ตอนที่ 65 สร้างแค้นให้ท่านอ๋อง
หลิวหลีมองใบหน้าของโม่จื่อเฟิงอย่างตกตะลึง มี อาการใจลอยอยู่ชั่วครู่ บุรุษเช่นนี้ สตรีโดยทั่วไปล้วน ไม่สามารถละสายตาจากไปได้
ครั้งก่อนที่นางได้พบกับอินฉีก็เข้าใจว่าอินฉีคือ บุรุษที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่าบุรุษที่ อยู่ตรงหน้าผู้นี้ยังหล่อเหลามากกว่าอินฉีถึงสามส่วน
เนื่องจากอาการตกตะลึงของหลิวหลี ดังนั้นจึงลืม ตักเตือนกลุ่มคนที่กำลังรุมล้อมหลินซินเยียนไว้อยู่ ดัง นั้นกลุ่มคุณชายจึงไม่ทันรู้สึกตัวว่ามีคนเข้ามาใกล้ หลายๆคนกำลังถกเถียงคิดหาวิธีทรมานหลินซินเยียน
“สตรีที่งดงามขนาดนี้ จะเล่นสนุกอย่างไร? นี่ยัง ต้องถามกันอีกหรือ? แต่ทว่าองค์ชายหลิวหยุนอ่า ของดีเช่นนี้ท่านคงไม่อาจที่จะรับประทานทานคน เดียวได้ คงต้องให้เหล่าสหายร่วมวงด้วย”
“พี่เจ็ด ที่ท่านกล่าวก็ไม่ถูกต้อง สตรีที่งดงามเช่น นี้แม้ว่าใครๆล้วนต้องการจะเชยชิม แต่ทว่าจะดีชั่ว อย่างไรพวกเราก็เป็นผู้ที่มีตำแหน่งสถานะ อย่าได้ กล่าวเปรียบพวกเราเป็นอันธพาลสิ
น้อยๆหน่อย จะเสแสร้งอะไรกัน ครั้งก่อนที่จับเด็ก สาวไว้ ท่านนี่เร็วกว่าใครเพื่อน แล้วอย่างไรตอนนี้จึง แสร้งมาทำเป็นคนดี..
ท่านจะรู้อะไร….คนที่พูดอยู่นั้นทำท่าขยิบตาส่ง ให้อีกคน เด็กสาวนั่นจะสามารถเปรียบกับสาวงามผู้นี้ ได้อย่างไร? งดงามขนาดนี้เล่นเพียงรอบเดียวไม่ เสียดายแย่หรือ? ข้าคิดว่านะ องค์ชายหลิวหยุนหรือ ท่านจะรับตัวสาวงามผู้นี้ไปที่บ้าน รอจนท่านเล่นจน เบื่อแล้วค่อยส่งต่อให้กับพวกเราไม่ดีหรือ?
ในคำพูดเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นการประจบสอพลอ ในกลุ่มพวกเขา สถานะตัวตนของอู่ฉือและฮูเหยียน หลิวหยุนนั้นแตกต่างกันไม่มาก แต่เขาผู้นี้ล้วนแต่ดู สีหน้าท่าทีของฮูเหยียนหลิวหยุน บุคคลนี้เห็นได้ชัดว่า ชาญฉลาด มองออกถึงความทะเยอทะยานขององค์ ชายหลิวหยุนที่มีต่อหลินชินเยียน
ต่อให้เขาโง่กว่านี้ก็จะไม่แย่งสตรีกับองค์ชายหลิง หยุน
หลายคนเมื่อได้เขาแนะนำก็ได้สติขึ้นมาทันที และสนับสนุนกับคำกล่าวของเขา มีเพียงอู่ฉือที่สีหน้า มืดครึ้มพลันกล่าวออกมาด้วยความหนักแน่น ข้าคิดว่า ไม่สมควร พวกท่านลืมแล้วหรือว่าสตรีผู้นี้ ครั้งก่อน เป็นอินฉีที่ช่วยไว้ ในกรณีที่นางกับอินฉีมีความจงใจที่ จะปกปิด เมื่อถึงยามที่ล่วงรู้ถึงหูเขา เขาจะมาบอก พวกเราอีกครั้ง..
อู่ฉือ ท่านมักจะขี้ขลาด ทุกครั้งที่จะทำเรื่องน่าตื่น เต้นท่านล้วนหลบแต่อยู่ข้างหลังของพวกเรา บุรุษร่าง ใหญ่ที่กลัวนั่นกลัวนี่ ช่างทำให้ข้าดูถูกท่านเสียจริงถ้าท่านจะเป็นแบบนี้ ต่อไปก็อย่าได้ติดตามองค์ชาย พวกเราอีกเลย ฮูเหยียนหลิวหยุนจ้องมองอู่ฉือ อู่ฉือ เองก็ลังเลเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
เจ้า พวกเจ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้! หลินซินเยียน ดิ้นรนขัดขืน และกัดเข้าที่บนข้อมือของฮูเหยียนหลิว หยุน ทำให้เขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
โอ้ ยังมาพร้อมกับหนามที่มีฤทธิ์อยู่ซะด้วย แต่ไม่ เป็นไร ข้าชอบ ฮูเหยียนหลิวหยุนหัวเราะขึ้นมาอย่างมี ความสุข ไม่สนใจแผลที่อยู่บนข้อมือ เคลื่อนใบหน้า เข้ามาใกล้ดูเหมือนจะเข้าไปจูบใบหน้าของนาง ข้าไม่ สามารถทำอะไรได้งั้นหรือ? รอเจ้ากลายเป็นผู้หญิง ของข้า ไม่แน่ว่าอาจจะขอร้องอยู่ใต้ร่างข้าให้ทำอะไร แบบนั้นทุกค่ำคืน
ฮูเหยียนหลิวหยุนเป็นเพียงเด็กหนุ่ม คำพูดที่ กล่าวออกมากลับไม่เหลาะแหละแม้แต่น้อย
“ต่อให้ตายข้าก็จะไม่กลายเป็นผู้หญิงของเจ้า! และข้ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว!” หลินซินเยียนคำรามด้วย ใบหน้าที่เย็นชา
สีหน้าฮูเหยียนหลิวหยุนดูน่าเกลียดอย่างมาก ฉวยแก้มของนางคำรามด้วยความโกรธ “ชอบงั้นหรือ? สาวน้อย เจ้ากลับกระตุ้นความปรารถนาที่จะเอาชนะ ของข้า ไม่ว่าจะเป็นร่างกายของเจ้าหรือหัวใจของเจ้า ข้าจะรับไว้เอง ส่วนคนที่เจ้าชอบนะหรือ? ฮ่าๆๆ รอให้ ข้าได้หลับนอนกับเจ้าก่อนแล้วค่อยไปดูว่าไอ้หน้าอ่อนที่เจ้าชอบมันเป็นใคร รอให้เจ้าหน้าอ่อนนั่นมาเจอกับ ข้า คงจะคุกเข่าอย่างหวาดกลัวให้ข้านั้นหลับนอนกับ เจ้าเสียดีกว่า”
สิ่งที่เขากล่าวไม่ใช่ว่าไม่มีมูลความจริง แต่ก่อนก็ เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเคยพบกับเชียนจินใน ครอบครัวเล็กที่มีฐานะต่ำต้อย เชียนจินเป็นว่าที่สามีที่ มีคู่มั่นหมายแล้ว ไอ้หน้าอ่อนนั่นเป็นยามเฝ้าประตู เมือง เมื่อพบกับฮูเหยียนหลิวหยุนก็รีบเข้ามาประจบ ประแจง ส่วนว่าที่ภรรยาอะไรนั่นมันก็กุลีกุจอเอามา ประเคนให้ด้วยตัวเองซ้ำไป
“อ้อ จะให้ข้าคุกเข่า ที่หนานเยว่นอกเหนือจากฝ่า บาทแล้วก็ยังไม่พบใครอื่นอีกจริงๆ”
ทันใดนั้นเสียงก็ปรากฏขึ้นหลังกลุ่มคน เสียงที่ต่ำ และลุ่มลึก เมื่อยามที่เปล่งว่าจาในน้ำเสียงที่กล่าว ลอยๆนั้นเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
ทุกคนเพิ่งเกิดความตระหนัก ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่บุรุษผู้นี้เข้ามาถึงด้านหลังของพวกเขาอย่างไร้เสียง ไร้ร่องรอย ซึ่งคู่ควรที่พวกเขาต้องระวังจับตามอง
“ข้าคือใคร?” ฮูเหยียนหลิวหยุนเหมือนกับเผชิญ หน้ากับศัตรูที่เก่งกาจ เห็นได้ชัดว่าบุรุษผู้นี้พูดเพียง ประโยคเดียว กลับทำให้ทุกคนล้วนตื่นตัวขึ้นมา
อู่เซวียนอ๋องหรือโม่จื่อเฟิงไม่เหมือนกับอำมาตย์ คนอื่นๆที่มักจะชื่นชอบเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เขาไป มาคนเดียวอย่างอิสระและมีนิสัยแปลกประหลาดที่ยากจะคาดเดา มีเพียงงานเลี้ยงสำคัญที่ฝ่าบาททรง โปรดให้จัดขึ้นเขาจึงจะปรากฏตัว และงานเลี้ยงที่ สำคัญขนาดนั้น เหล่าผู้มีอำนาจน้อยนิดย่อมไม่มี คุณสมบัติที่จะเข้าร่วม ดังนั้นเหล่าผู้นำระดับล่างใน เมืองหลวงแห่งนี้ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้พบเขา
“ข้าคือใครน่ะหรือ?” โม่จื่อเฟิงหัวเราะเบาๆ ยกมือ ขึ้นและสะบัดแขนเสื้อเบาๆ ฮูเหยียนหลิวหยุนที่อยู่ ห่างออกไปรู้สึกเกิดความเจ็บปวดขึ้นที่ใบหน้าและ คลายมือของหลินซินเยียนออกตามสัญชาตญาณ
ฝ่าเท้าของหลินซินเยียนวิ่งมุ่งไปข้างหน้าอย่าง ซวนเซ และหลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังโม่จื่อเฟิงอย่าง ขลาดกลัว เขาก็คือคนที่ข้าชอบ เป็นอย่างไรเล่า ดี กว่าสวะสังคมอย่างพวกเจ้าไม่รู้กี่เท่า!
ในยามนี้นางดึงความเกลียดชังมาที่โม่จื่อเฟิงได้ อย่างดีเยี่ยม
“นังเด็กน้อย อย่าคิดว่าใครจะปกป้องเจ้าได้ไ วันนี้ ข้าจะให้เจ้าได้เห็นความสามารถของข้า!” ฮูเหยียน หลิวหยุนถูกนางเหยียบย่ำก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่ได้ สังเกตเลยว่าโม่จื่อเฟิงเรียกแทนตนเองว่า “ข้า”
กลับเป็นอู่ฉือที่เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าพลัน เปลี่ยนเป็นหวาดผวา ในหนานเยว่ นอกจากบิดาของ ฮูเหยียนหลิวหยุนที่ถูกเรียกหวังเหย่ซึ่งเป็นตำแหน่ง อ่องแล้ว ก็มีเพียงผู้เดียว อู่เซวียนอ่องโม่จื่อเฟิง!
เพียงแต่จะเป็นไปได้หรือ? นึกไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้ได้ เป็นผู้ที่อยู่ตรงหน้า…?
ทว่าอู่ฉือยกริมฝีปาก ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เขาถึงลืมที่จะเตือนฮูเหยียนหลิวหยุน
“เจ้าน่ะหรือ?” หลินซินเยียนยิ้มอย่างดูถูก
รอยยิ้มนี้ ยิ่งทำให้ฮูเหยียนหลิวหยุนเสียหน้า โกรธจนชักดาบยาวออกมาจากช่วงเอวแล้วพุ่งเข้าใส่ ทันใดนั้นเสียงสายคำรามเบาๆสายหนึ่งก็ทำให้
บรรยากาศหนักอึ้งขึ้นมา
โม่จื่อเฟิงยืนตระหง่าน มุมปากแฝงรอยยิ้มอัน ร้ายกาจและกล่าวด้วยความเย็นชา “นึกไม่ถึงว่าตาเฒ่า ฮูเหยียนนั่นจะให้กำเนิดตัวโง่เง่าเช่นนี้ ดูเหมือนว่าใช้ ชีวิตเสพสุขนานเกินไปแล้วจริงๆ”
ในหนานเยว่ ผู้ที่กล้าเรียกฮูเหยียนอ่องเป็นตาเฒ่า ฮูเหยียนมีอยู่ไม่กี่คน
ฮูเหยียนหลิวหยุนขลาดเขลาอยู่บ้าง เขาเงื้อดาบ แต่ไม่ได้พุ่งเข้าไป จึงได้ถามอีกครั้ง “เจ้าเป็นใครกัน แน่?”
“ให้ข้าแจ้งชื่อแซ่ตนเอง เจ้าคู่ควรหรือ?” โม่จื่อเฟิ งก้าวเดินไปข้างหน้า เหล่าคุณชายที่อยู่รอบๆฮูเหยียน หลิวหยุนถูกเขาสั่นสะเทือนสยบด้วยพลานุภาพ ไม่มี ผู้ใดที่จะกล้าขวางทางของเขา
“เป็น ข้า? ท่านคืออู่เซวียนอ่อง?” ฮูเหยียนหลิวหยุ นเองก็ไม่ใช่คนโง่ รีบตอบสนองกับบุรุษที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเงียบกริบ ในใต้หล้าคงไม่มีใครกล้าที่จะ เลียนแบบเป็นอู่เซวียนอ๋อง ได้ยินว่าเขาเกิดมาหน้าตา หล่อเหลายิ่งกว่าปีศาจ นี่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเลียนแบบ กันได้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ