บทที่ 38 ใครเป็นคนนำโชค
เมื่อจันวิภาได้ยินว่าตอนที่ออกไปทานอาหารเย็นวันนั้น มุกดาเกือบถูกธีรเมทขืนใจ เธอก็รู้สึกเสียใจในความผิด พลาดนี้เอามากๆ ทำไมวันนั้นตนจะต้องดื่มไวน์เข้าไป เยอะขนาดนั้นด้วย ไม่ได้ดูแลมุกดาให้ดี แถมยังให้พี่ ชายต้องมาคอยดูแลเธออีก ดังนั้นมุกดาถึงได้ตกอยู่ใน อันตราย
มุกดาไม่ได้ไปทํางานหลายวันแล้ว เธอไม่กล้าติดต่อไป หามุกดา กลัวว่าหล่อนจะทนรับผลกระทบแบบนั้นไม่ไหว
แต่อดทนอดกลั้นอยู่ทุกวันแบบนี้ จันวิภารู้สึกอึดอัดใน ใจเอามากๆ เลยตัดสินใจไปดื่มเหล้าที่บาร์ ไปผ่อนคลาย เสียหน่อย
เมื่อมาถึงที่บาร์ จันวิภาอยากหาที่สงบๆ สักมุมนั่งดื่ม
ในบาร์ ไฟแสงสีกะพริบวิบวับ เสียงอึกทึกครึกโครม เสียงดนตรีอันบ้าคลั่งทำให้หลายคนโยกตัวไปมาอยู่บน ฟลอร์เต้น
จันวิภาเดินผ่านฟลอร์เต้นข้ามไปทางสถานที่ที่ลับตาคน ที่สุด
ในขณะที่ตัวเธอยังไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวนั้นเอง ก็ถูกสายตาของใครคนหนึ่งจับจ้องเข้าเสียแล้ว
ทศพรขยี้ตาของตัวเองอย่างแรง เขาเพิ่งว่าตัวเองคิดถึง ผู้หญิงคนหนึ่งจบไป ผู้หญิงคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นมาทันที นี่ นี่มันจะบังเอิญเกินไปแล้ว หรือว่าจะเป็นพรหมลิขิต จริงๆ ?
หลังจากยืนยันแล้วว่าใช่ผู้หญิงที่ตัวเองอยากเจอคน นั้น ทศพรก็หันไปพูดกับชลธี “วันนี้ตอนออกจากบ้านฉัน เหยียบขี้หมามาหรือไงนะ? นายค่อยๆ ดื่มอยู่ตรงนี้ไป ก่อน ฉันไปที่อื่นเดี่ยว”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินตรงไปทางจันวิภาโดยไม่มอง ชลธีเลยแม้แต่ปราดเดียว
เมื่อเดินมาถึงมุมสุดของบาร์ จันวิภาก็หาโต๊ะนั่งและ เข้าไปนั่งด้านใน ที่ตรงนี้คนมาน้อยมาก ยกเว้นคู่รักบางคู่ ที่อดใจไม่ไหว คนอื่นๆ ส่วนใหญ่มักจะชอบอยู่ใกล้ๆ กับ ฟลอร์เต้น
บาร์เทนเดอร์สายตาดีมาก เมื่อเห็นจันวิภามาก็รีบเดิน ตามมาทันที จันวิภาสั่งเหล้าไปหนึ่งขวดและของว่างทาน เล่นอีกเล็กน้อย
ที่นั่งของเธอหันหน้าเข้าหาฟลอร์เต้น สามารถมองเห็น คนบนฟลอร์โยกตัวตามเสียงเพลงอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากเหล้าสองแก้วตกถึงท้อง จันวิภารู้สึกว่าอารมณ์ ของเธอดีขึ้นมาบ้างแล้ว เหล้านี่ถือเป็นของดีอย่างหนึ่ง จริงๆ เธอเรียกหาบาร์เทนเดอร์สั่งเหล้าไปอีกขวด ดื่ม อย่างมีความสุขอยู่ตรงนั้นคนเดียว
“แกว่าทําไมวันนั้นฉันต้องดื่มจนเมาด้วยวะ? ปกติฉันดื่ม ได้เยอะจะตายไป แต่ทำไมวันนั้นถึงไม่ปกป้องมุกล่ะวะ? ธีรเมท ไอ้ผู้ชายสารเลว ทอดทิ้งมุกแล้ว ยังต้องการขืนใจ เธออีก แกมันสมควรตายจริงๆ!” เมื่อเหล้าหนึ่งขวดตกถึง ท้อง จันวิภาก็เริ่มพูดมากขึ้นมาทันที
ทศพรที่พิงพนักหันหลังให้เธอแอบขำ ผู้หญิงคนนี้ ดื่ม อยู่คนเดียวยังพูดเองเออเองคนเดียวได้ด้วย ไม่รู้ว่าเธอ กำลังบ่นพึมพำอะไรอยู่
หลังจากผ่านไปสักพัก ทศพรก็นั่งลงตรงข้ามกับจันวิภา แต่จันวิภายังคงจมปลักอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่ได้สังเกต เห็นเลยด้วยซ้ำว่าอีกฝั่งตรงข้ามมีคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
“ธีรเมท ขอให้แกไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต ขอให้ตก กลางคืนแล้วนกเขาไม่ขัน ขอให้เมธพรสวมเขาให้แกสัก สามสี่เขาเลย!” จันวิภากัดฟันสาปแช่ง
“เธอเกลียดธีรเมทขนาดนั้นเลย?” ทศพรพูดแซวกันวิภา
“อืม ฉันเกลียดเขาจะตายอยู่แล้ว เขากล้าขืนใจเพื่อน ของเธอ ตอนนั้นฉันไม่อยู่ในที่เกิดเหตุเท่านั้นแหละ ถ้า ฉันอยู่ที่นั่น ฉันต้องตัดหนอนน้อยของเขาทิ้งแน่” จันวิภา ยังยกมือทําท่ารูปกรรไกรขึ้นมาด้วย
ทศพรรู้สึกเป่าของตัวเองแน่นขึ้นมากะทันหัน ผู้หญิง คนนี้เป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตใช้ได้เลยนะเนี่ย เอะอะก็ เอาแต่จะตัดหนอนน้อยของคนอื่น
“เธอเมาแล้วหรือเปล่า?” ทศพรรู้สึกว่าจันวิภาเริ่มพูดจา ไม่ชัดถ้อยชัดค่าแล้ว เขาเห็นว่าบนโต๊ะมีขวดเปล่าวางอยู่ ถึงสองขวดแล้ว
“เปล่า ฉันจะเมาได้ยังไง ฉันดื่มได้ตั้งเยอะ! บาร์เทนเด อร์ เอามาอีกขวด” จันวิภาโบกไม้โบกมือ ให้บาร์เทนเดอร์ เอาเหล้ามาให้ตัวเองเพิ่มอีกขวด
บาร์เทนเดอร์มาแล้ว แต่ทศพรกลับให้บาร์เทนเดอร์กลับ ไป เขารู้ว่าจันวิภาไม่ไหวแล้ว
ยื่นขวดน้ำโซดาขวดหนึ่งให้จันวิภาจันวิภาเทลงในแก้ว ของตัวเอง ยกคอขึ้นกระดกลงไปจนหมด
“เฮ้ย ไวน์นี่รสชาติแปลกจังอะ ทำไมไม่เหมือนกับที่ดื่ม ไปเมื่อกี้เลย?” จันวิภามองไปที่ยี่ห้อขวดเหล้าของตัวเอง ดวงตาของเธอเริ่มพร่ามัวไปหมดแล้ว
หลังจากมองอยู่นาน เธอก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไรบนขวด เหล้าเลย
“เฮ้อ ฉันไปละ น่าเบื่อจริงๆ เหล้ายังเปลี่ยนรสเลย ไม่ แปลกใจเลยทีธีรเมทเองก็เปลี่ยน ไอ้สารเลว ไอ้สารเลว!” จันวิภาโซเซลุกขึ้นยืน เธอเริ่มมองหากุญแจรถของตัวเอง
“เธอจะไปแล้ว?” ทศพรประคองจันวิภาไว้ พลางเอ่ยถาม
“อืม เหล้าที่นี่ไม่อร่อย ฉันจะเปลี่ยนไปดื่มที่อื่น เฮ้ย กุญแจรถของฉันอยู่ไหนล่ะ?” จันวิภาค้นหาทุกส่วนบน ร่างกายของตัวเอง แต่ก็ไม่พบกุญแจรถเลย
“อยู่ที่ฉัน ให้ฉันไปส่งเธอเถอะ เธอพักที่ไหน?” ทศพร หยิบกุญแจรถของเขาออกมาแล้วยื่นให้จันวิภา
จันวิภารับกุญแจรถมา เธอไม่สนใจทศพรเลย และก็ เหมือนกับตอนมา เธอเตรียมจะเดินผ่านฟลอร์เต้นออก ไปด้วยตัวเอง
ทศพรก็ไม่ได้ร้องเรียกเธอไว้ เพียงแค่เดินตามเธอไป
อย่างเงียบๆ
เมื่อครู่นี้เธอเอาแต่พึมพำถึงธีรเมทตลอด หรือว่าธีรเมทไปยั่วโมโหเธอเข้า
เมื่อคิดว่าธีรเมทหาเรื่องผู้หญิงคนนี้ ทศพรก็มีความคิด อย่างจะออกหน้าแทนเธอขึ้นมา
ตอนที่จันวิภาเดินออกมาถึงหน้าประตู ก็ถูกใครคนหนึ่ง ชนเข้า เธอกำลังจะล้มลงกับพื้น ทศพรจึงฉุดเธอขึ้นมา ก่อนจะแบกขึ้นพาดบ่าเดินออกจากบาร์ไป
ธีรเมทอยู่ในห้องทำงานของตัวเอง มองดูรอยแผลบน ใบหน้าในกระจก โชคร้ายจริงๆ มุกดาคนนี้นำความทุกข์ มาให้ตัวเองไม่น้อยเลย ก่อนที่จะเลิกกับก่อนที่จะเลิกกับ มุกดา เขายังราบรื่นตามน้ำตามลมทุกอย่างอยู่เลย
ต้องเป็นมุกดาแน่ที่คนนำโชคที่แท้จริงในชีวิตของตนเอง หลังแยกจากเธอตนก็โชคร้ายสุดๆ ไปเลย
เขาทายาลงบนแผล เมื่อนึกถึงเมธพรที่ยังอยู่โรง พยาบาลรอให้ตนไปอยู่เป็นเพื่อนแล้ว เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น มาในใจ
เมธพรคนนี้ ในตอนแรกเธอใช้ร่างกายมาดึงดูดเขา แต่ หลังจากคบหากับเธอแล้วจริงๆ เขากลับต้องโชคร้ายอยู่ ตลอด
ถ้าไม่เห็นแก่ที่เอกำลังท้องกำลังไส้ อยากจะเตะเธอทิ้งซะจริงๆ เลย
“ผู้จัดการธีร์ มีพัสดุของคุณค่ะ” เลขาผลักประตูเข้ามา ก่อนจะยื่นพัสดุให้ธีรเมท
ธีรเมทนึกว่าเป็นเอกสารข้อมูลอะไร เขา กพัสดุเปิด ออกอย่างคล่องมือ
หยิบกระดาษสองสามแผ่นออกมาจากด้านใน ดูเหมือน ว่าจะเป็นใบรับรองอะไรบางอย่างจากโรงพยาบาล
ธีรเมทอ่านดูอย่างละเอียด ตัวอักษรบนนั้นแทงทะลวง ลึกเข้ามาในดวงตาของเขา และทิ่มแทงหัวใจของเขาด้วย
ธีรเมทใส่ใบรับรองเหล่านั้นลงในกระเป๋าของตนเอง เขา ขับรถไปที่โรงพยาบาลด้วยความโมโห
เมธพรนอนอยู่ที่โรงพยาบาล เธอแทบรู้สึกว่าตัวเอง ฉลาดมากเกินไปแล้ว ใช้แค่กลอุบายเล็กน้อยเท่านี้ ไม่ใช่ แค่ทำให้ธีรเมทเกลียดมุกดามากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น ทั้งยัง สามารถแก้ไขกำจัดภาระของตัวเองไปได้อีกด้วย
มุกดาเอ๋ยมุกดา ตั้งแต่เด็กเธอดีกว่าฉันไปเสียทุกอย่างแต่สมองของเธอกลับไม่ฉลาดเท่าฉัน ฉันต้องการแย่งทุก อย่างที่เป็นของเธอ ผู้ชายของเธอ ความมั่งคั่งร่ำรวยของ เธอ
เมธพรพึงพอใจมาก เธอคิดว่าตอนนี้มุกดาคงจะหาคน แก่หัวหงอกและขายตัวเองให้ไปแล้วแน่ๆ ได้ยินมาว่า ณิชพนถูกส่งไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ซึ่งนั่นต้องใช้เงิน จำนวนมหาศาล จากสถานการณ์ของตระกูลแก้วสุทธิ์ใน ตอนนี้ ไม่มีทางหามันได้แน่นอน
ขณะที่เมธพรกำลังครุ่นคิดอย่างพอใจ ประตูห้องพักผู้ ป่วยก็ถูกถีบจนเปิดออกเสียงดังสนั่น ธีรเมทเดินเข้ามา ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ