พิชิตใจสามีลึกลับของฉัน

บทที่ 81 เรียกหนูว่ามุกเถอะ



บทที่ 81 เรียกหนูว่ามุกเถอะ

เขาคนนั้นนำสัญญาที่เขาเตรียมไว้ตั้งนานแล้วออกมา ให้มุกดาดูแล้วก็เซ็นชื่อ

ในสัญญานั้นเขียนว่าเขาคนนั้นจะไปต่างประเทศห้าปี ในห้าปีนี้ให้มุกดามาดูแลบ้านของเขา รายละเอียดดูแล อย่างไรไม่ได้เขียน แต่ว่ายังเขียนว่ามีค่าดูแลให้เดือนละ ห้าพัน โอนเข้าบัญชีมุกดาทุกวันที่สิบห้าของเดือน

วันนี้ตัวเองโชคดีเหลือเกิน ก่อนอื่นหางานที่มีรายได้ หมื่นกว่าทุกเดือน จากนั้นหาบ้านที่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าแล้ว ยังได้รับเงินอีกต่างหาก

ถึงแม้ว่ามุกดาจะรู้สึกว่ามันกะทันหันเกินไป แต่ว่าเรื่อง เหล่านี้มันล้วนดูธรรมชาติขนาดนี้ ไม่ได้มีอะไรที่มันผิด ปกติ

ดูสัญญาแล้วไม่มีปัญหาอะไร คนชุดดำนั้นยังเอาตั๋ว เครื่องบินของตัวเองให้มุกดา แก้วสุทธิดู เป็นวันมะรืนจริง มุกดาแก้วสุทธิยิ่งเชื่อเข้าไปอีก

เซ็นสัญญาเรียบร้อย ใบหน้าคนชุดดำนั้นก็มีรอยยิ้ม อย่างสบายใจ

“คุณมุกดาคุณให้ความช่วยเหลือกับผมอย่างมากจริงๆ ผมให้คุณห้าพันก่อน ผมรู้สึกขอบคุณอย่างมากเลย ถ้าหากตอนที่ผมไปยังหาคนไม่ได้ ผมคงต้องเสียใจมาก ที่ บ้านผมเกิดเรื่องนิดหน่อย เพราะฉะนั้นผมจึงต้องรีบไป” คนชุดดำเอาเงินห้าพันให้มุกดา

มุกดาก็ไม่ได้ปฏิเสธ จึงรับเงินไว้เลย เพราะว่าในสัญญา ก็เขียนแบบนี้แล้ว เธอก็ไม่จําเป็นต้องเกรงใจแล้ว แบบนี้ เจ้าของบ้านจะได้ไปวางใจ

คนชุดดำเอากุญแจให้มุกดา แล้วสั่งเสียว่าดอกไม้อะไร บ้างที่ต้องรดน้า ตรงไหนมีของอะไรบ้าง เขาล้วนบอก อย่างละเอียด แบบนี้มุกดาก็ยิ่งเชื่อแล้วว่าบ้านที่หาได้ใน วันนี้เหมือนตัวเองเก็บของ ค่าได้

คนชุดนําเห็นว่าบทที่ตัวเองท่องมาครึ่งวันล้วนได้ใช้หมด แล้ว เขาจึงรู้สึกปลื้มใจ ไม่อย่างนั้นจะถูกคุณหญิงด่าตาย แน่

คนชุดคําจากไปแล้ว มุกดาตรวจสอบบ้านอีกรอบ เธอ จัดสถานที่เธอและพ่อจะพักออกมาเรียบร้อยแล้ว เดิมทีที นี่ก็สะอาดอยู่แล้ว นั่นก็อธิบายได้อย่างชัดเจนว่า เจ้าของ บ้านเป็นคนรักบ้านมาก สําหรับการที่เขายอมเอาเงินจ้าง คนดูแลบ้านก็ยิ่งเป็นไปได้มากขึ้น

ชั้นบนมีห้องนอนสี่ห้อง ห้องหนังสือสองห้อง สิ่งของข้าง ในครอบถ้วนมาก
สิ่งที่ทําให้คนดีใจที่สุดก็คือ ผ้าห่มผ้าปูด้านในล้วน เหมือนของใหม่ทั้งหมด

ในห้องหนังสือ คอมพิวเตอร์และหนังสือมากมาย มุกดา เปิดดูนิดหน่อย ยังมีอีกมากมายล้วนเป็นหนังสือที่ตัวเอง ชอบ ท่ามกลางหนังสือมากมายนี้ ยังมีหนังสือใช้ในการ แปลบางส่วน

มุกดาดูหนังสือการแปลไปครู่หนึ่ง ล้วนนำไปใช้ ประโยชน์ได้จริงหมด เขาคนนี้ก็เรียนภาษาต่างประเทศ เหรอ? ก็ใช่ อยู่ต่างประเทศทั้งครอบครัว ต้องเป็นคน ชำนาญภาษาต่างประเทศอยู่แล้ว แต่ว่าหนังสือที่เขาเก็บ ไว้ก็มีความช่วยเหลือสำหรับเธอมาก

เวลาผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว นี่ก็หกโมงเย็นแล้ว มุกดาถึง รู้ตัวว่าเวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้ ตอนออกมาก็บอกลุงนัทธ์ แล้วว่าเธอจะรีบกลับไป คิดไม่ถึงว่าเสียเวลาไปนาน ขนาดนี้

มุกดามองห้องหนังสืออีกครั้ง เธอก็ล็อกประตูแล้วจาก ไป

จัดการเรื่องใหญ่ไปหลายเรื่อง มุกดารู้สึกว่าตัวเอง อารมณ์ผ่อนคลายมาก เธอออกจากประตูของหมู่บ้าน มังกรแดง จึงตัดสินใจนั่งแท็กซี่กลับไป
เป็นอย่างที่คิดตอนที่เธอกลับมา ลุงนัทธ์รอนานมากแล้ว อย่างอื่นเขาไม่ได้กลัวอะไร มุกดาเป็นเด็กผู้หญิงที่ดีมาก คนหนึ่ง เขากลัวว่ามุกดาจะคิดสั้นอะไรหรือเปล่า

“คุณนาย คุณกลับมาแล้วเหรอ รีบเข้าไปเถอะ วันนี้ ทํากับข้าวหลายอย่างที่คุณชอบกิน” คุณชายสั่งไว้แล้ว มุกดาชอบกินอะไรก็ทำอย่างนั้น เงินไม่ใช่ปัญหา

“ลุงนัทธ์ ต่อจากนี้ลุงไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณนายแล้ว คาดว่าฉันคงเป็นได้อีกไม่นานแล้ว” มุกดาเดินไปครึ่งทาง เธอก็หันกลับมาพูดกับลุงนัทธ์

ลุงนัทธ์รู้สึกพะอืดพะอมแล้ว อันนี้ เขาก็ไม่รู้จะพูดยังไง ดี คุณชายดีกับมุกดาตอนนี้ แต่อีกหน่อยล่ะ? ในใจของ เขามีธินิดาตลอด

นัทธ์คำนวณในใจ แม่เจ้า ตามสัญญาแล้ว ก็ยังเหลือแค่ หนึ่งปีกับอีกไม่กี่เดือนแล้ว ความเศร้าโศกของเขาก็ผุดขึ้น มาทันที คิดว่าในคฤหาสน์นี้ มุกดาไปแล้ว ธินิดามา แล้ว จะทํายังไงดี

“คุณ…….” ลุงนัทธ์อ้าปากก็จะเรียกมุกดา

“ลุงนัทธ์ ไม่ต้องเรียกแบบนี้แล้ว หนูจะรู้สึกอึดอัด เรียก หนูว่ามุกเถอะ พ่อของหนูก็เรียกหนูแบบนี้ ตอนนี้พ่อของ หนูไม่ได้อยู่ที่นี่ ลุงนัทธ์ก็เป็นผู้อาวุโสของหนู หนูอยากฟังลุงเรียกหนูว่ามุก” มุกดายิ้มพูดกับนัทธ์

นัทธ์ทำอะไรไม่ได้ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนคำเรียก เขาก็ รู้สึกว่าคุณนายมุกดา แก้วสุทธิคนนี้ก็เป็นได้อีกไม่นาน แล้ว

“คุณมุก คุณชอบกินอะไรก็บอกกับลุงนัทธ์ คุณก็พูด แล้วว่าลุงนัทธ์เป็นผู้อาวุโส พ่อของคุณมุกไม่อยู่ ลุงนัทธ์ก็ เหมือนพ่อของหนู” ลูกสาวของนัท ก็อายุประมาณมุกดา มองดูมุกดาแล้ว เขาก็รู้สึกเหมือนลูกสาวอยู่ข้างกาย

“อืม ดีค่ะ แบบนี้หนูรู้สึกเป็นธรรมชาติขึ้นเยอะเลย ลุง นัทธ์ หนูจะบอกลุงเองค่ะ คิกคิก” คราวนี้มุกดารู้สึกว่าตัว เองสบายขึ้นเยอะเลย ตำแหน่งคุณนายนั้น ฟังก็ไม่น่าฟัง ใช้ขึ้นมาก็ไม่ถนัดมือ

“ชลธี คุณมาที่บ้านตระกูลยืนนานหน่อยเถอะ น้ำผึ้งไม่ กินไม่ดื่มมาหลายวันแล้ว คนก็ผอมจนไม่เป็นผู้เป็นคน แล้ว เธอยังไม่ให้ฉันบอกคุณอีก แต่ว่าฉันก็ทนไม่ไหวแล้ว เธอเป็นลูกสาวของฉัน” แม่ทิมร้องไห้โทรศัพท์หาชลธี

ชลธีรับโทรศัพท์ ก็รีบไปที่บ้านตระกูลยืนนาน ตระกูล สุวรรณเลิศและตระกูลยืนนานต่างก็เป็นตระกูลเก่าแก่ มี ความสัมพันธ์นานปี
ถ้าเกิดมีอะไรขึ้นกับธินิดา สีหน้าของทั้งสองตระกูลต่าง ก็ไม่ดีแน่

“คุณแม่ ชลเขาจะมาไหม?” ธินิดานอนอยู่บนเตียง ถาม แม่ทิมอย่างไร้เรี่ยวแรง

“น่าจะมาอยู่นะ แม่ก็โทรศัพท์ให้เขาแล้ว ลูก ทำไมลูก ถึงได้โง่ขนาดนี้ ไม่มีชลธี ก็ยังมีผู้ชายดีๆอีกตั้งมากมาย ทําไมลูกถึงต้องเอาเขาให้ได้ล่ะ?” แม่ทิมก็เป็นห่วงลูกสาว ของตัวเอง

แต่ว่าเธอก็รู้สึกสงสัยมาก ครั้นนั้นที่ลูกสาวตามประวีร์ ไปต่างประเทศ ประวีร์ก็ไม่เคยตอบรับ นิดาเลย แต่เธอก็ ไม่เคยใช้วิธีอดอาหารเลย

แต่ว่าตอนนี้สําหรับชลธี ลูกสาวกลับอดอาหาร เธอรัก ใครที่สุดกันแน่?

เรื่องที่ธินิดาชอบประวีร์ ก็มีแค่แม่ทิมเท่านั้นที่รู้ คนอื่น ต่างก็คิดว่าธินิดาไปต่างประเทศเพื่อการเต้นรํา ความจริง เธอไปต่างประเทศเพื่อตามจีบประวีร์ แต่ว่าจีบไปห้าปี คน อื่นเขาก็ยังเหมือนกับก้อนหิน ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

“เขาต้องมาแน่นอน ในใจเขายังปล่อยวางหนูไม่ได้ หนู จะพนันอีกสักครั้ง” ธินิดาพูดอย่างอ่อนเพลีย เธอรู้ว่าในใจของชลธีต้องมีเธออยู่แน่นอน

เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่นาน ก็มีคนมารายงานว่าชลธีมาแล้ว

บนหน้าของธนิดามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที ชลธีเดินไปถึง ข้างเตียงของธินิดา มองดูสีหน้าอันซีดเซียวและริมฝีปาก อันแห้งเหือดของรินิคา

“น้ำผึ้ง คุณเป็นอะไรเนี่ย ทำไมถึงต้องอดอาหารล่ะ?” ชลธีคิดไม่ถึงว่าธินิดาจะเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่งแบบ

คนนั้นที่บ้านตัวเอง ควรกินก็กิน ควรนอนก็นอน ดีแค่ ไหน ผู้หญิงก็ต้องเข้มแข็งหน่อยทำให้คนชอบบ้าง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ