หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน

บทที่42รับสั่งไทเฮา



บทที่42รับสั่งไทเฮา

บทที่42รับสั่งไทเฮา

อันหลิงหยุนมาถึงวังเพิ่งหยีรอด้านนอกเพียงชั่วครู่ ฮองเฮาเสินหยุนที่นั่งเหม่ออยู่ในพระตำหนักเฟิ่งหยืนาง กำนัลมายังเบื้องหน้าพลางเอ่ยขึ้น”ฮองเฮาเพคะพระชา ยาเสียนเสด็จมารออยู่ด้านนอกนานแล้วเพคะ”

“เจ้าแน่ใจไหมว่าพระชายาเสียนเดินมาจากพระตำหนัก ฮองไทเฮา ? “เส้นหยุนชูเวลานี้ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ว้าวุ่นมากหลาย

นางกำนัลเมื่อเห็นสีหน้าซีดขาวของนางต่างเอ่ย

ขึ้น”แน่ใจเพคะฮองเฮาท่านไม่สบายตรงไหนหรือไม่ เพคะไม่อย่างนั้นให้พระชายาเสียนกลับไปก่อนแล้วทูล

เชิญฮ่องเต้เสด็จดีหรือไม่เพคะ”

“ไม่ต้อง”เดินหยุนชู้รีบรับสั่งห้ามในทันทีนางกำนัล ประหลาดใจยิ่งนักไม่ทราบฮองเฮาเป็นอะไรทันทีที่รู้ว่า พระชายาเสียนจะเสด็จวังเพิ่งหยีก็เริ่มสติไม่อยู่กับเนื้อ

กับตัวจนถึงเดี๋ยวนี้
เสินหยุนชูค่อยๆหลับตาลงช้าๆในใจรู้สึกบีบคั้นไทเฮา ท่านช่างโหดร้ายยิ่งนัก !

รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลเสินของ นางเลยแต่กลับจะประหัตประหารเสียทั้งหมด

เสินหยุนชูบีบเค้นกำมือแน่นแล้วเอ่ยขึ้น “เชิญพระชายา

เสียนเข้ามา”

“เพคะ”

นางกำนัลเดินออกไปไม่นานอันหลิงหยุนก็เข้าไปใน

พระตำหนักเฟิ่งหยี

เมื่อเข้าไปในพระตำหนักเพิ่งหยีอันหลิงหยุนน้อม ทักทายฮองเฮา”หม่อมฉันเข้าเฝ้า…”

“ช่างมันเถอะเจ้ากับข้าจะพิธีรีตองอะไรกันมาก”

เส้นหยุนูไม่รอให้อันหลิงหยุนคุกเข่าลงก็พยุงตัวอัน หลังหยุนขึ้นมา
“พวกเจ้าออกไปก่อนข้าจะคุยกับพระชายาเสียน”

“เพคะ”

เมื่อเหล่านางกำนัลต่างออกไปแล้วเสินหยุนชูดึงอัน หลิงหยุนนั่งลง

“หลิงหยุนเจ้ามาจากเสด็จแม่ใช่ไหม ? “เสินหยุนชูถาม ขึ้นอันหลิงหยุนพยักเพยิดหน้า

“ถูกต้องข้ามาจากเสด็จแม่” อันหลิงหยุนตอบตามจริง

เสินหยุนชูราวกับคิดอะไรบางอย่างขณะเอ่ยขึ้น”ถ้า อย่างนั้นเสด็จแม่มีคำสั่งอะไรหรือ ?”

“คำสั่งนั้นนับว่าไม่มีเพียงแต่ให้ข้ามาน้อมทักทาย ฮองเฮา”อันหลิงหยุนเอ่ยต่อไปเสินหยุนชูมีท่าที ประหลาดใจขณะนั่งอยู่นั้น

“อ้อ ?”

เสินหยุนชูสับสนยิ่งนักทำอย่างไรดี ?
“ทว่าไห่กงกงได้ฝากคำพูดมาบางคำ”อันหลิงหยุนรู้สึก ว่าความเจ็บนานสู้เจ็บแปปเดียวไม่ได้หากนางพูดจบจะ ได้ไปอย่างสบายขึ้น

แม้ฮองเฮาจะน่าสงสารแต่นี้อาจจะเป็นสนองกรรมที่นาง ได้ก่อเอาไว้

นางวางยาทำร้ายฮ่องเต้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องถูกกรรม

ลงทัณฑ์

“พูดว่าอะไร ? “เสินหยุนชูตื่นเต้นขึ้นมาทันที

อันหยุนหวินนำเอาคำพูดที่ไห่กงกงได้พูดไว้พูดขึ้นรอบ หนึ่งหน้าของเสินหยุนชูค่อยๆซีดไร้สีดูราวกับมีอายุขึ้น หลายปีใบหน้าซีดขาวไม่มีสีสันของชีวิต

“ฮองเฮาท่านเป็นอะไรไป ? “อันหยุนหวินก็รู้สึกสงสาร เสินหยุนชูแต่สงสารแล้วจะทำอย่างไรได้ใครให้นางเกิด มาบนราชบัลลังค์นี้

นางที่รู้สึกสงสารที่จริงแล้วก็เอาตัวไม่รอดเองเหมือน

กัน
เสินหยุนซูพักใหญ่จึงฟื้นกลับมาพลางหัวเราะ”ข้าก็รู้สึก ช่วงหลายปีมานี้ร่ายกายแย่ลงเรื่อยๆจะปรนนิบัติดูแล ฮ่องเต้ก็ไม่ได้เท่าใจคิดหากมีสักคนช่วยแบ่งเบาภาระ ของข้าได้น่าจะเป็นการดีคิดไปแล้วหลายวันมานี้คุณหนู สองตระกูลจุนก็ครบสิบห้าปีแล้ว

ข้าอีกสักพักจะไปเรียนไทเฮาเชิญไทเฮาเป็นผู้ตัดสินใจ เรื่องนี้”

อันหลิงหยุนเห็นจิตใจอันเข้มแข็งของเสินหยุนชูยิ่ง พาให้คิดว่าที่แห่งนี้ช่างไม่น่ายุ่งเกี่ยวเสียจริงแต่ว่า เรื่องเหล่านี้ก็เป็นเรื่องของพวกเขานางจัดการอะไรไป มากกว่านี้ไม่ได้

อันหลิงหยุนลุกยืนขึ้นพลางคำนับลาเส้นหยุนชูโบกมือ ขึ้นหมายความให้อันหลิงหยุนออกไปได้

อันหลิงหยุนออกมาจากวังเพิ่งหยีเดิมที่ตั้งใจจะไปวัง เฉาเฟิ่งเพื่อกู้ชีพตัวเองขึ้นแต่ทว่านางยังเดินไปไม่ถึงก็ เห็นเฉิงกงกงที่อยู่ไกลออกไปก็หยุดลง

เฉิงกงกงเป็นคนของไห่กงกงคนนี้คราก่อนให้นางเอ่ยจดหมายปากเปล่ากับท่านแม่ทัพบิดาของนาง

“กงกง”อันหลิงหยุนรอเฉิงกงกงมายังเบื้องหน้าจึงเอ่ย

ทักทายก่อน

เฉิงกงกงมองดูรอบทิศเมื่อเห็นว่าไม่มีคนจึงเอ่ย

ขึ้น ” พระชายาข้าเสี่ยงภัยมาหาท่านไห่กงกงบอกว่า ไม่ให้พระชายากลับไปแล้วไทเฮาพักผ่อนแล้วอย่าไป

รบกวนเลย”

อันหลิงหยุนเข้าในความหมายในทันทีเพื่อหลบ สายตาคนก็ไม่ควรให้นางกลับไปยังวังเฉาเฟิ่งอีก

“ข้าเข้าใจแล้วขอบพระคุณกงกงที่นำสารมาบอกแก่ ข้า”อันหลังหยุนหยิบเงินเหรียญทองแล้วนำเงินหนึ่งชั่ง

ออกมา

เฉิงกงกงเมื่อเห็นดังนั้นลูกตาแทบจะถลนออกมาจาก เบ้าอันหลิงหยุนใช้โอกาสที่ไม่มีคนอื่นรีบมอบให้กับเฉิ งกงกง”เรื่องครั้งที่แล้วต้องขอบคุณกงกงมากนี่คือส่วนที่ 1 ข้าตั้งใจเอามาจากพ่อของข้า”
“นี่ข้าใช้ไม่ได้หรอก ! “ปากบอกไปอย่างนั้นแต่มือกลับ ยื่นออกมารองรับแล้ว

อันหลิงหยุนทราบดีกับคนจำพวกชอบเงินๆทองๆอย่าง นี้ก็ต้องทำใจกว้างอย่างไรก็ยังมีมากกว่านี้

แต่อย่างไรก็ต้องใช้วิธีอื่นดึงรั้งเอาไว้ยกตัวอย่างเช่น ซื้อใจคน

เฉิงกงกงมีมารดาเa่าอยู่นอกวังอายุราวจะแปดสิบปี แล้วแม้ร่างกายจะยังแข็งแรงแต่ดวงตากลับมองไม่เห็น แล้ว

“คงกงช่วงก่อนท่านฟอข้าได้เรียกคนไปดูท่านแม่ของ ท่านแล้วนางร่างกายยังแข็งแรงดีเพียงแต่เดินเห็นไม่ สะดวกท่านฟอข้าเวทนานางจึงให้ทหารสองคนไปดูแล นางแต่ก็ยังไม่ใช่วิธีที่ดีนักข้ากลับมาคิดดูอีกไม่กี่วันรอ ชามีเวลาว่างจะไปดูถ้าหากสามารถรักษาให้หายได้ก็นับ วาดีหากรักษาไม่หายก็หาวิธีต่อไปเชิญหมอที่เก่งกว่านี้ มารักษาไม่อย่างนั้นหากให้คนจากจวนแม่ทัพไปดูแลคน. ภายนอกรู้เข้าจะไม่ดี”
เฉิงกงกงกงกงนิ่งงันไปแล้ว”พระชายา…”

“ในวังแห่งนี้คนมากหลายข้าเพียงอยากตอบแทน เจ้าข้าพระชายาเข้าใจดีในวันนั้นหากไม่มีกงกงเกรงว่า แม้ชีวิตก็คงรักษาเอาไว้ไม่ได้กงกงค่อยๆเดินข้าขอไป ก่อน”

เมื่อพูดจบอันหลิงหยุนก็รีบเดินไปอย่างรวดเร็วเฉิงกงก งมองเบื้องหลังอันหลิงหยุนที่จากไปลิบตามีแววกังวล ขึ้นหรือนี่คือการขู่บังคับ ?

แต่เมื่อคิดถึงคำพูดของท่านแม่ที่ส่งมาเมื่อวานที่บ้าน มีเพียงเด็กใช้งานที่รู้จักทำกับข้าวได้เพิ่มมาคนหนึ่งพูด คร่าวๆว่าเก็บมาจากหน้าประตูมาขออาหารหรือว่านั่นคือ คนของพระชายา

เฉิงกงกงคิดว่าจะกลับไปรายงานแล้วจะกลับไปดูใน

แน่ใจ

เสินหยุนชูเมื่อออกมาจากวังเพิ่งหยแล้วก็ให้รู้สึก ร่างกายไม่สบายนักเดินเหินก็เชื่องช้า
ก้าวย่างแต่ละก้าวก็ให้รู้สึกไม่อยากย่างเดินแต่ก็เดินไม่

ได้

เมื่อมาถึงพระตำหนักเฉาเพิ่งเสินหยุนซูเรียกคนนำสาร ไปแจ้งจากนั้นไห่กงกงก็เดินออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง พลางเดินเข้าไปยังพระตำหนักเฉาเพิ่งเมื่อเก้าเข้าประตู ไปก็น้อมทักทายก่อน

หวางฮองไทเฮาเอ่ยขึ้น”ลุกขึ้นเถิดมาที่นี่ไม่ต้อง พิธีรีตองมากไห่กงกงนำเก้าอี้มา”

เสินหยุนชูนั่งลงเอ่ยคำทักทายตามมารยาทแล้วจึงเอ่ย ถึงคุณหนูสองแห่งตระกูลจุนจนเซียวเชียว

“ความหมายของฮองเฮาคือ ? “หวางฮองไทเฮาเอ่ย ขึ้นเรียบๆฮองเฮาทรงลุกขึ้นยืนแล้วคุกเข่าลง”เสด็จแม่ หม่อมฉันมีเรื่องหนึ่งจะเรียนรบกวนท่าน”

“อ้อเรื่องอะไร ดี ? ”

“เสด็จแม่หม่อมฉันหลายปีมานี้สุขภาพแย่ลงทุกวันแม้น มีใจปรนนิบัติรับใช้ดูแลฮ่องเต้แต่สุดท้ายแรงกำลังก็ไม่สู้ดีนักแต่ฮ่องเต้กลับแข็งแรงหนุ่มแน่นยังนับ เป็นช่วงวัยฉกรรจ์เข้มแข็งหม่อมฉันเพียงเกรงว่าตัวเอง จะแบ่งเบาภาระของฮ่องเต้ไม่ได้ต้องวอนขอเสด็จแม่ ช่วยหม่อมฉันคิดตัดสินใจด้วยเพคะช่วยฮ่องเต้เติมเต็ม ตำหนักในและเพื่อให้หม่อมฉันไม่นับว่าอกตัญญต่อองค์ บูรพกษัตริย์ ! ”

ฮองเฮาใจเจ็บจนด้านชาจะโทษก็โทษที่นางไร้ความ สามารถเท่านั้น

หวางฮองไทเฮาเอ่อยขึ้น “เมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าก็ไปเอ่ย ปากกับฮ่องเต้เสียเรื่องนี้ตัวข้าเองก็ไม่อยากก้าวก่ายถ้า หากฮ่องเต้เห็นด้วยแล้วข้าก็ยินดี”

เสินหยุนชูราวกลืนยาขมลงท้องนี่เท่ากับบังคับนางไป

หาที่ตายชัดๆ

“หม่อมฉันเข้าใจแล้ว”

“ลุกขึ้นเถิด”

เสินหยุนชูกายขึ้นหวางฮองไทเฮาค่อยๆทรงตัวขึ้นไห่กงกงกุลีกุจอรีบเดินเข้าไปพยุงพลางเงยหน้า สบตากับหวางฮองไทเฮาแล้วเอ่ยขึ้น”ได้ยินมาว่าน้อง สาวของเจ้าก็โตแล้วปีนี้อายุเท่าไหร่ ? ”

เสินหยุนชูใจเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นกำลังคิดอะไรอยู่ พลางรีบเอ่ยคำตอบ”ตอนนี้ก็บรรลุนิติภาวะแล้ว”

“อือข้าดูแล้วไม่อย่างนั้นให้นางเข้าวังมาด้วยกันเลยก็ดี เจ้าทั้งสองต่างเป็นพี่น้องนับเป็นเรื่องดีทีเดี”ว”

“เสด็จแม่ไม่ได้เพคะ !”

ฮองเฮาคุกเข่าลงไปอีกครั้งหวางฮองไทเฮาสีหน้า เดือดขึ้น”มีอะไรไม่ได้หรือ ?

“เสด็จแม่หยุนเอ๋อมีคนในใจแล้วหม่อมฉันก่อนเคย

ตกลงกับนางแล้วแต่บัดนี้…”

“บัดนี้มีอะไร ? ”

“ตัวข้า…
“พูดสิมาเออๆอาๆอะไรกัน !

“หยุนเอ๋อคลุกคลีผูกไมตรีกับอ๋องเสียนตั้งแต่ยังเล็กมี ใจให้กับอ๋องเสียนแต่แรกแล้วทว่าพระชายาเสียนก็เสก สมรสเข้าจวนอ๋องเสียนแล้วเรื่องนี้เดิมที่ไม่ควรเอ่ยถึงอีก แต่ว่าหยุนเอ๋อถูกเลี้ยงในวังมาตั้งแต่เด็กเสด็จแม่ก็ทราบ ดีนางมองฮ่องเต้เป็นเพียงผู้ควรแก่การเคารพเท่านั้น หากจะต้องเข้าวังจริงๆเกรงจะทำตามอำเภอใจจะทำให้ ฮ่องเต้ทรงพิโรธได้นะเพคะ ! ”

เสินหยุนชูพูดทั้งน้ำตาใจเจ็บปวดรวดร้าวนี่ไม่เพียง ต้องการชีวิตนางครั้งนี้นับว่าต้องการทั้งตระกูลเสิน !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ