พิชิตใจสามีลึกลับของฉัน

บทที่ 45 ย้ายห้องทำงาน



บทที่ 45 ย้ายห้องทำงาน

พอทายาให้มุกดาเสร็จแล้ว ชลธีก็รีบเปลี่ยนเป็น เคร่งขรึมทันที เขาอยากจะคุยกับมุกดาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อตอนเช้า

“พูดมาเถอะ เมื่อตอนเช้ามันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมหัวหน้า ของเธอถึงได้มาร้องเรียนเธอ บอกว่าเธอไม่ยอมเชื่อฟัง คำสั่ง?”

ชลธีนั่งลงด้านข้างมุกดา ทำให้มุกดารู้สึกกดดันมาก

“เมื่อเช้านี้เหรอคะ คือเรื่องเมื่อเช้านี้มันเป็นอย่างนี้ค่ะ” จากนั้นมุกดาก็บอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ให้ชลธีฟัง ตามความจริง

เพราะอย่างไรเสียตนก็พูดความจริง ถ้าหากชลธียัง

ปกป้องพี่ลิลลี่อยู่ล่ะก็ เธอเองก็จนปัญญาแล้ว

“ก็คือเธอทําไม่ไหว ก็ควรที่จะบอกกับผู้รับผิดชอบดี ๆ นี่ เธอไม่ควรจะไปด่าหล่อนไม่ใช่เหรอ?” ชลธีพูด

“ประธานชลธี ฉันขอสาบานต่อพระเจ้า ฉันไม่ได้ด่าเธอ! คนที่มีความสำนึกโดยเนื้อแท้อย่างฉันจะไปด่าคนได้ อย่างไร?” มุกดายกมือขึ้นแล้วเอ่ยคำสาบาน
“อืม ฉันจะไปตรวจสอบ แต่เธอเองก็ได้ก่อเรื่องวุ่นวาย ฉันไม่ค่อยวางใจให้อยู่ชั้นล่าง เอาอย่างนี้ เธอย้ายของ ของเธอขึ้นมาชั้นบน พื้นที่ของฉันมีกว้างขวาง เธอก็อยู่ที่ นี่แล้วกัน ฉันจะให้คนไปย้ายโต๊ะทำงานขึ้นมาก็พอ” ชลธี ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม

พอมุกดาได้ยินว่าจะให้ตนเองทํางานภายใต้สายตาของ ชลธี นี่ไม่ถึงกับชีวิตหรอกเหรอ?

“ไม่ต้องค่ะ ๆประธานชลธี ความจริงแล้วฉันถูกกลั่น แกล้งอย่างไม่เป็นธรรมมาก ฉันมาถึงที่ทำงานตั้งแต่ตอน เช้าตรู่ทั้งยังเก็บกวาดที่ทำงานหมดแล้ว อะไร ๆ ก็ทำเสร็จ หมดแล้ว ฉันจะไปรู้ได้อย่างไรว่ามันจะเป็นอย่างนี้ ฉันไม่ ได้พูดอะไรเลยจริง ๆ นะคะ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าไปล่วงเกิน พี่ลิลลี่ได้อย่างไร” มุกดาไม่อยากจะขึ้นมา อยู่ข้างล่างก็ ดีมาก ถึงแม้จะมีการกระทบกระทั่งกัน แต่ก็มีคนอยู่เยอะ ถ้าต้องเห็นชลธีทำหน้าตายทุกวัน คงจะทรมานมาก

“ดูเธอสิ ฉันพูดแค่หนึ่งประโยค เธอก็พูดอย่างขอไปที แล้วตั้งมากมาย สำหรับหัวหน้าแล้ว เธอมักจะไม่ยอมฟัง แล้วคนชั้นล่างจะควบคุมเธอได้อย่างไร? ไม่ได้ เธอต้อง ย้ายขึ้นมาชั้นบน ฉันจะคอยจับตาดูเธอด้วยตัวเอง!” ชลธี ไม่เปิดโอกาสให้มุกดาปฏิเสธ

มุกดาเองก็จนปัญญาที่จะพูดแล้ว ก่อความยุ่งยากเข้า แล้วจริง ๆ ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าอนาคตมันดูเลือนรางมากเลยล่ะ ทำงานอยู่ในนี้ แล้วจะมีวันดี ๆ อะไรอยู่อีก ลิ้น อาบยาพิษของ ชลธี เกรงว่าคงจะทำให้เธอถูกพิษตาย แล้วจริง ๆ

“รีบไปได้แล้ว วันนี้ยังมีหลายเรื่องที่ต้องทำ หรือว่าเธอ จะแอบอู้งาน?” ชลธีจ้องมองมุกดาแวบหนึ่ง

มุกดาเองก็จนปัญญาแล้ว เพียงแค่ลงไปหยิบของ

ในตอนที่เธอเดินมาถึงประตูของสำนักเลขาธิการนั่นเอง ก็ได้ยินเสียงร่าเริงและมีความสุขพี่ลิลลี่ บอกว่าประธาน ชลธีจะต้องตัดสินให้เธอ เธอไม่เชื่อหรอกว่าจะจัดการ มุกดาไม่ได้

มุกดาเดินเข้าไปด้วยความเชื่องซึม ทั่วทั้งห้องทำงาน เงียบสนิท ไม่มีใครพูดอะไรแล้ว ทุกคนต่างก็มองมุกดา

มุกดาเองก็ไม่ได้พูดอะไร เธอเดินไปที่หน้าโต๊ะทำงาน ของตัวเอง แล้วเริ่มเก็บของ

“จ๋ ๆ มุกดาหนอมุกดา เธอคิดว่าจะไม่มีใครจัดการเธอ เลยหรือยังไง? ฮ่า ๆ เป็นยังไง เพิ่งจะกลับมาได้แค่หนึ่ง วันก็ถูกไล่ออกซะแล้วรู้สึกแย่ใช่ไหมล่ะ? ” พี่ลิลลี่เดินมา หยุดอยู่ด้านข้างมุกดา แล้วพูดด้วยอย่างอวดดี

มุกดาไม่มีกะจิตกะใจจะไปสนใจเธอเพียงแค่เก็บของตัวเองอย่างเงียบ ๆ

“จากนี้ต่อไปจะไปอยู่หน่วยงานอื่นก็มีไหวพริบสักหน่อย ว่าใครหาเรื่องได้ แล้วใครหาเรื่องไม่ได้ ก็เข้าใจให้ชัดเจน ถ้าไม่อย่างนั้นโดนไล่ออกอีกก็คงจะตลกน่าดู” เสียงของ พี่ลิลลี่ดังมาก ทุกคนในห้องทำงานต่างก็ได้ยินกันหมด

“ใครคือแพรพิไล?” มีใครบางคนยืนตะโกนเรียกชื่อพี่ ลิลลี่อยู่ที่ด้านหน้าประตู

“ฉัน ฉันเอง คุณคือ?” พี่ลิลลี่เดินมาที่หน้าประตู มองดู คนคนนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่รู้จัก

“อ้อ ฉันเป็นผู้อำนวยการเวียร์ของฝ่ายบุคคล แม้แต่ฉัน เธอก็ไม่รู้จักเหรอ! ประธานชลธีบอกว่างานที่เธอเพิ่งให้ มุกดาเมื่อกี้ มอบหมายให้เธอทำทั้งหมด วันนี้ก่อนเลิกงาน ให้เอาไปส่งที่ห้องทํางานของเขา ถ้าตอนเลิกงานยังหา ไม่เสร็จ เธอก็ไปเขียนจดหมายลาออกเอาเอง อ้อจริงสิ ประธานชลธีให้ฉันมาถ่ายรูปเพื่อดูว่ามีงานมากแค่ไหน”

คนคนนั้นไม่อธิบายอะไรก็เดินเข้ามาที่ห้องทำงานของ สํานักเลขาธิการ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของมุกดาแล้ว ใช้กล้องถ่ายเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของมุกดามาจนหมด
“เอ๊ะ ผู้อำนวยการเวียร์ คุณฟังฉันพูดก่อน ฉันจะทำงาน พวกนี้คนเดียวได้อย่างไร แล้วยังวันนี้ก่อนเลิกงานอีก นั่น เป็นไปไม่ได้นะคะ ประธานชลธีไม่ได้เป็นคนพูดอย่างนี้ แน่นอน คุณฟังผิดใช่ไหม?” แค่พี่ลิลลี่ได้ยินว่าประธาน ชลธีจะให้ตัวเองทำงานมากมายขนาดนี้ให้เสร็จ ฉับพลัน นั้นก็รู้สึกร้อนใจแล้ว

“อะไรกัน? เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งยังทำให้เสร็จ วันนี้ไม่ได้ แล้วเธอยังให้มุกดาทำให้เสร็จวันนี้อีก คุณได้ ละเมิดแนวคิดขององค์กร ไม่สามารถกดขี่ข่มเหงและ รังแกเด็กใหม่ได้ แต่ประธานชลธีบอกมาแล้ว เขาเชื่อว่า คุณจะต้องทำเสร็จแน่นอน”

พอผู้อำนวยการเวียร์พูดจบแล้ว ก็ไม่มองสีหน้าที่ขื่นขม เหมือนลูกมะระของพี่ลิลลี่เลยแม้แต่น้อย

ผู้อำนวยการเวียร์เดินไปถึงที่ประตู แล้วเขาก็หันไปบอก กับมุกดาว่า “มุกดา เธออย่ามัวโอ้เอ้อีกเลย ประธานชลธี ยังรอให้เธอขึ้นไปจัดการงานด้านบนอยู่!”

“ค่ะ” ราวกับมีดอกไม้เบ่งบานขึ้นในใจของมุกดา ประธานชลธีนี่มีอำนาจจริง ๆ แล้วก็ฉลาดมาก ความทรง จําที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขาจึงลดลงไปเยอะเลย

“มุกดาเธอไม่ได้ถูกไล่ออกเหรอ?” ในเวลานี้เองพี่ลิลลี่ก็ รีบถามกลับทันที
“ไมนี่คะ ประธานชลธีแค่บอกว่าฉันชอบถูกคนวางแผน การร้าย ก็เลยให้ฉันขึ้นไปทำงานข้างบนและมีเขาเป็นเจ้า นายโดยตรง” เมื่อพูดจบแล้วมุกดาก็หอบข้าวของตัวเอง แล้วเดินผ่านร่างของพี่ลิลลี่ไป

พี่ลิลลี่มองดูแผ่นหลังของมุกดา จากนั้นขับเขี้ยวเคี้ยว ฟันด้วยความเกลียดชัง ชลธีเป็นอะไรไป? ทำไมถึง ปกป้องผู้หญิงคนนี้อยู่ตลอด หรือว่าจะไม่มีธนิดาอยู่ใน หัวใจแล้ว

เมื่อเธอคิดดังนี้ก็ได้หลบไปด้านข้าง แล้วควักโทรศัพท์ มือถือออกมา ตอนนี้คนที่จะสามารถช่วยเหลือเธอได้ เพียงหนึ่งเดียว ก็คงจะมีแต่ธินิดาแล้ว

มุกดาหอบเอกสารเข้าไปที่ห้องทำงานของชลธี ภายใน ระยะเวลาอันสั้นที่เธอได้ออกไปนั่นเอง ที่หัวมุมของห้อง ทำงานชลธีก็ได้มีโต๊ะเพิ่มขึ้นมาแล้วจริง ๆ

ภายในห้องทำงานใหญ่ มีโต๊ะทำงานเพิ่มเข้ามาอย่างนั้น ไม่ได้อยู่ในสายตาเลย มุกดานำข้าวของตัวเองวางไว้บน โต๊ะทำงาน ทางด้านหลังยังมีตู้ใหม่อยู่อีกหนึ่งตู้ ซึ่งถูกเช็ด ทําความสะอาดเรียบร้อยดีแล้ว

เมื่อมุกดาวางของตัวเองเสร็จแล้ว ทว่าเธอก็ยังรู้สึกว่าใน ห้องนี้มันยังขาดอะไรอยู่
ในสำนักเลขาธิการล้วนมีแต่ผู้หญิง ทุกคนต่างก็วาง ดอกไม้ไว้บนโต๊ะ

ถึงแม้ห้องทำงานของชลธีจะใหญ่มาก ทว่าด้านในกลับ มีแต่ของสีดำและสีขาว กำแพงเป็นสีขาวพื้นก็เป็นสีขาว ส่วนเฟอร์นิเจอร์เป็นสีดำ

มันเลยทำให้คนที่อยู่ภายในห้องทำงานรู้สึกอึดอัด ดู ไม่มีชีวิตชีวาเลยสักนิด

มุกดานั่งลง เธอมองดูชลธีที่กำลังยุ่งอยู่และมีกอง เอกสารและข้อมูลมากมายวางอยู่บนโต๊ะของเขา

ไม่รู้จริง ๆ เลยว่าเขามองดูข้อมูลมากมายขนาดนั้นแล้ว ไม่ปวดหัวหรืออย่างไร แต่ที่ว่ากันว่าเวลาผู้ชายทำงานนั้น ดูหล่อที่สุด ดูแล้วน่าจะจริง

ชลธีหน้าตาหล่อเหลามาก ในเวลานี้เห็นได้แต่เพียง ใบหน้าด้านข้างของเขา สันจมูกโด่ง ริมฝีปากที่บางเฉียบ ผมสีดำสนิทนั้นถูกหวีเสียจนเรียบมาก ดูหล่อเหลากว่ารูป ของดาราที่ถูกเสริมแต่งบนนิตยสารเสียอีก

“มองพอแล้วรึยัง? ถ้ามองพอแล้ว ฉันก็จะได้เอางานให้ เธอทำ!” ชลธีไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับ รู้ว่ามุกดากำลังมองดูเขา ถ้อยคำนี้จึงทำให้มุกดารู้สึก อับอายเป็นอย่างมาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ