ตอนที่425ตระกูลหรง
หุบเหวหิมะที่ไม่เคยละลายใน สมัยยุคกลางบนไหล่เขาประณีตงามมี บ้านสร้างขึ้นมาต่อๆกันบ้านส่วนใหญ่มี ส่วนประกอบและสร้างขึ้นจากหินอ่อน มีเพียงสีกระเบื้องเคลือบบนหลังคา สุกใสเป็นประกายสีเช่นนี้เมื่ออยู่ ท่ามกลางภูเขาหิมะก็ยิ่งสะดุดตา
เมฆหมอกพาดผ่านท่ามกลาง ภูเขาหิมะคลุกเคล้าเกล็ดหิมะเป็น แผ่นๆที่กำลังเต้นระบำตามลมอันแผ่ว
เบา
ไม่มีใครรู้สิ่งก่อสร้างแถบนี้คงอยู่ มาถึงร้อยปียิ่งไม่มีใครรู้กว่าจะได้ หุบเหวหิมะเช่นนี้มาได้ต้องมีคนตาย และใช้ทรัพย์มากเท่าไหร่ถึงจะสร้าง บ้านเรือนบนไหล่เขาแต่ทว่าคนมีสติ ปัญญาเฉียบคมย่อมรู้กันทั้งสิ้น เลขจำนวนนั้นกลัวว่าจะเป็นเรื่องที่น่า สะพรึงกลัวยิ่งนักห้ามพูดห้ามพูด
ที่นี่คือบ้านหลักตระกูลขุนนางลับ แห่งตระกูลหรง
ในที่ลับตาคนอันแสนไกลมีห้อง โถงขนาดไม่ใหญ่นักแต่เทียบกับบ้าน ฐานะร่ำรวยทั่วไปนับว่าของประดับ ตกแต่งมีความประณีตหรูหราแต่เมื่อ เทียบกับบ้านผู้อื่นกลับดูย่ำแย่โหดร้าย ยิ่งกว่า
ห้องโถงอยู่บนไหล่เขาเปิด หน้าต่างมองออกไปจะเห็นหุบเหวลึก ไม่มีที่สิ้นสุดและเมฆหมอกที่กำลัง ล่องลอยในกลางบ้านจุดเตาไฟแม้จะ เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิแต่เพราะที่นี่คือ ที่ที่หนาวสุดขั้วฉะนั้นทั้งสี่ฤดูกาลใน หนึ่งปีจึงมีแต่สภาพแวดล้อมที่หนาว จนเป็นน้ำแข็ง
ชายผู้หนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นด้าน ข้างมีคนรับใช้หนุ่มคนหนึ่งกำลัง คุกเข่ายกหนังสืออยู่ที่ด้านหน้าเขาทุก ครั้งที่เขาอ่านจบหนึ่งหน้าคนรับใช้ หนุ่มผู้นั้นจะพลิกหนึ่งหน้าให้เขาด้าน หลังเขายังมีหญิงงามร่างอ้อนแอ้น อรชรกำลังยืนอยู่เพียงแต่สีหน้าหญิง งามเย็นชายิ่งกว่าหิมะที่นอกหน้าต่าง ทำให้คนรู้สึกกลัวจนตัวสั่น หน้าต่างมองออกไปจะเห็นหุบเหวลึก ไม่มีที่สิ้นสุดและเมฆหมอกที่กำลัง ล่องลอยในกลางบ้านจุดเตาไฟแม้จะ เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิแต่เพราะที่นี่คือ ที่ที่หนาวสุดขั้วฉะนั้นทั้งสี่ฤดูกาลใน หนึ่งปีจึงมีแต่สภาพแวดล้อมที่หนาว จนเป็นน้ำแข็ง
ชายผู้หนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นด้าน ข้างมีคนรับใช้หนุ่มคนหนึ่งกำลัง คุกเข่ายกหนังสืออยู่ที่ด้านหน้าเขาทุก ครั้งที่เขาอ่านจบหนึ่งหน้าคนรับใช้ หนุ่มผู้นั้นจะพลิกหนึ่งหน้าให้เขาด้าน หลังเขายังมีหญิงงามร่างอ้อนแอ้น อรชรกำลังยืนอยู่เพียงแต่สีหน้าหญิง งามเย็นชายิ่งกว่าหิมะที่นอกหน้าต่าง ทำให้คนรู้สึกกลัวจนตัวสั่น ร่างที่ใส่ชุดขาวกำลังแต่งตัวหญิง สาวหน้าตางามเคาะประตูเข้ามาในมือ ยกเสื้อคลุมสะอาดสะอ้านชุดหนึ่งนาง เข้ามาในห้องอดจ้องมองชายที่นั่งบน รถเข็นไม่ได้ในแววตาทรงเสน่ห์มิอาจ ซ่อนเร้นได้นั้นนางไม่เข้าใจเหตุใด ผู้ชายคนหนึ่งถึงเกิดออกมาหน้าตา งามเกินคนเช่นนี้ได้
นางได้ฟังอาจารย์ตั้งแต่แรกแล้ว ชายผู้นี้เคยเป็นบุตรของหญิงงามที่สุด ในตระกูลหรงนางยังเปล่งเสียงต่ำ ออกมาจากลำคอหน้าตานางเป็นที่ ยอมรับในตระกูลมากที่สุดยังมีคนงาม กว่านางอีกหรือ?
ทว่าเมื่อตอนนางเห็นชายด้าน หน้านางถึงจะเชื่อคำพูดของอาจารย์ หญิงผู้นั้นต้องงามมากๆมิฉะนั้นคงไม่ เหลือบุตรชายรูปงามเกินคนไว้อย่าง แน่นอน
แววตาหญิงสาวจ้องมองทำให้ คนที่อยู่ด้านหลังเก้าอี้ไม่พอใจกระแอ มเบาๆด้วยความรังเกียจทีหนึ่งถึงจะ เรียกสติหญิงสาวกลับมานางรีบถอน สายบัวพูดกับชายนั่งบนรถเข็น คารวะ ท่านฟูจื่อโม่อาจารย์ข้าสั่งไว้แล้วใช้ ชุดคลุมผ้าแพรชุดนี้ร่วมกับน้ำของสระ น้ำแข็งจะเกิดประโยชน์กับการบาด เจ็บของท่านมากที่สุดข้าจึงส่งมาให้ ท่านแล้วก็ถือโอกาสให้ข้าเตือนท่าน ในสองวันจะต้องเข้าไปในบึงน้ำเย็น
โปรดท่านเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า”
“วางไว้เถิดรบกวนแม่นาง แล้ว”โม่จื่อเฟิงพูดเสียงเบา
น้ำเสียงเย็นชารวมกับใบหน้า หล่อผู้ดีเช่นนี้พูดประโยคเดียวก็ทำให้ หญิงสาวคนนั้นหน้าแดงขึ้นมาได้
สีหน้าหนีหว่านน่าเกลียดมากนัก นางนึกถึงหลินซีนเยียนขึ้นมาทันที อย่างน้อยหลินซีนเยียนไม่ทำหน้า เหมือนคนที่มๆจนทำให้คนมองรู้สึก รังเกียจเพียงเพราะหลงใหลรูปงาม ของเจ้านายอย่างเด็ดขาดหากเทียบ ระยะความสัมพันธ์เมื่อก่อนนางรู้สึกว่า หลินซีนเยียนขวางหูขวางตาแต่พอมา เทียบกับผู้หญิงพวกนี้หลินซีนเยียนก็
ไม่ได้ดูดีกว่าเลย
“เอาล่ะเอามาให้ข้าเถิด”หนีหว่าน เดินไปด้านหน้ารับเสื้อคลุมจากมือ หญิงสาวคนนั้นหลังจากนั้น ยัง“ตั้งใจ”เปิดประตูบ้านให้หญิงสาว คนนั้นนั่นความหมายชัดเจนอยู่แล้วส่ง เสื้อผ้าแล้วยังไม่ไสหัวไปอีกจะรอกึน ข้าวเที่ยงรึไง?
ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้สายตาโม่ จื่อเฟิงมองในหน้าหนังสือไม่ชายตา มองหญิงสาวสักนิด
หญิงสาวคับแค้นใจมองโม่จื่อเฟิ งอย่างไม่เต็มใจอีกถึงทำตัวไม่ถูกเดิน ออกจากห้องไป
“ไม่ดูพฤติกรรมตัวเองเสียเลยยัง กล้ามาจ้องความหล่อนายท่านตาเป็น มัน……”หนีหว่านปิดประตูใส่ไม่ เกรงใจเริ่มตำหนิทันทีอันที่จริงผู้หญิง ที่ถูกทิ้งถูกมองข้ามคน นรูปร่าง หน้าตานางไม่ได้ต่างไปจากในความ จริงเรื่องนี้
โม่จื่อเฟิงไม่มีแม้แต่จะแหงนหัว มองเพียงแต่พูดเสียงเย็นชา“หนีหว่าน เจ้าเริ่มจับผิดแล้ว”
“เอ่อมีที่ไหน?”หนีหว่านนำชุด คลุมผ้าแพรไว้วางบนชั้น
“มี”มุมปากโม่จื่อเฟิงเหมือนจะ ยิ้ม“ตอนนางมาด้านหน้าน่ะข้างกายข้า ไม่เคยขาดสตรีแต่ที่ผ่านมาไม่เคยเห็น ผู้หญิงคนใดแสดงสีหน้าไม่พอใจออก มาเยี่ยงนี้แต่หลังจากนางมาเจ้าคิดว่า คนที่ปรากฏข้างกายข้าทั้งหมดใน ตอนนี้จะดูตาเจ้าไม่ออก”
หนีหว่านอึ้งคิดขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับรู้เป็นเช่นนี้จริง
“นางต้องการพิชิตใจมากกว่าที่ . ข้าคิดไว้เสียอีก”ตอนโม่จื่อเฟิงพูดคำ ว่า“นาง”บนใบหน้ามักจะซ่อนรอยยิ้ม จางๆเสมอคนอย่างเขาดูเค้าโครงรูป ร่างหน้าตาคงมีความอบอุ่นน้อยนิด
หนีหว่านอดถอนหายใจไม่ได้ ใช่ สิของบางอย่างสูญเสียไปวันหนึ่งถึง จะรู้คุณค่าผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกัน เมื่อก่อนอยู่ให้เห็นตรงหน้าทุกวันรู้สึก ขวางหูขวางตายิ่งนัก แต่ตอนนี้นางไม่ อยู่แล้วกลับรู้สึกว่าในห้องนี้ขาดอะไร ไปบางอย่างและคนที่เศร้าที่สุดก็คือ นายท่านทุ่มเทมากขนาดนั้นอดทน มากขนาดนั้นสิ่งที่แลกกลับมาคือผู้ หญิงคนนั้นที่ทำตัวป่าเถื่อนที่สุด
“นายท่าน….ผู้หญิงที่มาส่งเสื้อ คลุมคนนั้นแค่เป็นข้ออ้างต่างหาก นางกำลังเตือนพวกเรา แล้วสองวันนี้ ต้องเข้าไปในบึงน้ำเย็น แต่ตอนนี้ยัง ไม่ได้หญ้าจื่ออวี้นถ้าไม่มีหญ้าจื่ออวี้ นท่านลงไปในบึงน้ำเย็นเกรงว่า ”หนีหว่านลังเลที่จะพูด
มุมปากโม่จื่อเฟิงค่อยๆซ่อนเร้น รอยยิ้มเขารู้แน่นอนว่าหญิงสาวผู้นั้น มาที่นี่เพื่ออะไร”บนโลกนี้มีหญ้าจื่ออ อื่นต้นอื่นจริงๆสินะ……
“นายท่านพระชายาแย่งหญ้าจื่ออ วั่นไปเพราะต้องช่วยน้องชายของ นาง…. “ถ้าตอนนั้นพวกเราบอกนาง หญ้าจื่ออวิ๋นนั่นจะเป็นของพวกเราพี่ สาวหลีฮวนหามาให้ท่านบางทีนาง จะ ”
หนีหว่านพูดไม่ทันจบโม่จื่อเฟิง พูดตัดบทนาง นางยังเลือกช่วยชีวิต น้องชายนางเหมือนเดิมอย่าลืมล่ะข้า เลิกกับนางแล้วยังต้องการสังหารน้อง ชายนางอีกด้วยนาง….เกลียดข้า
เกลียดคำๆนี้สำหรับเขามัน เหมือนโทษประหารที่โหดร้ายทารุณ ทุกข์ทรมานทั้งกายและใจทั้งวันจน เขาไม่สงบนิ่งแม้แต่เขาเองก็คาดไม่ ถึงผู้หญิงตัวเล็กๆอ่อนแอคนหนึ่งจะ เข้ามาอยู่ในใจเขาได้ทั้งชีวิตไม่อาจ ลบล้างออกไปได้อีกเลย
“แต่นายท่านก็จําใจ ถ้าท่านบอก เรื่องสภาพร่างกายกับนาง ข้าว่านาง ไม่ใช่คนที่จะละทิ้งท่าน บางทีก่อน หน้านี้ท่านให้โอกาสนางอยู่เคียงข้าง ท่าน…..”หนีหว่านยังไม่พอใจอีกด้วย
“อยู่เคียงข้างข้า?”ไม่จื่อเฟิงยิ้ม เสียดสี“มาที่นี่หลังจากนั้นให้นางตก อยู่ในมือตระกูลหรงงั้นรึ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ