ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่ 394 ตกสู่เงื้อมมือปีศาจ



ตอนที่ 394 ตกสู่เงื้อมมือปีศาจ

นางเพิ่งขยับ สีหน้าของฉินชิงเฟิ งก็เคร่งขรึมลง

“ผู้ว่าฉิน ในเมื่อเป็นสหายกัน ท่าน…ไม่อาจจํากัดอิสระมนุษยชน ของข้ากระมัง” นางกะพริบตาปริบ ถามอย่างแสร้งไร้เดียงสา

ฉินชิงเฟิงยิ้มกระตุกมุมปาก ยิ่ง ทำให้คนคาดเดาไม่ได้เรื่อยๆ เขาจ้อง นางตาไม่กะพริบ “แม่นางซีนเยียน ช่างทําให้ข้าแชฉินนับถือจริงๆ”

“เชนนั้นความหมายของผู้ว่าฉัน คือ…” หลินซีนเยียนยืนอยู่เบื้องหน้า ฉินชิงเฟิง ถามหยั่งเชิง ฉินชิงเฟิงเอนพิงพนักเก้าอี้อย่าง เกียจคร้าน หลังจากจิบชาหนึ่งอีกแล้ว จึงเอ่ย “แม่นางหลิน จากประเทศ หนานเยวมายังแดนเหนือแคว้นหมัน ไม่ไกลกว่าหมื่นลี้ ต้องไม่ใช่มาเพื่อ ชมวิวทิวทัศน์หรอกกระมัง ถึงแม้ไม่ ใคร่รู้ว่าแม่นางหลินต้องการทำสิ่งใด กันแน่ แต่ว่าในเมืองชวนแห่งนี้ ข้าแซ่ ฉินยังพอมีอิทธิพลอยู่บ้าง เผื่อว่า สามารถช่วยเหลือธุระปะปังได้ก็ไม่แน่ เจ้าแน่ใจว่าจะเขี่ยข้าออกนอกประตูรี”

ในจุดนี้ หลินซีนยียนกลับไม่ได้ ปฏิเสธ หากว่าสามารถใช้อำนาจของ ฉินชิงเฟิงมาช่วยเสาะหาที่อยู่ของอี้ เซิงได้ ย่อมง่ายหลายเท่าตัวเชียว เพียงแต่… “ข้าไม่ได้นึกอยากเขี่ยท่านออก นอกประตู เพียงแต่ข้าไม่มีสิ่งของ ทัดเทียมสมราคามาแลกเปลี่ยนกับ ใต้เท้าผู้ว่าก็เท่านั้น ในเมื่อข้าไม่อาจ ตอบแทนน้ำใจของผู้ว่าฉินได้ ข้าเองก็ ไม่กล้ารับความประสงค์ดีจากผู้ว่าฉิน”

“ข้าบอกแล้ว เพียงแค่อยากผูก มิตรกับเจ้าเท่านั้นเอง” ฉินชิงเฟิงเห็น อากัปกิริยาเฉียบขาดของนาง สีหน้า ยิ่งเย็นขึ้นแล้ว

มีคนประเภทหนึ่ง ได้คุ้นเคยกับ การอยู่ตำแหน่งสูงชี้นิ้วออกคำสั่งแล้ว เมื่อมีคนคัดค้านเจตจำนงของเขาก็ ทำให้เขาไม่สามารถยอมรับความผิด ปกติที่ครอบงำการพิชิตชัยจำพวกนี้ ได้เลย ดังนั้น ขณะที่หลินซีนเยียนยิ่ง คัดค้านอย่างรุนแรง ยิ่งเป็นการไม่เห็น ฉินชิงเฟิงอยู่ในสายตา เขายิ่งไม่อาจ ปล่อยนางไปอย่างง่ายดาย

“หากว่านี่เป็นวิถีที่ผู้ว่าฉินปฏิบัติ ต่อแขก เช่นนั้นข้าคงพูดได้เพียง เส้น ทางของพวกเราไม่ตรงกัน ไม่มีจุด หมายเดียวกัน” หลินซีนเยียนทอด ถอนใจยาว นางไม่ทราบว่านางไม่อาจ กระตุ้นอำนาจของคนชั้นสูงจำพวกนี้ ได้ แต่ว่า มีบางสิ่ง นางจ่ายออกไปไม่ ได้โดยแท้ ชื่อเสียงของว่าฉันคนนี้ กะล่อนระบือไกล นางไม่เต็มใจแสร้ง ยอมรับและทำตามข้อเสนอกับเขาใน ยามนี้

“เส้นทางที่ไม่ตรงกัน ไม่มีจุด หมายเดียวกัน… ” ฉินชิงเฟิงทอดถอน ใจ “แม่นางในเมืองชวนแห่งนี้ ไม่มีสัก คนที่ไม่อยากได้รับความโปรดปราน จากข้า กลับมาพบเจอเจ้าที่เป็นเช่นนี้ แต่ว่าจะทำอย่างไร เจ้ายิ่งปฏิเสธข้า ข้ากลับยิ่งอยากได้เจ้า!

ขณะที่ฉินชิงเฟิงกล่าวประโยคนี้ ออกมา หลินซีนเยียนเลิกตาโพลง ใน ที่สุดเขาก็พูดออกมาแล้ว นางอด กระตุกยิ้มเย็นมุมปากไม่ได้ ผู้ชาย ที่แท้ต่างก็เป็นมนุษย์ที่ใช้กระบวน ความคิดทางราคะมาพิจารณาปัญหา โม่จื่อเฟิงแรกเริ่มก็เป็นเช่นนี้ คุณชาย น้อยตระกูลหลิงคนนั้นก็เป็นเช่นนี้ ตอนนี้ ใต้เท้าผู้ว่าฉินผู้นี้ก็ไม่พ้นอิหรอ บนี้อีก นางอดยกมือขึ้นแช่มช้าไม่ได้ ลูบไล้ใบหน้าของตนเอง ราวกับตัดสิน ใจแน่วแน่ได้แล้วครึ่งหนึ่ง นางหยิบ ถ้วยชาบนโต๊ะขว้างลงบนพื้น

ฉินชิงเฟิงยังไม่ทันเข้าใจว่านาง คิดจะทำอะไรกันแน่ หลินซีนเยียน กลับหยิบเศษถ้วยชาที่แตกบนพื้นขึ้น มากรีดหน้าตัวเอง “ดูท่าผู้ว่าฉันเองก็ ตองตาใบหน้านี้ของข้า ไม่เป็นไร ท่าน ชอบ ข้าทำลายแล้วยังจะไม่ได้เชียว หรือ”

อย่างไรเสียก็เดินบนทางแปลก แยกกับโม่จื่อเฟิงแล้ว ชั่วชีวิตนี้ ก้นบึ้ง หัวใจของนางเกรงว่าไม่อาจอยู่กับคน อื่นได้อีกแล้ว หัวใจตายลงแล้ว ต้องการผิวหนังห่อหุ้มนี้มาใช้ ประโยชน์อันใด มีแต่เพิ่มปัญหาให้ ตนเองวุ่นวายก็เท่านั้น

“โง่เขลา !” ฉินชิงเฟิงราวกับไม่ได้ คาดหมายว่าการตอบสนองของนาง จะรุนแรงเพียงนี้ แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วก็ มีศักดิ์เป็นแม่ทัพ ดังนั้นระดับปฏิกิริยา ตอบสองจึงเร็วมาก มือเดียวก็สามารถ คว้าหมับข้อมือของหลินซีนเยียนไว้ ได้ ออกแรงครั้งเดียว ก็ทำให้นางเจ็บ เสียจนปล่อยเศษแก้วชาลง

หลินซีนเยียนสบตาเข้าตรงๆ “ท่านขวางครั้งนี้ไว้ได้ จะสามารถขัด ขวางทุกครั้งหลังจากนี้ได้หรือไม่?”

ฉินชงเฟิงยังคงกัดฟันแน่น แวว ตาบันดาลเพลิงโทสะลุกโชน “ข้า จำเป็นต้องขัดขวางทุกครั้งหลังจากนี้ หรือ ข้าแค่อยากบอกเจ้าหนึ่งประโยค เท่านั้น เจ้าสามารถทำลายใบหน้าของ เจ้าได้ แต่ว่าสิ่งที่ข้าต้องการกลับ ไม่ใช่หน้าของเจ้า แต่เป็นร่างกายของ เจ้า มีทางเดียว เจ้าต้องทำลาย ร่างกายของตัวเองให้มลายสิ้นลง! แต่ ว่าเจ้าต้องพินิจให้แจ่มแจ้ง เพื่อคนๆ เดียวอย่างข้า ทำลายร่างกายของ ตนเอง คุ้มหรือ ไอ้เรื่องทำร้าย ร่างกายตัวเองพรรค์นี้ ข้าไม่ได้แยแส เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกอย่าง…

เขาเอ่ยพลางจงใจประชิดเป่าลม ใส่ใบหูของหลินซีนเยียน พลางกล่าว เชื่องช้า “ก็ต่อให้ร่างกายของเจ้าพัง หมดแล้ว ขอเพียงส่วนนั้นยังไม่พัง ข้า ก็ยังต้องการเจ้าอยู่ เจ้าเชื่อหรือไม่”

เชื่อหรือไม่

หลินซีนเยียนไม่เคยคิดเลยสักนิด ว่าคนๆ นี้จะไร้ยางอายได้ถึงขั้นนี้! ที่แท้เขาสามารถพ่นคำพูดน่ารังเกียจ อย่างนี้ออกมาได้จริงๆ !

ฉินชิงเฟิงปล่อยข้อมือนางในฉับ พลัน กล่าวยิ้มเย็น “ข้าคนแซ่ฉินแต่ ไหนแต่ไรมาก็มิใช่ปัญญาชนคนเที่ยง ธรรม ข้าพูดจริงทำจริง หากเจ้าอยาก ลองทำร้ายตัวเองดูสักตั้ง เช่นนั้น จุดจบข้ารับประกันได้ว่ามันจะเหี้ยม กว่าเจ้าในตอนนี้สิบเท่า”

เขากล่าวประโยคนี้จบ ก็เดินไปที่ ข้างประตูโดยไม่พูดไม่จา ดึงเปิด ประตู ชกประตูด้านนอกสามครั้ง ไม่ นานก็มีบ่าวขึ้นมา บ่าวคนนั้นประชิดหู เขากล่าวสองสามประโยค จากนั้นก็ ถอยออกไป

ฉินชิงเฟืงกระตุกยิ้มมุมปาก หูตา ยิ่งแพรวพราวขึ้นแล้ว เขาหมุนกายส่ง สัญญาณมือหนึ่งครั้งให้หลินซีนเยียน “ใช่แล้ว เด็กสาวที่เจ้าเพิ่งรับซื้อมาก ลับไม่ได้มีอารมณ์ดุร้ายขนาดเจ้า ราวกับว่านางชื่นชอบอยากผูกมิตรกับ คนแซ่ฉินเป็นอย่างมาก ได้ตาม องครักษ์ข้างกายคนแซ่ฉินไปที่จวนผู้ ว่าเรียบร้อยแล้ว

“ท่าน! ท่านลากนางไป! ” หลินซีน เยียนกำหมัดแน่น ที่แท้ก็เป็นอย่างที่ นางคาดการณ์ไม่ไม่มีผิด สิ่งที่คนพวก นี้ทำเป็นการปล้นกันชัดๆ!

ฉินชิงเฟิงส่ายหน้า “ไม่ คนของ ข้าไม่ได้บังคับนาง เจ้าคงไม่คิดว่ายาย แก่คนนั้นพยายามสุดความสามารถ เพื่อให้นางเข้าสู่จวนอ๋องเพียงเพราะ ให้นางมีข้าวกินสักคำจริงๆ หรอก กระมัง ดังนั้น นางกลับไปจวนผู้ว่า อย่างร่าเริงเชียว”

หลินซีนเยียนเคร่งขรึม อันที่จริง ในอกของนางสามารถแยกแยะได้กี่ มากน้อย เพียงแต่ ตอนที่นางช่วยเด็ก สาวคนนั้นเอาไว้ นางคิดว่าได้ เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของเด็กสาวได้ แล้ว ใครจะรู้ ชะตานี้ ที่แท้เด็กสาวคน นั้นเป็นฝ่ายเลือกเอง นางยังคิดว่า เด็ก สาวคนนั้นถูกบีบบังคับเสียอีก “ เช่นนั้นให้นางไปก็ดีแล้ว ข้าไม่ เต็มใจไป” หลินซีนเยียนเอ่ยเย็นเยียบ

ฉินชิงเฟิงแค่นเสียงเบา พลันอื่น มือไปบีบคางของนางเอาไว้ “ข้อนี้เจ้า ตัดสินเองไม่ได้

กล่าวประโยคนี้จบ ฉินชิงเฟิง ยกมือขึ้น ชำเลืองมองแช่มช้า แต่ ความเป็นจริงเขากดหลังลำคอของ นางอย่างว่องไว ก็ไม่รู้ว่าเขากดจุด อะไร หลินซีนเยียนรู้สึกเพียงเบื้อง หน้ามืดสนิทและสลบไป

“ข้าได้สุภาพกับเจ้ามากพอแล้ว หากเจ้าฟังคำอย่างว่าง่ายคงดี จากอา กัปกิริยินี้ของเจ้า ข้าคงจะโปรดปราน เจ้ามาก แต่ว่า เจ้าอย่าบังคับข้าต้องให้ ใช้กำลัง” ฉินชิงเฟิงส่ายหน้าอย่าง ช่วยไม่ได้ รับหลินซีนเยียนที่ ปวกเปียกเอาไว้

ไม่นานก็มียายแก่สองคนขึ้นมา บนชั้นสอง ภายใต้คำสั่งของฉินชิงเฟิง ทั้งสองไปพยุงหลินซีนเยียนไว้ทั้ง ซ้ายขวา

“ไปส่งยังห้องลับพิเศษในจวน โรงชาของข้า” ฉินชิงเฟิงกล่าวบัญชา

ยายแก่สองคนรับคำ พยุงหลิน ซีนเยียนเดินไปทางด้านหลังสวน

หลังจากรอให้ไม่กี่คนออกไป แล้ว ฉินชิงเฟิงก็จัดการกับอาภรณ์ ยุ่งเหยิงเล็กน้อย ก่อนกลับมานั่งหลัง แท่นชาอีกครั้ง ซ้ำยังกล่าวออกคำสั่ง กับบ่าวไพร่ “ถึงชั่วยามแล้ว ไปดูเสีย หน่อยว่าคุณชายอินมาถึงหรือยัง”
192797197_1829444877225538_2947127869756974370_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ