ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่435 ผลลัพธ์ที่เป็นไปตาม คาด



ตอนที่435 ผลลัพธ์ที่เป็นไปตาม คาด

หลักการบางอย่าง คนบางคนใช้ ทั้งชีวิตของพวกเขาก็ไม่อาจสามารถ เข้าใจได้ ทว่าตอนที่ประสบกับเรื่องที่ เฉพาะเจาะจงเข้า บางทีเขาก็พลัน ตระหนักถึงมันในทันที

ฮ่องเต้ประเทศหมันตระหนักถึง มันทันใดตอนที่อี้เซิงกล่าวประโยคนี้ ออกมา แต่น่าเสียดาย ความตระหนัก ของเขาค่อนข้างล่าช้าไปเสียหน่อย เขาแย้มสรวลขึ้นมาอย่างจืดเขื่อนและ เคืองขุ่น “เพราะสาเหตุข้อนี้หรือ เพราะข้าไม่อาจสนับสนุนมลรัฐเจียง

ซานของประเทศหบับนี้ได้ ดังนั้นแรก เริ่มเสด็จพ่อจึงยกบัลลังก์ฮ่องเต้ให้แก่ ท่านพ่อของเจ้า? น่าเสียดายที่ข้าใน ตอนแรกไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงไม่เห็น พ้อง ใช้อำนาจทั้งหมดแย่งบัลลังก์ใน เงื้อมมือของเขากลับคืนมา แต่คิดไม่ ถึงว่าบทสรุปแล้วกลับเป็นการทำลาย ประเทศหมันทั้งแดน…

เหล่าขุนนางที่อยู่ในเหตุการณ์ เริ่มอดขยับเขยื้อนไม่ได้ ทว่า เดินออก มาบนเส้นทางแล้ว ไม่ว่าปลายทาง ของถนนจะมีอะไร พวกเขาก็ไม่อาจ กลับลำได้แล้ว

“ฝ่าบาท พระราชดำรัสของ พระองค์นี้ตรัสไม่ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ ไฉนจึงตรัสว่าทำลายประเทศหมันทั้ง แดนได้เล่า อ๋เชิงเองก็เป็นสันตติวงศ์ อย่างถูกต้อง หากมีเขาสืบทอด บัลลังก์ ก็ไม่นับว่าเจียงซานประเทศ หมันตกอยู่ในเงื้อมมือของคนนอก จริงหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” มือของโจว่เฉิ งกดบนดาบยาวที่อยู่ตรงเอว เอ่ยเสียง ดังกับฮ่องเต้ประเทศหมัน

ในน้ำเสียงของเขา ปราศจากซึ่ง ความเคารพใดๆ เรียบร้อยแล้ว แววตา นั่นยิ่งประดุจมองนักโทษไม่ปาน เขา รอวันนี้มาเนิ่นนานเต็มทนแล้ว ตลอด เรื่อยมา เขาล้วนเป็นรองเพียงหนึ่งคน แต่ยิ่งใหญ่กว่าคนนับหมื่น แต่ต่อให้ เป็นเช่นนี้ ความรู้สึกถูกคนบดขยี้บน หัวกลับทำให้เขาอดกลั้นถึงขีดสุด โดยเฉพาะในมุมมองของเขา คนที่อยู่ บนหัวผู้นี้ก็เป็นเดนบุคคลอยู่แล้ว “ฮึ!” ฮ่องเต้ประเทศหมันแค่น เสียงเย็น ชี้นิ้วสั่นเทาไปทางโจว่เฉิง พลางกล่าวเสียงต่ำ “ลิ้นของเจ้านี้ ปลิ้นปล้อนสามัญชน หลอกลวง ขุนนางราชสำนักทั้งหมดของที่นี่ ใครยังไม่รู้กันว่าเจ้ามันจิตใจป่าเถื่อน อี้เซิงเป็นคนราชวงศ์ไม่ผิดแน่ แต่ว่า เจ้าจะให้เขาอยู่ได้กี่วัน เผลอๆ เดือน เดียวเจ้าก็รอไม่ไหวจะต้องให้เขาเป็น ฝ่ายสละราชสมบัติให้เจ้าเองกระมัง!”

หัวคิ้วโจว่เฉิงขมวดมุ่น ทำเพียง ยิ้มยะเยือก แต่กลับมิได้โต้แย้ง “เช่น นั้นแล้วมันจะอย่างไร อย่างไรเสีย พวกเจ้าเหล่านี้ต่างก็ต้องตายอยู่ดี ขอ เพียงชาวบ้านใต้หล้าเลื่อมใสก็ พอแล้ว เอาล่ะ ไม่ต้องพูดพล่ามมาก ความ หากว่าท่านเต็มใจมอบตรา ประทับหยกคืนตำแหน่งแก่พระนัดดา อี้เซิงแต่โดยดี เช่นนั้นข้าจะหลงเหลือ ร่างชิ้นส่วนครบทุกชิ้นของคนที่นี่ให้ มิ เช่นนั้น ก็อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยม อำมหิตก็แล้วกัน”

จักพรรดิประเทศหมันองค์นั้นยิ้ม เยาะ หัวเราะพลางถอยร่นสองก้าว อย่างซวนเซ ตรัสพลางทอดถอนใจ “ต้องการให้เขาเป็นฝ่ายคืนบัลลังก์ให้ เองไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ เพียงแต่พวก เขา…หากพวกเขาในสายตาของเจ้า เรียกลมพายุไม่ได้แล้ว เช่นนั้นเจ้าก็ ปล่อยพวกเขาไปเสียประไร เจ้าปล่อย พวกเขา ข้าจะเป็นฝ่ายยอมจำนนต่อ บัลลังก์ ขุนนางกลุ่มหนึ่งที่ในมุมมอง ของเจ้าไม่ได้มีค่าอะไรแลกกับตรา ประทับหยกทั้งอาณาจักร เจ้าคงไม่ เดือดร้อน”

ฮ่องเต้แตวันหมันองค์นี้ถึงแม้ ด้านพระปรีชาไม่โดดเด่น แต่ดีร้ายก็ ดำรงตำแหน่งสูงศักดิ์เป็นเวลานนาน และมิใช่คนที่โง่เขลาโดยสมบูรณ์ อย่างน้อยจากพระดำรัสนี้ เขาก็ตรัส ได้อย่างชาญชัยยิ่ง

“ที่แท้ท่านก็รู้จักต่อรองเป็นเสีย ด้วย แต่ว่า…พวกเขาไม่อาจเรียกลม พายุ แต่กลับก่อความวุ่นวายให้แก่ข้า ข้าไม่ใคร่เหมือนท่าน กรุณาเป็นล้น พัน ท่านจะเอาตราประทับหยกออกมา โดยดี หรือจะตายพร้อมกับพวกเขา จากนั้นข้าจะขุดพื้นสามฟุตก็สามารถ หาตราประทับหยกออกมาได้” โจว่เฉิ งกลับไม่ใช่คนที่ต่อรองง่ายๆ ฉับพลัน ก็ปฏิเสธคำร้องขอของฮ่องเต้ประเทศ หมัน มีท่าทีไม่เต็มใจอ่อนข้อให้

ทั้งสองฝ่ายจมดิ่งในความยึดติด กลับทำให้หลินซีนเยียนที่ตามเข้ามา ยิ่งมีสีหน้าหมองหม่นลงไป หากว่าโจ ว่เฉิงจะฆ่าล้างบางฮ่องเต้ประเทศหมัน จริงๆ แล้วล่ะก็ ต่อให้มีอำนาจของสาม ตระกูลใหญ่ขุนนางเร้นลับ ก็เกรงว่าจะ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงใดๆ ได้ เลย เช่นนั้นเรื่อยมา การหลบหนีของ พวกนางก็ไม่ง่ายเอาเสียแล้ว

นางไตร่ตรอง แอบส่งสายตาไป ทางอี้เซิง อี๋เชิงรับข้อมูลมาจากนาง หัน หน้าไปเอ่ยกลับโจว่เฉิงอย่างไม่ให้สุ้ม ให้เสียง “ขุนพลโจว่ อันที่จริงข้ามีวิธี อหิงสาอย่างหนึ่ง เขาจะต้องเอาตรา ประทับหยกออกมาแน่ แน่นอนว่าจะ เป็นการดี มิเช่นนั้นตำแหน่งฮ่องเต้นี้ ก็ได้มาโดยมิชอบ ต่อให้ภายภาคหน้า ข้าจะสละตำแหน่งแก่ท่าน ปราศจาก ตราประทับหยกประจำแคว้น ท้าย ที่สุดตำแหน่งของท่านก็ไม่อาจได้รับ การยอมรับทางประวัติศาสตร์ คนพวก นี้ไม่ได้มีประโยชน์ใหญ่หลวงใดๆ แล้ว หากท่านไม่วางใจจริงๆ ก็ชุบ เลี้ยงพวกเขากลุ่มนี้ขึ้นมาก็ได้แล้วมิ ใช่รึ ไว้ชีวิต ไม่สังหาร แต่ก็ไม่ต้อง ปล่อย” เมื่อโจว่เฉิงได้ฟัง หูตาก็ แพรวพราว มองอี้เซิงอย่างชื่นชมแวบ หนึ่ง “เจ้าเด็กคนนี้ หลักแหลมก็จริง แต่กำเนิดผิดที่ไปเสียหน่อย”

เห็นว่าอาการของโจว่เฉิงผ่อน คลายลงแล้ว อี้เซิงก็เอ่ยกับจักรพรรดิ ประเทศหมันองค์นั้นต่อไป ท่านอยาก ให้พวกเขาเดินออกไปอย่างง่ายเพียง นี้นั้นเป็นไปไม่ได้หรอก สามารถรักษา ชะตาชีวิตของพวกเขาเอาไว้ได้ก็เป็น เรื่องเคราะห์ดีอันมหาศาลแล้ว สิ่งที่ ท่านทำได้ ก็ได้ทำอย่างมากเพียงนี้ แล้ว”

อาจเพราะการโน้มน้าวทั้งสอง ฝ่ายของอี้เซ็งเป็นผล ท้ายที่สุดฮ่องเต้ ประเทศหมันองค์นั้นก็ทอดถอนใจ แล้วพยักหน้า

โจว่เฉิงเองก็รู้สึกว่าวิธีการพูด ของอี้เซิงนั้นเขาสามารถฝืนยอมรับได้ ดังนั้นจึงยินยอมแต่โดยดี ส่งสายตา ให้แก่ผู้ใต้บัญชาด้านข้าง ไม่นานก็มี มาด้านหน้าเพื่อพาเหล่าขุนนางพวก นั้นลงไป

“ตอนนี้ก็เอาตราประทับหยกออก มาเสียเถิด” โจว่เฉิงกล่าวกับฮ่องเต้ ประเทศหมัน

ฮ่องเต้ประเทศหมันเองก็ไม่โอ้เอ้ จวนตัวหลีกไม่พ้น ดังนั้นจึงหมุนกาย เข้าในตำหนัก หยิบเอากล่องหนึ่งแล้ว เดินออกมา เขาโยนตราประทับหยก ไปทางโจว่เฉิง จากนั้นจึงชักดาบหยก ออกจากองครักษ์ข้างกายแล้วเฉือน เข้าลำคอของตนโดยไม่ยั้งคิด

โลหิตสดทะลักเต็มพื้น ตอนที่เขา กระทำ คนรอบด้านลืมแม้กระทั่งกรีด ร้อง

ผลลัพธ์เช่นนี้มาอย่างกะทันหัน เกินไป แต่กลับเป็นอย่างที่สันนิษฐาน เอาไว้ ดีกว่ากลายเป็นเชลยต่ำต้อย เข้าใจการทระนงตนนับว่าเป็นการหลง เหลือความเคารพสุดท้ายสักนิดแด่ องค์ฮ่องเต้เถิด

เพียงแต่ การทรุดล้มของเขา กลับบังเกิดปัญหายากให้แก่หลินซีน เยียนและคนอื่นๆ หากว่าฮ่องเต้ ประเทศหมันสวรรคตแล้ว เช่นนั้นพลัง ที่ตระกูลหลิงนึกอยากปกป้องยังดำรง อยู่หรือไม่

“ฝ่าบาท!” เสียงร้องลั่นทำให้ท้าย ที่สุดแล้วคนทั้งหมดก็เรียกสติจาก ภวังค์แตกตื่นกลับมา สนมนางหนึ่ง กอดทารกแบเบาะร้องรำพันทรุดกาย ลงด้านข้างฮ่องเต้ประเทศหมัน

โจว่เฉิงหรีตาลง รอยยิ้มเย็น ค่อยๆ ปรากฏตรงมุมปาก “โอ้ว นี่ ไม่ใช่รัชทายาทน้อยของพวกเรา…..

น้ำเสียงของเขาเผยความหมอง เศร้าระลอกหนึ่ง สนมรองผู้โศกาคน นั้นร้องตระหนกอย่างตกใจ นางกอด เด็กน้อยถอยหลังอย่างหวาดกลัว “ไม่ ไม่ เขาไม่ใช่ ไม่ใช่…” น่าเสียดาย การปิดบังของนาง ซีดเซียวเกินไป ยิ่งปิกปิดก็ยิ่งพิสูจน์ สถานะของทารกคนนั้น

“ทหาร พาพระนางและรัชทายาท น้อยไปดูแลอย่างสมเกียรติ!” โจว่เฉิ งออกบัญชา ทันใดนั้นก็มีคนเข้ามา ดำเนินการตามคำสั่งของเขา

สำหรับโจว่เฉิงผู้บากบั่นกว่าจะ เดินมาถึงจุดนี้แล้ว ผู้กำชัยคือพระ ราชา มักจะต้องการคนพวกหนึ่งมารับ ประกันถึงชัยชนะของตนเอง สาย โลหิตที่ฮ่องเต้ประเทศหมันหลงเหลือ อยู่ จึงจะสามารถพิสูจน์ชัยชนะของ เขาอย่างดีที่สุด! เขาจะใช้นามของ กฎหมายสังหารสายเลือดของ จักรพรรดิประเทศหมันผู้นี้ให้สิ้นเสีย พิสูจน์ต่อหน้าสามัญชนใต้หล้า ผู้ใดจึง จะเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย

ภายในวังหย่งเหอ ฮ่องเต้ ประเทศหมันสวรรคตแล้ว เหล่า ขุนนางถูกคุมขัง รัชทายาทน้อยถูกกัก บริเวณ คนที่เหลืออื่นๆ ก็ไม่จำเป็น ต้องมีชีวิตอยู่ต่อ

แม้ว่า หลินซีนเยียนล่วงรู้ผลลัพธ์ นี้ ทว่าตอนที่เห็นคนของโจว่เฉิงกรู เข้าไปฆ่าล้างคนเหล่านั้น สีหน้าของ นางยังซีดเผือดอย่างห้ามไม่ได้ โลหิต สด แขนขาด อวัยวะพิกลพิการ ใน วินาทีนี้ถูกผลิกว้างอย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้โลกทั้งใบของนางล้วนหลง เหลือเพียงฝนเลือดคะนอง “พี่สาว อย่ามอง…” อ้เชิงอยาก ปิดตานางไว้ ทว่าดวงตาของหลินซีน เยียนแดงก่า แต่กลับยกมือขึ้นอย่าง ดื้อรั้น ผลักอี้เซิงออก

นางกล่าว “ไม่มีอะไรที่มองไม่ได้ ต่างก็เป็นความจริงที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า แล้ว ข้าไม่มอง ก็ไม่มีแล้วอย่างนั้น หรือ”
195293647_927728388022022_6149474351905902460_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ