หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน

บทที่ 67 ตระกูลเสิ่นมีเสินหยุนเจ๋



บทที่ 67 ตระกูลเสิ่นมีเสินหยุนเจ๋

บทที่ 67 ตระกูลเสิ่นมีเสินหยุนเจ๋

อันหลิงหยุนออกจากจวนและกลับไปที่จวนท่านแม่ทัพ แม่ทัพอันเมื่อยินว่าบุตรีกลับมา เสื้อที่ถูกถอดออกจึงถูกสวม กลับไปอีกครั้ง

ทันทีที่อันหลิงหยุนเดินเข้าประตูไป นางก็ได้ยินเสียงเคาะ ประตู เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นบิดาแม่ทัพ

“หยุนหยุน”

ทันทีที่เห็นบุตรี แม่ทัพอันก็มีความสุขขึ้นมา ก่อนหน้านี้เขา ทานอาหารไม่ลง มักจะถอนหายใจบ่อยๆ ราวกับการมีชีวิตอยู่ นั้นไร้ความหมาย

อันหลิงหยุนเห็นว่าแม่ทัพอันผอมลง นางก็รีบเชิญเขาเข้ามา

ทันที

“ท่านพ่อ เหตุใดท่านจึงผอมขนาดนี้?”

จมูกของแม่ทัพอันแสบร้อนขึ้นมา เขาเกือบจะร้องไห้ออก

มารอมร่อ
บุตรีที่แต่งออกเหมือนกับสายน้ำที่สาดออกไป ก่อนหน้านี้ บุตรีของเขาเอาแต่ใส่ใจเรื่องของเจ้าตัวบัดซบนั่น แต่ตอนนี้ รู้จักห่วงใยเขาแล้ว

สตรีนับวันยิ่งเติบใหญ่ นับวันยิ่งรู้จักใส่ใจ

แม่ทัพอันเข้ามาและนั่งลง เขาเอ่ย “พ่อไม่เป็นอะไร แค่ คิดถึงเจ้า เจ้ากลับมาอยู่เป็นเพื่อนพ่อบ่อยๆ พ่อก็ดีขึ้นแล้ว”

อันหลิงหยุนอยากจะหัวเราะ พ่อคนนี้ติดลูกสาวมากจริงๆ

เจ้าของเดิมเหตุใดจึงไม่รู้จักทะนุถนอม!

“ท่านพ่อ ข้าเป็นหญิงแต่งงานแล้ว ดังนั้นจึงมิอาจมาอยู่เป็น เพื่อนท่านได้ทุกวัน แต่ว่าท่านไม่ต้องเป็นกังวล ขอแค่ลูกมี เวลา ก็จะกลับมาหาท่านอยู่เป็นเพื่อนท่าน”

“เช่นนั้นก็ดี”

แม่ทัพอันพยักหน้าติดๆ ก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่างที่นึกขึ้นมา ได้ “หยุนหยุน ก่อนหน้านี้พูดเอาไว้แล้วว่าจะให้เสินหยุนเอ๋อ เป็นพระชายารองของเจ้าบัดซบนั่น แต่เดิมเรื่องนี้มีคนรู้ไม่มาก ฝ่าบาทเองก็บัญชาว่ามิให้เอ่ยขึ้นมาอีก แต่กลับไม่รู้ว่าใครเป็น ผู้ก่อลมพายุ สร้างข่าวลือไปทั่วทั้งเมือง บอกว่าเจ้าในขอบเงินหยุนเสื้อ เดินเหยุแต่อผู้นั้นมีจัตใจฝึกใฝ่หยิ่ง ยโส พอรู้เรื่องนี้เข้าก็แทบจะก่อนเรื่องฆ่าตัวตาย และแขวน คอตายที่บ้าน โชคดีที่ถูกค้นพบเร็ว ไม่เช่นนั้นตระกูลเสินคงไร้ บุตรีแล้ว”

แมว่าแม่ทัพอันจะไม่ชอบตระกูลเงิน โดยเฉพาะเสินเฉิงเสี้ยง

แต่เขาก็เป็นฟอคน ได้ยินเรื่องนี้เข้าก็รู้สึกกังวล

ถ้าเสินหยุนเอ่อตายเข้าจริงๆ ไม่รู้ว่าเสินเฉิงเสี้ยง จะเสียใจ

แค่ไหน อย่างน้อยมันก็เป็นชีวิตคนชีวิตหนึ่ง

อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกประหลาดใจ นางใช้เวลานานกว่าจะ ตอบสนอง “ท่านพ่อ เรื่องนี้ท่านอย่าได้เข้ามาเกี่ยวข้อง ท่าน เป็นแม่ทัพฮู้ กว่า ที่ท่านต้องทำคือปกป้องประเทศและจงรักภักดี ต่อฝ่าบาท เรื่องอื่นๆ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับท่าน และท่านก็ อย่าได้กังวลไป

เรื่องของเสินหยุนเอ๋อ ลูกก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน ท่านจะ ถามไปเพื่ออะไร?”

“เป็นอย่างที่เจ้าพูด” แม่ทัพอันสงสารเสินเฉิงเสี้ยง

เป็นความจริงที่บุตรีคนโดได้กลายเป็นฮองเฮา แต่กลับไร้ บุตรสืบทอด เหตุใดเขาถึงเป็นองค์รัชทายาทนั้นกลับไม่ต้องคิดบุตรีคนที่สองก็สมควรจะมีครอบครัวที่ดี แต่กลับไปตกหลุม รักอ๋องเสียนตัวบัดซบนั่น

เมื่อนึกถึงบุตรีที่เอาความจริงใจไปแลกอาหารสุนัขในตอน แรก เขาก็รู้สึกเวทนาเสินหยุนเอ๋อ อีกทั้งยังเห็นใจเสินเฉิงเสี้

ยง

อันหลิงหยุนมองเห็นทุกสิ่งในดวงตา แต่กลับไม่รู้จะพูดอะไร

ออกมา ได้แต่สายหัว

บิดาแม่ทัพของตนนั้นดูแล้วมุทะลุโผงผาง แต่จริงกลับเป็นคน

จิตใจอ่อนโยน

แม้กระทั่งศัตรูยังสงสารเห็นใจ นางไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาดี

พ่อลูกคุยกันสักพัก แม่ทัพอันก็บอกว่าตนไม่ง่วงนอนและจะ ไปห้องฝึกยุทธ์ อันหลิงหยุนก็ลุกขึ้นและเดินตามเขาไปด้วย

สองพ่อลูกยืนนิ่งอยู่ในห้องฝึก

อันหลิงหยุนฝึกกระบี่ไร้ใจของตนหนึ่งรอบ ตอนนี้นางบรรลุ

มันแล้ว

แม่ทัพอันยืนดูคนตรงหน้าด้วยสีหน้ากังวลยิ่งขึ้น
“ท่านพ่อ เป็นอะไร?” อันหลิงหยุนเก็บกระบี่และเดินเข้าไป หาแม่ทัพอัน แม่ทัพอันพยักหน้าว่าไม่เป็นอะไร แต่กลับขอตัว กลับไปห้องก่อน

ในใจของอันหลิงหยุนรู้ดี กระบี่ไร้ใจชุดนี้นั้นเก็บซ่อนความ ลับอันใหญ่โตเอาไว้ และในเจ้าของร่างเดิมยังซ่อนความลับ อันใหญ่โตไว้ ดังนั้นจึงการใช้กระบี่ไร้ใจย่อมเป็นทางเลือก สุดท้าย และแม้กระทั่งการฝึกฝนก็ไม่สามารถแสดงต่อหน้า ผู้คนได้

จวบจนใกล้จะรุ่งสางอันหลิงหยุนถึงกลับไปพักผ่อน จน

กระทั่งยามสายถึงค่อยตื่นขึ้นมา นางหลับอย่างสนิทเป็นพิเศษ

เห็นทีคงถึงเวลาที่จะต้องกลับไปแล้ว นางรู้ดี ที่แห่งนี้มีกฎ ระเบียบมากมาย นางเป็นพระชายาเสียนของจวนอ๋องเสียน ดึกๆ ดื่นๆ วิ่งกลับบ้าน เป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก

หลังจากเก็บข้าวของและสมุนไพรที่จำเป็น อันหลิงหยุนและ แม่ทัพอันก็รับประทานด้วยกัน จากนั้นนางจึงกลับไปยังจวน

อ๋องเสียน

เพียงแต่ระหว่างทาง บังเอิญเจอเข้าให้กับคนจากตระกูลเสิน
เมื่อเห็นรถม้าของตระกูลเสินที่อยู่ตรงหน้าเขา อันหลิงหยุนก็ หลบเลี่ยงโดยอัตโนมัติ ในเมื่อตระกูลเสินกำลังโกรธเป็นฟื้น เป็นไฟ นางก็อย่างไม่สร้างปัญหาจะดีกว่า

แต่พออันหลิงยุนเพิ่งจะผ่านไป ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากรถม้า

ด้านใน

“นี่ไม่ใช่พระชายาเสียนหรอกหรือ? เหตุใดจึงบังเอิญเจอ

ได้?”

อันหลิงหยุนหยุดลง น้ำเสียงฟังเสียงเหมือนหนุ่มอายุ 20

หรืออาจจะอายุน้อยกว่านั้น เสียงยังไม่ทันแตกหนุ่มดี

รถม้าหยุดลง และคนในรถม้าก็หัวเราะขึ้น “พระชายาเสียน

ไม่คิดจะเข้ามานั่งๆ หน่อยหรือ?”

อันหลิงหยุนหดหู เสียงนี้ช่างคุ้นเคยอย่างมาก แต่ทำไมนาง ถึงจำไม่ได้ว่าเป็นใคร หรือว่าองค์ชายจะไปทำให้ตระกูลเสิน

คนอื่นๆ ขุ่นเคือง?”

นึกไม่ออกก็ไม่ต้องนึก อย่างไรเสียหมูที่ตายแล้วก็ไม่กลัวน้ำ

ร้อน ที่แห่งนี้มีศัตรูอยู่มากมาย หากให้ทำความรู้จักยังไม่สามารถไปจำไหว

แต่สุดท้ายแล้วนางเป็นพระชายา จะมาเกรงกลัวคนตระกูลเสิ นงั้นหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้น อาชีพทหารของนางบอกกับนางว่า สิ่งไม่มีทาง หนี มีเพียงสงครามเท่านั้น

อันหลิงหยุนหันกลับไปยังด้านหน้าของรถม้า กำลังครุ่นคิดว่า

คนด้านในจะมาไม้ไหน ผาก็คือผ้าม่านรถม้าถูกยกขึ้น และเด็ก

หนุ่มในรถม้าก็ตกลงมาจากด้านในอย่างช้าๆ

ใช่ผิด ไม่ได้เดิน แต่เป็นกระโดดลงจากรถม้า เพียงแต่ตัวคน นั้นดูเบา ในขณะที่กระทบลงพื้น เกิดเป็นภาพน่าดูอย่างยิ่ง

ท่าทางการกระโดดลงสู่พื้นนั้นราวกับนกนางแอ่นที่บิน ท่ามกลางก้อนเมฆลงสู่พื้นดิน เพียงเบาๆ ก็สามารถลุกขึ้นมา เสื้อผ้าสีแดงด้านในดูหรูหราและสง่างาม ด้านนอกปกคลุมไป ด้วยเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกสีเทา เด็กหนุ่มที่ทั้งอายุน้อยและ งดงามเช่นนี้นางเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกในชีวิต

อันหลิงหยุนคาดว่าเขาน่าจะมีอายุราวสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีดวงตาหางคิ้วเรียวยาวราวกับนกฟีนิกส์งดงามอย่างยิ่ง

แต่อันหลิงหยุนกลับไม่รู้จักเขาจริงๆ อีกทั้งยังรู้สึกว่าเจ้าของ ร่างเดิมก็ไม่เคยพบมาก่อน

แต่ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็เข้ามาใกล้อันหลิงหยุน อันหลิงหยุนคิด อยู่ในใจว่าคนตระกูลเงินไม่ใช่คนดีอะไร และไม่รู้ว่าอีกฝ่าย ตั้งใจจะลงมืออะไรหรือไม่ ดังนั้นนางจึงไม่ขยับดูและหยุดดู ความเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย

“อันหลิงหยุน พวกเราได้พบกันอีกแล้ว?”

อันหลิงหยุนประหลาดใจ “อีกแล้ว?”

“มิผิดอีกแล้ว!”

ดวงตาของเสินหยุนเจ๋อประกายอำมหิต เขาแทบจะรอฆ่า อันหลิงหยุนไม่ไหวแล้วเช่นนี้ถึงค่อยสลายความเกลียดชัง ภายในใจลงได้

อันหลิงหยุนรู้สึกว่าเด็กหนุ่มไม่ได้มาดี นางเอ่ยขึ้น “ไม่ทราบ ว่าคุณชายคือใคร?”
“คือใคร?” ทันใดนั้นเฉินหยุนเจก็หัวเราะ และหัวเราะอย่างบ้า คลั่ง เขาหัวเราะเหมือนคนบ้า ทำเอาอันหลิงหยุนขนลุกขึ้นมา

ท่าทางของคนที่ได้มาจากกองทัพอย่างนางคอยๆ หายไป ก่อนจะบ้าตามเขาไปด้วย ตอนนี้นางอยากจะวิ่งหนี

เจ้าคนบ้าน่วิ่งมาจากไหนกัน ตระกูลเสินช่างเต็มไปผู้มี พรสวรรค์ ส่งคนบ้ามาทีละคนๆ ไม่ขาดสาย

ฮองเฮาเสินหยุนชูน้ำเข้าสมองวางยาสามีตนเอง เสินหยุนเอ้ อทั้งตำแหน่งพระชายาเอกที่มีอยู่แล้วหันไปคว้าตำแหน่งพระ ชายารองแทน ยังมีคนตรงหน้านางนี้อีก นางแทบจะไม่รู้ด้วย ซ้ำว่าเขาเป็นใคร แต่ท่าทางกลับดูโกรธเกลียดนางอย่างล้ำลึก ซ้ำพอหัวเราะขึ้นก็ทำเอาคนตกใจแทบแย่

ขณะที่เสียงหัวเราะจบลงเสินหยุนเจ๊ก็กัดฟันของเขา คุณหนู อันช่างสูงส่งจนลืมผู้คนไปมากมาย ถึงได้ลืมคุณชายน้อยเช่น ข้าได้รวดเร็วเพียงนี้?”

อันหลิงหยุนเป็นใบ้ คุณหนูอัน?

“ข้าคือพระชายาเสียน คุณชายได้โปรดพูดจาให้เกียรติข้า

ด้วย”
“โอ๊ะ!”

เสินหยุนเจ๋กัดฟันแน่น “ข้าจะเรียกเช่นนี้ แล้วอย่างไร?”

อันหลิงหยุนรู้สึกผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ นางพูดไม่ถูกว่า เพราะอะไร แต่กลับรู้สึกถึงความยุ่งเหยิงบางอย่าง?

“ไม่ทำไม ข้ายังมีธุระ เชิญคุณชายตามสบาย” อันหลิงหยุ นตัดสินใจหลบฉาก เสินหยุนเจ๋คว้าแขนของอันหลิงหยุน เอาไว้ ทั้งร่างของนางถูกดึงเข้าไปในอกของเขา เสินหยุนเจ๋ กอดอันหลิงหยุนเอาไว้จากด้านหลัง สีหน้าของอันหลิงหยุน เคร่งเครียดขึ้น นางพบกับหมาป่าเข้าให้แล้ว!

นางยกเท้าขึ้นและเตะไปที่ไหล่ของเขา เสินหยุนเจ๋หลบหลีก อันหลิงหยุนรีบหันตัวหลีกหนีจากเขา และถอยห่างออกมาส

องก้าว

นางไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ แต่ก็ไม่อาจเสียเปรียบให้เขาได้

ในที่สาธารณะ นางถูกผู้ชายคนหนึ่งกอดเข้าให้ พูดออกไป

แล้วนางจะเป็นพระชายาแบบไหนกัน?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ