ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่433 สถานการณ์ในการสู้รบ



ตอนที่433 สถานการณ์ในการสู้รบ

โจว่เฉิงเห็นปฏิกิริยาคนพวกนี้ ใบหน้าที่ซ่อนความตกใจค่อยๆคลาย ออกมากล่าวชื่นชม“ดูพวกเจ้าฉลาด กว่าที่ข้าคิดไว้มากนะ?แต่รู้ว่าข้าจะทำ อะไรแล้วยังไงพวกเจ้า…..ไม่มีทาง ต่อต้าน”

ตอนเขาพูดเช่นนี้ก็หันกลับไปสั่ง ทหารข้างติดตามมาจับพระราชนัดดา อี้เซิงของพวกเราว่าที่ฮ่องเต้ใน อนาคตโปรดทรงขึ้นมา!

ทหารที่ถือมีดยาวสองสามคน เดินเข้ามาอี้เซิงมองทางหลินซีนเยียน หลินซีนเยียนพยักหน้าฝีเท้าอี้เซิงไม่ ขยับเขากลับพูดกับอี้เซิง“ข้าจะตาม เจ้าทุกประการแต่อาจารย์ข้ากับพี่สาว ข้าต้องติดตามไปด้วยถ้าพวกเขาได้ รับบาดเจ็บอะไรข้าจะปลิดชีพตัวข้า เองแล้วก็ไม่ตามเจ้าแน่ไม่มีข้าเจ้าก็ เป็นขุนนางก่อกบฏแย่งชิงแผ่นดินเสีย ชื่อฉาวโฉ่ถึงลูกถึงหลานนับหมื่นปี”

โจว่เฉิงขมวดคิ้วสายตามองไปที่ หลินซีนเยียนและสวี่ห้าวสำหรับโจว่เฉิ งก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งและอาจารย์ฝึกวร ยุทธคนหนึ่งเท่านั้นเองคุกคามต่อเขา ไม่ได้จึงตอบรับทันที

เวลานั้นโจว่เฉิงยังรู้ว่าแม้เขามอง ข้ามสองคนนี้นึกไม่ถึงว่าจะร่วมมือกัน ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีได้อย่าง ง่ายดายถ้ารู้ตั้งแต่แรกตอนนี้เขาคง สังหารทั้งสองคนอย่างไม่ลังเลแม้แต่

น้อย

มีคำอนุญาตของโจว่เฉิงทหาร พวกนั้นไม่ทำร้ายหลินซีนเยียนและสวี่ ห้าวและให้ทั้งสามคนขึ้นรถม้า

ในรถม้าหลินซีนเยียนค่อยๆเก็บ ปืนอย่างระมัดระวังในขณะเดียวกัน ค่อยๆพูดออกมา พวกเราปลอดภัย ชั่วคราวแล้วแต่ตอนนี้ยังรับประกันไม่ ได้ทางโม่จื่อเฟิงนั้นคิดหาทางเชื่อง ช้าจนไม่ทันกาลยังต้องติดต่อกับกลุ่ม อิทธิพลอื่นอีกถึงจะดี

“มีหวังดีกว่าไม่มีหวังแล้วผืน”อี้ เชิงพูดปลอบ ใช่แล้วพี่สาวของที่เจ้า ทำน่ะข้าดูได้หรือไม่?ของชิ้นนั้นแรงดี นักคาดว่าผู้มีฝีมือขั้นสูงทั้งหมดอาจ จะซ่อนอาวุธลับแบบนั้นไว้

หลินซีนเยียนหยิบปืนขึ้นออกมา ส่งให้ในมืออี้เชิง”นี่เรียกว่า ‘ปืน’ เป็น อาวุธชนิดหนึ่งด้านในไม่ใช่อาวุธลับ แต่เป็นกระสุนแต่เพราะข้อจำกัดทาง วัตถุดิบและฝีมือของที่นี่ ต่อไปมีเวลา ว่างแล้วข้าจะทำให้พวกเจ้าคนละ กระบอก”

“ปืน?”อี้เชิงดวงตาเป็นประกาย สนใจอาวุธกำลังสังหารร้ายแรง พี่ สาวเจ้านี่เก่งจริงๆทำของแบบนี้ออก มาได้ข้าว่าเทียบของไร้ประโยชน์ของ ศาลาความลับแห่งสวรรค์กับของเจ้าก็ เทียบกันไม่ติดหรือว่าข้าก็ต้องมีปืนสัก กระบอกหลังจากนี้ปกป้องพี่สาวได้ ศัตรูเก่งกาจกว่านี้ข้าก็ไม่กลัว”

หลินซีนเยียนลูบหัวอี้เซิงอย่าง อ่อนโยน“อันที่จริงนี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าค้น พบหรอกแต่ได้มาโดยบังเอิญแค่นั้น เองแต่อาวุธประเภทนี้ทำออกมาคงจะ เป็นเรื่องที่ดีแน่ อาวุธโดยหลักใช้ เกี่ยวกับสงคราม ถ้าของชิ้นนี้อยู่ใน สงครามคนจะบาดเจ็บล้มตายมาก แน่นอนทำให้สงครามยิ่งโหดร้ายมาก ขึ้น”

นี่คือสิ่งที่นางกังวลแต่ไหนแต่ไร มาเธอไม่ต้องการใช้กำลังตัวเอง เปลี่ยนแปลงสังคมในสมัยนี้ทุกๆ สังคมล้วนเปลี่ยนไปจะต้องมีกฎ เกณฑ์ที่แน่นอนการทำอะไรที่เร่งมาก เกินไปไม่ใช่เรื่องดีเธอแค่กลัวถึงตอน สุดท้ายคนที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด คือประชาชนเท่านั้นเอง

“แม่นางจิตใจช่างเมตตาจริงๆ”สวี่ ห้าวเหมือนมองความคิดหลินซีนเยียน ออกรับปืนมาอยู่ในมือแล้วดูคึกคัก สนใจ แต่แม่นางอย่าทุกข์ใจเกินไป ไม่มีปืนก็ยังมีอาวุธอื่นเกิดขึ้นมาโดย เฉพาะให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำสู้ กุมอำนาจไว้เสียเองดีกว่าชีวิตนี้ข้าไม่ เคยเห็นอาวุธร้ายฉกาจเพียงนี้พูดตาม จริงวรยุทธของข้าคงหลบได้แน่นอน ปิดซ่อน”

“คงได้แน่นอน?”หลินซีนเยียนชัก มุมปากในใจปลงอนิจจังอย่างถึงที่สุด กระสุนนี้ไม่ใช่ของที่ความเร็วของคน จะหลบได้และสวี่ห้าวบอกว่าอาจจะ หลบไม่ได้?เช่นนั้นจะบอกว่าข้าอาจจะ หลบได้ ?ดูท่าผู้ศึกษาวรยุทธชั้นเลิศ ในสังคมนี้ยังเก่งกาจกว่าที่นางคิดไว้ มาก”

สงครามนอกคนและม้ายังคงมีต่อ ไปแต่พอตรวจดูช่วงเวลาคนและม้า ของโจว่เฉิงไล่ตามจับกองทัพที่ออก มาจากพระราชวังในเมืองแต่ทางที่รถ ม้าไปคือทางไปพระราชวัง

โจว่เฉิงเร่งม้าเดินไปที่ด้านหน้า ของกองทัพทหารรอบตัวสิบกว่าคน เป็นองครักษ์เสื้อเกราะสีดำบนตัวเขา เห็นเพียงดวงตาฮึกเหิมคู่หนึ่ง ท่ามกลางประชาชนทั้งสองฟากฝั่งมัก มีคนแอบมองแม่ทัพใหญ่ตีประตูเมือง แตกเพียงวันเดียวจากร่องหน้าต่าง เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุด รถม้ามาถึงพระราชวังแคว้นหมัน ประตูใหญ่ของพระราชวังถูกคนและ ม้าของโจว่เฉิงอยู่แทนที่เมื่อเห็นโจว่ เฉิงเหล่าทหารที่ประตูคำนับอย่างยิ่ง ใหญ่พร้อมเพรียงกัน

“รายงานแม่ทัพฮ่องเต้ไร้ ประโยชน์นั่นถูกคุมตัวอยู่ที่พระราชวัง หย่งเหอโดยรอบเหลือคนเพียงร้อย คนรอบพระราชวังหย่งเหอมีเพียงคน ของเราแค่ท่านแม่ทัพสั่งคำเดียว สามารถบุกเข้าไปบั่นคอฮ่องเต้ไว้ ประโยชน์นั่นได้ตลอดเวลา”ชาย ท่าทางเป็นผู้นำทัพคนหนึ่งขึ้นขี่ม้า เข้าไปรายงานโจว่ทางด้านหน้า

โจว่เฉิงเงยหน้าหัวเราะฮ่าๆหลาย ครั้งแล้วถามเหล่าขุนนางราชสำนัก ล่ะ?”

“ในพระราชวังมีขุนนางใหญ่สิบ คนอยู่กับฮ่องเต้ไร้ประโยชน์นั่น ขุนนางใหญ่หนึ่งในสามได้ยินว่าพระ ราชนัดดาอี้เซิงยกทัพทหารเข้ารุกราน สังเกตการณ์ยังมีขุนนางใหญ่หนึ่งใน สาม เดิมทีเป็นฝ่ายของเสด็จพ่อพระ ราชนัดดาอี้เซิงฉะนั้นก็ไม่มีปัญหาอัน ใดขุนนางใหญ่ที่จงรักภักดีพวกนั้นถูก สังหารไปมากแล้ว”ชายที่ท่าทางเป็น ผู้นำทัพอธิบาย

โจว่เฉิงได้ฟังก็ยิ่งพอใจ”ดีตอนนี้ พวกเราไปพระราชวังหย่งเหอและ สังหารฮ่องเต้ไร้ประโยชน์นั่นซะ ตอนที่โจว่เฉิงสั่งลงไปกองทัพ ส่วนใหญ่ก็เดินเข้าไปทางพระราชวัง หย่งเหอ

ในรถม้าพวกหลินซีนเยียนได้ยิน สนทนาของโจว่เฉิงและผู้นำทัพคนนั้น พวกเขามองหน้ากันสีหน้าล้วนกดดัน มาก

“คิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้นั่นจะพังล่ม สลายเช่นนี้ไม่รู้จริงๆว่าในตอนแรก กำจัดพ่อข้ายึดพระราชบัลลังก์ไว้ อย่างไร!”อี้เซิงโกรธเคืองไม่สงบมา เป็นเช่นนี้เวลาพวกเรายิ่งน้อยลง เต็มที”

“อี้เซิงเจ้าพึ่งพูดอะไรน่ะ?ไหลิน ซีนเยียนเหมือนคิดอะไรอยู่ถามทันที อี้เซิงทำสีหน้าตะลึงเอียงคอ“ข้า บอกว่าเวลาพวกเรายิ่งน้อยลงเต็มที”

“ไม่ใช่ประโยคก่อนหน้านี้”หลิน ซีนเยียนพูด

“ข้าไม่รู้จริงๆฮ่องเต้องค์นั้นกำจัด พ่อข้าอย่างไรดูจากตอนนี้พ่อขาก็มี กำลังไม่มาก”

หน้าหลินซีนเยียนเผยดีใจทันที พูด“ดูท่าครั้งนี้โจว่เฉิงน่าจะจับฮ่องเต้ องค์นั้นได้เร็ว”

อี้เซิงและสวี่ห้าวฟังจนเหมือนอยู่ ในม่านหมอกสวีห้าวอดถามไม่ได้ “แม่ นางกำลังคิดเรื่องอะไร?เจ้ารู้ว่าฮ่องเต้ องค์นั้นจะยึดบัลลังก์นี้ได้อย่างไรงั้น หรือ?” “ถ้าขาเดาไม่ผิดเบื้องหลังฮ่องเต้ องค์นั้นต้องเป็นอำนาจของตระกูล อย่างแน่นอน พวกเราเริ่มกังวลว่าถ้า กองทัพสนับสนุนจะมีแค่ของโม่จื่อเฟิ งก็คงไม่อาจรับประกันได้ ถ้าตอนนี้คน ของตระกูลลับมาล่ะก็ไม่แน่ชัยชนะที่ พวกเราจะได้ออกไปยิ่งมากขึ้น”
199338885_107815871433624_3940697817943280633_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ