ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่83 เดิมพัน



ตอนที่83 เดิมพัน

ช่วงตกเย็นใกล้พลบค่ำ ในบ้านหลังใหญ่แต่ไม่ถึงกับ หรูหราแห่งหนึ่งที่อยู่ฝั่งทิศใต้ของเมืองเฟิ่งชี เหล่าสาวใช้ กำลังพากันจุดโคมตะเกียง เพราะเจ้าของเรือนหลังนี้ไม่ชอบ ความมืด ฉะนั้นตะเกียงภายในที่แห่งนี้จึงอยู่ได้ข้ามคืนจนถึง ยามใกล้รุ่ง ไม่มอดดับลง

ภายในห้องหนังสือของเรือนหลัก แสงเทียนสว่างไสวเป็น พิเศษ ผู้เยาว์อายุยี่สิบกว่าปีคนหนึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาอยู่บน โต๊ะหนังสือ เขาไม่ได้วาดภาพหรือขีดเขียน แต่กลับใช้เครื่อง มือแปลกประหลาดสร้างของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นหนึ่ง

“พี่ใหญ่ ข้าโมโหจริงๆนะ ทุกคนในที่นี้ล้วนอับอายกันไป หมดแล้ว”

สตรีชุดเขียวนางหนึ่งผลุนผลันเข้าไปในห้องหนังสือโดยที่ ไม่เคาะประตู หลังจากนั้นก็นั่งลงบนม้านั่งที่อยู่ข้างๆผู้เยาว์ คนนั้น ด่าทอไปหลายประโยคแต่ยังดูเหมือนว่าความโกรธยัง ไม่จางหาย จึงหยิบกาน้ำชาขึ้นมารินชาให้กับตนเอง เมื่อน้ำ ชาตกถึงท้องความโกรธของนางจึงบรรเทาลงหลายส่วน

“หยุนชิง ใครมายั่วยุเจ้าอีกล่ะ จึงได้โมโหเยี่ยงนี้? เจ้าไปนั่ง ด้านนู่นซะ อยู่ตรงนี้มันบังแสงข้า” เทียนหยุนจือไม่ได้เหลือบ มองเทียนหยุนชิงเลยแม้แต่น้อย ถือสิ่งประดิษฐ์ของตนย้าย ไปยังด้านข้าง

“เมื่อเทียนหยุนชิงได้ยิน สีหน้าพลันดูน่าเกลียดขึ้นหลาย ส่วน ในที่สุดจึงลุกขึ้นยืนไปยังเชิงเทียนที่อยู่เบื้องหน้าเขา และเป่ามันจนดับ พี่ใหญ่ นี่มันเวลาไหนแล้ว ท่านยังจะตอนที่83 เดิมพัน

ช่วงตกเย็นใกล้พลบค่ำ ในบ้านหลังใหญ่แต่ไม่ถึงกับ หรูหราแห่งหนึ่งที่อยู่ฝั่งทิศใต้ของเมืองเฟิ่งชี เหล่าสาวใช้ กำลังพากันจุดโคมตะเกียง เพราะเจ้าของเรือนหลังนี้ไม่ชอบ ความมืด ฉะนั้นตะเกียงภายในที่แห่งนี้จึงอยู่ได้ข้ามคืนจนถึง ยามใกล้รุ่ง ไม่มอดดับลง

ภายในห้องหนังสือของเรือนหลัก แสงเทียนสว่างไสวเป็น พิเศษ ผู้เยาว์อายุยี่สิบกว่าปีคนหนึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาอยู่บน โต๊ะหนังสือ เขาไม่ได้วาดภาพหรือขีดเขียน แต่กลับใช้เครื่อง มือแปลกประหลาดสร้างของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นหนึ่ง

“พี่ใหญ่ ข้าโมโหจริงๆนะ ทุกคนในที่นี้ล้วนอับอายกันไป หมดแล้ว”

สตรีชุดเขียวนางหนึ่งผลุนผลันเข้าไปในห้องหนังสือโดยที่ ไม่เคาะประตู หลังจากนั้นก็นั่งลงบนม้านั่งที่อยู่ข้างๆผู้เยาว์ คนนั้น ด่าทอไปหลายประโยคแต่ยังดูเหมือนว่าความโกรธยัง ไม่จางหาย จึงหยิบกาน้ำชาขึ้นมารินชาให้กับตนเอง เมื่อน้ำ ชาตกถึงท้องความโกรธของนางจึงบรรเทาลงหลายส่วน

“หยุนชิง ใครมายั่วยุเจ้าอีกล่ะ จึงได้โมโหเยี่ยงนี้? เจ้าไปนั่ง ด้านนู่นซะ อยู่ตรงนี้มันบังแสงข้า” เทียนหยุนจือไม่ได้เหลือบ มองเทียนหยุนชิงเลยแม้แต่น้อย ถือสิ่งประดิษฐ์ของตนย้าย ไปยังด้านข้าง

“เมื่อเทียนหยุนชิงได้ยิน สีหน้าพลันดูน่าเกลียดขึ้นหลาย ส่วน ในที่สุดจึงลุกขึ้นยืนไปยังเชิงเทียนที่อยู่เบื้องหน้าเขา และเป่ามันจนดับ พี่ใหญ่ นี่มันเวลาไหนแล้ว ท่านยังจะแน่ว่าอีกไม่นานวันศาลาความลับแห่งสวรรค์ก็จะกลายเป็นตัว ตลกของผู้คนทั้งโลก ท่านพ่อท่านแม่ให้พวกเรารับผิดชอบ เรื่องในเมืองเพิ่งชี แล้วพวกเราจะปล่อยปละละเลยไม่จัดการ เช่นนี้หรือไรกัน ให้ชื่อเสียงความขี้ขลาดร่ำลือไปทั่วเมืองเฟิ่ง ชื่อย่างงั้นหรือ?

เทียนหยุนชิงยิ่งพูดยิ่งเดือดดาล ตรงเข้าไปฉวยหินจุดไฟ ในมือของเขา พลันกล่าวว่า “ข้าไม่สน หลังจากสามวันพวก เราจะต้องไปทำให้เจ้าหน้าเหม็นนั่นอับอายขายหน้า!

เทียนหยุนจือลูบขมับที่เกิดอาการปวด บนใบหน้าแสดง ความจนปัญญา ช่างเถอะ เจ้าอยากจะไปก็ไป จัดการกับเจ้า หน้าเม็นนั่นมีเจ้าคนเดียวก็พอแล้ว ถึงเวลาที่ชื่อเสียงศาลา ความลับแห่งสวรรค์จะต้องพึ่งพาการปกป้องจากเจ้าแล้วล่ะ นะ

เขาตบบนบ่าของเทียนหยุนชิงพร้อมกับให้คำแนะนำอย่าง จริงใจ หลังจากนั้นจึงนำหินจุดไฟขึ้นมาจุดอีกครั้ง และลงมือ ทำอาวุธลับในมือที่ยังไม่เสร็จดี

สิ่งที่เทียนหยุนชิงรอก็คือประโยคนี้ นี่หมายความว่าท่าน เห็นด้วยที่ข้าจะไป เมื่อกลับไปหากท่านพ่อท่านแม่ถามขึ้นมา ท่านก็อย่าได้ไปพูดล่ะว่าข้าสร้างปัญหา

พูดเสียเยอะแยะ ที่แท้นางก็แค่พูดเพื่อได้รับอนุญาตจาก เขาก็เท่านั้น แม้ว่านางจะเป็นถึงบุตรีของประมุขศาลาความ ลับแห่งสวรรค์ แต่ทว่าเกี่ยวกับเรื่องใหญ่เช่นนี้นางยังไม่กล้า ที่จะอ้างความชอบธรรม หากไม่อนุญาตนางเองก็ไม่กล้าผิด ต่อกฎของศาลาความลับแห่งสวรรค์

“อื้ม เจ้าไปเถอะ แต่จงจำไว้ว่าอย่าลืมปกปิดใบหน้าที่แท้จริง ศาลาความลับแห่งสวรรค์เองก็มากศัตรู อย่างไรก็อย่าได้ ยั่วยุศัตรู พวกเราเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน ข้ายังไม่อยากรีบ เปลี่ยนที่อยู่ เทียนหยุนจือสั่งกำชับ

“ทราบแล้วเจ้าค่า โปรดวางใจ ถึงเวลานั้นก็คอยดูข้าให้ดี เถิด” เทียนหยุนชิงจากไปด้วยความพึงพอใจ

เทียนหยุนจือส่ายศีรษะอย่างจนปัญญา แต่หลังจากที่ เทียนหยุนชิงจากไป ใบหน้าของเขากลับมิได้ผ่อนคลาย เหมือนก่อนหน้านี้ คนที่กล้าคุยโวท้าประลองกับศาลาความ ลับแห่งสวรรค์ เป็นคนไร้ประโยชน์จริงหรือ?

เวลาสามวัน เป็นเวลาแค่ชั่วพริบตาเดียว

ในสามวันนี้ บ่อนพนันที่ใหญ่ที่สุดกลางใจเมืองเฟิ่งชีได้เปิด การเดิมพัน สาระสำคัญของการลงเดิมพันก็คือ ศาลาความ ลับแห่งสวรรค์จะแพ้หรือชนะในการประลอง อัตราต่อรองเมื่อ ฝ่ายศาลาความลับแห่งสวรรค์ชนะคือหนึ่งต่อหนึ่ง อัตราต่อ รองของผู้ท้าประลองชนะคือหนึ่งต่อสิบแปด จากอัตราต่อ รองที่แตกต่างกันมากทำให้ผู้ชมได้ทราบถึงท่าทีในการแข่ง ประลองครั้งนี้

ในการแข่งเรือครั้งก่อน หลินซินเยียนเดิมพันว่าอินฉีชนะ ทว่าคนลิขิตไม่สู้ฟ้าลิขิต เพราะอินฉีและอู่เซวียนอ๋องกระโจน ลงน้ำเพื่อช่วยคน จนกระทั่งทั้งสองกลุ่มพ่ายแพ้ในเวลา เดียวกัน ความพ่ายแพ้ของสองผู้ยิ่งใหญ่ที่เลื่องลือ กลับทำให้ เจ้ามือฟาดเรียบได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ

ถ้าหากไม่ใช่เพราะ เซียวฉางเยว่เป็นองค์หญิงขั้นหนึ่ง อีก ทั้งเป็นบุตรีของหัวหน้าข้าราชสำนัก ไม่มีใครนำนางมาเชื่อง โยงเข้ากับบ่อนพนัน เกรงว่าไม่ว่าใครก็ล้วนสงสัย ว่าเรื่องตกน้ำคงไม่ใช่ว่าเป็นแผนการของบ่อนพนันที่วางไว้

ในวันนี้ หลังจากที่หลินซินเยียนลุกขึ้นมาแต่งหน้าแต่งกาย แต่เช้าก็มายังบ่อนพนันที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเฟิ่งชี เพราะวันนี้ คือวันนัดหมายการประลอง ดังนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเช้าตรู่ แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มาลงเดิมพันบ่อนแห่งนี้

เมื่อนางมาถึงบ่อนพนันก็ได้เห็นว่าแม้อัตราต่อรองของตน จะสูง แต่คนที่ลงเดิมพันกลับมีไม่เยอะ ในทางตรงกันข้ามฝั่ง ของศาลาความลับแห่งสวรรค์นั้น แม้ว่าอัตราต่อรองจะไม่สูง ทว่าคนกลับลงเดิมพันอย่างท่วมท้น

“โอ้ คุณชายท่านนี้ พวกเราเคยพบกันที่ไหนมาก่อนหรือ ไม่?” คุณชายท่านหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาได้สังเกตเห็นหลินชิน เยียน จึงรีบเดินเข้ามาทัก

หลินซินเยียนตกใจ เมื่อหันไปกลับนึกไม่ถึงว่าผู้ที่เข้ามาส นทนาจะเป็นอู่ฉือ นางเลิกคิ้วมองที่ข้างกายเขาโดยไม่ทัน รู้ตัว การปรากฏกายของเขาแตกต่างจากแต่ก่อนอยู่บ้าง นี่ เป็นครั้งแรกที่รอบๆตัวเขากลับไม่มีพวกของฮูเหยียนหลิวหยุ น

“คุณชายคงจำผิดแล้ว ข้าน้อยไม่เคยพบคุณชายมาก่อน แต่ว่าข้าน้อยอาจจะคล้ายคนส่วนใหญ่ มีคนไม่น้อยที่จำข้า น้อยผิดไป” ในยามที่หลินซินเยียนพูดจา นางพยายามกด เสียงให้ต่ำลง ฟังดูเหมือนวัยรุ่นที่กำลังอยู่ในช่วงเสียงเปลี่ยน

อู่ฉือจู่ๆพลันจ้องมองนางอีกครั้ง จึงกล่าว “เมื่อดูให้ถี่ถ้วน กลับไม่คล้าย ดูเหมือนจะจำผิดไป คุณชายไม่น่าจะเป็นคนผู้ นั้นได้”
ในเรื่องเทคนิคการแต่งหน้าของตน หลินซินเยียนมีความ มั่นใจพอสมควร หลังจากที่อู่ฉือพยักศีรษะให้ นางก็เดินไปยัง ด้านหน้า เพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าวกลับถูกอู่ฉือคว้าแขนไว้

คุณชาย ไม่ใช่ว่าท่านจะไปพนันฝั่งม้ามืดนั่นหรอกนะ? อู่ ฉือถามด้วยความแปลกใจ

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? อัตราต่อรองสูงเช่นนี้ ถ้าหากว่าผู้นั้น ชนะขึ้นมา ข้าที่ลงทุนหนึ่งร้อยหากชนะจะได้กลับมาหนึ่งพัน แปดร้อยตำลึง แล้วไยถึงจะไม่ลงล่ะ?” หลินซินเยียนกล่าว ตอบ

อู่ฉือส่ายหน้าไปมา “ดูเหมือนว่าน้องชายจะไม่ใช่คนที่เล่น บ่อยนัก อัตราต่อรองยิ่งสูง การที่จะชนะก็ยิ่งน้อย การเดิมพัน ครั้งนี้ปัญหาไม่ใช่ว่าการลงมากหรือลงน้อย ต้องอาศัยกำลัง ที่แท้จริงในการเดิมพันครั้งนี้ ดูเหมือนเจ้าจะไม่รู้จักศาลา ความลับแห่งสวรรค์เท่าไรนัก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ