ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่422อินฉีจากไป



ตอนที่422อินฉีจากไป

“ใช่กษัตริย์พระองค์ใดบ้างที่ขึ้น มาโดยไม่เหยียบย่ำศพนับหมื่นพัน?โจ ว่เฉิงอยู่เหนือคนนับหมื่นที่เขา ต้องการคือขึ้นเป็นตำแหน่งสูงสุดของ แคว้นหมันอย่างแน่นอนใช้อี้เซิงเป็น ชื่ออ้างแต่หลังจากจัดการแล้วเขาคง ไม่ให้โอกาสให้ใครเหยียบย่ำบนหัว อีกฉะนั้นเข้าไปกับข้าเถิดเจ้าอยู่ที่นี่คง ได้ตายเป็นเพื่อนเขาแค่นั้น”อินฉีพูด โน้มน้าวด้วยความกลัดกลุ้มใจ

หลินซีนเยียนชะงักไปจากเนื้อ ความที่เขาพูดนางตื่นตัวขึ้นมาทันที พูดอย่างเย็นชา“ความหมายของเจ้า คือให้ข้าไปแต่ไม่ให้ข้ากับอี้เซ็งไป ด้วยกัน?”

สีหน้าอินฉียิ่งกลัดกลุ้มมากขึ้น เขาไม่มองอี้เซิงแต่พูดกับหลินซีน เยียนทางตรงถ้าทำได้ข้าจะพาเขาไป แน่นอนเพราะเจ้าเป็นห่วงเขาเช่นนี้ แต่……กำลังข้าในแคว้นหมันพาเขา ไปไม่อาจรอดไปจากเงื้อมมือโจว่เฉิง ได้เขามีความสำคัญกับโจว่เฉิงนักแต่ เจ้าถ้าโจว่เฉิงจะขายผลประโยชน์ให้ ข้าคงขัดขวางข้าไม่ได้

เขาพูดตรงกับความเป็นจริงมาก สภาพตอนนี้เป็นไปตามที่เขาพูด ทั้งหมดจริงแต่แม้จะเป็นเช่นนั้นตอนที่ หลินซีนเยียนได้ยินเขาพูดครั้งนี้ก็อด ยิ้มเหยียดหยามไม่ได้” นางส่ายหน้า“เจ้าไปเถิดข้าทิ้งอี้ เซิงไม่ได้หากต้องตายข้าจะตายไป พร้อมเขา”

อินฉีตาค้างผ่านไปนานถึงค่อยๆ พูด“เพราะเหตุใดกัน?”

“เขาเป็นน้องชายข้าถ้าต้องเสี่ยง เป็นเสี่ยงตายอยู่ที่นี่ข้าจากไปเพียง ลำพังงั้นข้ายังจะเป็นพี่สาวของเขาได้ อีกรึ?คำว่าพี่สาวไม่ได้เรียกันง่ายๆนะ ข้าไม่ใช่พวกมีอำนาจสูงส่งอย่างพวก เจ้าในสมองมีแต่แผนการมากมายข้า เป็นแค่หญิงสามัญชนธรรมดาสิ่งที่ข้า ต้องการคือยึดมั่นตามความตั้งใจตัว เอง”

หลินซีนเยียนหันกลับไปไม่มี ท่าทีจะสนทนากับอินฉีอีกพูดกับอี้ เซิง“อี้เซิงส่งแขกข้าเหนื่อยแล้ว”

แต่ครั้งนี้อี้เซิงกลับไม่ได้ฟังที่นาง พูดแต่ลังเลกำมือแน่น

หลินซีนเยียนรออยู่นานไม่เห็น ด้านหลังขยับเขยื้อนจึงหันมามองก็ เห็นอี้เซิงตาแดงจ้องมองตัวเอง“พี่ สาวเจ้าไปกับเขาเถิดข้าดูแลตัวเอง ได้”

แม้อี้เซิงยังอายุน้อยแต่กลับ เข้าใจรู้เรื่องมากกว่าคนในเดียวกันเขา รู้ว่าที่นี่มีภัยก็ช่างเถอะตอนนี้รู้ถึงภัย อันตรายไปทางข้างหน้าเขาจะให้หลิน ซีนเยียนเสี่ยงอันตรายไปกับเขาได้ อย่างไรกัน? หลินซีนเยียนมองความคิดอี้เซิง ออกนางลุกขึ้นยื่นมือไปดึงไหล่อี้เซิง ให้เขาเข้ามาใกล้ลูกหัวเขา”อี้เซิงเจ้ารู้ ว่าข้าเป็นคนยังไง?ถ้าเจออันตราย ข้า จะรักษาชีวิตไว้ คนอย่างข้า เจ้าจะให้ เป็นพี่สาวได้หรือไม่?

ไม่เป็นเพราะที่มาของตัวตนอี้เซิง เขาจึงพาตัวเองให้แยกห่างกับโลกใบ นี้ไม่ง่ายเลยที่หลินซีนเยียนจะเข้ามา ในชีวิตเขาถ้าหลินซีนเยียนเป็นคน อย่างนั้นจริงๆในชีวิตอี้เซิงก็ไม่ต้องมี เขา

ความเงียบของเขาเป็นคำยืนยัน ในสิ่งที่หลินซีนเยียนพูด

“ดีแล้วชีวิคนในโลกที่ไหนบ้างที่ ไม่มีอุปสรรคไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร พวกเราพยายามทุ่มเทให้เต็มที่ก็เพียง พอแล้ว”หลินซีนเยียนตบบ่าอี้เซิงแล้ว หันกลับไปพูดกับอินฉี”ทานอัคร เสนาบดีอินท่านไปเถิดไม่ส่ง”

ไล่คนชัดเจนขนาดนี้คนที่ไล่ยัง เป็นอัครเสนาบดีอินฉีผู้มีชื่อเสียงเรื่อง อย่างนี้มีเพียงหลินซีนเยียนที่กล้าทำ

ฝีเท้าอินฉีราวกับรากงอกไม่ง่าย เลยที่จะกัดฟันยกเท้าเดินออกไปด้าน นอกอย่างช้าๆ

แต่เดินไม่ทันสองก้าวเขาอดไม่ ไหวหันกลับมามองในแววตานั้น ราวกับจะจากลาไปชั่วนิรันดร์ในหัวเขา คิดว่าเขาไปคราวนี้เป็นไปได้ที่จะไม่ ได้พบสองคนนี้อีกฉะนั้นเขาจึงเดินให้ ช้าที่สุดทุกฝีก้าวราวกับใช้พละกำลัง และเวลาทั้งหมด

ในทางกลับกันหลินซีนเยียนยิ่ง ไม่ชอบท่าทีอินฉีจึงให้อี้เซิงปิดประตู ห้องไปเสียเลย

บานประตูตัดขาดสายตาอินฉี ตัดขาดความคิดถึงที่เขามีต่อนางแต่ ความคิดถึงมันตัดกันได้จริงๆหรือ? เมล็ดพันธุ์ถูกหว่านฝังเข้าไปส่วนลึก ของจิตใจถ้าหากแข็งแกร่งเติบโตจน งอกเงยออกมาชีวิตยังจะมีอยู่อีกหรือ ไม่?

วันที่สองในยามเช้าตรู่อินฉีไป แล้วหลินซีนเยียนและอี้เซิงรู้จากปาก โจว่เฉิงแต่ดูเหมือนระหว่างอินฉีและ โจว่เฉิงบรรลุตามสัญญาบางอย่างกัน แล้วฉะนั้นหลังจากอินฉีไปโจว่เฉิงไม่ เพียงปฏิบัติกับพวกหลินซีนเยียนทั้ง สามอย่างดีแต่ยังทำดีกับทั้งสามคน มากขึ้นด้วย

แม้พฤติกรรมของโจว่เฉิงจะดี มากแต่พวกเขาก็รู้ลมพายุฝนจะมา ตอนที่สงบเงียบที่สุดเสมอ ฉะนั้นหลิน ซีนเยียนอี้เซิงสวี่ห้าวทั้งสามคนเผ้า ระวังตัวทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะหลิน ซีนเยียนถือโอกาสชวงตอนอี้เซิง รักษาทำของที่ใช้ป้องกันตัวไว้ มากมาย

โจว่เฉิงไม่รู้ถึงแผนลับของนาง คิดว่านางเบื่อแล้วจึงทำของแปลกๆ ฆ่าเวลาเท่านั้นเอง ถ้าหากเขารู้ว่า หลินซีนเยียนเคยเป็นนายช่างน่าเกรง กลัวของศาลาความลับแห่งสวรรค์เขา ไม่วางใจเตรียมวัตถุดิบให้นางแบบนั้น

เวลาผ่านไปชั่วประเดี๋ยวเดียวใน สภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดแต่นิ่งสงบ ก็ได้ผ่านมาครึ่งเดือนโดยไม่รู้ตัวใน ครึ่งเดือนนี้ไม่มีอะไรผิดปกติทั้งสิ้น นอกจากของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่หลินซีน เยียนวางกองไว้เต็มโต๊ะ

วันนี้ตอนเช้าตรู่นางบอกโจว่เฉิง ว่าต้องการของไม่กี่อย่างหนึ่งในนั้น คือเกิงจีนขนาดเท่าหัวแม่มือโจว่เฉิง ทำได้รวดเร็วถึงตอนช่วงบ่ายก็สั่งคน ส่งของที่นางต้องการมาให้ วันนี้แดดดีไม่เลวหลินซีนเยียน กำลังพักผ่อนบนที่นั่งกุ้ยเฟยในจวน ลมฤดูใบไม้ผลิแรกแย้มพัดพาความ อุ่นกระทบตัวนางคลุกเคล้ากลิ่น ดอกไม้ใบหญ้าทำให้ความตึงเครียด ของคนค่อยๆรู้สึกผ่อนคลายขึ้น

สินค้าที่ส่งมาครั้งนี้ไม่เหมือนไม่ เหมือนของหลายวันก่อนช่วงเวลาที่ ผ่านมาก่อนหน้านี้ล้วนเป็นชายหนุ่ม อายุราวยี่สิบมาแต่ครั้งนี้เป็นชายวัย กลางคนมาเขาใส่เสื้อผ้าคนรับใช้ยก กล่องเข้ามากเข้ามาคำนับหลินซีน เยียนก่อนหลังจากนั้นถึงพูด“สวัสดีแม่ นางหลินข้ามาส่งของให้ท่าน

“แล้วชายหนุ่มที่ส่งของก่อนหน้า นี้ล่ะ?”หลินซีนเยียนพยักหน้าในห้องมี ผู้อารักขาโจว่เฉิงสองสามคนแนบชิด ราวกับถังเหล็กนางไม่กังวลว่าคนๆนี้ จะทำร้ายนางโดยเฉพาะตอนที่โจว่ เฉิงยังไม่เริ่มทำแผนการของตัวเอง นางจึงถามออกมาโดยไม่ต้องคิด

คนรับใช้วัยกลางคนหัวเราะฮ่าๆ พูด“เสี่ยวหลี่น่ะบ้านเขาเกิดเรื่องจึงขอ ลากลับบ้านแล้วข้ามาแทนเขาหลัง จากนี้แม่นางต้องการสั่งอะไรแค่บอก มาได้เลยแต่ข้ามาบ้านพักแห่งนี้ไม่กี่ วันยังมีกฎเกณฑ์มากมายที่ยังไม่ เข้าใจถ้าหากมีอะไรที่ทำไม่ถูกต้อง ขอโปรดแม่นางอภัยให้ด้วย“

คนๆนี้พูดจาช่างปลิ้นปล้อนยิ่งนัก แม้ฐานะเป็นคนรับใช้แต่พูดออกขึ้นมา ทำให้คนรู้สึกว่าซื่อสัตย์จริงใจทำให้ หลินซีนเยียนมองเขาหลายครั้งโดย ไม่รู้ตัว

“ถ้าหากแม่นางไม่มีคำสั่งใดถ้า งั้นข้าน้อยขอตัวก่อนชายวัยกลางคน โค้งคํานับหัวเราะฮ่าๆหลังจากนั้น ค่อยๆพยักหน้าให้หลินซีนเยียนแล้ว กำลังจะหันกลับเดินออกไป
198669840_2917838965210530_5878459158405551218_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ