บทที่ 335 อาบน้ำด้วยกัน
หลังจากที่จัดหาห้องได้เรียบร้อย รพีพงษ์ให้ผู้จัดการ เตรียมอาหารค่ำให้ พวกเรานั่งอยู่ในห้องอาหาร ห้อง อาหารนี้เป็นห้องที่ดีที่สุดในโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เน ชั้นเนล แม้จะอยู่ในโรงแรมที่คล้ายกับโรงแรมในอำเภอ หยก แต่ศักดากับศศินัดดาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมความ หรูหราของโรงแรมแห่ง
หลังจากนั่งลง รพีพงษ์ถามศศินัดดาว่าต่อจากนี้อยาก อยู่ที่ไหน
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ศศินัดดากับศักดาไม่ได้คำนึง ถึงขนาดของที่อยู่อีกแล้ว แม้ว่าตอนอยู่ที่คฤหาสน์ในดง เย็นจะมีสง่าราศี คนรู้จักต่างพากันอิจฉา
แต่ว่าคฤหาสน์นั่นมันโดดเด่นเกินไป จนทำให้มีเรื่อง วุ่นวายเกิดขึ้นกับพวกเขาได้ง่ายๆ สำหรับศศินัดดา ถ้าได้ อยู่ในที่ธรรมดาทั่วไป พวกวีธราคงจะไม่รู้ว่าครอบครัว ของเธออยู่ที่ไหน พวกเขาจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานเหมือน รพีพงษ์
ดังนั้นทั้งสองคนจึงอยากได้ที่พักธรรมดาทั่วไป มีสิ่ง อำนวยความสะดวกก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่ คฤหาสน์ เพราะพวกเขาอยู่ในบ้านเล็กๆ มาหลายปีจนชิน แล้ว
อารียาไม่ได้ร้องขออะไรเกี่ยวกับที่อยู่ สำหรับเธอ ขอ แค่มีรพีพงษ์อยู่ด้วย เธอจะอยู่ที่ไหนก็ได้ หลังจากที่ผ่านการปรึกษากันเรียบร้อย รพีพงษ์ตัดสิน ใจไปหาที่พักที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เขาซื้อที่พักจำนวน 4 ห้องนอน และ 1 ห้องนั่งเล่น ถึงแม้จะไม่ได้ใหญ่เหมือน คฤหาสน์ แต่ก็สามารถอยู่ได้อย่างไม่อึดอัด
ศศินัดดากับศักดาไม่ได้มีความคิดเห็นอะไร เพราะ ไม่ใช่เงินของพวกเขา
“นอกจากเรื่องซื้อบ้านแล้ว ฉันจะต้องพูดเรื่องความ ปลอดภัยของพวกเรา นายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ตาย คามือนาย ถึงแม้นายจะเป็นเจ้าของโรงแรม แต่คงเทียบ กับตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ได้ คนของฝั่งนั้นไม่ปล่อยนายไว้ แน่ ตอนนี้พวกเราอยู่กับนาย พวกเราก็มีอันตรายเหมือน กัน” ศศินัดดามองรพีพงษ์แล้วเอ่ยขึ้น
รพีพงษ์ยิ้มให้เธอแล้วพูดว่า “เรื่องนี้แม่ไม่ต้องกังวล หรอก รอให้แผลของอารีหายดี ผมจะไปเกียวโตด้วยตัว เอง แล้วจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”
เมื่อศศินัดดาได้ยินว่ารพีพงษ์จะไปเกียวโต เธอรู้สึกดี ใจลึกๆ เพราะเธอกำลังคิดอยู่ว่าจะหลอกล่อให้รพีพงษ์ โอนโรงแรมให้เป็นชื่อของอารียายังไง ถ้ารพีพงษ์จะไป เกียวโต เธอจึงมีเหตุผลที่จะคุยเรื่องนี้กับรพีพงษ์ได้แล้ว
“รพีพงษ์ นายต้องเข้าใจนะว่าเรื่องระหว่างนายกับ ตระกูลลัดดาวัลย์ เป็นเรื่องที่ต่างชั้นกันมาก ถ้านายต้อง ไปเกียวโตจริงๆ ฉันว่านายมีโอกาสที่จะไม่ได้กลับมา แต่ ว่าพวกเราก็ห้ามนายไม่ได้ ก่อนที่นายจะไปนายช่วยทิ้ง อะไรเป็นสิ่งประกันให้พวกเราก็พอแล้ว นายคงไม่อยากให้ อารีทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่หรอกใช่ไหม” ศศินัดดาพูดด้วย สีหน้าคาดหวัง
“แม่พูดอะไรน่ะ การที่เขาไปเกี่ยวโตครั้งนี้ เขาต้อง จัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน แม่อย่าพูดอะไรไม่ดีกับเขาสิ” อารียาพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
“ฉันพูดอะไรไม่ดีตรงไหนกัน ฉันพูดความจริง นั่น ตระกูลลัดดาวัลย์เชียวนะ รพีพงษ์แค่เจ้าของโรงแรม จะ ไปสู้กับตระกูลนั้นได้ยังไง” ศศินัดดาพูดเหมือนมีเหตุผล
“แม่พูดอย่างนี้ แม่ต้องการอะไร?” รพีพงษ์มองศศิ นัดดา เขาเดาได้ว่าเธอมีเลศนัยบางอย่าง ถึงพูดออกมา แบบนี้
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างอื่น ฉันแค่อยากให้นายหา หลักประกันให้อารีเท่านั้น ถึงโรงแรมนี้จะเทียบไม่ได้กับ ตระกูลลัดดาวัลย์ แต่เป็นโรงแรมที่ดีในเมืองริเวอร์ การที่ นายไปเกียวโตมีแต่ความเสี่ยง ฉันเลยจะแนะนำให้นาย โอนโรงแรมนี้ให้เป็นชื่อของอารียาก่อนที่นายจะไป ถ้า เกิดนายเป็นอะไรขึ้นมา อารีจะได้ไม่ต้องตกระกำลำบาก” ศศินัดดาพูดออกมาตรงๆ
อารียาได้ยินที่ศศินัดดาพูด เธอตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นมา พูดกับผู้เป็นแม่ด้วยความโกรธ “ถ้าแม่ไม่อยากอยู่ที่นี่ แม่ก็ ไปจากที่นี่ได้นะ แม่เพิ่งจะรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของที่นี่ ไม่ทันไร แม่ก็จะให้เขาโอนโรงแรมให้เป็นชื่อของหนู แม่ หมายความว่าอะไร แม่จะหาเงินจากเขาหรือไง ไม่ว่าเขามี อะไร แม่ก็อยากแย่งมาจนหมด”
“แกจะตวาดใส่ฉันทำไม นี่ฉันคิดแทนแกนะ ถ้าครั้งนี้ เขาไปแล้วไม่ได้กลับมาจริงๆ อย่างน้อยก็ยังเหลืออะไรไว้ ให้แกบ้าง การที่เขาทิ้งอะไรไว้ให้แก มันก็เป็นสิ่งที่สมควร แล้วไม่ใช่เหรอ” ศศินัดดาโดนอารียาพูดแบบนั้นใส่ เธอจึง โกรธขึ้นมา
“อย่าทะเลาะกันเลย เราทานข้าวกันก่อนเถอะ เดี๋ยว ค่อยว่ากัน” ศักดาพูดเตือน
“กิน กิน นอกจากเรื่องกินคุณทำอย่างอื่นเป็นไหม ไม่ ช้าก็เร็วคุณจะได้สำลักตายสักวัน!” ศศินัดดาจ้องศักดา
ศักดารีบหุบปาก ไม่กล้าพูดอะไรอีก ชนิสราที่อยู่อีก ข้างก็ไม่กล้าพูดอะไรเช่นกัน เพราะเรื่องนี้เธอไม่สามารถ เข้าไปก้าวก่ายได้
“แม่ เราทานข้าวกันก่อนเถอะ ถ้าแม่ไม่เชื่อใจผม ผม จะทิ้งอะไรไว้ให้เป็นหลักประกันก่อนผมจะไป” รพีพงษ์ เอ่ยขึ้น
ศศินัดดาได้ยินดังนั้นก็มีท่าทีอ่อนลง
รพีพงษ์ยื่นมือไปดึงอารียาให้นั่งลง สิ่งที่ศศินัดดาขอ มันค่อนข้างมากเกินไป แต่ว่าสำหรับรพีพงษ์ เขารู้นิสัย ของศศินัดดาตั้งนานแล้ว เพราะว่าเธอเป็นแม่ของอารียา เขาถึงไม่ทำอะไรเธอ ยิ่งไปกว่านั้นแค่โรงแรมเดียวสำหรับ เขาก็ไม่เห็นเป็นอะไร
อารียานั่งลงทานข้าวโดยไม่พูดอะไรสักคำ ครั้งนี้เธอ โมโหจริงๆ ถ้าแม่พูดเรื่องที่จะให้รพีพงษ์โอนโรงแรมให้ เป็นชื่อเธออีก เธอต้องได้เห็นดีกับแม่แน่ๆ
หลังจากทานข้าวเสร็จ ทั้งห้าคนแยกย้ายกันกลับห้อง รฟีพงษ์ปลอบอารียาอยู่นานกว่าเธอจะหายโกรธ เธอไม่ ให้รพีพงษ์ตามใจแม่อีก ขนาดคนเป็นลูกอย่างเธอ ยังไม่ เห็นด้วยกับความคิดของแม่เลย
รพงษ์ยิ้มให้อารียาแล้วพูดว่า “ถือซะว่าเป็นสิ่ง ชดเชยให้พวกเขาละกัน เพราะไม่กี่ปีมานี้ผมมีแต่ขื่อเสียง ในด้านไม่ดี ทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อน ถ้ามันไม่เหลือป่า กว่าแรงผมก็รับได้นะ”
อารียาถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ เธอคิดว่าเขา ชดเชยมามากพอแล้ว แต่แม่กลับไม่รู้จักพอ ไม่ซ้าก็เร็ว ความโลภจะหวนทำร้ายตัวเธอเอง เช้าวันต่อมา อารียาไปทำงานโดนที่ยังมีแผลอยู่บน
ร่างกาย เดิมที่รพีพงษ์จะให้เธอนอนพักที่โรงแรม แต่อารี
ยายืนกรานจะไป เธอคิดว่าแผลพวกนี้ไม่ได้เป็นอะไร มากมาย หนำซ้ำเมื่อรู้ว่ารพีพงษ์เก่งขนาดนี้ เธอจึงอยาก เก่งเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เก่งเหมือนกัน ไม่งั้นเธอจะไม่ คู่ควรกับความดีที่รพีพงษ์มีต่อเธอ หลังจากที่อารียาไปทำงาน รพีพงษ์จึงออกจากห้องไป
คนเดียว เพราะเรื่องเมื่อวานทำให้ศศินัดดาไม่พอใจ ดัง นั้นเธอจึงให้รพีพงษ์เอาบ้านให้เธอดูหลังจากซื้อเรียบร้อย เธอไม่สนใจว่ารูปแบบบ้านเป็นอย่างไร ขอแค่อย่าเป็น คฤหาสน์ก็พอ ไม่งั้นพวกเธอจะมีเรื่องวุ่นวายเข้ามาอีก
รพีพงษ์วนอยู่ในเมืองรอบหนึ่ง สุดท้ายเขาได้ซื้อบ้าน ที่อยู่ในพื้นที่ชุมชนคำแหงมีสี่ห้องนอนและหนึ่งห้องนั่งเล่น เป็นบ้านที่ตรงตามรูปแบบ ที่พักนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง แต่ก็ไม่ได้ห่าง จากใจกลางเมืองมากนัก การจราจรโดยรอบสะดวกสบาย ที่สำคัญไม่ได้สะดุดตาเหมือนที่ตงเป็น
อีกอย่างพื้นที่นี้เคยเป็นที่ที่คือบครัวของชรินทร์ทิพย์ ซื้อบ้าน แต่ทว่าต่อมาต้องขายไปเพราะต้องมาชดใช้กับ วัตถุโบราณพวกนั้น
สิ่งที่ควรพูดถึงคือครอบครัวของธายุกรอยู่ที่นี่ แต่เป็น เพียงสองห้องนอนกับหนึ่งห้องนั่งเล่นเล็กๆ หลังจากที่ธายุ กรตกอับ ความเป็นอยู่ในบ้านของเขาก็ไม่ค่อยดีนัก ตอ นที่ธายุกรมีเงิน เขาเคยซื้อบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ใจกลาง เมือง
แต่เพราะต้องเอาเงินมาใช้ในการดำเนินชีวิต จึงขาย บ้านหลังนั้นไป แล้วจำใจซื้อบ้านหลังเล็กในชุมชนคำแหง
แน่นอนว่าตอนที่รพีพงษ์ซื้อบ้าน เขาไม่รู้ว่าครอบครัว ของธายุกรอยู่ที่นี่ ตอนนี้ธายุกรไม่ใช่คนที่เขาจะต้อง สนใจ
เขาจองบ้านเรียบร้อย ส่วนเรื่องเอกสารต้องใช้เวลา สองสามวัน ช่วงนี้พวกเขาต้องพักที่โรงแรมไปก่อน รพี พงษ์จึงถือโอกาสนี้ไปเก็บของที่คฤหาสน์
เวลาไม่กี่วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว รพีพงษ์ได้กุญแจ บ้านใหม่ เขาพาศักดากับศศินัดดาไปดูบ้าน ทั้งสองคน พอใจมากและไม่หาเรื่องอะไรรพีพงษ์
แผลบนตัวของอารียาค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะใช้ยาที่ นำเข้าจากต่างประเทศจึงทำให้ไม่เหลือรอยแผลเป็นเอา ไว้ หลังจากแผลสมานกันดีแล้ว ผิวของเธอจึงเรียบเนียน เหมือนเดิม
รพีพงษ์วางแผนว่าหลังจากที่แผลของอารียาหาย ดีแล้ว เขาจะไปเกี่ยวโต ตอนนี้แผลของอารียาหายแล้ว บ้านก็ซื้อเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขาควรไปเกียวโตเพื่อ สะสางกับตระกูลลัดดาวัลย์
แน่นอนว่ามีเรื่องสำคัญมากที่เขาต้องทำก่อนไป นี่เป็นเรื่องที่เขาคิดมาหลายปี ก่อนหน้านี้ปัจจัยหลายๆ
อย่างทำให้เขาไม่มีโอกาส ครั้งนี้เขามีโอกาสแล้ว ไม่ว่า
อย่างไร เขาต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จก่อนที่จะไปเกียวโต ภายในห้องพักของโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นแนล
อารียาทานอาหารค่ำ และทำความสะอาดเรียบร้อย รพีพงษ์เอาของใช้จำเป็นมาจากคฤหาสน์หมดแล้ว
อารียาต้องเก็บของเพราะพรุ่งนี้จะย้ายไปที่บ้านใหม่ที่ รพีพงษ์ซื้อ
หลังจากที่เก็บของเสร็จ อารียาบิดเอวแล้วเดินเข้าไป
ในห้องน้ำ
รพีพงษ์จับตามองการกระทำของอารียาตลอด เมื่อ เห็นว่าเธอเข้าไปในห้องน้ำ รพีพงษ์จึงลุกขึ้นมาอย่าง รวดเร็ว เขาก้าวไปหน้าประตูห้องน้ำ เขายืนมีอไปขว้าง ประตูห้องน้ำที่อารียากำลังจะปิด
ันายทำอะไรน่ะ” อารียามองรพีพงษ์อย่างสงสัย รพีพงษ์ประหม่าเล็กน้อย แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือความ ตื่นเต้น เขายิ้มแล้วพูดว่า “ผมจะไปเกียวโตแล้ว ก่อนที่จะ ไปผมอยาก เอ่อ อยากอาบน้ำกับคุณ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ