หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน

บทที่ 111 มงคลคู่ที่มาพร้อมกันกับอันน่าสยองขวัญ



บทที่ 111 มงคลคู่ที่มาพร้อมกันกับอันน่าสยองขวัญ

บทที่ 111 มงคลคู่ที่มาพร้อมกันอันน่าสยองขวัญ

ที่นี่ เสินหยุนเอ๋อเองก็อยู่ด้วย แต่นางนั่งอยู่ในที่ที่ไม่สะดุดตา นัก ดูรูปร่างผอมบางของนาง และดวงตาที่หมองคล้ำ ยิ่งทำให้ รู้ว่าจิตใจไม่เบิกบาน แต่นางไม่ได้มาคนเดียว มีคนติดตามมา ด้วยอีกสองคนขนาบซ้ายขวา

ด้านซ้ายคือเงินเฉิงเสียง ส่วนคนขวาคือเงินหยุนเจ๋

อันหลิงหยุนไม่ทันที่จะสังเกตเห็นในตอนแรก เพียงแต่รู้สึก อยู่ตลอดว่า แถวๆนี้มีคนกำลังจ้องมองนางอยู่ จนกระทั่งตอน ที่นางเห็นเงินหยุนเอ๋อ จึงพบว่าเงินหยุนเจ๊ก็มาด้วย

เมื่อเผชิญหน้ากลับดวงตาที่เหมือนกำลังลุกเป็นไฟของเงิน หยุนเจ๋ อันหลิงหยุนก็รู้สึกผิดหวัง จริงๆแล้วพวกเขาทั้งสอง คนมีความเกี่ยวข้องเช่นไรกันแน่ ถึงจะต้องมองนางเช่นนี้

เมื่อนึกถึงก็บอันนั้น อันหลิงหยุนก็รู้สึกเศร้าโศก

อย่าได้มีความคิดอะไรกับร่างเดิมเลย
ไม่รู้ว่าตอนไหนกันที่มือของกงชิงออกแรงมาหนึ่งครั้ง อัน หลังหยุนตกใจจนสะดุ้งโหยง จึงหันหน้ากลับไปมองกงซึ่ง ด้วยท่าฝืนยิ้ม: “พระชายากำลังดูอะไรหรือ?”

“ไม่มีอะไรเพคะ”

อันหลังหมุนรู้สึกไม่มั่นใจ จริงๆแล้วนางมองเส้นหมุนเง สองครั้ง แต่ก็ยากที่จะหักล้างความคิดของอีกฝ่ายได้

“แลก แลก……” อันหลังหยุนกำลังคิดว่าจะไม่มองเห็นหน เจ๋ แต่ทางด้านของเงินหยุนเจนั้นไอขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นการได้ แบบเอาเป็นเอาตาย

อันหลังหยุนเป็นหมอ เมื่อได้ยินคนไอ ก็เงยหน้าขึ้นไปมอง อย่างตั้งใจในทันที เมื่อเห็นเงินหยุนเจ๊กหมัดแน่น เหมือนคน เป็นวัณโรค นางก็รู้สึกเป็นห่วง นี่มันวัณโรคไม่ใช่หรือ?

สีหน้าของกงชิงดูเคร่งขรึมลง เขาออกแรงบีบมือของฉัน หลิงหยุน เพื่อที่จะดูโรคของเงินหยุนเจให้ชัดเจน อันหลังหยุ นจึงไม่ได้สนใจเลยสักนิด

ทำให้กงชิงโกรธจนตบโต๊ะ

*ตูม!
หมด

อันอย่างไม่รู้แม่เอ๊ย!

หรือ

คิดว่าเป็นเรื่องจริง

จึงยกมือขึ้นมาลูบดูทันที กงชิงดึงมือของนางมาวางไว้แนบ อกตรงหัวใจตรงนี้

คนที่อยู่รอบๆล้วนมองดูพวกเขาอยู่ ใบหน้าของเงินหยุนเจ๋ นั้น ซีดเผือดจนน่ากลัว และในตอนนี้เองเขาก็เริ่มไออีกครั้ง

ส่วนคนที่เหลือ ต่างก็คิดกันไปต่างๆนานา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

กันแน่

อ๋องเสียนเจ็บหัวใจ ยังจะออกแรงทุบโต๊ะขนาดนั้นอีก

เมื่อเช้ายังดีๆอยู่เลย ทำไมอยู่ดีๆถึงเจ็บหัวใจล่ะเพคะ? อันหลิงหยุนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จึงลองตรวจดูให้อัน

ชิงวี่ก่อนแล้วค่อยสรุป

มือข้างหนึ่งถูกอันชิงวี่จับแนบอกไว้ ส่วนมืออีกข้างจับที่ข้อ มือของเขา แล้วตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง

หายใจไม่สะดวกจริงๆด้วย ทำให้อันหลิงหยุนรู้สึกเศร้า

โรคหัวใจไม่ใช่โรคที่จะรักษากันได้ง่ายๆ ถึงแม้จะไม่เหมือน จำพวกโรคไขข้อและปวดกระดูกที่ไม่ตายก็เหมือนตาย แต่ โรคหัวใจนั้น แม้ในยุคปัจจุบันก็ยากที่จะควบคุมและรักษาให้ หายขาด ยิ่งสมัยโบราณเช่นนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

อันหลิงหยุนแสดงสีหน้ากังวลทันที: “ครั้งก่อนท่านโกรธจน ไม่สบาย ท่านโกรธอีกแล้วใช่หรือไม่?

กงชิงวี่พยักหน้า ด้วยท่าทีเชื่อฟังอย่างมาก

อันหลิงหยุนรู้สึกเป็นห่วง: “ท่านอย่าโกรธอีกเลย อีก ประเดี๋ยวเข้าเฝ้าฝ่าบาทเสร็จก็กลับกันเลยเพคะ”
กงชิงค่อยๆผ่อนคลายลง จริงๆแล้วก็โกรธไม่น้อย

ขณะที่กำลังมองหน้าเขา นางก็แอบหันไปส่งสายตากับเงิน หยุนเจ๋ ในสายตายังมีเขาคนนี้อยู่อีกหรือไม่

อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เป็นนางที่ถูก จูงมือ แต่มาตอนนี้นางกลับเป็นคนจูงมือกงชิงแล้ว

นางกลัวว่ากงชิงจะไม่สบาย โรคหัวใจกำเริบ

เมื่อแม่ทัพอันเห็นว่าลูกสาวและกงชิงที่มีความสัมพันธ์ที่ดู กลมเกลียวกัน ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อเงยหน้าขึ้นก็มอง เห็นเงินเฉินเลี้ยง ดูท่าทางเขาก็พอใจมากเช่นกัน

โดยเฉพาะตอนที่เห็นเงินหยุนเจ๋ ก็ดูมีความสุขมาก

ลูกชายทั้งสองของตระกูลเงิน แม่ทัพอันก็เป็นผู้ชักนำเข้า กองทัพทั้งสิ้น แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยนำเรื่องของส่วนรวม มาใช้ในการแก้แค้นส่วนตัว การเติบโตและความสามารถของ พวกเขาก็อยู่ในสายตามาโดยตลอด

โดยเฉพาะเสินหยุนเจ๋คนนี้ แม่ทัพอันรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เวลาต่อสู้ก็มีความสามารถในการต่อสู้ เวลานำทัพก็มีความ สามารถในการนําทัพ คนคนที่มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากจริงๆ

เมื่อเห็นแม่ทัพอัน เสินหยุนเจ๊ก็มีสีหน้าที่ดีขึ้นเล็กน้อย ไม่ ไอ แต่กลับลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างหน้าแม่ทัพอัน แล้วทำความ เคารพเขา “ข้าน้อยคารวะท่านแม่ทัพ

ต่อหน้าผู้คนมากมาย อีกทั้งทั้งสองตระกูลก็เป็นศัตรูกัน การ ก้าวออกมาของเงินหยุนเจ๋ ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจ เงินเฉินเสี ยงโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ในใจรู้ดีว่าลูกชายตนเองหลงรักอัน หลิงหยุนแล้ว แต่ก็ควรจะเอาเรื่องนี้ทิ้งไว้ในอดีต ตอนนี้นาง เองก็แต่งงานแล้ว ทำเช่นนี้น่าขายหน้าจริงๆ

แม่ทัพอันเองไม่ได้มีทีท่าลังเล รีบลุกขึ้นไปประคองเงินหยุ นเจ๋ทันที: “เจ้าโตแล้ว อีกทั้งยังแข็งแกร่ง ได้ยินว่าเจ้าประสบ ความสำเร็จในการรบอย่างมาก ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาให้แก่ ฮ่องเต้จริงๆ”

ล้วนแล้วแต่เป็นเพราะท่านแม่ทัพสั่งสอนมาดี หยุนเจ๋จึง ประสบความสำเร็จในการรบอย่างเช่นวันนี้ เงินหยุนเจ๊ใบหน้า ซีดเผือด อีกทั้งยังคงไออยู่เล็กน้อย

แม่ทัพอันเอ่ยถาม: “เจ้าเป็นอะไรไป

เป็นหวัดนิดหน่อยขอรับ เพิ่งจะกลับมา ก็ต้องไปที่ชายแดนต่อ” เป็นหลุมลมหาชน และกำลังคนด้

ซึ่งหมู่พร้อมกันของเขาและพระสายทางด้าน

ฮ่องเต้ยงหมู่หยุดยืน หรือมกับเป็นแล้วไม่ออกเลย ว่า แม่ทัพบกับหนเป็นสหายร่วมกัน

“ถวายบังคมผ่านภาพของเขา เขียนเทีย

ทุกคนทุกคนและหมอบลงไปบนพื้น ฮ่องเต้า หนูกล่าวว่า

“ลุกขึ้นเถอะ”

ฮ่องเผชิงหยู่นิ่งลงเดินหยุนจับมือและนั่งลงข้างๆของเค์ซึ่ง หญ่ โดยมีเขียวกุ้ยเฟยนั่งอยู่ด้านล่าง

ตอนนี้เองทุกคนจึงกล้าที่จะนั่งลง

แต่เส้นหมุนกลับยืนอยู่ที่เดิม ฮ่องเต้ชิงหยู่เองรู้สึก โปรดปรานน้องเขยที่ประสบความสำเร็จในการรบครั้งนี้เป็น อย่างมาก จึงเอ่ยปากถามว่า “หยุนเจ เจ้าตัวยืนอยู่ทำไม?

“ทูลฝ่าบาท หม่อมจนอยากจะนั่งข้างๆแม่ทัพอันพะยะค่ะ

เนเจอมาพูดเหลวไหล” เส้นหยุนซูซึ่งมีศักดิ์เป็นฮองเฮา พูดตำหนิน้องชายของตนเองอย่างตรงไปตรงมาที่ ไม่รู้จักกฎระเบียบ ทางด้านฮ่องเต้ชิงหยู่ เพื่อที่จะแสดงถึง ความรักความโปรดปรานที่มีต่อฮองเฮา จึงจับนางไว้แล้วตบ เบาๆ: “ให้เขานั่งเถอะ”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

ตอนนี้เอง เงินหยุนเจ๋จึงเดินไปนั่งลงข้างๆแม่ทัพอัน ซึ่งติด กับอันหลิงหยุนพอดี

อันหลิงหยุนรู้สึกอึดอัด ฮ่องเต้ตรัสอะไรก็ได้ยินไม่ชัดเจน ได้ แต่เก็บความรู้สึกไม่ชอบใจเอาไว้

กงชิงวออกแรงบีบมือของนางอีกครั้ง ทรมานจริงๆ

อีกทั้งจุนฉูฉูและเสินหยุนเอ๋อที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็กำลังมองนาง

อยู่

ไม่นาน นางก็กลายเป็นเหมือนผู้หญิงที่สวยที่สุดในที่นั้น ที่

สามารถดึงดูดสายตาของผู้คนได้

ฮ่องเต้กล่าวคำพูดด้วยท่าทีสง่างามสองสามประโยค แล้ว งานเลี้ยงก็เริ่มขึ้น
ฮองเฮาเสนอเกมที่สนุกๆขึ้นมาหนึ่งเกม โดยให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ เป็นผู้เริ่ม หนึ่งคนหนึ่งประโยค หากพูดรับต่อได้ก็ให้รางวัลเป็น อาหารหนึ่งอย่าง หากรับต่อไม่ได้ก็จะต้องถูกลงโทษโดยการ ให้แสดงความสามารถออกมาหนึ่งอย่าง

ฮ่องเต้ชิงหยู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “เช่นนั้นก็พระชายาเสียนแห่ง จวนอ๋องเสียนละกัน

คนที่อยู่ด้านล่างต่างผงะไปชั่วครู่ และต่างกันศีรษะกันอย่าง

โกลาหล

กงชิง เลิกคิ้วเงยขึ้นมอง แล้วจึงหลบสายตากลับโดยไม่พูด อะไร อันหลังหยุบรู้สึกเอือมระอา ที่ก็ไม่ต่างกับว่าให้ทุกคน หยอกล้อบางและกงชิงเหมือนกับหยอกล้อลิงหรอกหรือ?

ฮ่องเต้ชิงหยู่ ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่?

“ฝ่าบาท พระองค์ทรงทำให้ทุกคนลำบากใจอยู่นะเพคะ? ฮองเฮารีบช่วยแก้ไขสถานการณ์

ฮ่องเต้ชิงหมองลงไป “ไม่มีใครต่อหรือ?

ไม่มีใครตอบ
ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงพูดว่า: “เช่นนั้นให้พระชายาเสียนเป็นคนพูด เองเถอะ”

อันหลิงหยุนกรีดร้องอยู่ในใจ อยากจะเอาฮ่องเต่ชิงหมา เตะแทนลูกบอลจริงๆ

“ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันต่อไม่ถูกเพคะ” อันหลิงหยุนแสร้ง ทำท่าทีเสียใจ

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองอันหลิงหยุนอย่างพิจารณาสักพัก: “เช่นนั้น ก็ออกมาแสดงความสามารถสักอย่างสิ

กงชิงวี่ยกแก้วเหล้าขึ้น: “ให้หม่อมฉันต่อเถอะ”

“ต่อรึ?” ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสเบาๆ

กงชิงวี่มองที่อันหลิงหยุน: “มีความสุข!

” ทุกคนต่างทำตัวไม่ถูก ปกติอ๋องเสียนไม่เคยใส่ใจพระ

ชายาเสียน

อันหลิงหยุนมองไป เช่นนี้ก็ได้หรือ?
“ถือว่าใช้ได้ อ๋องตวนตาเจ้าแล้ว พูดถึงเจ้ากับพระชายาดวน ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสต่อ อ๋องตวนไม่ลังเลแม้แต่น้อย จับมือของ จนฉูฉูแล้วพูดว่า: “ขอเพียงแค่ได้เคียงคู่กันตลอดไป ต่อให้ได้ เป็นเซียนก็ไม่ต้องการ

“อืม”

ฮ่องเต้ชิงหยู่พยักหน้า แสดงถึงความพอใจ

แต่เขาเพิ่งจะพูดจบ ก็ได้ยินเงินหยุนเจ๋พูดขึ้นมาว่า “ทูลฝ่า บาท หม่อมฉันก็ต่อได้ค่ะย่ะค่ะ

เงินเฉินเสียงได้ยินก็โกรธเป็นอย่างมาก เกี่ยวอะไรกับเจ้า

ด้วย?

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปที่น้องเขย: “ลองพูดดูสิ

“เช่นนั้น ข้าจะลองต่อกับอ๋องเสียนดู” พูดจบ เงินหยุนเจ มองไปที่อันหลิงหยุนซึ่งยืนอยู่ข้างๆ มองดูอย่างละเอียดและ ไตร่ตรองอยู่เป็นเวลานาน: “ตอนนั้นก็คือตอนนั้น……….. คือตอนนี้!”

ตอนนั้นให้ความหวังเขา ตอนนี้ทำผิดคำสัญญาของนาง
อันหลังหยุนตกใจ นางมองไปที่เงินหยุนเจ ดวงตาของเงิน หยุนเจ๊คนั้นกำลังมองนางด้วยความโกรธแค้น อันหลังหมุน สึกว่าต้องมารับผิดในสิ่งที่ไม่ได้ก่อ ร่างเดิมทำผิดอะไรไว้ต่อ เขากันแน่ ทำไมถึงได้รู้สึกว่ามีทั้งรักและทั้งเกลียด

แต่เขาพูดว่าตอนนั้นก็คือตอนนั้น ตอนนี้ก็คือตอนนี้ จริงๆแล้ว

ก็พูดก

ตอนนั้นร่างเดิมรักแต่ไม่อาจครอบครองได้ ตอนนี้รักจนไม่ อาจปล่อยมือ!

“อืม ไม่เลว หยุนเจ๋ อ๋องตวนล่ะ” ฮ่องเต้ชิงหยู่พอใจมาก เรื่องของอันหลิงหยุนและกงชิงจริงๆแล้วเป็นเช่นนี้เอง

เงินหยุนเจ๋หันหน้าที่สง่งามของเขา มองไปที่อ๋องตวนและ

พระชายาตัวน

“ดอกไม้ไม่มีวันร่วงโรย

อ๋องตวนไตร่ตรองสักครู่: “ไม่ร่วงตลอดไปหรือ?”

อันหลิงหยุนรู้สึกเศร้า เงินหยุนเจ๋คงจะไม่ได้หมายความว่า พวกเขาไม่มีทางได้ลงเอยกันหรอกนะ?
ดอกไม้บานไม่ร่วงโรย ไม่ใช่ว่าไม่ได้ลงเอยกันหรอกหรือ?

จนฉูฉกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เงินจุนเจ๊ก็พูดขึ้นมาว่า “หวังว่าพระชายาตวนจะงดงามดั่งดอกไม้ ไม่มีวันร่วงโรย

“เอาล่ะ เจ้าคงจะพูดขาดไปสองประโยคล่ะสิ เรียนหนังสือ มาก็หลายปี ยังกล้าจงใจเล่นคำอีก” ฮองเฮารู้สึกไม่พอใจนัก น้องชายของตนเองตนเองย่อมที่จะรัก

ฮ่องเต้ชิงอยู่พูดว่า: “ตกรางวัล นำกระบี่ไม่เย่ที่ข้าใช้เมื่อวาน ออกมามอบให้หยุนเจ๋

“ฝ่าบาท ไม่ได้เพคะ นั้นคือของคู่พระวรกายของพระองค์ จะ มอบให้หยุนเจ๋ได้กระไร?” ฮองเฮารีบลุกขึ้น ฮ่องเต้ชิงหยู่จึง จับมือนางไว้

ไปเอามา

ฮ่องเต้ชิงหยู่ออกคำสั่ง สวีกงกงจึงรีบพาคนไปนำมาทันที

“ท่านแม่ทัพน้อย รีบขอบพระทัยเร็วเข้า นี่เป็นของคู่พระ วรกายฝ่าบาท เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น
เงินหยุนเจลุกขึ้น แล้วเดินไปด้านหน้าพระที่นั่ง ยกเสื้อคลุม ขึ้น แล้วคุกเข่าลงรับกระบี่

ขอบพระทัยเสร็จก็ลุกขึ้นยืน เงินหมุนเยืนดูกระบี่อยู่ตรง หน้าสักครู่ ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็พูดขึ้นว่า “มีกระบี่เล่มนี้ ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป เจ้าก็สามารถนำดาบเข้าวังหลวงได้

เมื่อเงินหยุนเจ๋มองไป ก็เห็นเป็นเงินเสี้ยนรีบลุกขึ้นทันที “ฝ่าบาท ไม่ได้เด็ดขาดค่ะย่ะค่ะ ขอทรงตอนรับสั่งด้วย

ฮ่องเต้ชิงหยู่จับมือของฮองเฮาเงินหยุนไว้ “มีอีกเรื่องที่ว่า จะประกาศ ฮองเฮาและกุ้ยเฟยตั้งครรภ์แล้ว

อันหลิงหยุนตกใจ คนที่อยู่รอบข้างต่างรีบลุกขึ้นแล้วคุกเข่า ลงแสดงความยินดีแด่ฮ่องเต้ชิงหยู่

อันหลิงหยุนถูกดึงให้ลุกขึ้นแสดงความยินดี ทุกคนต่างก็ ตกใจอยู่ครู่หนึ่ง

อันหลิงหยุนรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก ช่างน่าตกใจจริงๆ

ต่อให้การรักษาจะได้ผลเพียงใด ก็ไม่น่าจะเร็วถึงเพียงนี้นี่ มันเรื่องอะไรกันแน่?
ฮองเฮาเองก็ตั้งครรภ์แล้ว

หลังจากแสดงความยินดีเสร็จ ทุกคนก็ยังคงอยู่ในบรรยากาศ ของความปิติยินดี อันหลิงหยุนรู้สึกปวดเมื่อยไปหมด เข้าวัง ทุกครั้งต้องคุกเข่า นางอย่างจะเป็นฮ่องเต้จริงๆ เช่นนั้นก็จะมี แต่คนอื่นที่จะต้องคุกเข่าให้

เมื่อนั่งลง อันหลิงหยุนก็เห็นไปหน้าซีดเผือดของจุนฉูฉ ที่ มองดูครอบครัวด้วยสีหน้าไม่สู้ดี

เมื่อคิดถึงเรื่องที่นางยังคงรอคอยการขึ้นครองราชย์ของอ๋อง ตวน อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจนาง

อันหลิงหยุนหันหน้าไปมองกงชิง อยากจะรู้ว่าเขามีสีหน้า เช่นไร แต่ดูเหมือนเขาจะกำลังจมอยู่ในความคิดอะไรสักอย่าง อยู่ ก้มหน้าก้มตาคิดเรื่องบางอย่างอยู่

เขาดึงมือของนางมา ตอนนี้เองเขาค่อยๆใช้นิ้วโป้งถูไปถูมา

บนมือของนางเบาๆ

คิดว่าคงจะรู้สึกตกใจเช่นกัน

ฮ่องเต่ชิงอยู่มีบุตรยาก แต่เซียวกุ้ยเฟยเพิ่งจะเข้าวังมาไม่ถึง สองเดือน ทั้งสองตำหนักก็ทรงพระครรภ์ทั้งคู่ เช่นนี้จะไม่ให้ตกใจได้กระไร?

เป็นเพราะทรงพระโสมนัส ฮ่องเต้จึงพระราชทานรางวัลเป็น อาหารลงมาหลากหลายอย่าง อันหลิงหยุนมีลาภปากแล้ว

งานเลี้ยงจบลง ทุกคนต่างแยกย้าย เหล่าข้าราชบริพารที่อยู่ ในตำแหน่งสูงเหล่านั้น ต่างก็มีสีหน้าที่แตกต่างกันออกไป

อันหลิงหยุนเดินตามกงชิงไปด้วยความแปลกใจ ปล่อยให้

เขาจูงมือไป

นางเดินไปพลางบ่นพึมพำไปพลาง: “หรือแม้แต่ราชครูจุน และเงินเฉินเสี้ยนก็ไม่รู้เรื่องนี้?”

อันหลิงหยุนสังเกตเห็นว่าพวกเขาต่างก็ไม่รู้เรื่อง

กงชิงวี่พูดเบาๆ : “ถ้าหากเรื่องที่แม้แต่ข้าเองก็ยังไม่รู้ เช่นนั้น พวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้รู้แน่นอน”

อันหลิงหยุนแสดงสีหน้าตกใจ: “ท่านเก่งกาจขนาดนั้นเชียว

หรือ?”
“ข้าไม่เก่งกาจหรอกหรือ?” กงชิงวี่แสดงสีหน้าภูมิใจ แววตา ที่มองอันหลิงหยุนเต็มไปด้วยการหยอกล้อ อันหลังหนอง เขาอย่างเบื่อหน่าย: “หน้าไม่อาย!

“อืม!”

กงชิง พยักหน้า แสดงให้เห็นว่าอันหลังหยุดลูก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ