กู้จิ้งอวี่ตอบกลับมาว่า แล้วทำไมฉันจะต้องจัดการกับข่าว ลือนั่นด้วยล่ะ

หลินเชื่อเริ่มรู้สึกยุ่งยากใจขึ้นมาเล็กน้อย (พี่ต้องจัดการสิ คะ ไม่เห็นเหรอคะว่าพวกเขากุเรื่องขึ้นมาเป็นจริงแค่ไหน

(ฉันเห็นแล้ว]

(ถ้างั้นทำไมถึงไม่จัดการละคะ

[จัดการไปก็เท่านั้นแหละ ก็ทำเฉยๆ ไปซะ อีกสองสามวัน ก็ดีขึ้นเอง

วิธีนี้ออกจะแตกต่างกับวิธีปกติที่บรรดา ใช้รับมือกับปัญหาอยู่ไม่น้อย รดาคนตระกูล

(แต่มันเป็นข่าวไร้สาระแล้วก็ตีไข่ใส่สีเสียจนเละเทะไป หมดเลยนะคะ ปล่อยให้ลือกันไปแบบนี้คงไม่ดีแน่ๆ หลินเช่

อรีบบอก

แต่กู้จิ้งอวี่กลับตอบว่า ฉันยังไม่สนใจเลย แล้วเธอจะไป

สนใจทำไม

ด้วยความหงุดหงิด หลินเชื่อชักอยากจะตะโกนใส่ใครสัก

คน

แน่ละสิว่าเขาไม่สนใจ ก็เขาไม่ได้เป็นคนโดนด่านนา แต่กลับกลายเป็นเธอต่างหากที่โดนด่าจนยับเยินไม่เหลือดี เรื่องนี้ทำเอาเธอช็อกสนิทเสียจนไม่กล้าเปิดดูหน้าเพจเลย ป้อของตัวเองไปเลย ทันทีที่เธอเปิดมันขึ้นมา สารพัดกัน สาปแช่งก็จะไหลทะลักเข้ามาไม่หยุด ทั้งเกรี้ยวกราดและหยาบ คายยิ่งกว่าที่ข้อความก่อนหน้าที่ได้อ่านเสียอีก

(ไม่ได้นะคะ พี่ พี่ต้องช่วยฉันด้วย ถ้าพี่ไม่ออกมาจัดการ เรื่องนี้ละก็สถานการณ์จะต้องแย่ลงไปกว่านี้แน่ๆ หลินเชื่อรีบ บอก

แต่ถึงอย่างนั้น กู้จิ้งอวี่ก็ยังคงตอบด้วยท่าทีไม่อินังขังขอบ ว่า มันจะแย่ไปกว่านี้ได้ยังไงกัน ฉันคิดว่านี่มันก็เข้าท่าดีออก

(ไร้สาระน่ะ นี่ฉันโดนด่าแรงมากเลยนะคะ

(อีกสองสามวันก็เลิกด่ากันไปเองนั่นแหละ

(ไม่มีทาง] หลินเชื่อยิ่งพูดก็ยิ่งไม่เหลือความเคารพ

(ถ้าเป็นแบบนั้นงั้นพรุ่งนี้ฉันจะโพสต์ลงในเวยป๋อ แล้ว บอกให้พวกเขาเลิกด่าเธอสักที ถ้ามีอะไรที่อยากพูดก็ขอให้มา พูดกับฉันแทน

เมื่อหลินเชื่อได้อ่านข้อความที่ส่งมา เธอก็โกรธแทบสิ้น

สติ

[แบบนั้นพวกเขาก็จะยิ่งด่าฉันหนักกว่าเดิมอีกน่ะสิคะ (ถ้าอย่างนั้นเธออยากให้ฉันทำอะไรล่ะ

(บอกพวกเขาว่าเราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานจากกองถ่ายเดียวกัน แล้วเราก็เพิ่งรู้จักกันได้เพียงไม่กี่วัน บอกว่ามัน เป็นการสร้างข่าวจากรูปถ่ายเท่านั้น และทุกอย่างที่เขียนขึ้น ล้วนแต่เป็นเรื่องโกหก) ทั้งหมดนี้คือความจริง

ทว่ากู้จิ้งอวกลับตอบโดยที่เธอไม่ทันคาดคิดว่า แต่ถ้าอีก

หน่อยเราเกิดคบกันและมีรายงานข่าวออกมา มันไม่เท่ากับ เป็นการตบหน้าเราเองหรอกเหรอ

“ฮัลโหล ใครจะไปอยากคบนายไม่ทราบ

(แน่นอนว่าเราคงไม่ได้คบกันหรอกค่ะ ไม่ต้องห่วง พี่จะไม่ ต้องตบหน้าตัวเองอย่างแน่นอน] หลินเชื่อรีบบอก

กู้จิ้งอวี่ส่งอิโมติคอนร้องไห้มาให้ทันที (พูดแบบนี้ฉัน

เสียใจนะ

(จะเสียใจก็เสียไปสิคะ ถึงยังไงพี่ก็จะต้องจัดการเรื่องนี้ให้

ถูกต้องเพื่อฉัน!]

(พูดจริงๆ นะ เธอจะรู้ได้ยังไงว่าในอนาคตเธอจะไม่ เสียใจที่ทำตัวเย็นชากับฉันวันนี้ ใครจะรู้ว่าอยู่ๆ เธออาจจะ ตกหลุมรักฉันขึ้นมาแล้วก็อยากแต่งงานกับฉันเต็มแก่ก็ได้

(จะบ้าเหรอคะ มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่

(ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

หลินเชื่อมองดูคำตอบของอีกฝ่ายอย่างพูดไม่ออก เธอรู้ดี ว่าที่เขาทำแบบนี้เพราะตั้งใจจะแกล้งเธอ เพราะฉะนั้นเขาไม่มี ทางจัดการกับเรื่องนี้แน่
ด้วยเหตุนี้เธอจึงส่งข้อความตอบไปโดยไม่อ้อมค้อมว่า

งั้นก็ไปตายซะ อย่ามากวนใจ ฉันจะนอน ก่อนที่จะเลิกสนใจ กู้จิ้งอวี่อีกต่อไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ