ตอนที่458การวางแผนยุทธศาสตร์ของหญิงสาว
ทรงเย่เงียบไปสักพักเหมือนกับว่ากำลังคิดเกี่ยวกับ ความเป็นไปได้ของแผนการณ์นี้หลินซีนเยียนยกเหล้าที่ อยู่ด้านข้างขึ้นมารินให้กับหรงเย่แก้วหนึ่งแล้วพูดต่อไป ว่า”ประมุขหรงหากท่านไม่เข้าถ้ำเสือแล้วจะได้ลูกเสือ อย่างไรมีข้าที่เป็นกุญแจสำคัญในการไขประตูอยู่เวลา เช่นนี้ท่านยังไม่กล้าคว้าโอกาสละก็รออีกสองตระกูลได้ สมบัติไปแล้วและมีอำนาจมากขึ้นไปเรื่อยๆท่านค่อย ลงมือเช่นนั้นมันก็จะยิ่งยากเข้าไปใหญ่จริงหรือไม่?และ อีกอย่างเวลา…ชั่วชีวิตของคนสามารถมีกี่ครั้งมีกี่ปี?”
ประโยคสุดท้ายของหลินซีนเยียนบาดลึกเข้าไปใน ใจของหรงเย่อายุของเขาห้าสิบกว่าแล้วเกรงว่าครั้งนี้เอา สมบัติได้มากกว่าอีกสองตระกูลแต่ว่าเอาสมบัตินี้มา พัฒนาอำนาจให้แข็งแกร่งขึ้นมันไม่ได้สามารถทำสำเร็จ ได้เพียงแค่ชั่วข้ามคืนหากรอให้ตระกูลหรงแข็งแกร่ง มากขึ้นกว่าอีกสองตระกูลจะแปดปีหรือสิบปีก็ไม่สําเร็จ เมื่อถึงเวลานั้นขาข้างหนึ่งของเขาก็ก้าวเข้าไปในโล่งแล้ว ยังจะสามารถไปไล่ตามอะไรได้อีก?
คนที่สามารถนั่งอยู่เหนือผู้คนในตระกูลใครบ้างที่ ไม่มีความทะเยอทะยาน?หากอยู่อย่างขาวสะอาดด้วยไม่ ทำอะไรเลยเกรงว่าคงโดนกำจัดออกจากตำแหน่งไป นานแล้ว
หลินซีนเยียนรู้ข้อนี้ดีดังนั้นนางจึงยื่นข้อเสนอนี้ซึ่ง สามารถทำให้หรงเย่สนใจอย่างแน่นอน หรงเย่ยกเหล้าขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วดวงตาคู่นั้นส่องประกายแล้วกระแทกแก้วลงบ้านโต๊ะแล้วยิ้ม“แม่นาง หลินเกิดผิดที่มีร่างเป็นหญิงแท้ๆหากเกิดเป็นชายเกรงว่า ในใต้หล้านี้คงอยู่ภายใต้อำนาจแม่นางหลิน”
“ประมุขหรงก็กล่าวเกินไปถ้าเช่นนั้นความหมายของ ท่านคือ….”หลินซีนเยียนยิ้มเบาๆ
“ข้าจะเดินทางไปกับเจ้า! “ในที่สุดหรงเย่ก็ตอบ
ตกลง
ดวงตานั้นหลินซีนเยียนสั่นไหวส่องเป็นประกายแต่ เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับเป็นใบหน้าใสซื่อนางยกแก้วขึ้นแล้ว พูดว่า “เช่นนั้นข้าใช้น้ำชานี้แทนเหล้าคำนับท่านแก้วนี้ก็ แสดงความยินดีให้กับการเริ่มเดินหมากชัยชนะของพวก เรา
“ดี! “แก้วเหล้าในมือของหรงเย่และแก้วชาของหลิน ซีนเยียนชนกัน เหล้าหยดลงบนโต๊ะ ลมแค่พัดก็เริ่มแห้ง แล้ว
วินาทีนั้นทั้งที่ไม่มีลมพัดแท้ๆเสี่ยวหลงที่ยืนอยู่ด้าน หลังกลับรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาทันทีเขามองแววตาของหลิน ซีนเยียนที่ค่อยๆเปลี่ยนไปผู้หญิงที่สามารถยืนข้างกาย โม่จื่อเฟิงได้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
กําหนดวันออกเดินทางไปยังแหล่งกำเนิดเกิงจีนเป็น อีกสองวันข้างหน้าหลังจากที่กลินซีนเยียนเจรจากับหรง เย่สำเร็จก็ให้คนนำจดหมายไปส่งให้กับประมุขของอีก สองตระกูลภายในจดหมายนางเขียนถึงการเดินทางไป แหล่งกำเนิดเกิงจีนกับตระกูลหลีจากนั้นนางก็ได้ย้อน กลับไปที่นั่นอีกครั้งเพียงแต่เข้าไปถึงแท่งเปิดปิดเท่านั้น และได้พบสมบัติของแหล่งกำเนิดเกิงจีนว่ามีความเกี่ยวข้องกับทั้งสามตระกูลใหญ่และอีกอย่างการเปิด ประตูสมบัติสุดท้ายต้องใช้ป้ายประจำของประมุขทั้ง สามและเลือดของนางเท่านั้นดังนั้นหากต้องการเปิด ประตูสมบัติแหล่งกำเนิดเกิงจีนก็ต้องนำป้ายประจำตัว ประมุขของทั้งสามตระกูลไปให้ได้
ความคิดเห็นในจดหมายของนางคือให้คนนำป้าย ประจำตัวของประมุขมาเท่านั้นแต่ว่าทุกคนต่างรู้ดีป้าย นั้นไม่ใช่จะให้ใครไปก็ได้ดังนั้นนางไม่ได้กล่าวราย ละเอียดมากนักแต่ก็รู้ว่าประมุขของทั้งสองตระกูลต้อง เดินทางไปด้วยตัวเอง
บางทีนางอาจไม่ได้กล่าวสมบูรณ์มากนักแต่ว่า สำหรับผู้นำตระกูลนั้นสิ่งที่ไม่ขาดคือสติปัญญาความ มั่งคั่งนับหมื่นนั้นไม่ใช่แค่สะสมขึ้นมาได้อย่างง่ายๆโดย เฉพาะตอนนี้มีสิ่งที่พิเศษเช่นนี้
ตระกูลเหล่านี้จะผ่านอะไรมามากมายถึงแม้จะต้อง ฝ่าอุปสรรคขวากหนามก็ยังคงต้องการยืดสิ่งเหล่านั้นณ เวลานี้ไม่มีตระกูลไหนที่ไม่ต้องการสมบัตินี้
หลินซีนเยียนกล่าวว่าสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่ บรรพบุรุษของพวกเขาเหลือไว้ให้พวกเขาไม่สนใจว่าจะ ด้วยผลประโยชน์หรือศักดิ์ศรีก็ตามพวกเขาจะไม่มีทาง ยกสิ่งที่เดิมทีควรเป็นของตัวเองให้ผู้อื่นเด็ดขาด
“ดังนั้นพวกเขาต้องมาอย่างแน่นอน”หลินซีนเยียนที่ ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ภายในลานยื่นมือออกไปรับใบไม้ที่หล่น ลงมานางอธิบายสาเหตุที่เขียนไปให้เช่นนั้นให้กับเสี่ยว หลง
เสี่ยวหลงยิ่งฟังก็ยิ่งตกใจเหมือนเห็นภาพอู่เสวียนอ๋องทับซ้อนบนตัวของหลินซีนเยียนภายในตัวของพวก เขาต่างก็มีความสามารถในการวางแผน
“ใช่สิเสี่ยวหลงเจ้าสามารถระดมคนของจื่อเฟิงได้ เท่าไร?”หลินซีนเยียนรู้ว่าภายใต้กองกำลังของโม่จื่อเฟิง เสี่ยวหลงก็มีอำนาจไม่น้อย
เสี่ยวหลงไม่ลังเลแม้แต่น้อยพูดว่า“ข้าถึงเป็นผู้บังคับ บัญชาในหน่วยลาดตระเวนคนหนึ่งและในมือข้ามีหน่วย ลาดตระเวนเพียงสองร้อยคนและนักฆ่าสองร้อยคน”
แววตาของหลินซีนเยียนส่องประกายแต่ก็รู้สึก แปลกใจเล็กน้อยนางคิดไม่ถึงว่าเสี่ยวหลงก็เป็นถึงผู้ บังคับบัญชาที่สามารถเคลื่อนกำลังคนได้ถึงสี่ร้อยคน
“หากเป็นดังเช่นนั้นเจ้าสามารถช่วยข้าทำการบาง อย่างได้สิ”หลินซีนเยียนพูด
“แค่แม่นางสั่งการ”หากเมื่อก่อนเสี่ยวหลงยังมีความ สงสัยในความสามารถของนางแต่ณตอนนี้เขายิ่งดีทำ ตามคำสั่งของนางอย่างใจจริง
หลินซีนเยียนพยักหน้าแล้วทำมือให้เสี่ยวหลงเข้ามา ใกล้แล้วพูดที่ข้างหูของเขาสักพักดวงตาของเสี่ยวหลงก็ ค่อยๆเป็นเปล่งประกายขึ้น
สุดท้ายหลินซีนเยียนพูดว่า“ภาพวาดข้าจะเร่งทำให้ เจ้าในไม่กี่วันนี้ขอเพียงไปทำตามที่ข้าบอกความแค้น ของนายเจ้าข้าชำระคืนให้อย่างแน่นอน”
เสี่ยวหลงไม่มีคำพูดใดๆคุกเข่าลงไปทันทีแล้วยกมือ คำนับ“แม่นางหลินมีพระคุณยิ่งหนักข้าไม่มีวันลืม”
หลินซีนเยียนเพียงยิ้มรับเบาๆทันนั้นไม่มีคำพูดใดๆนางยืนใต้ต้นไม้มานานจนเห็นพระอาทิตย์ขึ้นมาถึงได้ให้ เสี่ยวไปห้องฟืนพาหนีหว่านออกมา
เมื่อหนีหว่านนั่งลงบนเก้าอี้ภายในลานแสงอาทิตย์ก็ ส่องกระทบหน้านางพอดีทำให้เห็นรอยชัดมากขึ้น หลินซีนเยียนนั่งอยู่ข้างๆหนีหว่านไม่ได้ไปมองนาง
หนีหว่านเพียงแต่นั่งอยู่เงียบๆชมแสงพระอาทิตย์พร้อม
กับนาง
หนีหว่านในวันนี้ถึงแม้ใบหน้ายังคงไม่ได้มีความรู้สึก ใดๆแต่ว่าแววตาก็ไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังบางทีอาจเพราะคำ พูดที่หลินซีนเยียนพูดกับนางเมื่อคืนคำว่า “ไม่พอใจ”บาด ลึกลงไปในใจนางแล้ว
ในค่ำคืนนั้นภายในห้องของหลินซีนเยียนส่องสว่าง ทั้งคืนนางนำกระดาษมาแล้ววาดทั้งคืนช่วงเช้าของวันที่ สองนางพักผ่อนได้สักชั่วยามจากนั้นทรงเย่ก็พาคน เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางไปกับพวกนาง
การเป็นประมุขของตระกูลหรงเย่จะออกเดินทาง แต่ละครั้งมันไม่ได้ง่ายเลย หลินซีนเยียนกวาดสายตา มองไปก็พบว่าผู้เฒ่าทั้งหลายของตระกูลมาถึงหมดแล้ว มีชายหนุ่มสี่ห้าคนที่ติดตามอยู่ด้านหลังของหรงเย่และ ชายหนุ่มทุกคนก็มีองครักษ์ติดตามกันคยละสองคน
“ดูเหมือนครั้งนี้อำนาจคงจะอยู่ในมือประมุขหรง แล้ว”หลินซีนเยียนหยอกล้อ
หรงอวิ๋นแกว่งมือไปมายิ้มแล้วพูด“ที่ไหนกันต้องดู หลังจากนี้อนาคตเป็นของชายหนุ่มทั้งหลายชายแก่เยี่ยง พวกข้าก็แค่ออกไปลองดูสักครั้งในบ้านมีอวิ๋นเอ๋อร์อยู่ข้าก็สบายใจขึ้นมาก”
หรงอวิ๋นที่ยืนอยู่ด้านหลังหรงเย่ได้ยินบิดาตัวเองพูด อย่างเชื่อมั่นเช่นนั้นใบหน้าก็ปรากฏความได้ใจขึ้นมา ทันที
แววตาหลินซีนเยียนสั่นไหวด้วยความเย็นชาเล็ก น้อย
“เอ๋แม่นางหลินครั้งนี้ทำไมถึงได้พาคนไร้ประโยชน์ เช่นนั้นไปด้วยเล่า?”หรงเย่เห็นหนีหว่านที่เสี่ยวหลงแบก ไว้บนหลัง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ