ตอนที่440 บรรลุพันธมิตร
“พวกเราสามตระกูลร่วมมือกัน มาปกป้องเด็กหนุ่มหัวหอกคนหนึ่งซึ่ง ไร้ภูมิหลัง ปราศจากพลัง ไม่มีผู้หนุน หลังให้ขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ประเทศ หมันอย่างมั่นคง เจ้าช่างบังอาจพล่าม นัก!” หลิงหงรีบกระโดดออกมาแสดง ความไม่พอใจทันที “เจ้าคิดว่าพวกเรา สามตระกูลใหญ่เร้นลับเป็นคนรุ่มรวย แก่ทวยราษฎร์อย่างไรก็ได้? นึกอยาก จะขอความร่วมมืออย่างไรก็ได้? สาม ตระกูลใหญ่เร้นลับของพวกเราดำรง อยู่กว่าหลายศตวรรษ ซ้ำแต่ไหนแต่ ไรมายังมิเคยร่วมมือกันทำการใด เจ้า เด็กเมื่อวานซืนคนหนึ่ง ก็บังอาจกล่าว ถึงคำร้องขอนี้ออกมา เห็นว่าพวกเรา สามตระกูลใหญ่เป็นกากแห้งไร้ประโย ชน์จริงๆ รึ?”
การระเบิดโทสะของเขาไม่ได้ส่ง ผลให้หลินซีนเยียนเกิดความผันผวน ทางอารมณ์แต่อย่างใดนางทำเพียง กระตุกมุมปาก กล่าวหนึ่งประโยคที่ ฟังเข้าใจง่าย “ถ้าหากพวกท่านตกลง ข้าก็จะพาพวกท่านไปเสาะหากรุ สมบัติลับอันเป็นต้นกำเนิดของเกิง จีน…”
ประโยคนี้ ทำให้หลี่ห่าย หลิงหง และเสี่ยวหลงมีสีหน้าเปลี่ยนไปโดย สมบูรณ์แบบ
หลี่ห่ายและหลิงหงรู้ถึงเรื่องราว ความเป็นมาของเกิงจีนดี เรื่องนี้ สำหรับต้นตระกูลขุนนางเร้นลับทุก แห่งแล้วต่างก็เป็นเรื่องถูกซ่อนเร้น เป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะว่างบประมาณ ภายในของตระกูลเร้นลับหลาย ศตวรรษเป็นต้นมา อันที่จริงยิ่ง ต้องการแหล่งค้ำจุนจากกรุสมบัติ ประเภทนี้ อีกอย่างกรุสมบัตินี้ยังไม่ใช่ แหล่งเงินทองธรรมดาจะสามารถ แทนที่ได้
สามตระกูลเดิมทีก็เป็นสถานะเสา หลักสามอันในระนาบเดียว เวลาแบบ นี้หากว่าใครสามารถเพิ่มพูนรากฐาน ของตัวเองสู่ชั้นหนึ่งได้ เช่นนั้นก็จะ สามารถมีความแข็งแกร่งไร้เทียมทาน ใครกล้ารับประกันว่าหลังจากตระกูล หนึ่งมีพลังแกร่งกล้าแล้วจะไม่อาจมี ความคิดอันไม่บังควรต่ออีกสอง ตระกูลที่เหลือ ดังนั้น หลายปีมานี้ แหล่งที่มาของเกิงจีนจึงเป็นข้อพิพาท ที่ไม่อาจถกเถียงได้ระหว่างทั้งสาม ตระกูลเรื่อยมา
หลี่ห่ายรู้ถึงศักยภาพของหลิน ซีนเยียนดี อีกอย่างเนื่องจากความ เกี่ยวพันทางสายเลือด ก็มีเพียงหยาด โลหิตของหลินซีนเยียนเท่านั้นที่ สามารถเปิดกรุสมบัติของแหล่งที่มา เกิงจีนได้ ดังนั้นเขาจึงพูดไปสองไพร เบี้ย พลันกล่าวอย่างรู้จุดตนเอง “ตระ กูลหลี่ของพวกเราไม่มีปัญหา ขอ เพียงแม่นางหลินรักษาคำมั่นสัญญา ไม่สนว่าสองตระกูลของพวกเราจะ เห็นด้วยหรือไม่ พวกเราตระกูลหลี่ เต็มใจปกป้องน้องชายท่านขึ้นสู่ บัลลังก์ฮ่องเต้ อีกอย่าง…จากอำนาจ ของพวกเราตระกูลหลี่ ถึงแม้จะ วุ่นวายเสียหน่อย แต่ก็สามารถทำ สำเร็จโดยลำพังได้แน่
ความหมายแฝงในน้ำคำของหลี่ ห่าย ก็คือตระกูลหลี่สามารถบรรลุ เรื่องที่หลินซีนเยียนร้องขอได้เพียง ลำพังอย่างสมบูรณ์แบบ อีกสอง ตระกูลจะร่วมด้วยหรือไม่สำหรับเขา แล้วไม่ได้มีผลกระทบเลย สำหรับเขา นั้น ไม่อยากให้สองตระกูลอื่นมีเสี่ยว เอี่ยวในเรื่องเกิงจีนด้วยเลยสักนิด
จากตำแหน่งในตระกูลหรงของ เสี่ยวหลง ยังไม่เพียงพอต่อการรับรู้ เรื่องลับจำพวกกรุสมบัติแหล่งที่มา เกิงจีน แต่ว่าในฐานะคนสนิทของโม่ จื่อเฟิง ก่อนมาก็ได้รับคำชี้แนะ คือ ต้องตกลงต่อเงื่อนไขใดๆ ก็ตามของ หลินซีนเยียน ดังนั้นเขาจึงกล่าวอย่าง ไม่ต้องยั้งคิดเลย “ตระกูลหรงของ พวกเราก็ไม่มีปัญหา จะต้องช่วยแม่ นางหลินบรรลุความปรารถนาแน่”
หลินซีนเยียนมองเขาแวบหนึ่ง อย่างพิศวง “เจ้าแน่ใจว่าเจ้าสามารถ เป็นตัวแทนตระกูลหรง?”
เสี่ยวหลงพยักหน้าหนักแน่น “ถึง แม้ข้าจะทำไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้เจ้านาย ของข้าทำได้” ไม่รู้ว่าเจ้านายทำพันธะ อะไรกับตระกูลหรง สุดท้ายตอนนี้ อากัปกิริยาของตระกูลหรงที่มีต่อเจ้า นายทั้งเคารพทั้งหวั่นเกรง เรื่องนี้ หากว่ามีความสําคัญยิ่งต่อตระกูลหรง ล่ะก็ เดาว่าตระกูลหรงก็ไม่อาจปฏิเสธ
“เช่นนั้นก็ดี” ลักษณะท่าทางของ หลินซีนเยียนดูหลุบต่ำ นางเองก็ไม่รู้ ว่าเหตุใดตนเองถึงได้กล่าวประโยค นอกเหนือความคาดหมายนี้ออกมา ตอนนี้นางก็รู้แล้วว่าคนเบื้องหลังของ เสี่ยวหลงก็คือโม่จื่อเฟิง ดังนั้นนางที่ ไม่อาจควบคุมได้ก็อาจต้องไตร่ตรอง ให้มาก
ช่วงเวลาที่ผ่านมาของโม่จื่อเฟิง และตระกูลหรงบ้านเกิดนั้นนางพอรู้ อยู่บ้าง ดังนั้นตอนนี้โม่จื่อเฟิงกลับสู่ ตระกูลหรงบ้านเกิดแล้ว จะต้องมีเรื่อง อะไรที่ร้าวระบมเป็นแน่ นางเข้าใจโม่ จื่อเฟิงดี เขาไม่ใช่คนที่จะยอมอ่อนข้อ ต่อศัตรูได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าเขา กลับไปแล้ว เช่นนั้นก็เป็นการอธิบาย ได้หรือไม่ว่า อันที่จริงเขาเผชิญกับ ความยากเข็ญอันยิ่งใหญ่นัก
แม้แต่โม่จื่อเฟิงยังรู้สึกว่าลำบาก แล้วล่ะก็ จะเป็นไปได้หรือไม่ เขากลัว ว่าจะลากนางไปเหนื่อยด้วย? จึงทำ เรื่องที่นางไม่อาจทำความเข้าใจได้ มากมายขนาดนั้น?
แต่ว่า ความคิดนี้ผุดขึ้นมาเพียง ชั่วขณะ นางกลับสั่นศีรษะโยนมันทิ้ง ออกจากมันสมอง นางยังคงสำเหนียก อยู่บ้าง ผู้หญิงที่สำหรับเขาแล้วไม่ได้ มีประโยชน์อะไรคนหนึ่งเยี่ยงนาง จะ ควรค่าให้เขาเปลืองความคิดทำเรื่อง มากมายขนาดนี้ได้อย่างไรกัน
หลิงหงเห็นว่าคนของตระกูลหลี่ และคนของตระกูลหรงต่างแสดงท่าที ชัดเจน ในอกก็ยิ่งมึนงง เขาอดลอบ สังเกตหลินซีนเยียนอีกครั้งไม่ได้ จน กระทั่งตอนนี้ เขายังคงยากจะ จินตนาการ ผู้หญิงนางหนึ่งที่อ่อนวัย ขนาดนี้ แต่จะเสาะหาบุคคลสัมพันธ์ เกี่ยวโยงกับกรุสมบัติลับของเกิงจีน?
“ท่านทบทวนเสร็จหรือยัง อย่างไรเสียตอนนี้ก็มีสองตระกูลตอบ ตกลงคำร้องขอของข้าแล้ว ตระกูล หลิงของพวกท่านอยากเข้าร่วมก็ดี แต่ว่าหากไม่อยากเข้าร่วม ข้าเองก็ไม่ บังคับ ข้าไม่มีเวลามาหน่วงเหนี่ยวกับ ท่าน ท่านแค่กล่าวสักประโยคเถิด อย่างไรความคับข้องใจระหว่างข้ากับ ตระกูลหลิงก็หยั่งลึก อันที่จริงข้าเองก็ ไม่ได้สนใจอยากร่วมมือกับพวกท่าน”
หลินซีนเยียนกล่าวประโยคเหล่า นี้อย่างเยียบเย็น หากไม่ใช่เพราะตระ กูลหลิงทำธุรการในประเทศหมัน หลายปีเพียงนี้ แน่นอนว่าอำนาจก็ต้อง ฝังแน่นกว่าอีกสองตระกูล มีความช่วย เหลือจากตระกูลหลิง เส้นทางฮ่องเต้ ของอี้เซิงจะต้องเพิ่มความราบรื่นขึ้น อีกอย่างยังสามารถหลีกเลี่ยง อันตรายและความวุ่นวายอันไม่จำเป็น ได้มากมาย นางจึงไม่อาจร่วมมือกับ ตระกูลหลิง
ใบหน้าชายชราของหลิงหง ช่าง ปั้นยากเหลือแสน กรุสมบัติแหล่งที่มา เกิงจีนนั้นสำคัญอย่างยิ่ง เขาไม่อาจ สูญเสียโอกาสนี้ไปต่อหน้าต่อตา แต่ ว่าต้องร่วมมือกับผู้หญิงที่สังหารนาย น้อยตาย นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ ตระกูลบ้านเกิดขายหน้านัก
“ข้าจะนับสามครั้ง ท่านไม่ตอบ ตกลง ข้าก็จะส่งแขกแล้ว” หลินซีน เยียนเห็นว่าเขาไม่เปล่งเสียง จึงเริ่ม เอ่ยนับอย่างเนิบนาบ “สาม สอง…
“ได้! ข้าตกลง!” ท้ายที่สุดหลิงหง ก็ตอบตกลงไปแล้ว อย่างไรเสียนาย น้อยก็จากกไปแล้ว แต่ขั้วอำนาจของ ตระกูลหลิงยังคงต้องอยู่สืบไป
ผลลัพธ์นี้ เดิมทีก็เป็นไปตามที่ หลินซีนเยียนคาดคะเนไว้ ดังนั้นนาง จึงพยักหน้ายิ้มน้อยๆ “ในเมื่อพวก ท่านต่างตกลงกันแล้ว เช่นนั้นข้าก็ หวังว่าพวกท่านจะดำเนินการอย่างเร็ว ที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกอย่างมีการร่วม แรงร่วมใจของพวกท่านสามตระกูล ข้าเชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ไขเรื่องราว ในนี้ได้โดยเร็วแน่ จากนั้น พวกเราจะ ร่วมเดินทางมุ่งสู่สถานที่ของกรุสมบัติ ลับแหล่งที่มาเกิงจีน”
สิ่งต่างๆ ได้รับการตกลงกันใน ลำดับต่อมา เช่นนั้นเรื่องราวตามมาก็ ง่ายดายกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอา ไว้มากนัก คนของสามตระกูลเริ่มพูด คุยถึงวิธีการเผชิญหน้ากับโจว่เฉิงใน ศาลารับรองแขก แต่ละตระกูลได้ สมทบกองกำลังลับบางส่วนใน ประเทศหมัน
เหนือความคาดหมายของหลิน ซีนเยียน กองกำลังของสามตระกูลนี้ ทรงพลังแกร่งกล้าไกลกว่าที่นาง จินตนาการเอาไว้นัก ไม่เพียงแต่มีคน จำนวนไม่น้อยสอดแทรกภายในราช สำนักประเทศหมัน ก็แม้กระทั่งใน กองทัพทหารของประเทศหมัน ยังมี ขุนพลภายใต้กองกำลังของสาม ตระกูลอีกด้วย ก็กล่าวได้ว่า ในโลก ทางทหารของประเทศหมันสาม ตระกูลใหญ่มีกองทหารเป็นของตัว เองด้วย!
นี่ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไหน ก็ตามแต่ ต่างก็เป็นเรื่องที่น่าหวาด วิตกอย่างมาก ในกองกำลังทหารของ ประเทศหนึ่ง มีบางส่วนที่เป็นของ ประเทศราช แต่ว่าในส่วนมืดกลับมี ไส้ศึกของสามตระกูลใหญ่! ไม่แปลก ใจไม่ว่าประเทศหนานเยว่ ประเทศ เป่ยหมิงหรือประเทศหมัน การเปลี่ยน ผ่านฮ่องเต้นั้นมักจะพบว่ามีเงาของ ตระกูลขุนนางซุกซ่อนอยู่
อีกอย่าง ไม่เพียงแต่ในกองทัพ ทหาร ก็แม้แต่ในหน่วยของโว่เฉิงเอง ก็มีการแฝงตัวของพวกเขาอยู่ไม่น้อย เช่นนี้เรื่อยมา รวมนอกสู่ใน ต้องการ จับตัวโจวเฉิง ในมุมมองของพวกเขา แล้วกลับเป็นเรื่องไม่คณามือเลยสัก นิต
ด้วยเหตุนี้ หลินซีนเยียนก็ได้ เข้าใจต่อสามตระกูลใหญ่ได้ลึกซึ้งขึ้น เพียงแต่ ยิ่งเข้าใจลึกขึ้น ก็ยิ่งกลัวมาก เท่านั้น
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ