ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่ 464จุดเชื่อมทั้งสองประเทศ



ตอนที่ 464จุดเชื่อมทั้งสองประเทศ

อากาศในทะเลทราย นตอนเช้าก็ร้อนจนจะไหม้ส่วนกลางคืนนั้น ก็หนาวจนปากสั่นของที่พวกเขาเตรียมการมาพอใช้เมื่อถึงกลาง ตีกพวกเขาก่อกองไฟ ก็สามารถต้านลมหนาวได้ไม่น้อย

พวกเขาเดินทางในทะเลทรายได้สองวันแล้วต้องเผชิญกับ พายุฝุ่นขนาดเล็กหลายครั้งแต่เพราะว่านอกจากหลินขึ้นเขียน แล้วทุกคนต่างเป็นยอดฝีมือดังนั้นจึงไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร

เมื่อถึงวันที่สามพวกเขาเดินทางมาถึงจุดเชื่อมระหว่างประเทศ หนานเขวและประเทศเป่ยหมิงหากผ่านจุดนี้ไปแล้วเดินทางต่อ อีกหนึ่งวันก็จะถึงเมืองที่ทั้งสามประเทศไม่ต้องการแต่เมื่อใกล้ มืดระหว่างเดินทางก็เห็นมีหัวคนมาแต่ไกล

ทรงเย่ที่อยู่ด้านหลังตกใจรีบให้ทุกคนถอยหลังไปหลบอยู่ที่ เนินทรายและเงยหน้ามองดูอย่างระมัดระวัง

ในบรรดาฝูงชนที่หนาแน่นก็เห็นธงของกองทัพดูเหมือนว่าจะ เป็นกองทัพของประเทศเป่ยหมิง

หลินซีนเยียนมองไปเพียงครู่เดียวแล้วขมวดคิ้วว่า คิดไม่ ถึงว่ากองทัพของประเทศเป่ยหมิงจะเดินทางมาได้เร็วเช่นนี้

“ใช่แล้วประเทศหนานเยว่กล่าวว่า สําหรับประเทศเป่ยหมิงใช้ ทหารคงไม่เกินสิบวันแต่คิดไม่ถึงว่ากองทัพของประเทศเปยหม งมารวมพลที่ชายแดนแล้วเห็นที่ดูเหมือนประเทศเป่ยหมิงจะโจมตีประเทศหนานเขาอย่างนั้น ทรงเขมวดคิ้วตาม

คำพูดของโรงเเตือนสติหลินขึ้นเขียนเดิมที่นางก็รู้สึกว่าการ ตายของไม่จื่อเฟิงต้องมีอะไรบางอย่างตอนนี้ท่าทางของทั้งสอง ประเทศก็มีอะไรแปลกๆ ในใจนางก็ยิ่งสงสัย โดยเฉพาะยิ่งนาง ลองมองดูอาวุธที่ทหารเป่ยหมิงถือนั้นเป็นเพียงอาวุธธรรมดา ทั่วไป

ไม่ใช่ว่าภายใต้การปกครองของประเทศเป่ยหมิงมีช่างที่เป็น ยอดฝีมือที่สามารถผลิตอาวุธที่ยอดเยี่ยมไม่ใช่หรือ?แต่ว่ากอง กำลังทหารที่อยู่เบื้องหน้านั้นล้วนมีแต่อาวุธธรรมดาทั่วไปกอง กําลังที่เขาลือกันหายไปไหน?

หลินซีนเยียนเชี่ยวชาญด้านการผลิตอาวุธ ดังนั้นจึงใส่ใจใน การใช้อาวุธเหล่านั้น ในใจมีความคิดบางอย่างแต่ว่ายิ่งคิดก็ยิ่ง ไม่สมเหตุสมผลและยังไม่พบเบาะแส

ทรงเย่ให้คนของเขาไปสืบดูคนของเขาไปไม่ถึงครึ่งชั่วยาม กลับมาภายในห้านี้เห็นแต่ทหารของเป่ยหมิงกลับไม่เห็นทหาร ของหนานเยวหากพ้นเนินทรายด้านหน้าไปละก็ถึงแม้จะเพิ่มการ เดินทางอีกครึ่งวันแต่ว่าอาจไม่ถูกทหารของเป่ยหมิงพบแน่

“นี่มันแปลกจริงๆไม่ใช่ว่าหนานเยวส่งทหารมาเพื่อสู้กับเบี้ยห มิงหรือ? ทหารจองเป่ยหมิงมาแล้วแล้วทหารของหนานเยว่เล่า?” ทรงเย่บ่นพึมพำไปและเดินทางไปด้วย

“สงครามระหว่างทั้งสองประเทศนั้นเป็นภาพลวงตาทางเชื่อม ระหว่างทั้งสองประเทศนั้นได้ยึดออกไปหลายร้อยลี้บางทีกองทัพของประเทศหนาวเยวอาจอยู่อีกด้านของชายแดน ผู้อาวุโส

วิเคราะห์

ทรงเย็บ่นแล้วพยักหน้า ช่างเถอะไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเรา ทำเรื่องสำคัญก่อนพวกเขาจะสู้กันก็ให้ไปรอพวกเราทำการ สำเร็จกลับมาแล้วค่อยไปจัดการกองกำลังของทั้งสองประเทศ

หลินซีนเขียนได้ยินเช่นนั้น ในใจก็ยิ้มเย็นออกมาที่แท้ทรงเย คิดจะกอบโกยผลประโยชน์อีกสมแล้วที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าใช้ โอกาสที่ไปหาสมบัติที่แหล่งกำเนิดเก๋งจีนกำจัดประมุขตระกลูหลี่ และตระกลูหลิงใช้เวลาที่ทั้งสองตระกลูกำลังเกิดความขัดแย้ง ภายในเดินทางไปยึดกองกำลังของพวกเขาประเทศเป่ยหมิงและ หนานเยว่

ถึงแม้ในใจนางจะยิ้มแต่ใบหน้ากลับเรียบเฉยนางหันกลับไป ถามเสี่ยวหลงว่า “เสี่ยวหลงเจ้ายังมีน้ำอยู่ไหมน้ำของข้าหมดแล้ว นําของเจ้ามาให้ข้ามหน่อยสิ”

เมื่อเสี่ยวหลงยื่นขวดน้ำให้กับนางใช้จังหวะที่เสี่ยวเข้าใกล้ นางกระซิบให้เสี่ยวหลงว่า “ไปสืบความเคลื่อนไหวของผู้ปก ครองเป่ยหมิงและอีกอย่าง…ไปสืบความเคลื่อนไหวของอัคร เสนาบดีอิน ของหนานเยวด้วย”

ดวงตาเสี่ยวหลงสั่นไหวด้วยความแปลกใจแล้วพยักหน้า การสนทนาของทั้งจบรวดเร็วไม่ได้เป็นที่สนใจของคนอื่น หลังจากที่ขบวนเดินทางเดินได้สักพักเสี่ยวหลงแกล้งทำเป็นปวดท้องตัวงออยู่บนหลังอูฐและแกล้งสลบไปเหมือนกับว่าหน้า

สีหน้าทรงเยดูไม่ดีนักสำหรับหลินขึ้นเขียนเขาทุ่มเทให้นาง อย่างเต็มที่แต่ว่าสำหรับเสี่ยวหลงที่เป็นเพียงผู้น้อยคนหนึ่งเขา ไม่มีสีหน้าที่ดีใดๆ

“เป็นผู้ชายแท้ๆแต่ร่างกายกลับอ่อนแอเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ จริงๆ”ทรงเยโบกมือให้ผู้อาวุโสที่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ไป อาการเสี่ยวหลง

อาวุโส อาการเสร็จก็บอกให้ทรงเย่ว่า “เป็นลมหน้ามืด อาการเขาแล้วต้องให้พักหากอาการรุนแรงขึ้นการที่จะรักษาใน ทะเลทรายนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

“เวลาขอเรามีจํากัดคงไม่สามารถหยุดการเดินทางเพียง เพราะเขาคนเดียวได้”ทรงเย่ไม่พอใจมากเขาหันกลับไปพูดกับ หลินซีนเยียนว่า “แม่นางหลินคนเป็นของเจ้า เจ้าว่าควรทำ อย่างไร ?”

ดูผิวเผินเหมือนเขาถามความเห็นนางแต่ว่าใบหน้ากลับ ปรากฏคำว่า ให้ทิ้งไว้ที่นี่อยู่ หากนางให้หยุดขบวนเพื่อรอเสี่ยว หลงทรงเย่คงไม่พอใจเป็นอย่างมาก

สีหน้าของนางลำบากเล็กน้อยสักพักนางถอนหายใจแล้วพูด ว่า”เช่นนั้นกางเต็นท์ให้เขาพักที่นี่หากเขาอาการดีขึ้นค่อยให้ เดินทางมาสมทบกับเรา

เวลาที่นางพูดลำบากเล็กน้อยการที่ทิ้งคนที่อาการหน้ามืดไว้ท่ามกลางทะเลทรายเช่นนี้ทุกคนต่างก็รู้ว่าอันตรายแค่ไหน

ทรงเย่พอใจกับการตัดสินใจของหมินซีนเขียนสำหรับเขาแล้ว คนมีเพียงที่ใช้ประโยชน์ได้กับคนที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น

ทรงเย่ให้คนไปกางเต็นให้อย่างรวดเร็วแล้วน่าเสียงหลงไป วางภายในเต็นท์นี้ถึงเป็นการอ่อนข้อให้กับหลินขึ้นเขียนแล้ว

ขบวนเตรียมพร้อมออกเดินทางอีกครั้งหลินซีนเขียนนำอาหาร แห้งวางไว้ให้กับเสี่ยวหลง”ลําบากเจ้าแล้ว

เสี่ยวหลงรู้สึกอ่อนแรงเล็กน้อยแต่ก็ยังคงยิ้มอย่างเข้มแข็งให้ กับนาง วางใจเถอะคนอย่างข้าพักผ่อนสักพักก็สามารถตามพ วกเจ้าทันแล้ว”

หลินซีนเยียนเดินทางไปพร้อมกับขบวนหลังจากที่พวกเขาจาก ไปไม่มีใครเห็นว่าเสี่ยวหลงลุกขึ้นนั่งบนใบหน้าไม่มีส่วนไหนที่ แสดงถึงความอ่อนล้าเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ