ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่358ค่าขอร้องของศิษย์พี่



ตอนที่358ค่าขอร้องของศิษย์พี่

หลี่หายเองก็ไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นยืนตาปริบๆ มองทหารมากมายที่ลงจากม้ามาคารวะหลินซีนเยียน

ในตาของหลินซีนเยียนได้มองไปที่ท่าทีของหลิ่วิ่นซาน กับหลี่หายแต่ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มโม่จื่อเฟิงเองดูเหมือน จะไม่เสียเปรียบคงจะใช้ช่วงเวลาที่สำคัญเข้าโจมตีศัตรู

ท่านอ๋องโม่จื่อเฟิงรู้ว่าหวั่นซ้ายจัดการกับนางนั้นไม่ ยากตอนแรกนางยังสับสนอยู่นิสัยอย่างไม่จื่อเฟิงแล้ว แน่นอนว่าจะอดทนไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ตอนนี้รู้แล้วว่านั้นคือ ยาพิษในตอนที่เขามีความหวังก็กลับมีประกายแห่งความ หวังแต่ในเวลานี้เขาสิ้นหวังอย่างสมบูรณ์และได้ทําร้าย ความคิดของเขาลง

“เจ้าคือผู้หญิงของท่านอู่เซวียนอ๋อง”หลื่อวิ๋นซานสะอึก สะอื้น ในเมื่อถามคำถามนี้ออกมาใบหน้าของเขาบึ้งทึงมอง หลินซีนเยียนดูเหมือนจะมองหาคำตอบที่ตัวเองต้องการ จากนาง

แต่ว่าผลสุดท้ายจะทําให้เขาหมดความหวังแล้ว

หลินชินเยียนพยักหน้าพูด ข้าเคยบอกแล้วว่า เจ้ากับ ข้ามันเป็นไปไม่ได้ ข้าไม่ใช่แค่ภรรยาของอู่เซวียนอ่อง แต่ ข้ายังมีลูกให้เขาอีกหนึ่งคน”

หากเป็นคำตอบของคนแค่สองคนมันคงจะง่ายแต่ว่ายัง มีลูกอีกหลายๆเรื่องก็ไม่เหมือนกัน

พริบตาหลีวั่นซ่านทรุดลงหากไม่ได้หลี่ซ่านช่วยพยุง ตัวไว้เขาก็คงจะตกลงจากอูฐ

“เพียงอู่เซวียนอ๋องแค่นั้นข้าหาได้มีกำลังอะไรไม่แต่ว่า ลูก เสียงหลิ่วนซ่านแข็งขึ้นก้มหัวลงเล็กน้อยไม่แม้แต่จะเงย หน้าไปมองรถม้าพวกนั้นเลย

ท่านแม่ทัพนำม้าของเขาออกมาส่วนตัวเขาเองก็ไปใช้ ม้าตัวข้างๆ พระชายานายท่านมีคําสั่งว่าได้ลําบากท่านแล้ว ดังนั้นให้พวกข้านำเหล้ามารองรับท่านอยู่ที่โรงเตี้ยมแถวๆนี้ เป็นพิเศษ”

ในทะเลทรายแห่งนี้โรงเตี้ยมที่ใกล้ที่สุดก็คงเป็นที่นี่ ต่อให้ขี่ม้ามาก็ต้องใช้เวลาถึงครึ่งวัน แต่ผู้นําทับคนนี้กลับ บอกว่ามารอรับก็ทําให้หลินซีนเยียนขมวดคิ้วจนพันกัน

ความรู้สึกของนางตอนนี้โม่จื่อเฟิงน่าจะถึงแล้ว

นึกถึงโม่จื่อเฟิงนางพึ่งจะตกใจเล็กน้อยขนาดตอนแต่ง งานใหม่ๆนางคิดว่าความคิดของเขารุนแรงกว่าที่นางคิด

ร่างกายของเซียวฝานอ่อนแอเกินไปไม่สามารถนั่งรถ ม้าได้หลินซีนเยียนยังให้แม่ทัพคนนั้นหาทหารที่มีรูปร่าง แข็งแรงมาพยุงเขา

ตอนที่พวกเขาจากไปแล้วหลินซีนเยียนหันหน้ากลับ ไปมองหลิ่วนซ่านและหลี่ซ่านนั่งอยู่บนอูฐใบหน้าของหลิ่วั่น ชานเศร้าและไม่เต็มใจส่วนใบหน้าของหลี่ห่ายเต็มไปด้วย ความกังวล

หลินซีนเยียนยกมือขึ้นโบกมือไปมาให้กับหลี่วิ่นซาน

แสดงถึงการบอกลาบนขอบฟ้ามีแสงเล็กน้อยลมพัดนาง เบาๆบนหลังม้าพร้อมโบกมือสายลมพัดนางเบาๆแม้แต่ ขนตายังขยับพริ้ม นี้ก็คือคําบอกลาของนางเรียบร้อยแต่ไม่มีความเสียใจ

ริมฝีปากของนางขยับหลี่ นานไม่ได้ยินเสียงแต่มอง จากรูปปากของนางเขาก็รู้ได้ว่านางพูดว่าอะไรนางพูด ว่า”พบเจอกันไม่รู้ลืมกัน”

รถม้าหลายสิบทันพริบตาก็หายไปด้วยอิทธิฤทธิ์ สายตาของหลิ่วนสายจ้องมองทางที่พวกเขาจากไปจนสุด แสงสว่างที่หายไปดวงตาที่แห้งเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออก มา

“ท่านลุงท่านสามารถช่วยข้าให้ได้ขึ้นเป็นนายใหญ่ได้ หรือไม่”

แค่หลี่หายมองตกใจสายตาของเขาเข้าอย่างแรงใน ความประทับในของหลี่วิ๋นซ่านเขาคือชายที่ฉลาดโกรกธาร เยว่หวนแห่งนี้ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงความคิดเองได้บ้างแต่ ว่าตอนนี้เขากลับโดนสายตาของชายที่อยู่ตรงหน้าทำให้ ชะงักลง

นั้นคือลักษณะสายตาของคนที่เหนือกว่า

“ได้สิ”หลี่หายตอบมาแค่ค่าเดียวบริวารในตระกูลก็ใช่ น้อย แม้กระทั่งมีบางครั้งคิดว่าหลิ่วิ่นซานไม่จําเป็นต้องเป็น เจ้าของบ้านที่ดีที่สุดแต่ทว่าในตอนนี้เขาตัดสินใจเลือกสู้ แล้ว

ม้าหลายสิบตัวรีบวิ่งเข้าเมืองชายแดนที่ใกล้ที่สุด ตลอดทั้งเส้นทางหลินซีนเยียนไม่พูดเลยสักคำในสมอง ของนางค่อยๆปรากฏเงาของโม่จื่อเฟิงสองปีก่อนทุกๆวันทุก ครั้งที่นางเห็นโม่จื่อเฟิงนางก็แค้นเหลือเกิน แต่ตอนนี้นาง ไม่มีเวลาไหนวินาทีไหนเลยที่จะไม่คิดถึงเขา

น่าจะเป็นเพราะแรงรักและแรงแค้นอยู่ห่างกันแค่นิด เดียวเองบางครั้งก็แค้นจนกลายเป็นความรัก

พระอาทิตย์ค่อยๆขึ้นจากทะเลทรายแสงแดดสีส้ม ทอดเต็มพื้นทะเลทรายทั้งหมดเต็มไปด้วยสีทองอร่ามไม่มี ที่สิ้นสุด เพียงแค่พริบตาก็สร้างความมหัศจรรย์แบบ ธรรมชาติ

ตอนที่พวกเขาใกล้เดินไปถึงทะเลทรายนั้นหลิน น เยียนอดไม่ได้ที่จะหยุดนางเรียกแม่ทัพ“ท่านแม่ทัพพักก่อน ไหมเราเดินทางกันมาชั่วโมงแล้วให้ทุกคนได้พักกันก่อน เถิดด้านซ้ายและด้านขวาก็เป็นทะเลทรายเดินทางต่ออีก หนึ่งถึงสองชั่วโมงก็ถึงแล้ว”

“พระชายาพูดก็ถูกงั้นพวกเราพักผ่อนกันก่อน”ในเมื่อ หลินซีนเยียนออกปากแล้วแม่ทัพเองก็ไม่ได้ปฎิเสธพร้อม เรียกให้ทุกคนหยุดเดินทาง

ในขณะที่ทุกคนกำลังกินอาหารเช้ากันอยู่นั้นทุกคนก็ หิวกันหมดรีบหยิบขนมปังและนํากิน

หลินซีนเยียนรู้สึกร่างกายใกล้จะแตกออกเป็นส่วนๆ แล้วพอนั่งลงก็ไม่กล้าที่จะขยับ

ร่างกายของเซียวฝานก็อ่อนแอในเมื่อเป็นแบบนี้เขา หยิบขนมปังและจากนายทหารแล้วมานั่งใกล้ๆหลินซีน เยียนรอให้ทหารข้างๆทั้งหมดกินขนมปังหมดแล้วนั้นเขาถึง จะแบ่งขนมปังให้หลินซีนเยียนใบหน้าปกติธรรมดาของเขา คําพูดที่พูดออกมาทําให้หลินซีนเยียนตกใจ

“ศิษย์น้องพวกเราหนีกันเถอะ”

“หนี?”หลินซีนเยียนคิดว่าตัวเองฟังผิดแล้วยิ้มแล้วพูด ว่า“ศิษย์พี่ท่านพูดอะไรอยู่นะร่างกายของท่านไม่ค่อยดี กลับไปเมืองเฟิง ดีที่สุดแล้วหากพวกเราหนีจะไปที่ไหนได้ หรือ”

เขียวฝานพยักหน้าดวงตาล็กน้าเสียงของเขาก็เศร้า มากเช่นกัน“ศิษย์น้องข้าจำได้ว่าตอนที่ข้าเสียความทรงจำ นั้นรวมทั้งเจ้าแทนข้า

เขาดูเหมือนว่าจะมีบางเรื่องที่ไม่กล้าพูดออกมาดังนั้น จึงหยุดพูดแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด“ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นภรรยาคนอื่น แต่ว่าข้ามีชีวิตอีกแค่สามเดือนแล้วดังนั้นข้าอยากยืมเวลา สามเดือนของเจ้าให้กับข้าแค่สามเดือนเท่านั้น”

“ศิษย์พี่ท่านหมายความว่าอย่างไร”จริงๆคนที่ฉลาด เป็นกรดอย่างนางทำไมถึงตอนนี้จะไม่เข้าใจความหมาย ของเซียวฝานเพียงแต่ว่าเขาไม่กล้าที่จะเชื่อแค่นั้นเอง

เซียวฝานยิ้มและก็ยิ้มร่างกายที่อ่อนแอของเขาขยับ เข้าไปข้างๆนางแล้วพิงต้นไม้ใหญ่“ข้ารู้ว่าพูดความต้องการ แบบนี้ขึ้นมามันไม่ใช่ข้า เจ้าคือศิษย์น้องของข้า คือญาติ ของข้า แต่ว่าข้ากลับมีความรู้สึกต่อเจ้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ