ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่488บตัว



ตอนที่488บตัว

หลินขึ้นเขียนกับเสี่ยวหลงมองตากันแวบหนึ่งต่างก็เห็นความ สับสนออกมาทางสายตาของอีกฝ่าย

หลอนซ่าน?”หลินซีนเขียนลองเรียกออกมาแต่ว่ารอบๆกลับ เงียบสนิทไม่มีเสียงอะไรสักเล็กน้อย นอกจากหมอกหนาแล้วก็ มองไม่เห็นอะไรอีกเลย

นางคิ้วขมวดแน่นส่งสัญญาณบอกให้เสี่ยวหลงระวังตัวยิ่งขึ้น ไปอีกตนเองก็เตรียมที่จะควักปืนออกมาป้องกันตัวเหมือนกันแต่ ว่ามือของนางจึงจะล้วงเข้าไปในอกเสื้อก็เห็นเงาด่าตรงหน้า เข้ามานางร้องเสียงดังถูกตีจนล้มลงกับพื้น คนคนนั้นเคลื่อนไหว รวดเร็วมากจับนางแล้วก็พาเข้าไปในหมอกหนานั้นทันทีแทบจะ ไม่เปิดโอกาสให้เสี่ยวหลงที่อยู่ข้างๆได้รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย

ใจของหลินซีนเยียนนิ่งชาขนาดเสี่ยวหลงยังมาขัดขวางไม่ทัน นางตกอยู่ในมือของคนคนนี้เกรงว่าจะอันตรายเป็นอย่างมากแต่ ในเมื่อมันเป็นเช่นนี้นางก็ไม่ได้กลัวจนเผยสีหน้าตื่นตระหนก ตกใจออกมาแต่อย่างใด

“แม่นาง!”เสียงของเสี่ยวหลงดังมาจากหมอกหนาทึบในน้ำ เสียงบ่งบอกถึงความกระวนกระวายและไม่สบายใจ

หลินขึ้นเขียนอยากจะส่งเสียงบอกแต่ว่าปากกลับถูกคนที่อยู่ ด้านหลังปิดไว้เลยได้แต่ฟังเสียงของเสี่ยวหลงที่ไกลออกไปอย่าง จนใจ
หลินขึ้นเขียนทำตาโตคิดจะหันหน้ากลับไปมองให้ชัดๆว่าคน ที่จับนางไว้ตกลงว่าเป็นใครกันแน่แต่ว่าคนคนนั้นแรงเยอะมาก วรยุทธก็เก่งกาจนางไม่มีพื้นที่ให้ขัดขืนเลยแต่ว่ากลิ่นคาวเลือด รุนแรงที่โชยมาจากทางด้านหลังเลยทำให้นางรู้คนที่อยู่ด้านหลัง เกรงว่าจะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

“อย่า อย่าส่งเสียง!”‘คนที่จับนางไว้อยู่ด้านหลังน้ำเสียงแหบ พร่าตอนที่พูดก็หายใจหอบเหนื่อยราวกับเป็นโรคอะไรสักอย่าง

นัยน์ตาหลินซีนเขียนสั่นไหวแล้วก็ผ่อนคลายลงทำให้คนที่อยู่ ด้านหลังเชื่อนางว่าจะไม่ขัดขืนใดๆบนโลกนี้มีคนประเภทหนึ่งที่ น่ากลัวเป็นอย่างยิ่งนั่นก็คือคนที่หมดอาลัยตายอยากจนไม่ สนใจใครใดๆทั้งนั้นแต่นางรู้ว่าตอนนี้ที่จับนางอยู่ก็คือคนนั้นคน เดียว

“บางทีเพราะว่านางเชื่อฟังเลยทำให้คนที่อยู่ด้านหลังจึง พอใจคนคนนั้นหอบหายใจแรงออกมาสองสามที่จากนั้นก็พูด เสียงตากับนางว่า “หาทางออกซะ!”

“อื้อ”หลินซีนเยียนลองส่งเสียงออกมาดูบ่งบอกว่าตนเอง อยากจะพูดอะไรบางอย่าง

“คนคนนั้นลังเลอยู่สักพักแล้วถึงจะปล่อยมือที่ปิดปากนางออก แล้วพูดขึ้นอีกว่า “ห้าม ห้ามหันมามองไม่งั้นฆ่าเจ้าทันทีแน่”

นายใหญ่ทรงแม้ว่าข้าจะไม่หันไปมองข้าก็รู้ว่าเป็นเจ้า”หลิน ซีนเขียนพูดนิ่งๆ

พอนางพูดแบบนี้คนที่จับตัวนางไว้ที่ตัวแข็งที่ออึ้งไปพักหนึ่งหรงเก็พูดขึ้น “เจ้า เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นข้า?” ในเมื่อตอนนี้เสียง ของเขาแหบพร่าไม่เหมือนกับเสียงเมื่อก่อนหน้านี้

“คนที่สามารถเข้ามาในถ้ำแห่งนี้ได้ก็มีแต่พวกเราแล้วในพวก เราคนที่ได้รับบาดเจ็บแถมยังเป็นโรคปอดจนถึงตอนนี้ข้าก็เห็นมี แต่เจ้าคนเดียว”

“โรคปอด?”ทรงเย่รู้สึกไม่คุ้นชินกับคำที่นางพูดออกมาแต่ว่า ก็พอจะเข้าใจความหมายได้”เจ้านี่ฉลาดจริงๆข้าดูถูกเจ้าเกินไป หน่อย”

แต่น่าเสียดายตอนนี้เขารู้สึกเสียใจช้าไปถ้ารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ เจ้าเล่ห์เสียยิ่งกว่าหมาจิ้งจอกเขาคงจะไม่มีทางวางใจเชื่อในคำ พูดของนางง่ายๆ

“นายใหญ่ทรงถ้าที่นี่ไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะก็มีเพียงทางที่เข้า มาเท่านั้นทางเข้าและทางออกมีแค่ทางนั้นทางเดียวจริงๆหากว่า เจ้าอยากจะออกไปจริงๆไม่จำเป็นต้องจับตัวข้าหรอกเจ้าหา ทางออกแล้วออกไปบางทียังจะต่อชีวิตตัวเองไว้ได้หากว่าจับตัว ข้าไปด้วยกันก็จะถูกตระกูลหลมาขัดขวางเรื่องจะยุ่งยากขึ้นไป อีก โอกาสที่เจ้าจะหนีออกไปได้ก็จะยิ่งน้อยลง”หลินซีนเยียนลอง พูดเกลี้ยกล่อมเขาถึงจะรู้ว่าโอกาสที่จะเกลี้ยกล่อมเขาได้มีไม่ มากแต่ว่าก็ยังถ่วงเวลาไว้ได้บ้าง

“ทรงเย่หัวเราะเหอะ”ทางเข้าและทางออกใช้ทางเดียวกัน เจ้า หลอกใครกัน? หากว่าทางเข้าและทางออกเป็นทางเดียวกันจริง หลังจากที่พวกเจ้าเข้ามาที่นี่แล้ว ข้าก็กำลังหาโอกาสออกไปพอดี แต่ว่าเจ้าทายสิว่าเป็นยังไงเมื่อตอนที่พวกเจ้าสัมผัสกับ กลไกตอนที่สั่นไหวหมอกหนาทึบสระน้ำเย็นนั่นก็หายไปแล้ว

หายไปแล้ว?”หลินขึ้นเขียนตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อเหมือน กับกำลังคำนวณความเป็นจริงจากคำพูดของเขา

“ใช่หายไปแล้วมาถึงตอนนี้เจ้าก็ยังจะแกล้งทำเป็นเสแสร้งอีก สนุกมากไง? “ตอนนี้ทรงเย่ไม่กล้าเชื่อในคำพูดของหลินซืน เขียนอีกแล้ว

“เจออะไรแล้วรึยัง?” ทรงเยถาม

“หลินซีนเยียนคิ้วขมวดแล้วส่ายหน้าพูดอย่างอื่นๆ บอกได้ แค่ว่าถ้ำแห่งนี้กับอุโมงค์ก่อนหน้านี้เหมือนกันบางทีอาจจะเป็น ช่องว่างทีพลิกกลับ แต่ว่าก็ยังไม่แน่ใจได้แต่ต้องลองเดินไปทีละ ก้าวแล้วล่ะ”

“เดินไปทีละก้าว?”ทรงเย่ได้ฟังดังนั้นก็ตะคอกเสียงออกมา ทันที”ตอนนี้มีเวลามาเดินไปทีละก้าวกับเจ้าเสียที่ไหน?เจ้าไม่รู้ สึกว่าที่นี่มันยิ่งกดดันขึ้นเรื่อยๆ จนหายใจแทบจะไม่ออกแล้วไง? ถ้ายังหาทางออกไม่เจอพวกเราก็คงต้องตายอยู่ที่นี่แล้วล่ะ!”

พอทรงเย่เตือนขึ้นมาแบบนี้หลินซีนเยียนก็พบว่าอากาศของที่ นี่มีน้อยกว่าก่อนหน้าจริงๆแม้แต่นางยังรู้สึกหายใจไม่สะดวก

กบในหม้อต้มก็เหมือนกับภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ ทําให้คนค่อยๆอ่อนแอลงอย่างไม่รู้ตัวแล้วก็ตายลงไป ดังนั้นนางเลยมั่นใจเกี่ยวกับความคิดที่ว่าช่องว่างพลิกกลับตอนนี้ถ้ำแห่งนี้น่าจะเป็นช่องว่างที่ปิดมิด ถ้าหากว่าหาทางออก ไม่เจอเช่นนั้นพวกเขาก็คงจะต้องตายอยู่ที่นี่ทั้งหมดจริงๆ?

พวกเรากลับไปยังกลางตรงก้อนหินผันกันเถอะในเมื่อ กลไกเคลื่อนไหวมาจากตรงนั้นก็คงต้องลงมือจากตรงนั้นนั่น แหละ”หลินขึ้นเขียนหอบหายใจพูดเสียงต่ำ

ทรงเปรีบร้อนมากเพราะว่าตอนเด็กๆเขาฝึกวรยุทธ ในลานน้ำ แข็งเป็นเวลานานมีครั้งหนึ่งบาดเจ็บถึงพลังลมปราณอย่างไม่ คาดคิดตั้งแต่นั้นมาก็เป็นโรคติดตัวเขายามปกติก็ไม่เป็นไรแต่ พออาการกำเริบก็จะอันตรายหายใจไม่ออกเหมือนดั่งตอนนี้ดัง นั้นเขาเลยรีบร้อนมากกว่าหลินขึ้นเขียน

หลินซ๊นเขียนพูดออกมาแบบนี้แล้วเขาก็ผลักนางให้เดินไป ทางก้อนหินผัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ