บทที่57 การพบเจออันแสนอึดอัด
ระหว่างที่สาวสวยสามคนกำลังรออาหาร กลับได้ยินคน เรียกชลธีที่หน้าประตู แต่เสียงที่อ่อนนุ่มนั้นไม่ต้องหันไป มองก็รู้ว่าเป็นธนิดา
ธินิดาปล่อยผมยาวสีดำขลับลง แต่งกายด้วยชุด กระโปรงสีขาว ที่มีความสง่างาม ดูราวกับเป็นนางฟ้าลง มายังโลกมนุษย์
หากเป็นคนที่ไม่รู้จักกับธินิดามาก่อน ก็จะถูกรูปลักษณ์ ภายนอกของเธอดึงดูดอย่างง่ายดาย เธอสวยมาก สวย ราวกับนางฟ้าที่ตัดขาดจากโลกมนุษย์โดยสิ้นเชิง
แต่เมื่อธนิดาเห็นทั้งสามคน เธอจึงยืนอยู่หน้าประตูอย่าง ไม่ขยับไปไหน
“น้ำผึ้ง ทำไมคุณไม่เข้าไป?” ชลธีเดินเข้ามาเห็นธินิดาที่ ยืนอยู่ข้างประตู
“ชล ที่ของเราถูกคนอื่นนั่งแล้วค่ะ” ธินิดาพูดอย่างช้าๆ เธอมองไปที่ตำแหน่งที่เธอเคยชอบมากที่สุด ถูกผู้หญิงที่ น่ารังเกียจทั้งสามนั่งเต็มแล้ว
“ออ งั้นพวกเราก็เปลี่ยนที่ ยังไงที่นี่คนก็ไม่ได้เยอะนี่” ชลธีก็เห็นมุกดา ตลอดเวลาที่เขากับธินิดาอยู่ด้วยกันเมื่อเจอมุกดา เขาก็มีความรู้สึกเหมือนมีชู้แล้วโดนจับได้ อย่าไงอย่างงั้น
“แต่ว่าฉันก็ชอบที่ตรงนั้นนี่นา ช่างเถอะ ชล ฉันตามใจ คุณค่ะ” ธินิดาทำหน้าทำตาน้อยใจนิดๆ จากนั้นก็เปลี่ยน ท่าทีเป็นว่านอนสอนง่าย
“ไม่งั้นเราเปลี่ยนไปกินอีกร้านไหม” ชลธีเห็นมุกดาเขาก็ รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ชล คุณก็หิวแล้ว เราทานที่นี่เถอะ หลายปีแล้วที่ฉันไม่ได้มาทานอาหารร้านนี้ คิดถึงมาก!” สองคนนั้นเหมือนกำลังถ่ายละครอยู่ คุยกันอยู่หน้าประตู พักใหญ่ เห็นได้ชัดว่า ธินิดากำลังพยายามโอ้อวดอยู่ แต่มุกดาก็ไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิดเดียว
“เฮ้ พวกคุณมาแล้ว งั้นพวกคุณก็นั่งตรงนั้นเถอะ ที่ตรงนี้ สวยดี แสงก็กำลังดี” เมื่อเถ้าแก่เนี้ยมาเสิร์ฟอาหาร ก็เห็น ชลธีกับธินิดาสองคนยืนอยู่หน้าประตู
เธอก็รีบไปทักทาย แต่สายตาของเธอมองไปที่ชลธีแล้ว มองไปที่มุกดา มองแล้วมองอีก แต่ไม่พูดอะไร ไม่มีใครรู้ ว่าเธอจะสื่ออะไร
“เถ้าแก่เนี้ย คุณยังจำฉันได้ไหม?” รอยยิ้มที่สดใส ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธินิดา แล้วเธอก็เข้าไปทักทายเถ้าแก่เนี้ย
ท่าทีสะดุดสะดิ้งของเธอ กลับทำให้เถ้าแก่เนี้ยรู้สึกไม่ สบายค่อยสบายใจ เมื่อก่อนเคยมาตั้งหลายครั้ง ทุกครั้ง ก็เป็นคนที่เย็นชาและเย่อหยิ่ง เหมือนกับไม่อยากเข้าหา คนธรรมดาทั่วไป
วันนี้มากลายเป็นคนที่ใส่ใจที่อยากจะเข้าหาทันที ทำให้ คนอื่นไม่ชินเลยจริงๆ
“รู้จักสิ คุณก็คือแฟนสาวของประธานชลธีสินะ เมื่อก่อน เคยมาประจํา แต่เหมือนนานแล้ว ไม่ได้มา” เถ้าแก่เนี้ย เป็นนักธุรกิจ สมองก็ตอบสนองรวดเร็วมาก
“เถ้าแก่เนี้ย ความจำดีจริงๆนะ ยังจำฉันได้ ขอบคุณน คะ” ธินิดาทำท่าทีตอแหลออกมาอีกครั้ง
“จำได้แน่นอนอยู่แล้ว คุณสวยขนาดนั้น ฉันเห็นเพียง ครั้งเดียวก็จำได้แล้ว ไม่มีวันลืม พวกคุณนั่งก่อนสิ ยัง เป็นเมนูเดิมไหมล่ะ?” เถ้าแก่เนี้ยพาทั้งสองไปที่นั่ง
“อืม เอาเป็นเมนูเดิมครับ” ชลธียังจำได้ว่ามุกดาก็ชอบ อาหารที่ตัวเองเลือกเหมือนกัน
“ชล วันนี้ฉันอยากเปลี่ยน ทานแต่ของเดิมๆมันเลี่ยนจะ ตาย เถ้าแก่เนี้ย เอาเมนูที่คุณถืออยู่ตอนนี้เสิร์ฟมาก็ได้แล้ว ผักสามอย่างซุปที่หนึ่งก็ได้ละ” ธินิดาเห็นสามคนนั้น ยังทานเมนูเดิมอยู่ ในใจของเธอมีความไม่พอใจ ตอนตัว เองไม่อยู่ ชลธีกลับพามุกดามาทานข้าวตรงนี้แล้ว ที่นั่งยัง เป็นที่นั่งเก่าของพวกเขา ทานก็ทานเมนูเดิมของพวกเขา
การกระทำพวกนี้มันแปลว่าอะไรน่ะเหรอ นังจิ้งจอก มุกดาต้องการเกลี้ยกล่อม/ชักจูงชลธีน่ะสิ ยังดีที่พี่สาว โทรหาเธอ ให้เธอกลับมา
“ได้สิ ตามที่เธอบอกหมดเลยครับ” ชลธีพูดกับเถ้าแก่ เนี้ยพร้อมรอยยิ้ม
“อืม ฉันไปเตรียมก่อน ทุกๆเดือนฉันก็จะมีเมนูเด็ดๆออก มาใหม่ ฉันจะเอาเมนูเด็ดใหม่มาให้พวกคุณด้วยแล้วกัน” เถ้าแก่เนี้ยก็เดินเข้าไปห้องครัว
ที่พิเศษสุดของครัวนี้คือ จานทุกจานผ่านการคิดค้นและ ทำออกมาเองโดยเจ้าของร้าน ถึงจะช้าหน่อยแต่รสชาติ ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คนมากินที่นี่กันเยอะ ดังนั้นการ ค้าขายเลยดีมากเช่นกัน
“มุก เธอดูซิ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? หล่อนเป็นแฟนสาว ของประธานชลธีเหรอ? เมื่อก่อนไม่เคยเห็นเลย” จันวิภา ไม่รู้จัก แต่ว่าจากใจลึกๆก็ไม่ชอบผู้หญิงนิสัยตอแหล อย่างนี้
“เป็นแฟนเก่าของเขาน่ะ แบกทางไปก็ห้าปีแล้ว ก็ไม่รู้ เหมือนกันว่ากลับมาครั้งนี้จะมาทำอะไร” โธรณีตอบรับไป อย่างรวดเร็ว
มุกดากับจีนวิภามองเธอ โธรณีเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองหลุด
ปากไปแล้ว “พวกเธอไม่รู้เหรอ? นี่เป็นข่าวที่ดังมากในตอนนั้นเลย
นะ โดยทั่วไปผู้คนในเมืองหลวงจะรู้ว่าประธานชลธีน่ะ
อกหัก” โธรณีก็อธิบายอย่างรีบร้อน
แต่ห้าปีจันวิภากับมุกดาอายุแค่สิบห้าปี แน่นอนว่าไม่ เข้าใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ดังนั้นเลยถูกโธรณีหลอกไป เสียแล้ว
เมื่ออาหารมาครบ ทั้งสามคนยังขอไวน์แดงมาขวดหนึ่ง เพื่อฉลองที่ทำงานอย่างเสร็จสมบูรณ์ ฉลองที่ทั้งสามคน ได้พบเจอกัน ฉลองที่วันนี้เป็นวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ตาม ทั้งสามก็ได้นึกข้ออ้างขึ้นมาทั้งหมดแล้ว เลยสั่งเหล้ามา กินกัน
“ผมไปห้องน้ำก่อนนะ” ชลธีเห็นมุกดาดื่มเหล้า เขาก็ กังวลขึ้นมา เจ้าเด็กน้อยคนนี้ดื่มทีไรเกือบจะเกิดเรื่อง ทุกที ยังจะดื่มอีก เห็นดื่มหมดแก้วแล้วต่ออีกแก้ว
“อืม รีบไปรีบมานะคะ” ธินิดายิ้มอย่างหวานๆ
ชลธีก็ลุกขึ้นมา เดินไปหน้าโต๊ะสามคน
“วันนี้พวกคุณไม่ต้องไปทำงานเหรอ?” ประธานชลธีพูด เสียงเข้ม โชคดีที่ทั้งสามคนเป็นคนในบริษัทของตัวเอง
“พวกเราทํางานเสร็จแล้ว ออกมาผ่อนคลายนิดหน่อย ประธานชลธี คุณว่างมากเลยสินะ ยังมีอารมณ์อยู่กับ แฟนเก่าของคุณอีก!” โธรณีกลอกตาขณะคุยกับชลธี
ตระกูลสุวรรณเลิศทั้งบ้านไม่ชอบธินิดา แน่นอนในนี้ไม่ ได้รวมถึงชลธี
“ดื่มไวน์น้อยๆหน่อย” ชลธีถูกโธรณีสำลักใส่ เขาพูดแค่ ประโยคเดียว แล้วเดินไปทางห้องน้ำ
แต่คำพูดของชลธีกลับไม่มีใครสนใจ ทั้งสามอยากดื่ม ลูกเดียว ในไม่ช้าไวน์แดงหนึ่งขวดก็ถึงก้นขวดเสียแล้ว
อาหารทั้งโต๊ะก็โดนทั้งสามจัดการจนหมดเกลี้ยง
“พอแล้ว ทานอิ่มแล้ว ฉันรู้จักร้านไอศกรีมร้านหนึ่ง อร่อยมาก ไปกัน เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” จันวิภาลุกขึ้น สะบัด กระเป๋าตน
“เลิศนะ ฉันชอบกินไอศกรีมที่สุดเลย ไปพวกเราไปกัน เถอะ” สามคนยังไม่ได้เมา แต่เห็นหน้าธินิดารู้สึกไม่สบาย เลยอยากหาพื้นที่ผ่อนคลาย
“ชล ทำไมคุณทานข้าวเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คุณ คิดไรอยู่?” ธินิดาเห็นชลธีคืบอาหารผิดหลายทีแล้ว
“ไม่ได้คิดอะไรหรอก คุณกลับมา ผมรู้สึกมีความสุขมาก ผมกำลังคิดว่าสักวันจะชวนเพื่อนสองสามคนออกมารวม ตัวกัน” ชลธีรีบอธิบาย แต่เขาก็อยากจะเชิญพวกทศพร ออกมากินข้าวด้วยกัน ก็จะไม่มีความรู้สึกแอบ/หรือหลบ ซ่อนแบบนี้อีกแล้ว
“ได้ค่ะ ฉันก็ไม่ได้เจอพวกเขามานานละ พวกเราต้อง ออกมาเจอกันหน่อยล่ะ” ธินิดาได้ยินว่าชลธีจะชวนคน อื่นๆมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอต้องการอยู่พอดี เธอแค่อยากให้ ทุกคนรู้ ว่าชลธีเป็นของเธอ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ