หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน

บทที่50กวาดล้างฆาตกร



บทที่50กวาดล้างฆาตกร

บทที่50กวาดล้างฆาตกร

อันหลิงหยุนร่างกายอ่อนแอลงด้วยบาดเจ็บจึงเดินเหิน ลำบากมือข้างหนึ่งกอดเอวกงชิงวี่ไว้แน่นคว้าเสื้อเขาไว้ ร่างกายคล้ายมีพลังแต่ไร้แรงเอนซบอยู่บนตัวของกงชิง วี่กงชิงวี่มือหนึ่งถือดาบอีกมือกอดเอวนางเอาไว้

ทั้งสองตกลงบนพื้นกงชิงที่มองไปยังผู้ร้ายสี่ถึงห้าคน บนผืนหญ้าตรงข้ามกำลังล้อมเข้าตีอาหยุ่นอกจากนั้น ยังรีบรุดมาเพิ่มเติมอีกสี่ถึงห้าคนแต่งกายสีดำมืดเช่น เดียวกันนับชายชุดดำอีกสองคนที่ถูกแทงตายไปแล้ว รวมทั้งหมดมากันราวสิบกว่าคน

กลุ่มคนที่ตามมาด้านหลังล้อมกงชิงและอันหลิงหยุนอ

ย่างรวดเร็ว

“ร่างกายของเจ้าเพิ่งฟื้นได้ไม่นานรับมือกับคนมาก ขนาดนี้ไม่ได้เจ้าไปก่อนพวกมันไม่แน่อาจไม่ฆ่าข้า”อัน หลิงหยุนผลักกงชิงวี่ออกนางเป็นทหารแต่ไหนมาต้อง ปกป้องผู้อื่นก่อนคิดถึงตัวเองเป็นคนสุดท้าย

กงชิงกำมือแน่นไล่สายตามอง”เจ้าจะให้ข้าเป็นทหาร หนี้สงครามหรือ ?”

อันหลิงหยุนนับว่าลืมไปแล้วเขาก็เป็นแม่ทัพนำทัพกร่า ศึกให้เขาหนีไปนับว่าเป็นการดูหมื่นเหยียดหยามยิ่ง

“ข้าจัดการสามคนที่เหลือเป็นของเจ้า”อันหลิงหยุนไม่รู้ กำลังของกงชิงวี่แต่เบื้องหน้าศัตรูหลายคนแยกกันนับ เป็นวิธีที่ดีที่สุดหากไม่แยกกันหากกงชิงวีดูแลนางขัก หน้าไม่ถึงหลังยิ่งจะเกิดเรื่องได้โดยง่ายหากเขาทะลวง ออกนอกวงไปได้ยังนับว่ามีโอกาส

“เจ้า ?”

กงชิงวีปราดสายตาเป็นเยียบสงสัยว่าหญิงนางนี้สติ ไม่ดีหรืออย่างไรร่างกายบาดเจ็บสาหัสยังจะรับมือกับ ฆาตกรอีก ?

สหน้าอันหลิงหยุนขาวชิดหยาดเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลรินจากศีรษะลงมาร่างกายอ่อนแรงหากเขาเพียงปล่อย

มือนางก็คงล้มลง

“ท่านอ๋องวางใจข้าไม่ตายหรอก”

อันหลิงหยุนผลักกงชิงวี่ออกพลางเดินไปสองก้าวทั้ง สองแยกกันแล้ว

กงชิงวี่ยิ่งเพิ่มความสงสัยมากขึ้นหญิงนางนี้จะทำ อะไร ? บ้าไปแล้วหรือ ! ยืนยังไม่มั่นคงเลย

นางหยิบเข็มเงินออกมาหลายเส้นอันหลิงหยุนกดมัน ลงบนเส้นความรู้สึกบนแขนเข็มที่เหลือกำไว้ในมือกด เก็บความเจ็บปวดไว้”อาหยู่แทบจะกันไม่ได้แล้วท่านอ๋อง จัดการคนเหล่านี้จึงจะไปช่วยอาหยูได้

กงชิงที่มองไปทางอาหยู่เป็นดังนั้นเทียบกับอาหยู่แล้ว อันหลิงหยุนนับว่าเล็กน้อยนัก

แต่เขามองมายังหญิงคนนี้ในใจมีความลังเลสับสน

เมื่อคิดถึงที่นางรับดาบเมื่อครู่กงชิงพูดขึ้น”ใข่มุกนั้นให้เจ้าก็แล้วกัน”

ก็นับว่าเป็นการตอบแทนที่นางรับดาบไปพูดจบพลัน ถลันกายพริบตาเดียวไปยังอาหยู่เป้าหมายของผู้ร้ายคือ กงชิงวี่เมื่อเห็นเขาหนีไปจึงรีบเข้าล้อมวงการต่อสู้พัลวัน ขึ้นมา

อันหลิงหยุนประจันหน้ากับสองผู้ร้ายนางไม่ขยับในมือ กำเข็มเงินอยู่ภายในระยะยิงหากเพียงก้าวเข้ามาระยะ นางก็จะควบคุมพวกมันได้

แล้วฝ่ายตรงข้ามก็ประจันเข้ามาอันหลิงหยุนสูดลม หายใจเฮือกหนึ่งสองเข็มพุงไปทำร้ายคนหนึ่งฝ่ายตรง ข้ามกุมดวงตาเอาไว้พลางเหวี่ยงอาวุธออกมาอีกคนสบ โอกาสกระชั้นเข้ามาเสือกกระบี่มายังอันหลิงหยุนแม้จะ หลบหลีกพันแต่พลันเจ็บที่แขนขึ้น

อันหลิงหยุนก้าวถอยอย่างรวดเร็วในมือพลันขว้างบาง สิ่งออกมาฝ่ายตรงข้ามร้องโอดโอยแล้วล้มลงกับพื้นอัน หลิงหยุนมองดูงที่ขดตัวเป็นก้อนอยู่บนฟื้นอากาศเย็น เกินไปเมื่อออกมาเพียงครู่เดียวแล้วก็แข็งตัวขึ้น
al

หยิบถุงมือขึ้นอันหลิงหยุนจับงูเก็บไว้พลางคว้าดาบมุ่ง ไปยังชายตาบอดผู้นั้นดาบเดียวแทงทะลุคอหอยจากนั้น หยิบดาบขึ้นเดินไปทางกงชิงวี

เจ็ดแปดคนนั้นตายไปหมดแล้วที่เหลือสองคนล้อมอาห ยู่ไว้อาหยู่บาดเจ็บแล้วผู้ร้ายเสียบแทงไปอีกดาบในชั่ว วบมาดหมายเอาชีวิตอาหยู่อันหลิงหยุนเสือกดาบออก ไปแทงเข้าทางหลังผู้ร้ายอาหยู่ได้รับการช่วยไว้พลันอัน หลังหยุนก็ล้มลงบนพื้น

กงชิงสี่ฟาดฟันตายทีละศพละศพหมุนตัวกลับไปเห็น อันหลิงหยุนหมดสติไปแล้ว

อายุลุกกายขึ้นยืน”ท่านอ๋องพระชายาท่าน ! ”

“เจ้ารักษาตัวก่อนข้าจะไปดู”

กงชิงวี่เดินไปเบื้องหน้าอันหลิงหยุนก้มตัวลงไปดูยังมี

ชีวิต

ก้มตัวลงไปอุ้มนางขึ้นพลางเดินไปยังรถม้าเมื่อขึ้นบน รถม้าแล้วพลางปลดเสื้อนอกอันหลิงหยุนออกไหล่นางได้รับบาดเจ็บแขนก็บาดเจ็บเพียงแค่เจ็บ

บาดแผลจนสลบไป

อาหผู้จัดการบาดแผลภายนอกแล้วจึงตรวจสอบศพ ของผู้ร้ายเหล่านั้นแต่ทว่าแทบไม่ได้เบาะแสอะไรบนตัว ซากศพเหล่านั้นไม่มีร่องรอยอะไรทั้งไว้เมื่อกลับมาอาห ผู้ที่รออยู่ด้านนอกรถม้าอย่างร้อนรนหากไม่มีพระชายา เขาคงตายไปแล้วชีวิตของนานเป็นของพระ ชายาแล้ว

เขากังวลเป็นอย่างยิ่ง

“ท่านอ๋องพระชายาเป็นอย่างไรบ้าง ?”

“ไม่ตายหรอกกลับ”

อาหยู่บังคับตัวเองไว้เมื่อขึ้นรถม้าได้ก็รีบห้อตะบึงกลับ ไปแต่อากาศหนาวเหน็บเหลือเกินทั้งอาหยู่ก็บาดเจ็บ หลายครั้งแทบหมดสติล้มลงแต่ก็บังคับไว้ได้

กงชิงวีโอบอันหยินหลิงไว้ในอ้อมอกกุมมือนางไว้อย่าง ไม่มีเหตุผลมองดูใบหน้านางยิ่งขีดขาวยิ่งเริ่มมีความกังวล

หากไม่ใช่เขาที่ทั้งนางไม่สนใจว่านางจะเป็นหรือตาย เวลานี้นางก็คงไม่เป็นเช่นนี้

เมื่อรถม้าใกล้เข้าเมืองอันหลิงหยุนค่อยๆตื่นขึ้นยิ่งกว่า นั้นเลือดของนางก็หยุดไหลแล้วลุกขึ้นจากรถม้าก็ยัง รู้สึกมึนงงสะลึมสะลือเมื่อเห็นใบหน้ากงชิงที่ดูเหนื่อย อ่อนอันหลิงหยุนจึงพยายามเรียกความทรงจำที่ผ่านมา

เมื่อลืมตาขึ้นอันหลิงหยุนมองไปยังมือที่จับอยู่บนไหล่ นางบาดแผลได้ปิดเข้าหากันแล้วนับว่าแปลกนัก

ยาสามารถทำได้ถึงขั้นนี้อันหลิงหยุนประหลาดใจนัก

ขยับกายได้เล็กน้อยอันหลิงหยุนก็ดึงเข็มเงินที่ปักบน แขนออกมองไปยังกงชิงวี่ที่อยู่ตรงข้ามตอนนี้ตกใจยิ่ง นักบาดแผลของนางเขาก็เห็นเองกับตาแต่ตอนนี้กลับ หายดีดังเดิมไม่อาจไม่เอ่ยเรื่องนี้ช่างน่าตื่นตกใจยิ่งนัก
อันหลิงหยุนจัดแจ่งเสื้อผ้าให้เรียบร้อยพลางมองออก ไปนอกหน้าต่าง”อาหยู่บาดเจ็บแล้ว ?”

“อืม”

กงชิงที่ออกเสียงขึ้นจมูกอันหลิงหยุนรู้ดีแม้เขาต้องการ ความช่วยเหลือก็จะไม่เอ่ยปากบอกนางสู้ทำเองจะดีกว่า

ชีวิตคนเป็นสิ่งไร้มูลค่าที่สุดแต่นั่นไม่ได้หมายความว่า จะมองดูเฉยๆไม่ทำอะไร

หันกายกลับออกไปนั่งข้างอาหยู่เมื่ออาหยู่เห็นนางเข้า ให้รู้สึกปิติยินดี”พระชายาท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม ?

อันหลิงหยุนบาดเจ็บก็เพราะเข้าใจอาหยู่ไม่อาจก้าว ผ่านเรื่องนี้ไปได้เจ็บปวดมากเหลือเกิน

เมื่อเห็นอันหลิงหยุนไม่เป็นอะไรเขาก็ดีใจเป็นที่สุด

อันหลิงหยุนรู้ถึงความคิดของอาหยู่คนอย่างเขามีความซื่อสัตย์ยิ่งสามารถอยู่ข้างกายกงชิงวิ่งมานานอย่าง เนี้ต้องซื่อสัตย์และจงรักภักดีเรียกได้ว่ากงชิงที่ไม่สงสัย ในคุณธรรมของเขาเลย

คนช่างเลือกอย่างนั้นการได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจและ ยอมรับจากเขานับว่าไม่ง่าย

อันหลิงหยุนหัวเราะขึ้น”ข้ามีร่างหุ้มทองไม่ตายหรอก”

อาหยู่ตะลึงงั้นไปแต่ด้วยเหตุเพราะร่างกายบาดเจ็บ ทำให้ใบหน้าซีดขาวริมฝีปากแห้งเมื่อร่างกายแน่นิ่งดัง ราวท่อนไม้อันหลิงหยุนรู้ว่าอาหยู่รู้สึกไม่สบายตัวรีบดึง บังเหียนแล้วดึงตัวอาหยู่ไว้

“เจ้าบาดเจ็บต้องรักษาทันทีเจ้าเข้าไปก่อนเดี๋ยวค่อย ออกเดินทาง”

อันหลิงหยุนฉีกเสื้อบนตัวในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่สามารถ ใช้ได้แล้วยังดีที่บนตัวพกยามาด้วย

นี่คือปกตินิสัยของอันหลิงหยุนและยังเป็นการเตรียมตัวรับมือกับสิ่งไม่คาดคิดตั้งแต่พบกับกงชิงวี่บน ตัวนางกลับพกยาไว้มากกว่าแกติมักจะรู้สึกว่าบุรุษผู้นี้มี ความสามารถสร้างเรื่องราวไม่คาดคิดได้มากมายนางไม่ กล้าลดการป้องกันตัวลงได้เลย

และเป็นจริงดังนั้นวันนี้นางก็โชคร้ายเจออีกจนได้ยาที่มี ก็ไม่สูญเปล่า

อาหยู่เดิมที่มีอาการไข้เล็กน้อยแม้จะพยายามรวบรวม สติท่ามกลางลมหนาวมาตลอดแต่บัดนี้อาหยู่รู้สึก สะลึมสะลือเล็กน้อยเมื่ออันหลิงหยุนดึงเขาเขาไม่มีแรง จะความคิดฝืนเลยโดยเขาก็ไม่รู้ตัวว่าร่างกายเป็นอะไร

“พระชายาข้ารู้สึกวิงเวียน”เมื่ออาหยู่เอ่ยปากริมฝีปาก ต่างสั่นเครืออันหลิงหยุนพลางยิ้มให้อย่างอบอุ่น

“เจ้าเหนื่อยแล้ววางใจเถิดนอนไปพักหนึ่งก็ไม่เป็นอะไร

แล้ว”

อาหยู่สั่นศีรษะ”ไม่ได้หรอกข้าต้องรีบเร่งขับรถให้ท่านอ๋อง”

“ตอนนี้ถึงจวนอ๋องเสียนแล้วเจ้าพักผ่อนได้แล้ว”

ในขณะที่อันหลิงหยุนพูดอยู่นั้นพลางแก้เสื้อของอาหยู่ อย่างรวดเร็วกงชิงพึมพำอยู่ด้านใน”หน้าไม่อาย ! ”

อันหลิงหยุนสนใจอย่างอื่นไม่ได้มากนักหากช้าไปกว่า นี้แขนของอาหยู่อาจใช้ไม่ได้แล้ว

อาหยูราวกับรู้สึกตัวขึ้นนิดหน่อยแต่เขายังอยู่ในภวังค์ แยกไม่ออกว่าตัวเองอยู่ที่ใดกลับถามขึ้น”เจ้าเป็นใคร ?

อันหลิงไม่มีคำใดจะเอ่ยนี่เท่ากับว่าสติเลอะเลือนเต็มที่ แล้ว!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ