บทที่ 98 ต่างคนต่างมีความคิดของตัวเอง
บทที่ 98 ต่างคนต่างมีความคิดของตัวเอง
เมื่อมาถึงข้างล่างก็ไม่ได้พัก อันหลิงหยุนรีบกลับไปทันที
เมื่อผ่านกำแพงเมืองเข้าไปใช้โอกาสที่คนยังไม่เยอะ อัน หลิงหยุนรีบกลับไปยังจวนอ๋องเสียน ราวกับหนีคุกอย่างไร อย่างนั้น
กงชิงยืนอยู่หน้าประตูพลางมองไปมา เมื่อไม่เห็นใคร ตามจึงเดินตามเข้าจวนไป
อันหลิงหยุนรีบไปต้มน้ำร้อน หงเถาลุ่ยหลิ่วเตรียม อุปกรณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว
อันหลิงหยุนวางตะกร้ายาแล้วก็พุ่งตัวเข้าไปใน อ่างอาบน้ำในห้องอาบน้ำ พลางผ่อนคลายตัวเองถอน หายใจเฮือกหนึ่ง
กงชิงเปิดประตูเข้ามา หงเถาลุ่ยหลิ่วตกใจไปแล้ว พลาง ก้มหน้าลง “ท่านอ๋อง”
อันหลิงหยุนรีบจุ่มตัวลึกลงใน น้ำ
“ออกไปก่อน”
กงชิงวี่ผสานมือไว้ด้านหลัง อันหลิงหยุนยื่นมือไปหยิบ เสื้อผ้า หงเถาลุ่ยหลิ่วรีบออกไปด้านนอก เมื่อประตูปิดลง กงชิงวี่ก็เดินมาริมอ่างอาบน้ำ พลางนั่งลงริมขอบอ่าง มอง ไปยังอันหลิงหยุน
อันหลิงหยุนเอื้อมหยิบเสื้อผ้าไม่ถึง ทำได้เพียงจุ่มตัวลึก ลงในน้ำ
“ข้ารอได้อาบน้ำแล้วก็ไปพักผ่อน”
กงชิงพูดไปก็ถอดเสื้อชั้นนอกออก อันหลิงหยุนกลัวจะ เห็นอะไรต่อมิอะไร จึงรีบๆ อาบน้ำ ใช้โอกาสที่กงชิงวี่กัม หน้าถอดเสื้อ ลุกขึ้นจากอ่าง หยิบเสื้อคลุมแล้ววิ่งไปหลบ หลังม่านบังสายตา
เมื่อกงชิงวี่เงยหน้าขึ้น ก็ไม่เห็นนางแล้ว รออยู่นานอัน หลิงหยุนจึงออกมาจากม่านบังสายตาห่มคลุมตัวแน่นหนา
นางสวมอาภรณ์ขาวราวหิมะ เสื้อตัวบนตัวโคร่งใหญ่ กางเกงข้างล่างหลวมสบาย
กงชิงวีหน้านิ่งไป “จวนของข้าแม้แต่ชุดนอนยังไม่มี เตรียมให้พระชายาหรือนี่ ให้พระชายาใส่อะไรไม่เป็นชิ้น เป็นอันอย่างนี้ ?”
“นี่เป็นสิ่งที่ข้าสั่งให้คนตัดให้อากาศเย็น สวมเสื้อเยอะ หน่อยจะได้อบอุ่น” จะใส่เพียงชุดชั้นในให้เขาเอาเปรียบ หน่ะหรือ ?
กงชิงวี่สะบัดเสียงเย็นชา นั่งลงรออันหลิงหยุน
อันหลิงหยุนหมดอาลัยตายอยากเหลือเกิน เดิมที่คิดว่า หากแต่งตัวหนาหน่อย แต่เวลานี้กลับแต่งตัวเหมือนเขาไป
ได้
เมื่อเดินไปเบื้องหน้ากงชิง อันหลิงหยุนขึ้นเตียงไปก่อน
ปืนไปนอนข้างบนเลยทันที
กงชิงวีลังเลเล็กน้อย แล้วจึงปีนขึ้นไปเอนนอนเหมือนกัน
ดึงผ้าห่มคลุมขึ้น กงชิงหมุนตัวไปกอดอันหลิงหยุน เพียงกลับหลังนิดเดียวก็ผลักตัวขึ้น
อันหลิงหยุนตกใจจนหมุนตามองไม่ทัน ตาเบิกโพลงทั้ง ใหญ่และค้างอยู่อย่างนั้น
“โอว…”
มือทั้งสองจับไปบนร่างคนตรงหน้า ทั้งตีทั้งตบ ความ อยากได้นางของกงชิงวี่ชัดเจนแทบปิดบังไม่ได้ อันหลิง หยุนพยายามต่อสู้อยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็เคลื่อนตัวไม่ได้ และ ไม่มีแรงแล้วด้วย
กงชิงวี่เองก็เหนื่อยจนหอบหายใจ ไปออกศึกยังไม่ เหนื่อยถึงเพียงนี้ แต่การต่อการกับหญิงคนเดียวกลับทำ เขาเหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัว
อันหลิงหยุนเองก็เหงื่ออ่อนเต็ม หอบหายใจตลอด
“เดียวอีกครูต้องออกเมืองไปวัดเฉิงหวงช่วยคนยากไร้” เมื่อผลักไม่ไป อันหลิงหยุนจึงเลือกเอาเรื่องจริงจังมาพูด
กงชิงวีที่แรกที่ยอมอ่อนข้อ พลันกลับเย็นชาต่ออันหลิง
หยุนอีกแล้ว หน้าตาคมคายพลันบิ้งตึง อันหลิงหยุนไม่กล้า สบตาตรงๆ ตัวเขาเองเป็นถึงท่านอ๋อง แน่นอนว่าต้องมีความคิดการ
ตัดสินใจของเขาเอง ชีวิตใต้หล้า ความเป็นอยู่ของราษฎร
สำหรับเขาแล้ว นับเป็นเรื่องสำคัญกว่าการร่วมเตียง ขณะที่ลังเลอยู่อย่างนั้นพลันมองออกไปด้านนอก จากนั้น
จึงออกจากตัวอันหลิงหยุนไปนอนอยู่อีกด้านหนึ่ง แล้วจึง
เริ่มระบายลมหายใจ
อันหลิงหยุนก็ถูกทรมานอยู่ไม่น้อย รวมไปการที่ไม่ได้ นอนมาทั้งคืน ตอนนี้ถึงกับอ่อนเพลีย การพักผ่อนเป็นเรื่อง
ที่อยากทำจริงๆ
พลิกตัวไป อันหลิงหยุนแกล้งทำเป็นดึงผ้าห่มขึ้น แกล้ง ทำเป็นนอนหลับ
กงชิงตื่นนอนไปครู่หนึ่ง เมื่อรู้สึกว่าคนข้างกายนอนไปแล้ว จึงทำเป็นนอนเป็นเพื่อนไปครึ่งหลับครึ่งตื่น
ผ่านไปซักพักหนึ่งอันหลิงหยุนลุกขึ้นสวมเสื้อผ้า ถือหญ้า กุ่ยเจิงที่แบกกลับมา ออกไปพร้อมกับอาหยู่ที่เตรียมของ ไว้เรียบร้อยแล้ว
วันนี้เมื่อไปถึง อันหลิงหยุนตกใจไม่น้อย เมื่อวานมีคนอยู่ ประมาณหนึ่งร้อยคน แต่วันนี้มีคนเพิ่มมาเป็นราวห้าถึงหก ร้อยคน ดูไปแล้วเหมือนผู้ยากไร้จากเมืองโดยรอบเมือง หลวงต่างพากันมาที่นี่ คิดไปแล้วอาจจะมาเพราะแป้งทอด ของอันหลิงหยุน
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาอันหลิงหยุนรีบสั่งการอาหยู่ให้ ไปเรียกถางเหอและคนในจวนแม่ทัพมา นอกกำแพงเมือง พลันมีคนเยอะขนาดนี้ หากเรื่องนี้รู้ถึงเบื้องบน สืบสาวราว เรื่องเข้าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ในเมื่อทำผิดไปแล้วก็ต้อง ทำให้ถึงที่สุด ใช้ชื่อเสียงของจวนแม่ทัพให้ดูว่าเป็นการ แจกทานแจกอาหารแทน
เหตุการณ์เป็นมาแบบนี้แล้ว จะให้เกิดเรื่องผิดพลาดไม่ได้
ดังนั้นเรื่องนี้ต้องถึงจวนแม่ทัพ ถางเหอเป็นคนจัดการ เรื่องได้ดีอันหลิงหยุนวางใจ
อันหลิงหยุนเตรียมแป้งทอดชิ้นใหญ่ที่นำมาให้เรียบร้อย ก่อน แล้วเริ่มทำการรักษา นางรักษาและมอบแป้งให้เรียง คน แบบนี้จะได้ถ่วงเวลาไว้ได้
“แป้งที่นำมาวันนี้ไม่พอ ทุกคนรอก่อน เพียงครู่เดียวจะมี คนนำมาส่งเพิ่ม มอบที่มีให้เด็กและผู้เฒ่าก่อน”
อันหลิงหยุนปรึกษากับทุกคน ยิ่งเป็นการบริจาค ใครก็ไม่ กล้าขัดขวางอะไร
เมื่อถางเหอทราบเรื่อง ก็รีบเตรียมคนมาทันที เหมา ของกินบนถนนหมดสิ้น พลางโยนเงินจัดการเรียบร้อยแล้ว จึงเร่งรุดมา
พ่อบ้านของจวนแม่ทัพกลับไม่ทราบเรื่อง แต่ในเมื่อเป็น คนจากจวนอ๋องเสียนมาเชิญ จึงไม่กล้าชักช้า
หาแม่ทัพที่ใช้ได้สองคน นำทหารห้าร้อยคนวิ่งออกไป นอกเมืองตรงไปยังวัดเฉิงหวง
ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ถามเหอและเหล่าทหารแบ่งเป็นสอง
สายมาถึงวัดเฉิงหวง
เมื่อพบเจอกันแล้ว อันหลิงหยุนจึงนับว่าสบายใจได้พอ
สมควร
เหล่าทหารคอยรักษาอยู่ ทั้งจากจวนอ๋องเสียนและถาง เหอ อาหารต่างถูกแจกจ่ายออกไป มีแต่มากไม่มีน้อย นับ ว่าจัดการเรื่องนี้ได้ราบรื่นแล้ว
อันหลิงหยุนรอให้เรื่องราวจัดการเสร็จสรรพ จึงแอบถอน
หายใจ
เรื่องนี้ไม่ว่าจะจัดการดีหรือไม่ ก็นับเป็นเรื่องไม่ดี !
หากเบื้องบนต้องการทำลายชื่อเสียงของอ๋องเสียน ฮ่องเต้ชิงหยู่จะคิดเช่นไร เขายังไม่ตายจวนอ๋องเสียนก็รีบ แล้วหรือ
อย่างนี้ไม่ดีแน่ คนมารวมตัวกันมากถึงเพียงนี้ การรวมตัว ของคนมาไว้ที่เดียว นับเป็นเรื่องยุ่งยากที่สุด
รวบรวมคนก่อเรื่อง นับว่าก่อกบฏได้
“พระชายา” ถางเหอจัดการเรื่องราวเสร็จสรรพ จึงมาอยู่ เบื้องหน้าอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนก็ไม่อาจนั่งอยู่เฉยๆ ได้อีก เรื่องนี้ทั้งหมดนับเป็นความประมาทของนาง
นางเป็นถึงลูกสะใภ้ของราชนิกุลพระชายาเสียนไม่อาจ ทำอะไรไม่รอบคอบได้ ทุกสายตาต่างจับจ้องมอง แม้จะ นอนอยู่บนเตียงในจวนอ๋องเสียน ก็ยังมีดวงตานับไม่ถ้วน จดจ้องอยู่ นางออกมาช่วยเหลือประชาชนไม่มีแบบแผน เช่นนี้ นับเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว
เวลานั้นอันหลิงหยุนนับว่าเสียใจสุดแสนมีตำแหน่งเป็น พระชายาเสียน ไม่ได้สามารถออกมาช่วยเหลือรักษาคน อื่นไปทั่วได้
“คุณชายถาง ลำบากท่านแล้ว เรื่องนี้ข้าไม่ได้คิดให้ รอบคอบ ยังเชิญคุณชายมาร่วมแก้ปัญหารอเมื่อเรื่องนี้ จัดการเสร็จแล้ว เมื่อกลับไปยังจวนอ๋องเสียนข้าจะไปรับ โทษกับท่านอ๋องเสียนด้วยตัวเอง ! ”
อันหลิงหยุนสีหน้าไร้แววสดใส ใบหน้าในวันปกติกลับ หมองคล้ำขึ้นมาก
ถางเหอก็ประหลาดใจครู่หนึ่ง พระชายาเสียนเปลี่ยนไป
แล้วจริงๆ
“พระชายาคิดมากไปแล้ว ข้าน้อยมาที่นี่ ท่านอ๋องรู้แต่แรก แล้ว ก่อนมาท่านอ๋องได้บอกไว้แล้ว หากพระชายามีเรื่อง อันใดให้รีบสั่งการ ในเรื่องนี้ คิดว่าพระชายาทำด้วยเจตนา ดี ท่านอ๋องต้องเข้าใจเป็นแน่” ถางเหอโค้งคำนับ
อันหลิงหยุนกลับไม่ดีใจเลย ทำได้เพียงฝืนยิ้มเท่านั้น
ต่อไปไม่อาจประมาทอีกแล้ว !
เมื่อพลบค่ำ เหล่าราษฎรยากไร้ต่างอยู่เป็นสัดเป็นส่วน แล้ว ต่างตรวจสอบประวัติ ให้แน่ใจว่าเป็นชาวประเทศต้า เหลียง เด็กหนุ่มให้เข้าร่วมกองทัพ ส่วนหญิงมีบุตรให้อยู่ อาศัยหมู่บ้านเย็บผ้า ผู้เฒ่าและผู้ป่วยก็จะลำบากหน่อย ถูก หาไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงก่อน แบ่งปันที่ดินแล้วบ้านพักให้ ให้พวกเขาทำกินยามแก่เฒ่า
ทั้งหมดนี้ ได้รับทุนทรัพย์จัดการจากจวนแม่ทัพทั้งสิ้น
ดังนั้นคืนวันนั้นอันหลิงหยุนตรงกลับไปยังจวนแม่ทัพ บอกเรื่องเหล่านี้กับแม่ทัพอันเสียก่อน ให้แม่ทัพอันรับ เรื่องไว้ แล้วทูลรายงานแก่ฮ่องเต้ เพื่อไม่ให้เกิดความ เคลือบแคลงสงสัย
แต่เรื่องราวมักไม่ได้เป็นไปตามแผนเสมอจวนแม่ทัพ เคลื่อนพลรักษาวัดเฉิงหวง หน้าวัดเฉิงหวงมีผู้ยากไร้หลาย ร้อยคน เรื่องนี้ไม่นานก็เข้าหูราชครูจนและเสินเฉิงเสี้ยง
เงินเฉิงเสี้ยงเวลานี้กำลังตกที่นั่งลำบาก แต่พูดถึงเรื่องนี้ ก็มีความคิดอยู่ เสินฮูหยินถามขึ้น “เฉิงเสี้ยงมองเรื่องนี้ว่า
เป็นการตั้งใจจัดฉากจริงๆ หรือ ?”
“ท่านอ๋องเสียนปกติไม่ทำเรื่องแค่เปลือกนอกอย่างนี้ หรอก เกรงว่าจะเป็นพระชายาที่เร่งร้อน ?” เสินเฉิงเสี้ยง ยิ่งรู้สึกว่า ตั้งแต่บุตรีแม่ทัพอันก้าวข้ามธรณีประตู เมือง หลวงแห่งนี้ก็ยิ่งคึกคักขึ้นมาก และคนอย่างอันหลิงหยุน นับว่าเก็บเอาไว้ไม่ได้
ตระกูลเงินวันนี้ เสินเฉิงเสี้ยงต่างรู้สึกว่าหนีไม่พันอันหลิง
หยุนจริงๆ
“น่าเสียดายที่ตระกูลเสินช่วงนี้ตกที่นั่งลำบาก มิเช่นนั้น ข้าคงเข้าร่วมเรื่องนี้ด้วยเป็นแน่” เสินเฉิงเสี้ยงเกลียดเข้า กระดูก อันจือซานเป็นมารผจญเขามาหลายปี การปรากฏ ตัวของอันหลิงหยุน ก็ขัดขวางเส้นทางชีวิตเขาเช่นกัน
แม้ใจเขาจะไม่ได้มักใหญ่ใฝ่สูง แต่บุตรสาวของเขาไม่ได้ เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้แล้ว ทำให้เขารู้สึกสับสนปนเป พลันเข้าใจชัดเรื่องหนึ่ง ฮ่องเต้เป็นบุคคลไร้ใจ จิตใจยาก แท้หยั่งถึง!
เสินสูหยินไม่เพียงเศร้าเสียใจ สงสารบุตรสาวทั้งสอง เวลานี้จะสูงขึ้นไปก็ไปไม่ถึง จะลงมาก็ลงไม่ได้ และเกรงว่า คงจะขึ้นไปอีกไม่ได้เป็นแน่มีเพียงบุตรชายอีกสองคน นับ
ว่าใช้การงานได้ตระกูลเสินจึงจะกู้ศักดิ์ศรีคืนมาได้
จนจูจุที่ออกนอกบ้านหลายคืนกลับจวนมาแล้ว
ราชครูจีนที่อยู่ในห้องหนังสือเห็นจุนจูจูเข้า
เมื่อจุนจูจุพบกับราชครูจุนจึงรีบคุกเข่าลง “หลานสาว คำนับท่าน
ราชครูจนนั่งอยู่บนเก้าไม้แกะสลักรูปดอกไม้งดงาม ยังไม่ ได้เอ่ยคำใด ร่างกายสวมอาภรณ์สีม่วง ช่วงบนตัวเสื้อปัก ลายนกกระยางสองตัวบินสลับกันไปมา แววความมั่นใจใน ตัวเองและความภูมิฐานแผ่ออกมารอบตัวเขาจนจจูรออยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยถาม “ท่านปู่”
“เจ้ามาทำไม ?”
ราชครูจนเอ่ยคำช้าๆ จนฉนูถึงกับตะลึงงัน รู้สึกแปลกๆ
วันก่อนๆ นางมีเรื่องกับอันหลิงหยุนในวัง ได้แจ้งเรื่อง มายังตระกูลจุนแล้ว ยังเรียกนางจุนเซียวเซียวก่อนเข้าวัง ไม่ให้ออกมามีเรื่องกับใครอีก ใจของนางหม่นหมองยิ่งนัก แต่ก็ไม่กล้าฝ่าฝืน
วันนี้อันหลิงหยุนก่อเรื่องนอกกำแพงเมือง ที่นางกลับมา ในวันนี้ก็เพื่อหาวิธีจัดการกับอันหลิงหยุน
แต่ท่านปู่เย็นชาถึงขนาดนี้ ด้วยจุดประสงค์อันใด ?
“หลานสาวได้ทราบข่าว อันหลิงหยุนรวมพลคนนอกเมือง ก่อเรื่อง ตั้งใจสอบถามวิธีจัดการอันหลิงหยุนจากท่านปู่”
จนฉฉรู้เรื่องนี้ดี แม้การมาที่นี่อาจจะไม่ถูกต้อง แต่ความ เกลียดชังที่นางมีต่ออันหลิงหยุนถาโถมราวกับแม่น้ำมาไม่ ขาดสาย นี่นับว่าเป็นโอกาสอันดี หากนางไม่ใช้เสียแล้ว ก็ไม่อาจกำจัดความคลั่งในใจนางได้
ราชครูจนเอ่ยอย่างเย็นชา เรื่องราวจบไปโดยจัดการ อะไรไม่ได้แล้ว พูดถึงเจ้าเถอะ เป็นถึงพระชายาตวน ยัง คิดเองจัดการตัวเองไม่ได้ ยังอาจอยากไปจัดการผู้อื่น ข้าดู ไปแล้วเจ้านับวันยิ่งเหลวไหล เจ้าไม่ดูแลอ้องตวนให้ดี ยัง จะออกไปก่อเรื่อง ก่อนที่กุ้ยเฟยจะเข้าวังเรื่องที่เจ้าทำไว้ เดิมที่ข้าไม่คิดจะคิดบัญชีกับเจ้าคาดไม่ถึงว่าวันนี้เจ้าจะยัง กลับมาทำเรื่องแบบนี้อีก
“แต่ว่าท่านปู…
จนฉูจอดไม่ได้เงยหน้ามองไปนางกับแค้นใจ
ใบหน้าท่านราชครูจนนิ่งแข็งเย็นชากว่าเดิม หากเจ้าฟัง คำข้าดีๆ เจ้าจะยังสามารถอยู่เคียงข้างอ๋องควนได้หากเจ้า ไม่ฟังคำบุตรีตระกูลจุนมีอีกมากให้มารดาเจ้าเลือกมาสัก หนึ่งคนก็จบแล้ว
“ท่านปู่ ไม่นะ
จนฉูจแทบร้องไห้ออกมา สิ่งที่นางกลัวที่สุดคือเรื่องนี้
บุตรีตระกูลจนนับว่าไม่ธรรมดา หากเป็นเช่นนั้นจริง นาง
เกรงว่าแม้ตำแหน่งพระชายาอ๋องเสียนนางเองก็คงรักษา
ไว้ไม่ได้
ราชครูจนลุกขึ้นยืน “กลับไปเถอะ เดี๋ยวท่านอ๋องตวนจะ
ร้อนใจไป”
ราชครูจนลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไป ใบหน้าจุนจูจซีดขาว พลางเดินออกไปนอกประตู แม้จะไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่กล้าทำ อะไร
เมื่ออ๋องตวนตื่นขึ้นกลับไม่พบจนฉฉ ก็อดไม่ได้ที่จะช้ำใจ เป็นเช่นนี้อีกแล้ว !
มีคนเคาะประตูขึ้นตวนอ๋องจัดแต่งเสื้อผ้าแล้วจึงเรียกคน เข้ามา พ่อบ้านก้าวเข้าประตูเข้ามาพลางค้อมคำนับ “ท่าน อ๋อง”
“พูดมาเถอะ” อ๋องตวนเอ่ยอย่างมั่นคง
พ่อบ้านรีบเอ่ยขึ้น “เมื่อครู่มีคนจากในวังมา สอบถามเรื่อง ท่านอ๋องกับเรื่องวัดเฉิงหวงที่อยู่นอกเมือง”
“วัดเฉินหวงมี อะไร ? “อ้องควนแสร้งทำเป็นไม่รู้
“ท่าน อ้อง พระชายาเสียนทำการแจกจ่ายรักษาผู้ยากไร้
ที่วัดเฉิงหวงรวมประชาชนกว่าร้อยคน เรื่องนี้ร้อนไปถึง ฮ่องเต วันนี้แม่ทัพอันเข้าวังรายงานฮ่องเต้แล้ว” พ่อบ้าน รายงานตามที่คนในวังแจ้งข่าวมารายงานตรงตามจริง
อ้องดวนเอ่ยขึ้น “เรื่องนี้ข้าไม่อยากสนใจเจ้าออกไป
พ่อบ้านลังเลเล็กน้อย ขอรับ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ