ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่159ก่อเรื่องขึ้นอีกแล้ว



ตอนที่159ก่อเรื่องขึ้นอีกแล้ว

ลูกน้องของหมิงฉีเห็นเธอนั่งอยู่ในลานบ้านคล้ายกับว่า

เดาความคิดของเธอออกจึงเดินเข้ามาหา”นี้ก็ดึกแล้วแม่ นางหิวงั้นหรือ?เหล่าพี่น้องกำลังกินข้าวอยู่หน้าโรงเตี๊ยมแม่ นางอยากไปกินด้วยหรือจะรอให้คนนำไปส่งในห้องดี?” “ข้าจะไปกินกับพวกเจ้า!”ว่ากันตามเหตุผลแล้วเธอควร จะเก็บเนื้อเก็บตัวบ้างแต่ในช่วงเวลาแบบนี้เธอไม่สนอะไร

บ้างนี้หรอกกลับรู้สึกว่าคำพูดของเขาคือการช่วยชีวิตจึง

ลุกขึ้นแล้วเดินตามไปยังห้องโถงด้านหน้า

กลุ่มของพวกเขามีเพียง7-8คนอีก2คนไปยืนเฝ้าอยู่ใน ลานบ้านส่วนคนอื่นๆก็มานั่งทานข้าวอยู่ด้านหน้าของ โรงเตี้ยม

เมื่อหลินซีนเยียนเดินมาพวกเขาต่างก็มองจนรู้สึก กระอักกระอ่วนกัน”โย่วเฉินซานไปหาแม่นางผู้นี้มาจากที่ ใดทำไมเห็นว่านายท่านหาสตรีมาเจ้าก็อดกลั้นไม่ได้เลย หรือ?”

คนเหล่านั้นเริ่มพูดกระเซ้าเย้าแหย่คนที่มีนามว่าเฉินซาน เฉินซานจ้องถถึงไปยังคนเหล่านั้น”อย่าพูดเหลวไหลท่านนี้ คือแม่นางหลัว พวกเจ้าเห็นนางอยู่ทุกวันไม่ใช่หรือ?”

“อะไรนะ?”คนเหล้านั้นตกใจจนอ้าปากค้างคนที่เรียกสติ กลับมาเป็นคนแรกยังถึงขนาดกับขยี้ตาของตนเองจากนั้น ก็หน้าแดงระเรื่อ “นี่นี่เรียกว่าผู้หญิงโตขึ้นเปลี่ยนไปสิบแปด แบบเพียงแค่ชำระร่างกายถึงกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนโดยสมบูรณ์แบบเชียว

เฉินซานเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงตกตะลึงกันตอนที่เขา เห็นครั้งแรกก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้หากว่าเขาไม่ได้ยืนเฝ้าอยู่ ในลานบ้านก็ไม่กล้าเชื่อเหมือนกันเขาเห็นหลินซีนเยียนก็ รู้สึกเคอะเขินอยู่ไม่น้อยจึงรีบตะโกนขึ้นว่า “พอแล้วเลิก พูดจาเย้าแหยได้แล้วรีบกินข้าวกันเถิด”

โต๊ะกินข้าวเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมจัตุรัสพวกเขาได้มอบ ตำแหน่งที่นั่งเดี่ยวให้กับหลินซีนเยียนอย่างเอาอกเอาใจ ส่วนคนที่เหลือกลับไปนั่งเบียดเสียดกันอยู่อีกฝั่งเพียงแต่ หลายวันนี้เสบียงอาหารของพวกเขาเป็นหมั่นโถวที่กินจน สะอิดสะเอียนไปข้างแต่พอมาเห็นอาหารรสโอชาหลากสี บนโต๊ะตัวนี้แล้วพวกเขาก็อยากจะลงมือกินกันอย่าง มูมมามทันทีแต่เพราะว่าหลินซีนเยียนนั่งอยู่ด้วยพวกเขาจึง อัดอั้นเอาไว้พยายามไม่ทำให้น้ำลายของตนเองไหล กระเด็นลงมาโดนอาหาร

หลินซีนเยียนเดิมก็ไม่ใช่คนเรื่องมากดังนั้นจึงคืบอาหาร มาใส่ในจานแล้วเริ่มกินเธอก็หิวจริงๆแหละไม่ยากเลยที่จะ ได้ทานอาหารรสเลิศมื้อหนึ่งและก็ไม่ต้องสงวนท่าทีแบบ พวกคุณหนูเหล่านั้น

เมื่อได้ร่วมรับประทานอาหารกับเหล่าชายฉกรรจ์พวกนี้ก็ เริ่มรู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาบ้างพวกเขาไม่ทำเหมือนว่าเธอเป็น หญิงอื่นที่สวยหยาดเยิ้มแต่ทำให้รู้สึกว่าเข้ากันได้ดีมาก

หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จพวกเขาต่างก็ไปทำ หน้าที่ของตนเองเหลือเพียงหลินซีนเยียนที่ยืนอยู่หน้าประตูลานบ้านอย่างเก้ๆกังๆเห็นว่าประตูห้องของหมิงฉียัง คงปิดสนิทอยู่แม้ว่าเธอจะยืนอยู่ไกลๆก็สามารถได้ยิน เสียงครวญครางอย่างแผ่วเบาแว่วมาจากในห้องเห็นได้ชัด ว่าทั้งสองคนกำลังทำศึกหนักกันอยู่ในห้อง

มุมปากของเธอกระตุกขึ้นจากนั้นก็รีบถอยหลังเดินจาก ไปพอดีพบเข้ากับเฉินซานที่กำลังเดินไปด้านนอกโรงเตี๊ยม เธอจึงรีบเดินตามไป“เฉินซานเจ้าจะออกไปหรือ?”

เฉินซานพยักหน้า”ต้องออกไปซื้อของเพื่อใช้ในระหว่าง ทางทำไมหรือแม่นางก็อยากออกไปด้วยหรือ?”

หลินซีนเยียนลังเลอยู่สักพักก็พยักหน้า”ข้ามาที่ชายแดน เป็นครั้งแรกดังนั้นจึงอยากลองเปิดหูเปิดตาสักหน่อย”

“เช่นนั้นก็ดีข้าถือโอกาสพาเจ้าไปเล่นเดินด้วยซะเลยแต่ ที่นี่มีคนดีและคนเลวอยู่ปะปนกันอีกเดี่ยวเจ้าต้องอยู่เดิน ตามติดข้าที่นี่เป็นสถานที่ของแคว้นหนานเยว่พวกข้าไม่ อยากจะเป็นที่ดึงดูดสายตาคนดังนั้นพยายามอย่าก่อเรื่อง โดยเด็ดขาดเข้าใจหรือไม่?”เฉินซานกำชับเธอแล้วเดินนำ เธอไปข้างนอก

หน้าประตูโรงเตี้ยมก็มีร้านริมทางขายผ้าพันคออยู่2ร้าน ในขณะที่พ่อค้ากำลังเก็บของอยู่หลินซึนเยียนก็รีบวิ่งไป ซื้อผ้าพันคอมา1 ผืนจากนั้นก็ใช้ผ้าพันคอคลุมปิดใบหน้า เพียงครั้งหนึ่งเหลือเพียงดวงตาสองคู่”เจ้าว่าแบบนี้ดีแล้ว หรือยังขอบใจพี่เฉินซานที่เตือนข้าจะคอยระมัดระวัง”

คำว่าพี่เฉินซาน ‘ทำให้เฉินซานรู้สึกอ่อนระทวยรวยแรง ไม่มีอะไรอยากจะกล่าวขึ้นมาอีกเพียงพาเธอเดินไปยังบนถนนที่ครึกครื้น

เนื่องจากที่นี่มีคนดีและคนเลวอยู่ปะปนกันดังนั้นในยาม ค่ำคืนกลับครึกครื้นมากว่าเมืองอื่นๆตลอดทางไม่มีแต่มี ของกินเล่นที่หลากหลายแต่ยังมีการแสดงปาที่ในหลายรูป แบบอีกด้วยเฉินซานไม่รีบร้อนเท่าไรจึงพาหลินซีนเยียน เดินซื้อของไปตลอดทาง

เดิมหลินซีนเยียนไม่ได้อยากออกมาเดินเล่นเท่าไรนัก เพียงแค่อยากจะหลบเลี่ยงที่จะพบเจอในด้านแปลกๆของ หมิงฉีเท่านั้นดังนั้นตลอดทางมานี้เธอก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร เพียงเดินไปเรื่อยๆกับเฉินซาน

“แม่นางเหนื่อยแล้วหรือไม่?ด้านหน้ามีโรงน้ำชาอยู่อยาก ไปดื่มชาที่นั่นหรือไม่?”เฉินซานถือของพะรุงพะรังแล้วเอ่ย ถามเธออย่างเอาใจใส่

“ได้สิ”หลินซีนเยียนขานรับแล้วช่วยเฉินซานถือของที่ไม่ หนักมาก2-3อย่าง

ยิ่งมืดกิจการในโรงน้ำชานี้กลับยิ่งดีในห้องโถงล้วนมีคน

นั่งอยู่ไม่น้อยทั้งสองคนเดินตามเสี่ยวเอ้อไปนั่งที่โต๊ะว่าง โต๊ะหนึ่งเฉินซานสั่งชาถ้วยหนึ่งแต่หลินซีนเยียนเพียงสั่งน้ำ ร้อนถ้วยหนึ่งตอนที่เสี่ยวเอ้อได้เธอสั่งกลับชักสีหน้าอย่าง ไม่พอใจ

“แม่นางหลัวไม่ดื่มชาหรือ?”คนที่ไม่ดื่มชาในวัฒนธรรม ดื่มชาที่ลึกซึ้งแบบนี้หาได้ยากยิ่ง

หลินซีนเยียนยิ้มเจื่อนๆ “โดยปกติก็ดื่มแต่ช่วงนี้ร่างกายไม่ค่อยดีดังนั้นจึงไม่ดื่ม”

“อ้อที่แท้ก็เป็นเช่นนี้จริงสิแม่นางหลัวไปอาณาจักรเป่ยห มิงเพื่อหาญาติหรือ?” ในขณะที่รอเสี่ยวเอ้อยกชามาเฉิน ซานจึงหาเรื่องคุยเรื่อยเปื่อยกับหลินซีนเยียน

“จะว่าไปเรื่องมันยาวหลายวันก่อนนี้ครอบครัวได้ประสบ ภัยครั้งใหญ่ดังนั้นจึงอยากบากหน้าไปขออาศัยญาติไกลๆ ที่เมืองลั่วเฉิงแต่ไม่รู้ว่าจะหาเจอหรือไม่ถึงยังไงก็ไม่ได้เจอ หน้ากันมาหลายปีแล้ว”หลินซีนเยียนกุเรื่องขึ้นมาโดยที่ไม่ แสดงอาการแต่อย่างใด

ไม่นานเสี่ยวเอ้อก็ได้ยกชาวางตรงหน้าเฉินซานถ้วยหนึ่ง แล้ววางน้ำร้อนตรงหน้าหลินซีนเยียนถ้วยหนึ่งแม้จะคำพูด เรียกเชิญแขนก็ไม่ทันเอ่ยหันหลังแล้วเดินจากไป

หลินซีนเยียนรู้สึกกระหายน้ำอย่างมากอยากจะดื่มน้ำสัก หน่อยก่อนที่จะเปิดผ้าคลุมหน้าเธอก็มองดูซ้ายขวาโชคดี บริเวณโต๊ะนั่งแถวนี้มีคนอยู่ไม่มากดังนั้นเธอจึงนำผ้าปิด หน้าออกแล้ววางลงที่ด้านข้างจากนั้นก็ยกถ้วยน้ำดื่มอย่าง ละเมียดละไม

เฉินซานมองเธออย่างตะลึงอดไม่ได้ที่จะเขินหน้า แดง”แม่นางหลัวเจ้ามีรูปโฉมงดงามยิ่งเป็นสตรีที่งดงาม ที่สุดที่ข้าเคยพบเห็นมาเอ่อ….อย่าเข้าใจผิดข้าไม่ได้มี เจตนาอื่นแอบแฝง”

หลินซีนเยียนยิ้มขึ้น”ไม่เป็นไรข้าเข้าใจ”เป็นเพราะว่า ใบหน้านี้ของเธอ เธอถึงได้เข้าตาโม่จื่อเฟิงทุกคนล้วนมี หัวใจเพื่อหญิงงามโม่จื่อเฟิงบอกว่าชื่นชอบร่างกายของเธอแน่นอนว่าต้องพึงพอใจใบหน้าของเธอก่อนแต่ตอนที่ ปรนเปรอคนด้วยความใคร่ในใจของเธอกลับเศร้าโศกมาก เพียงใด?

ทั้งสองดื่มชาไปสักพักนั่งพักผ่อนไปสักหน่อยก็เตรียม จ่ายเงินแล้วจะจากไป

หลินซีนเยียนเพิ่งจะนำผ้ามาคลุมหน้าอีกครั้งก็มีชาย ฉกรรจ์5-6คนเดินลงมาจากชั้นสามในบรรยากาศเช่นนี้ ชายฉกรรจ์เหล่านี้สวมชุดแขนสั้นราวกับไม่กลัวหนาวเผย ให้เห็นรอยสักสีเขียวบนแขนเพียงมองแวบหนึ่งก็รู้โดย ทันทีว่าคนพวกคนเลว

“สาวน้อยอย่าเพิ่งรีบไปเลยพี่ใหญ่ของข้าชื่นชอบเจ้าไป ร่วมเสพสุขกับพี่ใหญ่ของพวกเราสักคืนเถิด”ชายที่เดินนำ มาหัวเราะขึ้นพลางเดินมาขวางหน้าหลินซีนเยียนกับเฉิน ซาน

กล้าฉุดผู้หญิงอย่างโจ่งครึ่มได้ขนาดนี้มีเพียงเมือง ชายแดนที่คลุกคลีไปด้วยคนจัญไรเท่านั้นที่เกิดขึ้นได้ หลินซีนเยียนเพียงมาอยากดื่มชาสบายๆแต่ด้นมาพบเจอ เรื่องแบบนี้เธอมองไปที่เฉินซานอย่างรู้สึกผิดก่อนที่มาข้าง นอกเขาก็ได้กำชับเธอแล้วว่าอย่าก่อเรื่องคิดไม่ถึงว่าตอนนี้ เธอกลับเพิ่มเรื่องวุ่นวายให้กับเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ