ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่428 หรงอวิ๋น



ตอนที่428 หรงอวิ๋น

เพราะเสียงโม่จื่อเฟิงดังมาก ฉะนั้นเสียงพูดของเขาก็เข้าหูพวก · คนในห้องโถงทันทีคนพวกนั้นสีหน้า เปลี่ยนขณะเดียวกันมองไปทางชายผู้ นั้นที่อยู่ด้านใน

ชายผู้นั้นคือนายน้อยของตระกูล หรงหรงอวิ๋นตอนนี้สีหน้าเขาท่าทาง จะเขียวไม่พอเขาปรบมือบนลูกกรง หน้าต่างหน้าต่างกลายเป็นผงแป้ง ทันทีผงแป้งเทฟุ้งลงมาสาดใส่บนหัว โม่จื่อเฟิง

หนีหว่านขมวดคิ้วดึงผ้าเช็ดหน้า โยนออกไปใช้ผ้าเช็ดหน้านพร้อมวร ยุทธหมุนวนอยู่ตรงกลางลอยอยู่ เหนือหัวโม่จื่อเฟิงสกัดกั้นฝุ่นละออง ให้ออกไปไม่ให้โม่จื่อเฟิงเข้าตาจนถูก ฝุ่นแป้งแปดเปื้อน

“โอ้นางผู้หญิงเก่งกาจนักมองไม่ ออกจริงๆนางตัวแสบที่อยู่ข้างๆจะเก่ง ขนาดนี้”ชายผู้หนึ่งในห้องโถงพูดเหล่ ตาไปทางหรงอวิ๋น

หรงอวิ๋นก็ตะลึงถึงมามอง ประมาณหนีหว่านที่ติดตามอยู่ด้าน หลังโม่จื่อเฟิงอย่างละเอียดดวงตานี้ กลับทำให้เขาตะลึงในความงามของ หญิงสาวเดิมทีหนีหว่านงดงามเพริศ พริ้งยิ่งนักผนวกกับท่าทางและสีหน้า เย็นชาลึกลับชวนเสน่ห์ยิ่งดึงดูด สายตาคนรอบข้างได้ง่าย หนีหว่านเพ่งเล็งไปบนตึกแหงน หน้ามองจ้องหรงอวิ๋นไม่กระพริบหลัง จากนั้นฮึดฮัดไม่พอใจเอื้อมมือไปคว้า ผ้าเช็ดหน้าที่กำลังล่องลอยเหนือพื้น ไว้แล้วเก็บผ้าเช็ดหน้าไว้บนหน้าอก อย่างคล่องแคล่ว

“นางไม่กลัวข้า”หรงอวิ๋นกล่าว เช่นนี้ด้วยความคึกคัก

ชายสองคนรอบข้างเขาตะลึง ทันทีพวกเขามองหน้ากันหนึ่งในนั้น จึงพูด“นายน้อยเจ้าไม่ได้จะบอกว่า พวกเราไม่คิดที่เจ้าพูดพวกเราก็คิดว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนกับพวกผู้หญิง คนอื่นๆในตระกูลหรงจริงๆหญิงสาว ที่ไหนบ้างเห็นพวกเราแล้วจะไม่ เหนียมอายแต่นางกลับไม่พอใจยัง กล้าจ้องพวกเราอีกด้วย!”

“นายน้อยนางผู้หญิงนั่นดูถูกพวก เรามากเกินไปแล้วพวกเราแตะต้องไม่ จื่อเฟิงไม่ได้พวกเราไม่กล้าลงมือกับ นางผู้หญิงนั่นรึ?เจ้ารอก่อนข้าจะไป ตัดมือนางทั้งสองข้างออกมาข้าไม่ เชื่อว่าหัวหน้าตระกูลจะลงโทษข้า เพราะนางผู้หญิงคนเดียว!”ชายหนุ่ม กำลังพูดพลางจะกระโดดออกไปนอก หน้าต่าง

แต่พอเขากำลังจะขึ้นก็ถูกหรงอ วึ่นดึงเอาไว้“ช้าก่อน!

ชายหนุ่มคนนั้นสงสัยหันมามอง ทางหรงอวิ๋น“ทำไมนายน้อยหรงมีวิธี ทรมานนางแบบอื่นหรือ?” ดวงตาหรงอวิ๋นแฝงความล้ำลึก มองตรงไปที่ตัวหนีหว่านไม่ละ สายตา”ไม่ข้ารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่า สนใจยิ่งนัก”

“ห่า?”ชายคนนั้นไม่ตอบโต้ตั้งแต่ แรกอย่างไรสุดท้ายก็เป็นบุรุษฉะนั้น ตอนที่หรงอวิ๋นแสดงท่าทางล่าเหยื่อ เขาก็เข้าใจความหมายของทรงอวิ๋น แล้ว

“ที่แท้นายน้อยสนใจนางผู้หญิง คนนั้นสินะก็ดีนางผู้หญิงคนนั้นหน้าตา ไม่เลวรูปร่างก็ดียิ่งนักจับมาทำเป็น เมียต้องดีแน่ๆ”คนหนึ่งกำลังพูด ประโยคนี้คนอื่นๆก็ยิ้มเห็นด้วยขึ้นมา

คําพูดของพวกเขาหนีหว่าน ได้ยินแล้วโม่จื่อเฟิงก็ได้ยินเช่นกันหนี หว่านโกรธแค้นมากแต่แค่จ้องมอง พวกนั้นอย่างเย็นชาจนโม่จื่อเฟิง ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“ไปกันเถิด”โม่จื่อเฟิงเร่ง

“เจ้าค่ะ”หนีหว่านตอบเข็นรถเข็น ไปข้างหน้าต่อไม่มองผู้ชายพวกนั้น อีก

สระน้ำแข็งของตระกูลหรงอยู่ที่ หลังเขาของเมืองเป็นบ่อน้ำร้อน ธรรมชาติที่คงอยู่มาเกือบร้อยปีเดิมที น้ำพุร้อนกลางภูเขาหิมะมีน้อยมาก รวมถึงเป็นบ่อน้ำพุล้อมรอบด้วยน้ำ แข็งนับพันปีอีกดังนั้นการก่อตัวความ ร้อนและความหนาวต่างกันสุดขั้ว กลายเป็นภาพมหัศจรรย์ของ ธรรมชาติสำหรับคนที่ฝึกฝนวรยุทธ บ่อน้ำร้อนเช่นนี้ยิ่งหายากราวกับว่าย ทวนกระแสน้ำ

ที่ตระกูลหรงการมีสระน้ำแข็งอยู่ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากนักและลูก หลานตระกูลหรงล้วนมีโอกาสได้ เข้าไป

ตอนนี้ตระกูลหังกลายเป็นคนแซ่ นอกที่ค้นพบสระน้ำแข็งนี้ฉะนั้นย่อม สร้างความอิจฉาริษยาให้กับผู้คน แม้แต่พวกคนที่เข้ามาปกป้องบริเวณ ปากทางเข้าสระน้ำแข็งก็ยังไม่พอใจ

หนีหว่านเข็นรถเข็นโม่จื่อเฟิงมา ถึงบริเวณปากทางเข้าผู้อาวุโสอันดับ สองหรงเหิงรออยู่ที่นั่นแล้วเห็นทั้ง สองคนนั้นเข้ามาหรงเหิงถาม“พวก เจ้าได้นำหญ้าจื่ออวิ๋นมาด้วยหรือไม่?”

โม่จื่อเฟิงไม่พูดอะไรหนีหว่านก็ กัดริมฝีปากส่ายหน้า

“งั้นเข้าไปตอนนี้ทุกอย่างพัง ทลาย”หรงเหิงถอนหายใจแววตา เสียดายเขาพูดอีก“อยู่ที่สระน้ำแข็ง สามชั่วโมงกระแสเลือดเจ้าอาจจะมี โอกาสฟื้นกลับมาถ้าไม่มีหญ้าจื่ออวิ๋น เจ้าต้องทนเข้ามาที่นี่สามชั่วโมงดู เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ไม่มีใครทน ความเจ็บปวดเมื่อกระแสเลือดทวน กระแสและลมปราณทะลวงจุดชีพจร สำคัญได้ไหวถ้าเจ้ารอดออกมาได้ก็ อาจจะเป็นคนพิการ “ารู้”โม อเฟิงพูดเสียงแผ่วเบา

หรงเหิงเห็นเขายังมุ่งมั่นยืนหยัด มากอดพูดโน้มน้าวไม่ได้“วันนี้เปิดสระ น้ำแข็งให้เจ้าอยู่แล้วเวลานี้ยังเร็วเกิน ไปหรือเจ้ารออีกหน่อยแล้วค่อย เข้าไปยังมีเวลาอยู่ครึ่งวันบางทีอาจจะ พบหญ้าจื่ออวิ๋นนั่นนะ?”

หนีหว่านไม่มองก็แสดงสีหน้า ออกมา“นายท่านคนรับใช้ที่ไปหา หญ้าจื่ออวิ๋นจะกลับมาในตอนบ่านก็ ได้หรือว่า…..พวกเรารออีกหน่อย?”

โม่จื่อเฟิงไม่ตอบเหมือนกำลัง ลังเล

“นายท่านเรื่องสำคัญมากรอมา หลายวันขนาดนั้นแล้วก็คงไม่สนเวลา ครึ่งวันแล้วใช่หรือไม่เจ้าถ้า…..ถ้ามี ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นมาล่ะ?”หนีหว่านพูด อีก“ถ้านายท่านสามารถฟื้นกลับมาปก ติได้คงได้อยู่ร่วมกับพระชายาและ นายน้อยในสักวันหนึ่งเป็นแน่แท้อย่า ยอมแพ้หมดหวังเพราะตัดสินเรื่อง ด้วยอารมณ์นะเจ้าคะยังไม่ถึงจุดจบ สุดท้ายไม่มีใครรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มิใช่หรือเจ้าคะ?”

ผ่านมาหลายปีขนาดนี้โม่จื่อเฟิง ใช้ความคิดตัวเองเป็นใหญ่จนเคยชิน แล้วเคยฟังคำโน้มน้าวคนอื่นด้วยหรือ แต่เวลานี้เขาลังเลจริงๆถึงแม้เขารู้ว่า จะหาหญ้าจื่ออวิ๋นต้นอื่นๆคงเป็นเรื่อง ที่เป็นไปไม่ได้แต่ในใจลึกๆเขายังมี ความหวังที่หนักแน่น ราวกับเป็นคนป่วยโรคร้ายแรงรู้ วิธีแก้ชัดเจนแต่พอมีข่าวว่ามียาบาง อย่างได้ผลดีจนน่าทึ่งเท่านั้นแหละก็ ทุ่มเททรัพย์สินของบ้านเพื่อให้ได้ยา ประหลาดนั้นมาให้ได้มาซึ่งความหวัง ของชีวิตหนึ่ง

“นายท่าน……”หนีหว่านกลืน น้ำลายก็กลัวว่าโม่จื่อเฟิงถือทิฐิมาก เกินไปจนไม่โอนอ่อน

“ได้”

ออกมาเหมือนที่หนีหว่านคาด การณ์ไว้โม่จื่อเฟิงตอบตกลงแล้ว ระหว่างนั้นเขาฝืนยิ้มออกมา “เจ้าคิดว่า ข้าจะไม่ตกลงใช่หรือไม่?คิดว่าข้าใช้ ความคิดตัวเองเป็นใหญ่จนเคยตัวแล้ว จะให้การยอมแพ้ของข้าเป็นเรื่องยิ่ง กว่าขึ้นสวรรค์?แต่หากเทียบกับพวก นางสองแม่ลูกแล้วตำแหน่งอันมี เกียรติและความจงรักภักดีไม่มีความ หมายอะไรเลยจริงๆ

ช่วงเวลานั้นหนีหว่านเข้าใจทุก อย่างจริงนายท่านรับรู้สิ่งที่คิดอยู่ในใจ แล้วบางทีในชีวิตเขาคงไม่มีสตรีที่ สามารถเข้าไปในใจของเขาได้อีกแล้ว

นางคิดว่าตัวเองจะเจ็บปวดจะ อิจฉาริษยาแต่ทว่าตอนนี้นางกลับ อยากร้องไห้มากคิดว่าคนอิจฉาริษยา ขนาดนั้นเพื่อให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ประนีประนอมแล้วนางรักสุดหัวใจ

“เข็นข้ากลับไปเถิดช่วงบ่ายค่อย มา”โม่จื่อเฟิงพูดเสียงเบาด้วยท่าทีไม่ หนักหน่วงใจแม้จะคาดการณ์ได้ว่าถึง ถนนที่เดินทางกลับครั้งนี้จะต้องเผชิญ หน้ากับสายตาที่เหยียดหยามมาก น้อยก็ตามที
198408292_2398423536954884_5573742254497049720_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ