ตอนที่397ความคิดถึงที่เจ็บปวด
แต่ว่าส่วนใหญ่นั้นกลับเป็นตอน แรกที่แผนการถูกทำลายหลินซีน เยียนมองสีหน้าเย็นชาของเขา
หลินซีนเยียนเองก็คิดไม่ถึง เหมือนกันว่าจะมาเจอกับอินฉีอีกครั้ง ที่นี่ในใจที่ตกตะลึงเกือบทำให้นางลืม ที่จะมีปฏิกิริยาออกมายังไงที่นี่ก็คือ แคว้นหมันไม่ใช่หนานเยว่เพียงแปป เดียวนางก็ดึงสติกลับมาจากอาการตก ใจอินฉีสำหรับนางแล้วได้กลายเป็น อดีตเพื่อนสนิทที่กลายเป็นคนแปลก หน้าไปตั้งนานแล้วยิ่งกว่านั้นในตอนที่ เขาเกือบจะเปลี่ยนมาทำร้ายเสี่ยวอวี่ จิ่งตอนนั้นในใจของนางก็ไม่มีพื้นที่ให้ กับเขาตั้งนานแล้วไม่ว่าจะสถานะใด ก็ตาม
ก่อนหน้านี้มีคนแอบช่วยอย่าง ลับๆให้ผงยาที่ทำให้ผื่นขึ้นทั้งตัวชนิด หนึ่งกับนาง นางก็ยังคิดอยู่เป็นใครกัน ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยในยามคับขันแบบนี้ ได้ในใจลึกๆนางเคยสงสัยว่าจะใช่โม่ จื่อเฟิงหรือไม่ทั้งๆที่ก็รู้ว่าไม่มีทางเป็น ไปได้แต่ก็ยังอดหวังให้เป็นไม่ได้
สำหรับใจที่สับสนนี้แม้ว่านางจะ ปฏิเสธแต่ก็ไม่มีแรงจะคัดค้านในตอน นี้เมื่อเห็นคนที่ปรากฏตรงหน้าคืออินฉี ในก้นบึ้งของหัวใจนางก็ยังอดไม่ได้ที่ จะผิดหวังออกมา
“ท่านอินแม่นางนางนี้ท่านพอจะ ถูกใจหรือไม่?”ฉินชิงเฟิงใช้แขนสะกิด เข้าที่อินฉีถามออกมาเสียงเบา
อินฉีเก็บสายตาของตนอย่าง ตกใจสีหน้ายังคงเป็นสีหน้าตกตะลึง เหมือนเดิมเขาพยักหน้าแล้ว ตอบ : “อืม”
ฉินชิงเฟิงรีบหันมายิ้มทันที ท่าน ถูกใจก็ดีแล้วล่ะ”หญิงที่ทั้งสวยแล้วก็ รูปร่างดีแบบนี้ชายใดก็ถูกใจทั้งนั้น ไม่ใช่หรือไง?ฉินชิงเฟิงรู้สึกไม่พอใจ อยู่ในใจแต่สีหน้ากลับยังคงยิ้มอยู่ใช้ มือข้างหนึ่งจับมือของอินฉีแล้วหมุน ตัวลากเขาออกไปทางข้างนอก แม่ นางนี้ก็ได้เห็นแล้วตอนนี้ยังคงเช้าอยู่ พวกเราสองคนก็ไม่ได้เจอกันมานาน ไปดื่มชากันสักหน่อยแล้วค่อยกลับมา หาหญิงนางนี้ข้าฉินโม่วเหรินขอ สัญญาว่าจะส่งให้ถึงเตียงของท่าน อย่างเรียบร้อยเลย
อินฉีเพียงแค่ยิ้มบางๆออกมาแต่ ไม่ได้พูดอะไรตามเขาเดินออกไป นอกตำหนักไม่ได้หันกลับไปแล้วก็ไม่ ได้มองดูสีหน้าของหลินซีนเยียน
แม่นมทั้งสองคนก็ปิดประตูห้อง อีกครั้งในห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง หลินซีนเยียนคิ้วขมวดแล้วค่อยๆนั่งลง ตรงด้านหลังโต๊ะไม่ได้กังวลเรื่องที่จะ เกิดขึ้นในคืนนี้แต่อย่างใด
ในเมื่ออินฉีส่งคนมาช่วยนางยัง ไงก็คงจะคิดหาวิธีช่วยนางเป็นแน่แต่ ว่า…นางก็แค่ไม่อยากจะมีความเกี่ยว ข้องใดๆกับอินฉีอีกก็เท่านั้น
ถือโอกาสที่แม่นมคนหนึ่งมาส่ง อาหารเย็นหลินซีนเยียนเลยถามไถ่ เกี่ยวกับเรื่องของเด็กผู้หญิงที่ถูกนาง ซื้อไว้แต่ว่าแม่นมนั้นก็ปิดปากแน่นไม่ หลุดข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรออกมา แม้แต่น้อย
กลางคืนค่อยๆมืดลงไปเรื่อยๆ
หลังจากที่เปลี่ยนเทียนไปสอง เล่มในที่สุดในตำหนักก็มีเสียงฝีเท้า คนผ่านไปสักพักอินฉีที่กลิ่นเหล้าเต็ม ตัวก็ผลักประตูเข้ามา
เขาเดินเข้ามาอย่างโซเซพอเห็น หลินซีนเยียนทันใดนั้นก็ตกใจจนนิ่ง ค้างไปเขาก็มองนางอย่างตกตะลึงอยู่ อย่างนั้นในสายตานั้นเต็มไปด้วยความ รุ่มร้อนและความคิดถึง
สายตาแบบนี้ที่มองมาในใจหลิน ซีนเยียนก็เต้นแรงจนอดไม่ได้ถอย หลังไปสองก้าวนางรู้ว่าอินฉีไม่ใช่คน ที่จะทำร้ายอะไรใครแต่ว่านางเองก็ กลัวผู้ชายที่ถูกอารมณ์ครอบงำ เหมือนกันโดยเฉพาะผู้ชายที่กำลังเมา
นางมองไปทางประตูที่อยู่ข้าง หลังอินฉีประตูไม่ได้ถูกล็อกนางกำลัง คิดถึงความเป็นไปได้ที่จะวิ่งหนีออก ไปจากที่นี่
“ซีนเยียน…”อินฉีพูดออกมาด้วย น้ำเสียงที่แหบพร่าหลายปีมานี้เพราะ ว่าความยึดติดในใจเขาเลยไม่อาจ ปล่อยวางความต้องการของเขาลงได้ ดังนั้นเลยไม่เคยจะให้ตัวเองเมาจนไม่ ได้สติมาก่อนยิ่งกว่านั้นยิ่งต่อหน้าคน แบบฉินชิงเฟิงด้วยแล้วแต่ว่าเหล้าไม่ มอมคนคนก็เมาเองได้เขาคิดไม่ถึง เลยว่าผ่านมาไม่กี่เดือนจะได้มาพบ นางโดยบังเอิญอีกครั้งคนที่มีผลกระ ทบอย่างมากสำหรับเขา
บางทีคงจะเพราะจิตใจที่คิด อยากจะเมาดังนั้นเขาก็เลยดื่มเหล้า เข้าไปนิดหน่อยกลายเป็นว่าเมาจน เบลอไปหมด
อินฉีหัวเราะเยาะตัวเองเดินไป ข้างหน้าอย่างโงนเงนพอมาถึงตรง หน้าของหลินซีนเยียนก็แบมือออก แล้วกอดนางไว้โดยไม่สนใจว่าหลิน ซีนเยียนจะทุบตีเขายังไงเขาสนใจ เฉพาะคำอ้อนวอนและสิ่งที่บรรเทา ทุกข์ของเขาเท่านั้น“ซีนเยียนอย่าใช้ สายตาเย็นชาแบบนั้นมองข้าอีกเลย ได้หรือไม่แม้ว่าเจ้าจะเกลียดข้าก็ไม่ เป็นไรขอแค่เพียงอย่าใช้สายตาที่มอง คนแปลกหน้านั้นมองข้า…
“อินฉี!”หลินซีนเยียนผลักอินฉีไม่ ไปในใจก็ยิ่งโกรธจัดเข้าไปใหญ่“อินฉี เจ้าเมาแล้ว! มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยคุย! ”
“ไม่!มีบางเรื่องหากตอนนี้ข้าไม่ พูดพรุ่งนี้พอเห็นสายตาที่มองข้าอย่าง คนแปลกหน้าของเจ้าข้าก็พูดไม่ออก แล้ว”อินฉียิ่งกอดนางแน่นไปอีกสาย ตาเบลอๆเล็กน้อย รู้มั้ย?ข้าคิดว่า ตลอดชีวิตนี้ของข้าคงจะจมอยู่กับ ความโกรธแค้นถึงขนาดที่ข้าไม่เคย คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไป เพราะงั้นหลายปีมานี้ข้าไม่มีทั้งภรรยา ไม่มีทั้งลูกปฏิเสธการหมั้นหมายกับ ทุกคนยอมที่จะโดดเดี่ยวตัวคนเดียว เพราะว่าข้ารู้ว่าเรื่องที่ข้าต้องการจะ ทำดินแดนที่กว้างใหญ่หากแพ้ก็ตาย ไปอย่างไร้พื้นที่ดังนั้นข้าก็เลยไม่ อยากมีเยื่อใยไม่อยากเพราะว่าเรื่อง อะไรมาทำให้ข้าต้องปันใจ”
คำพูดของอินฉีพูดอย่างเมาๆให้ ความรู้สึกสับสนมั่วไปหมดแต่ว่าท่าที ของเขากลับดูเสียใจมากทำให้คน เผลอตอบรับสิ่งที่กำลังเมาป้อแป้อยู่ อย่างไม่รู้ตัวให้ภาพลักษณ์จมอยู่ใน ความแค้นแล้วก็สร้างกรอบระเบียบให้ กับตัวเองตั้งแต่เด็ก
แต่ว่าพระเจ้ากลับทำให้ข้าพบ “ เจอกับเจ้าข้าไม่ปฏิเสธหรอกว่าใน ตอนแรกข้าตั้งใจเข้าหาเจ้าเพราะว่า ความสัมพันธ์ที่พิเศษของเจ้ากับโม่ จื่อเฟิงจริงๆหวังว่าสักวันเจ้าจะมี ประโยชน์กับข้าแต่ว่า….ข้าไม่เคยคิด เลยว่ายิ่งได้ใกล้ชิดกับเจ้าก็ยิ่งถูกเจ้า ดึงดูดขึ้นเรื่อยๆใครจะไปคิดว่าสาว งามที่เกิดมามีใบหน้างดงามกลับเกิด มาพร้อมกับสมองที่ชาญฉลาดด้วย ความคิดของเจ้าแววตาของเจ้าทุกๆ การกระทำของเจ้าราวกับไม่เหมือน หญิงอื่นทั่วๆไปเจ้าดูเหมือนจะอ่อนแอ แต่กลับทำเรื่องที่ทุกคนคาดไม่ถึงได้”
อินฉีพูดไปแล้วก็ยิ้มขึ้นมาราวกับ จะนึกถึงภาพที่ทำให้เขารู้สึกดี
หลินซีนเยียนผลักเขาไม่ไปได้แต่ ทนฟังสิ่งที่เขาอยากจะพูดออกมา ทั้งหมดแต่น่าเสียดายใจของนางมัน ได้ตายไปนานแล้วยิ่งไม่มีทางเพียง เพราะคำพูดไม่กี่คำแล้วจะทำให้ลืมสิ่ง ที่เขาเคยทำลงไปได้
“ซีนเยียน…ถ้าหากว่า ถ้าหากว่า ตอนแรกข้าไม่เดินไปถึงจุดนั้นพวกเรา จะเป็นไปได้ไหม?”อินฉีค่อยๆถอย ออกมานิดหน่อยสายตามองไปที่นาง จ้องมองนางอย่างคาดหวังสุดหัวใจ
หลินซีนเยียนยิ้มออกมาอย่างเย็น ชา“เจ้าคิดว่าเป็นไปได้ไหมล่ะ?ในตอน ที่เราเจอกันข้าก็เป็นผู้หญิงของโม่ จื่อเฟิงไปแล้วทำไมมหาเสนาบดีผู้ยิ่ง ใหญ่จะใช้รองเท้าขาดๆคู่ที่มีคนอื่น เคยใช้ไปแล้วงั้นหรือ?”ในโลกยุค โบราณนี้อินฉีนั้นก็เป็นคนมียศมี ตำแหน่งเขาจะรับได้งั้นหรอ?เป็นไป ไม่ได้เด็ดขาดเพราะงั้นในตอนที่เขา ถามคำถามนี้ออกมาในสายตาของ หลินซีนเยียนก็ดูเป็นเรื่องตลกที่ ทำร้ายตัวเขาเอง
“ใช่ ในตอนนั้นเจ้าได้เป็นผู้หญิง ของโม่จื่อเฟิงตั้งนานแล้ว… “อินฉีสาย หน้าอย่างเจ็บปวดราวกับว่าเจ็บปวด จนจะขาดใจเขาค่อยๆน้ำตาไหลออก มา“ถ้าหากข้าบอกว่าข้ารับได้ล่ะข้ารับ ได้แม้แต่ลูกของเจ้ากับเขา….”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ