ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่360ใครทำให้เจ็บปวด



ตอนที่360ใครทำให้เจ็บปวด

“ระวังซินเยียน!”โม่จื่อเฟิงตะโกนแต่น่าเสียดาย ห่างกันเกินไปกลางทะเลทรายนั้นเสียงตะโกนของเขา หายไปกับเสียงลมที่ดังขึ้น

นัยน์ตาสีดำที่ดำสนิทของเขาค่อยๆดำมืดลง สายตามองไปยังสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในที่ไกลๆ นัยน์ตาสีดำของเขาดำมืดลงไปครั้งนี้เขาคงต้องจ่ายค่า ตอบแทนแล้วล่ะสายของเขาเริ่มจะดับวูบทั้งร่างของ เขาก็ล้มลงไปกับพื้นเขาพยายามจะพยุงตัวยืนขึ้นมาแต่ สายตามองเห็นของเขาก็มืดมัวไปเรื่อยๆมองไปที่ที่ไกล อีกครั้งก็เห็นแค่ภาพที่เลือนลางเท่านั้น

หลินซีนเยียนไม่เหมือนโม่จื่อเฟิงที่มีศิลปะการต่อสู้ ด้วยระยะห่างที่ไกลนางไม่ได้ยินเสียงที่โม่จื่อเฟิง ตะโกนนางเห็นแค่โม่จื่อเฟิงกระโดดลงมาจากกำแพง เมือง

เซียวยางเอาแน่เอานอนไม่ได้เลย”หลินซีนเยียน พูดด้วยเสียงหวานใสและยิ้มนางคิดว่าโม่จื่อเฟิงรีบร้อน ที่จะได้พบนางแต่ทว่านางยังไม่ได้พูดจบก็รู้สึกถึง หน้าอกของตัวเองเจ็บขึ้น

นางตกใจจนก้มหน้าลงพบว่าหน้าอกของนางโดน ลูกธนูปักอยู่กลางหน้าอก

นางมองลูกธนูที่อยู่บนหน้าอกก็รู้สึกแปลก ประหลาดแต่น่าเสียดายหลินซีนเยียนไม่มีเวลามาตอบ สนองแค่รู้สึกว่ารอบๆข้างมีแต่เสียงเกรียดร้องดังขึ้น เรื่อยๆ

นางรีบลงจากหลังม้าไปอยู่ที่กลางทะเลทรายรู้สึก ว่าทั่วทั้งโลกอยู่ในภาวะวิงเวียนศีรษะ

ไม่รู้มากลุ่มคนชุดดำมาจากไหนทหารหลายสิบคน ล้อมรอบไปด้วยม้าพวกเขาเห็นคนก็จะฆ่าไม่แม้แต่จะ ลังเล

ก่อนเคยเป็นหนึ่งในทหารรบพวกเขาไม่พูดว่าพวก เขาคือศัตรูแต่ก็ไม่ใช่ตัวละครธรรมดาแน่หากอยู่ใน สนามรบก็จะสามารถฆ่าคนได้อย่างเยือกเย็น

แต่ทว่าตอนที่กลุ่มคนเสื้อดำเข้ามานั้นพวกเขาต่อสู้ อย่างออมแรงออมมือเพราะว่ากลุ่มคนเสื้อดำไม่เป็น เพียงแต่นักรบธรรมดาหากมีศิลปะการต่อสู้ที่สูงด้วย ศิลปะการต่อสู้ที่สูงนี้แม้แต่นักรบก็กลายเป็นแม่ทัพด้วย ศิลปะการต่อสู้ที่สูงเช่นนี้ยังมีมาอีกหลายสิบคน

ดังนั้นการต่อสู้ก็จบลงอย่างรวดเร็วเพียงแค่พริบ ตากองทัพมากมายก็ถูกปราบจนหมดสิ้น

น่าจะมีประวัติของกองทัพไม่เคยมีประวัติว่าการ ต่อสู้จะจบเร็วเพียงนี้ดังนั้นทหารมากมายที่ตายไปมีอีก หลายคนที่ตายังคงค้างอยู่ พวกเขาไม่มีใครเชื่อบนโลก นี้ยังมีคนที่สามารถต่อกรกับพวกเขาได้

เซียวผ่านนั้นไร้สิ้นเรี่ยวแรงถูกชายชุดดำคนหนึ่ง จับคอเสื้อขึ้นมาแล้วโยนไปทางข้างๆหลินซีนเยียนเขา รีบกดลูกธนูที่อยู่ตรงอกของหลินซีนเยียนอย่างเต็ม กำลัง ภาพตรงหน้าทำให้เขาตกใจจนพูดไม่ออกสติ ของเขาทั้งตัวกระเจิดกระเจิงไปหมด

ชายสีดำมีดาบอยู่คนหนึ่งน่าจะเป็นผู้นำของกอง ทัพเขาเดินไปหาชายชุดดำที่ถือธนูแล้วตบเข้าให้ นาย ท่านพูดแล้วว่าให้จับเป็นเจ้านี่ก็ดี ยิงธนูเข้าอกนางพอดี หากคนคนนี้ตายแล้วพวกเราเองก็ไม่รอดเป็นแน่

“ข้าแค่ต้องการให้นางลงมาจากม้านึกไม่ถึงว่าอู่ เสวียนอ๋องจะเก่งกว่าที่ข้าคิดแม้จะอยู่ตั้งไกลยัง สามารถทำให้เกิดลมแรงขนาดนั้นมาได้”ชายชุดดำคน นั้นมีสีหน้าที่ตกใจ

ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจจะเล็งไปที่แขนของนางแต่นึก ไม่ถึงว่าโม่จื่อเฟิงที่อยู่บนกำแพงเมืองแม้จะอยู่ห่างกัน ไกลแต่ยังสามารถมองเห็นได้ไม่เพียงแค่มองเห็นแต่ยัง ทำให้เกิดลมแรงอีกด้วยจากตรงนี้ไปกำแพงเมืองก็ห่าง เป็นร้อยฟุตแต่เขาก็ยังเสกลมมาได้ถือเป็นศิลปะการ ต่อสู้ที่น่ากลัวและเยือกเย็น

ชายชุดสีดำที่ถือดาบพอได้ฟังดังนั้น“นึกไม่ถึงว่า เมืองเซียงซีตระกูลโหลงจะมีคนเก่งเยี่ยงนี้แต่น่า เสียดายผู้หญิงคนนี้กลับเป็นลูกสาวของเขาคนนั้นดัง นั้นชีวิตนี้เขาอยู่เมืองเซียงซีหลงก็คงลืมตาอ้าปากไม่ได้ แน่”แม้จะดีสักแค่ไหนก็เป็นได้แค่ตระกูลหลง

“พอแล้วพวกเรารีบพาสองคนนี้หนีไปกันเถอะหาก ชักช้าโม่จื่อเฟิงจะตามทันได้”ชายชุดดำอีกคนใช้พูด ด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

“อืมก็ได้”ชายชุดดำพาหลินซีนเยียนไปทิ้งไว้บน หลังม้าคิดไปคิดมาเขาก็ค้นตัวหลินซีนเยียน ชายชุดดำคนข้างๆมองอย่างสงสัย”เจ้าทำอะไร

อีก”

ชายคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงเย็นแต่ไม่ได้รีบร้อนว่า แล้วหยิบป้ายหยกบนตัวของหลินซีนเยียนขึ้นมาแล้ว เดินไปหาทหารอีกคนแล้วนำป้ายหยกนั้นโยนไปที่ ทหารคนนั้น“เจ้าไม่ได้พูดว่าโม่จื่อเฟิงตามมาจะทำให้ พวกเราวุ่นวายกันหรอกหรืองั้นข้าก็จะทำให้เขาวุ่นวาย เช่นกันแล้วเขาจะไม่มีกะจิตกะใจมาฆ่าพวกเรา”

ตอนที่ชายชุดดำพูดขึ้นก็หยิบขวดยาจากหน้าอก ออกมา เขาหยิบผงที่อยู่ในขวดโรยออกมาที่ตัวของ ทหาร เพียงพริบตาที่พลังออกฤทธิ์ศพที่นอนเรียงรายก็ กลายเป็นควันสีดำแล้วหายไป

ในทะเลทรายนั้นมีเพียงแค่ป้ายหยกหนึ่งอัน

ในเวลานี้เองนักรบชุดดำก็นำตัวหลินซีนเยียนและ เซียวฝานหนีไป

กลางทะเลทรายแห่งนั้นโม่จื่อเฟิงสำลักเป็นเลือด ออกมาทั่วทั้งร่างกายสั่นคลอนแค่มองก็รู้แล้วว่าภายใน ตัวนั้นบาทเจ็บเสียยิ่งกะไรแต่เขาก็กัดฟันแน่นทุกๆก้าว ที่เดินตามรอยของหลินซีนเยียนที่เกิดเรื่องสายตาของ เขามองไปทางที่หลินซีนเยียนจากไป

จินมู่ตามโม่จื่อเฟิงมาก็พบว่าเขาได้รับบาดเจ็บเป็น อย่างมาก“ท่านอ๋อง นี่ท่านฝ่าฝืนคำห้ามอีกแล้วหรือ”

ใบหน้าของจินมู่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด“พิษใน ร่างกายของท่านได้ถูกใช้พลังหนึ่งของพลังห้ามพิษไว้ และคงต้องยังดื่มเลือดของยูนิคอร์นอย่างต่อเนื่องถึง จะไม่ให้พิษนั้นกำเริบจนท่านต้องตายความทุกข์ มากมายท่านก็ได้รับแล้วท่านยังจะฝืนตัวเองอีกหรือ

“หุบปาก!”โม่จื่อเฟิงไม่มีกะจิตกะใจฟังจินมู่พูดใจ ทั้งหมดของเขากลับไปอยู่ที่หลินซีนเยียน“รีบพยุงข้า ไปเร็วข้าไม่สามารถยอมให้นางเป็นอะไรไปได้!ไม่ยอม อย่างเด็ดขาด!

สายตาของจิน อดไม่ได้ที่จะมีน้ำตาออกมาหลาย ปีมานี้จินมู่ไม่เคยเห็นสายตาและความรู้สึกว่ากลัวของ เขา แต่ในเวลานี้แม้กระทั่งจินมู่เองยังดูออกเขากำลัง หวาดกลัวอยู่

“ท่านอ๋องข้าแบกท่านเอง”จินคู่กัดฟัน

หากจะเปลี่ยนเป็นเวลาอื่นคนหยิ่งยโสอย่างโม่ จื่อเฟิงนะหรือจะยอมให้ชายคนอื่นมาแบกตัวเขาเองนั้น คือการดูถูกตัวเขาเองแต่ทว่าเขาลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยัง ยอมให้จินมู่แบกเขา

เพียงแต่ว่าในเวลาที่เขากำลังให้จินมุ่แบกเขาอยู่ นั้นใบหน้าของจินมู่ตกตะลึงเพียงพริบตาจินมู่ก็อดไม่ ได้ที่จะมีน้ำตาไหลออกมา

โม่จื่อเฟิงปืนไปที่หลังของจินมู่เขารับรู้สึกถึงเนื้อตัว

ที่สั่นเทา ชายที่หยิ่งยโสอย่างเขาเพียงแค่หวาดกลัวขึ้นมาก ลับทําให้คนรู้สึกเจ็บปวดเพียงนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ