ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่ 475 ประกอบลายแทง



ตอนที่ 475 ประกอบลายแทง

ไม่มีกระโจม ไม่มีถุงนอนอันอ่อนนุ่ม มีเพียงผืนฟ้าต่างผ้าห่ม ผืน คนต่างเตียงนอน ในช่วงเวลาดึกสงัดหลอนซ่านถอดเสื้อคลุม ของตนปกคลุมด้านหน้าของหลินขึ้นเขียนอย่างระมัดระวัง

เขาไม่ได้เอ่ยถ้อยค่า หลังจากห่มคลุมแล้วก็เดินจากไปอย่าง เงียบงัน

หลินซีนเยียนมองเสื้อคลุมตรงหน้า นัยน์ตามีความซาบซึ้ง วาบผ่าน แต่เพียงรู้สึกขอบคุณเท่านั้น ไม่คิดเป็นอื่นอีก

ทรงเย่กับหลิงสู่มองเห็นภาพการกระทำหวังผลของหล่อน ซ่าน ต่างเหลือบมองกันและกัน ล้วนสามารถมองเห็นความเยาะ หยันจากสายตาของอีกฝ่าย พวกเขาดูแล้ว หล่อขึ้นซ่านผู้นี้ไม่ เพียงทําดีหวังผลจากหลินซีนเยียน คราที่พยายามหาแหล่ง สมบัติลับเมื่อเข้าเก๋งจีนจะสามารถเอาเปรียบสักหน่อยเท่านั้น

ไม่เพียงทำให้พวกเขาเกิดเรื่อง ครั้งนี้หลินซืนเขียนกลับไม่ได้ รับไมตรีของหล่อนซ่าน อีกทั้งยังพาหนีหวานมาทับลงบนเสื้อ คลุมตัวนั้น แย้มยิ้มบาง “นอนกันเถอะ”

ใบหน้าของหนีหว่านเต็มไปด้วยความสงสัย เพียงแต่ทันทีที่ รู้สึกผ่อนคลาย นางก็พยักหน้าลงตอบกลับคำหนึ่ง แล้วปิดตา เริ่มเข้าสู่นิทรา โดยแท้จริง

หลังจากนางนิทราแล้ว หลินซีนเยียนจึงอาศัยเอนบนด้านข้างของนาง นอนบนพื้นทราย ในเวลากลางวันผืนทรายร้อนระอุจน สามารถอบไข่ไก่สุกได้ในทันที เวลานี้กลับเย็นเยียบไปทั้งผืน

ความหนาวเย็นเสียงกระดูกเช่นนี้ ทำให้นางไม่อาจหลับลงได้ เลย ทำได้เพียงเบิกตากว้างจ้องมองท้องฟ้า

“แม่นาง” เงาร่างที่ค้อมลงมาร่างหนึ่ง ฉับพลันก็มาถึงข้างกาย นาง แล้วเอ่ยเรียกอย่างแผ่วเบา

หลินขึ้นเขียนชะงัก เงยหน้าขึ้นไปจะเอ่ยถาม ก็มองเห็นผู้เฒ่า ย่างเนื้อคนนั้นยืนอยู่ข้างหน้า หัวเราะอย่างซื่อสัตย์จริงใจ และ นิ้วไปทางข้างหน้า นางมองตามไปทางทิศที่เขาไป ก็มองเห็น พื้นที่ย่างเนื้อก่อนหน้านี้ถูกจัดเก็บอย่างรวดเร็วแล้ว เหลือไว้ เพียงเม็ดทรายที่ไหม้เป็นสีดำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“พื้นที่มีการย่างเนื้อก่อนหน้านี้ ผืนทรายล้วนอบอุ่นยิ่ง แม่นาง สามารถไปนอนตรงนั้นได้” ผู้เฒ่าหัวเราะพลางกล่าว ขณะที่ หัวเราะก็เผยให้เห็นฟันขาวเต็มทั้งปาก คนชราผิวดำคล้ำผู้หนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะมีฟันที่ดีเช่นนี้ ช่างทำให้ผู้คนตกตะลึงได้จริงๆ

หลินซีนเขียนลังเลอยู่ชั่วครู่ เอ่ยขอบคุณไม่ได้โต้เถียงแม้แต่ น้อย ลุกขึ้นแล้วก็มุ่งหน้าเดินไปทางผืนทรายที่อบอุ่นนั้น ยอม ตายแต่ไม่ยอมทําผิดต่อตนเอง ทรมานก็คือตนเอง เพียงแค่นาง มีชีวิตอยู่อย่างดีได้อีกไม่กี่วัน ทำไมจะต้องให้ทำผิดต่อตนเองรับ ความทุขมากมายนักเล่า? อีกทั้งไม่รู้ว่าเหตุใด นางไม่คิดจะ ปฏิเสธความหวังดีของผู้เฒ่าผู้นั้น

นางมาถึงบนผืนทรายนั้น มือและสะโพกที่สัมผัสกับผืนทรายล้วนแฝงความอบอุ่น ในใจนางอุ่นวาย เอนกายลง อดที่จะมอง ไปทางด้านของผู้เฒ่าไม่ได้

ไกลออกไป เขาอาศัยหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ปิดตาลงเข้าสู่นิทรา ร่างกายของอเล็กน้อย ทั้งหมดเป็นภาพของผู้เฒ่าอ่อนแอภาพ หนึ่ง คิดถึงวันพรุ่งต้องไปที่ขุมทรัพย์สมบัติทองอันตรายอย่างเกิด จีน นางก็ถอนลมหายใจ เยี่ยงนี้จึงได้ถอนสายตากลับมาและ หลับตาเริ่มเข้าสู่นิทรา

นางไม่ได้ตระหนักเลยว่า ชั่วพริบตาที่นางถอนสายตากลับมา ผู้เฒ่าคนนั้นก็ลืมตาขึ้น เพียงแต่สายตาของเขาอ่อนแรงยิ่งนัก ไม่ ได้ดึงดูดความสนใจจากผู้ใด

ยามเช้าตรู่ในทะเลทราย เทียบกับด้านนอกแล้วสงบเงียบ มากกว่านัก ไม่มีวิหค โผบิน มัจฉา หรือภมร แม้แต่ธรรมชาติก็ได้ ทำการคัดสรรอย่างเงียบงัน ทว่าตอนที่ผู้คนตื่นขึ้น กลับสามารถ มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามยิ่งกว่าภายนอกมากมาย

ลําแสงสีทองม้วตกลงบนผืนทรายที่ต่อเนื่องไปจนสุดสายตา ทั้งผืนเป็นสีเหลืองทอง เรียบลื่น สุขสงบ สูงส่งเหนือ ใต้หล้า

ทว่าน่าเสียดายที่ทิวทัศน์อันงดงามนี้ก็ไม่อาจเก็บรักษากลุ่ม คนเหล่านี้ที่คิดหมายมุ่งตามหาสมบัติลับ

ต่างจัดเตรียมข้าวของของตน ทานอาหารเช้าที่ผู้เฒ่าตระ เตรียม ทั้งกลุ่มยืนอยู่ด้านล่างของเทือกเขาลิ่วโจว ภายใต้แสง แรกของวัน ใบหน้าของทุกคนล้วนมีความตื่นเต้นคาดหวังชนิด หนึ่ง
ด้วยผู้ยิ่งใหญ่เช่นทรงเย่นหน้า ในที่สุดทั้งกลุ่มก็ได้เริ่มออก เดินทางมุ่งหน้าไปที่จุดหมายสุดท้าย เพียงแต่ขณะที่กำลังเริ่มต้น ออกเดินทางนั้น ทรงเยี่หยิบตั๋วเงินขึ้นมาใบหนึ่งให้กับผู้เฒ่าที่รับ หน้าที่ย่างเนื้อผู้นั้น ให้ผู้เฒ่าออกไปจากที่นี่รอคอยพวกเขากลับ มา ความหมายนั้นชัดเจนยิ่งว่าผู้เฒ่าคือคนนอก ไม่อาจติดตาม พวกเขาเข้าไปในดินแดนสมบัติลับได้

หลินซีนเขียนกำลังกังวลว่าจะใช้ข้ออ้างอะไรให้ผู้เฒ่าจากไป คาดไม่ถึงว่าทรงเยถึงกับช่วยจัดการธุระใหญ่ให้นาง

ผู้เฒ่านั้นรับตั๋วเงินของทรงเย่ พยักหน้าตกลงอย่างปิติยินดี ราวกับจํานวนเงินบนตั๋วเงินนั้นทำให้เขาพึงพอใจอย่างมาก

หลินซีนเยียนเดินอยู่ตรงกลางของกลุ่มคน ก่อนที่มุ่งหน้าขึ้น เขานางอดที่จะหันกลับไปโบกมือให้ผู้เฒ่าคนนั้นไม่ได้ ริมฝีปาก ขยับโดยไม่ได้ออกเสียง รูปปากนั้นกลับบอกเพียงสองคำ “รักษาตัวด้วย”

นางไม่ได้คาดหวังว่าตาเฒ่าผู้นั้นจะเข้าใจ นางเพียงกล่าวใน สิ่งที่ตนเองอยากกล่าวเท่านั้น การเข้าไปในดินแดนขุมทรัพย์ สมบัติทองเก๋งจีนนี้ยังไม่แน่ว่าจะสามารถมีชีวิตกลับออกมา แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่มั่นใจ ดังนั้นการจากไปครั้งนี้ บางทีอาจ เป็นการจากไปชั่วชีวิต

ผู้เฒ่าคนนั้นขณะที่นางเอ่ยสองคำนี้นั้น สดใสไม่มีร่องรอย แม้แต่น้อย กลับยังคงหัวเราะอย่างเปิดเผยจริงใจ ราวกับไม่ เข้าใจความหมายของนางเลยแม้แต่น้อย
ดินแดนขุมทรัพย์สมบัติทองเก๋งจีน หลบซ่อนอยู่ที่สุดปลาย เขตเทือกเขา

หลังจากทั้งกลุ่มขึ้นเขาไปแล้ว มองหาที่พักแห่งหนึ่งบนสันเขา ขณะที่ถือโอกาสพักผ่อนนั้น เจ้าบ้านของสามสกุลใหญ่รวมตัวกัน อีกครั้ง นำสิ่งที่ตกลงกันไว้ออกมาเปิด

หลินซีนเยียนก็มาถึงระหว่างทั้งสามคน มองผู้คนรอบด้านที่ ถอยห่างออกไป นางจึงเอ่ยเสียงเรียบเรื่อย “มาถึงที่นี่แล้ว ครา เชิญสกุลใหญ่หยิบเศษแผนที่ของดินแดนขุมทรัพย์สมบัติทองใน ครอบครองขึ้นมาเถอะ”

เหตุผลอันสมเหตุสมผลและอีกเหตุผลสำคัญที่ทั้งสามสกุล ใหญ่รวมตัวกันก็คือทุกสกุลในมือล้วนถือครองเศษแผนที่ส่วน หนึ่ง คิดอยากตามหาดินแดนขุมทรัพย์สมบัติทองเก๋งจีนที่หลบ ซ่อนอยู่ในเทือกเขาล้วนต้องอาศัยการรวมแผนที่ขุมทรัพย์สมบัติ ทองทั้งหมดเข้าด้วยกัน

ทรงเย่ หลังสู่ หล่อนซ่าน ทั้งสามคนต่างมองกันและกัน หยิบ แผนที่หนังแกะแต่ละชิ้นส่วนนี้ออกมาจากในอกเสื้อสองสามชิ้น

สายตาของหลินซีนเยียนตกลงบนแผนที่ปรขาดนั้น ทันใดนั้น เอง ในใจอดที่จะรู้สึกหลากอารมณ์อัดแน่นไม่ได้ เพราะว่าแผนที่ บนฝ่ามือใหญ่เหล่านี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนที่ต้องละทิ้งชีวิตไปมากมาย เท่าไร แม้แต่อาจารย์ของนาง ศิษย์พี่ของนาง ล้วนถูกสังหารด้วย เหตุนี้ เพื่อไล่คว้าความมั่งคั่งเหล่านี้ ทุกคนก็แทบจะลืมเลือนชีวิต มนุษย์แล้ว ชีวิตผู้คนในสายตาของพวกเขาเล็กน้อยราวกับมดปลวกอย่างนั้น

แผนที่ขาดๆ เหล่านี้ยากที่จะได้มาครอง ผู้ใดจะสามารถคาด คิดได้ว่าเศษแผนที่เหล่านี้ สุดท้ายแล้วเพราะว่านางเป็นสตรี เพียงผู้เดียวจึงถูกรวบมาด้วยกัน?

ถ้าหากว่าอาจารย์ของนางเป็นวิญญาณอยู่บนสวรรค์ เป็นได้ ว่าจะรู้สึกพึงพอใจ เขาเหน็ดเหนื่อยมาทั้งชีวิตเพื่อสิ่งที่ต้องการ ปกป้อง ตอนนี้ก็ได้ปรากฏตรงหน้านางแล้ว และท้ายในที่สุดก็ ทำให้แผนที่ผุพังนั้นราวกับดอกไม้ไฟเบ่งบานเปล่งประกายเจิด จำรัสออกมาอย่างนั้น เพียงแต่เพื่อให้ดอกไม้ไฟเบ่งบาน ยังมี ชีวิตของเหล่าคนที่เคยกระทำบาปเหล่านั้น

หนี้เลือด ก็ต้องเอาเลือดมาชดใช้

เจ้าบ้านสามสกุลใหญ่ ต่างถือเศษแผนที่ของตน ระหว่างกัน ราวกับไม่วางใจในตัวของอีกฝ่ายนัก ดังนั้นในพริบตาภาพตรง หน้าที่ประดับประเดิดอยู่บ้าง

หลินซีนเยียนผู้อยู่ตรงกลางย่อมต้องถูกจัดอยู่ในฉากนี้ นาง ยึดมือออกไป กล่าว “หรือให้ข้าเป็นคนรวมเถอะ พวกเราก่อนอื่น ยังต้องประสานแผนที่ออกมา ถึงจะรู้ได้ว่าก้าวต่อไปต้องเดินไป ในทางใด”

ทั้งสามคนดูเหมือนจะพึงพอใจกับข้อเสนอนี้มาก นำด้วยหลอ วันชานมอบแผนที่ให้หลินซีนเขียน ทรงเย่และหลังสู่ก็ส่งมอบ แผนที่ตามไปทันที

หลินซีนเยียนแต่เดิมก็ชำนาญในเรื่องของแผนที่ ดังนั้นหลังจากได้รับแผนที่สามแผ่นมา ออกแรงเพียงชั่วครู่ก็ฟื้นฟูแผนที่ได้

แล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ