หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน

บทที่ 126 ค่าร้องไม่ประสบความสำเร็จ



บทที่ 126 ค่าร้องไม่ประสบความสำเร็จ

บทที่ 126 คำร้องไม่ประสบความสําเร็จ

วันรุ่งขึ้น อันหลิงหยุนออกมาจากจวนอ๋องเสียน ทันทีที่ออก มานางก็ได้ยินว่าซ๊อคงเลี้ยงได้รับตำแหน่งขุนนางสำคัญใหม่ อีกครั้ง ไม่เพียงเท่านี้ แต่เดิมที่เป็นเสนาบดีกรมโยธาธิการ ตอนนี้กลับได้เลื่อนเป็นเสนาบดีสําหนักตรวจสอบราชการ กล่าวคือเขาได้รับการเลื่อนตำาแหน่ง

ถึงแม้เสนาบดีสำหนักตรวจสอบราชการการจะจัดเป็น เสนาธิการเช่นกัน และเบื้องบนจะยังมีสมุหราชเลขาธิการ ถึงทุกฝ่ายจะแบ่งงานกันอย่างชัดเจน แต่เมื่อเข้าไปเป็น เสนาบดีสำหนักตรวจสอบราชการและกลายเป็นสมุหราช เลขาธิการ เช่นนี้ก็ถือได้ว่าเทียบเท่ากับเฉิงเสี้ยงแล้ว

แม้ตำแหน่งในราชสำนักจะไม่เท่าเฉิงเสียง แต่ก็มีโอกาสได้ รับการเลื่อนตำแหน่งได้เท่ากับเฉิงเสียง อีกทั้งทั้งสามสำนักก็ อยู่ภายใต้ฮ่องเต้โดยตรง เช่นนี้ก็เท่ากับเข้าใกล้ฮ่องเต้ไปอีก ครั้ง สําหรับขุนนางในราชสำนักแล้ว การได้เข้าไปในสำหนัก ตรวจสอบราชการก็เท่ากับการได้รับตำแหน่งระดับสูง ท้ายที่ สุดเฉิงเสียงในราชวงศ์หลี่ก็มีเพียงไม่กี่คน การที่จะสามารถ เข้าใกล้ตำแหน่งเฉิงเสียงได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
อันหลิงหยุนเดินไปบนถนนรอบหนึ่งอย่างสบายๆ ก่อนจะ

กลับไปที่จวนอ๋องเสียน

เพิ่งมาถึงประตูนางก็เห็นคนรับใช้ยืนอยู่ที่นั่น

คนรับใช้พอเห็นอันหลิงหยุนก็รีบเดินไปหานางทันที เขา ยกมือขึ้นและโค้งคำนับอย่างนอบน้อม คนรับใช้เอ่ย “ข้าน้อย ได้รับคำสั่งให้มาเชิญพระชายาไปยังจวนซือคง”

“วันนี้ไม่สะดวก วันอื่นเถอะ วันหลังข้าจะไป” เมื่ออันหลิงหยุ นคิดไปถึงเรื่องแผนการที่กระทำต่อสองสามีภรรยาซือคง นาง ก็ยิ่งรู้สึกลำบากใจ

คนรับใช้มาเชิญนาง แต่นางไม่คิดจะไป

แต่คนรับใช้กลับไม่ยอมไปไหน ก่อนที่จะมาเขาได้เตรียมการ ในสมองมาแล้ว ดังนั้นเขาจะไม่กลับไป

“พระชายา สุขภาพของฮูหยิงแก่ไม่ค่อยดีนัก ยาที่ท่านให้ ฮูหยินในครั้งที่แล้วเหลือไม่มาก สองวันมานี้จึงอาการไม่สู้ดี พระชายาโปรดไปดูหน่อยเถิดคนรับใช้พูดพลางเช็ดน้ำตา

อันหลิงหยุนสงสัยจริงๆ คนรับใช้พูดว่าจริงหรือโกหก
หลังจากคิดเรื่องนี้ อันหลิงหยุนก็ตกลงที่จะไปกับเขา

คนรับใช้รอนางอยู่ข้างนอก อันหลิงหยุนกลับไปในจวนอ๋อง เสียนเพื่อเตรียมยารักษา จากนั้งจึงไปยังจวนซือคงพร้อมกับ

เขา

เมื่อมาถึงประตูจวนซือคง อันหลิงหยุนก็ลงจากรถ นางเงย หน้าขึ้นมองคำว่าจวนเสนาธิการ และเห็นว มีคนรับใช้ยืนอยู่ที่

ประตู

เมื่อเห็นคนรับใช้และอันหลิงหยุน พวกเขาก็รีบเข้ามาทันที

คนรับใช้นอบน้อมต่อคนรับใช้อย่างยิ่ง เมื่อเห็นคนรับใช้ ก็รีบ

เรียกว่าคุณชายน้อย

อันหลิงหยุนพอจะเข้าใจแล้วว่าซือคงเสียงได้รับการเลื่อน ตำแหน่ง คนที่เหลืออยู่ข้างกายเขาก็มีเพียงคนรับใช้ตัวเล็กๆ คนนี้เท่านั้น

เมื่อกลับไปที่ราชสำนักอีกครั้ง แน่นอนว่าย่อมไม่ลืมผู้ภักดี

อีกทั้งซื้อคงเลี้ยงและภรรยาไม่มีบุตร คนรับใช้คนนี้ทุ่มเท เพื่อพวกเขา พวกเขารับเป็นบุตรก็นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี
อันหลิงหยุนมองไปที่คนรับใช้ เขายังคงใส่เสื้อผ้าของคนรับ ใช้ แต่กลับดูแตกต่างจากเมื่อก่อน เขาในตอนนี้ดูเป็นคนใจ กว้างมากกยิ่งขึ้น

“นี่คือพระชายาเสียน ถวายบังคมพระชายาเสียน” คนรับใช้ เอ่ย คนรับใช้อื่นๆ จึงรีบทำความเคารพนางทันที

อันหลิงหยุนพาหงเถากับลุ่ยหลิ่วมาด้วย พวกเขาจึงคำนับทั้ง คู่ด้วยเช่นกัน

“พระชายาเสียนเป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของจวนเรา พวก เจ้าจงปรนนิบัตินางให้ดี” คนรับใช้พูด คนรับใช้ที่ประตูรีบ พยักหน้าตอบรับทันที

“พระชายาเชิญ” คนรับใช้เชิญอันหลิงหยุนเข้าไป จากนั้น อันหลิงหยุนจึงพบกับฮูหยิงซือคง

วันนี้ฮูหยิงซือคงเปลี่ยนชุดที่นางสวมใส่ นางเป็นภรรยาของ ขุนนาง เมื่อแต่งตัวอย่างเป็นทางการขึ้นมาก็ช่างสง่าและสูงส่ง อย่างยิ่ง

“ข้าน้อยถวายบังคมพระชายาเสียน

อันหลิงหยุนเพิ่งจะเข้าประตูไป ฮูหยิงซือคงก็ออกมาจากด้านในเพื่อคำนับ อันหลิงหยุนรีบเดินเข้าไปพยุงนางขึ้นมา

ทันที

“ข้ามกล้า ฮูหยินอย่าได้ทำเช่นนี้

ประคองฮูหยิงซือคงขึ้นมา อันหลิงหยุนก็พยายามฝืนยิ้มบน

ใบหน้า

นางรู้สึกผิด!

ฮูหยิงซือคงจับมืออันหลิงหยุนเอาไว้ “จวนซือคงติดค้าง พระชายาแล้ว การคำนับนี้ของข้าพระชายารับไว้ได้

“ที่ไหนกัน ฮูหยิงซือคงเจียมเนื้อเจียมตัวเกินไป ฮูหยินเป็นฮ หยินหลวงขั้นที่ 1 ตัวข้าแม้จะอยู่ในตำแหน่ง แต่เมื่อเทียบกับฮู หยินแล้วมิอาจนับเป็นอะไรได้ ฮูหยินอย่าได้พูดเช่นนี้เลย”

ฮูหยินหลวงขั้นที่ 1 กงชิงวิเคยบอกเอาไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แล้ว เพียงแต่ไม่ได้ประกาศต่อสาธารณะ แต่วันนี้เมื่อเห็นซือ คงอูหยินแต่งตัวเช่นนี้ เช่นนั้นย่อมแปลว่าได้รับบัญชาลงมา แล้ว

แม้ว่าอันหลิงหยุนจะไม่รู้ว่ากงชิง ทำสิ่งนี้ได้กระไร แต่นางก็ชื่นชมเขาอย่างยิ่ง

ตราบใดที่กงขิง พูดแล้ว เขาย่อมทำได้อย่างแน่นอน

ผู้ชายคนนั้น ยังมีความสามารถอีกมาก

เขาไม่กลัวแม้กระทั่งฮ่องเต้ด้วยซ้ำ ยังจะไปกลัวอะไรได้อีก?

เกรงว่าก๊กอู๋ใหญ่ผู้นั้น คงจะไม่ได้ผ่านคืนวันไปด้วยดีแล้วแน่

เรื่องเสนาบดีกรมโยธาธิการนี้ ถึงจะไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ อะไร แต่ก็ทำให้เขาขุ่นเคืองไปแล้ว

ในอนาคต เกรงว่าคงไม่พ้นที่จะตกเป็นเป้า

“พระชายาถ่อมตนเกินไป อาการป่วยของข้าเป็นท่านที่รัก ษ นายท่านสามารถกลับไปเป็นเสนาบดีสำหนักตรวจสอบ ราชการนั่นก็เป็นเพราะความกรุณาของพระชายา วันนั้นที่ข้า ไปหาที่จวนอ๋องเสียนก็รู้ว่าพระยาชาต้องลำบากแรงกายแรง ใจแล้ว ความกรุณาของพระชายา ข้าไม่มีวันลืม พระราชวัง ฉันรู้ว่าพระชายามีเจตนาดีฉัน จะไม่มีวันลืมความเมตตาและ คุณธรรมขอวันหลัง หากพระชายามีเรื่องอะไรต้องการให้ข้าช่วยเหลือ หรือเกี่ยวกับเรื่องของซ๊อคงเสียง ข้าและซ๊อคงเส้

ยงจะช่วยท่านจนตัวตายแน่นอน

ฮูหยิงซ๊อคงกล่าววไปนางก็จะคุกเข่าลง แต่ถูกอันหลิงหยุน

ประคองเอาไว้ก่อน

“ฮูหยินอย่าทำเช่นนี้

อันหลิงหยุนช่วยพยุงฮูหยิงซือคงขึ้นมา “ฮูหยินรู้เรื่องนี้มาตั้ง นานแล้ว เหตุใดจึงไม่เปิดโปง?”

เรื่องของเขื่อนตูฟ่างจุ้น ถือเป็นเรื่องที่ทำให้นายท่านปวดใจ เรื่องหนึ่ง ข้ามีใจที่จะขอร้องเขา ให้เขากลับไป แต่เขากลับดื้อ รั้นและปฏิเสธ หากข้ายังคงไม่สนใจ เช่นนี้ชีวิตของผู้คนก็จะ ถูกแขวนอยู่ภายใต้เขื่อนดูฟางงัน เขาก็จะยิ่งกินไม่ได้นอนไม่ หลับ”

อันที่จริง ท้ายที่สุดไม่ช้าก็เร็วเขาต้องกลับไป แต่เขาแค่โกรธ เขาเป็นเสนาบดีสหนักตรวจสอบราชการมาถึงยี่สิบปี ไม่มี รางวัลแต่ก็ลงแรงกายแรงใจไป แต่เรื่องเขื่อนดูฟางจุ้น ฮ่องเต้ กลับรังแกเขา”

อันหลิงหยุนตกตะลึง นางมองไปรอบๆ และโบกมือให้หงเถา ลุ่ยหลิ่วล่าถอยออกไป คนรับใช้เองก็เข้าใจเช่นกัน คำพูดนี้ไม่ควรมีใครได้ยิน ดังนั้นเขาจึงรีบถอยออกไป

เมื่อปิดประตูลงอันหลิงหยุนและฮูหยิงซือคงจึงเริ่มพูดคุยกัน

หลังจากทานอาหารค่ำอันหลิงหยุนก็กลับไป อีกทั้งยังเป็น เวลามืดค่ำแล้ว

ก่อนที่จะออกจากจวนอ๋องเสียนมานางได้ฝากฝังพ่อบ้าน เอาไว้ นางมาที่จวนซือคง หากท่านอ๋องกลับมาให้รายงานก็ พอแล้ว

เมื่ออันหลิงหยุนลงจากรถม้า นางก็เห็นกงชิงวี่ที่กำลังรอนาง อยู่ที่ประตู เขาแต่งกายด้วยชุดสีดำ แขนเสื้อกว้าง ด้านบนปัก ลวดลายมังกร

อันหลิงหยุนประหลาดใจไปชั่วครู่ วันนี้เขาแต่งตัวจริงจัง อย่างยิ่ง!

แต่ว่าพอเห็นเขายืนรอที่ที่นั่น นางก็รู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง

คนหนึ่งรอคอยอีกคนคือความสุข การรอคอยคนผู้หนึ่งมาถึง

คือความสุข รอไม่ได้คือโชคร้าย
นางเดินไปยังตรงหน้าของกงชิงวี่ อันหลิงหยุนคำนับเขา “หม่อมฉันถวายบังคมท่านอ๋อง”

กงชิง มองนางอย่างสำรวจครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกันหลังกลับ เข้าไปในจวน โดยมีอันหลิงหยุนเดินตามเข้าไป

นางคิด ไม่มีรอยยิ้มเกิดขึ้น หรือว่าซือคงเลี้ยงจะเจอเรื่องยุ่ง ยากในราชสํานักเข้าให้แล้ว

หลังจากเข้าไปในจวนกงชิงก็ถามนางเกี่ยวกับเรื่องจวนซือ คง อันหลิงหยุนจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนให้กงชิงฟัง

“เจ้าพูดว่า ฮูหยิงซือคงรู้ตั้งนานแล้วว่าพวกเราแสดงละคร กัน?” กงชิงวถาม

“นางบอกว่าในตอนแรกนางคิดขึ้นมาได้อยู่บ้างแต่ก็ยังลังเล กระไรก็ตามเมื่อนางเห็นท่านอ๋องตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนและ เข้ามาอุ้มข้า นางจึงค่อยเข้าใจว่าเรื่องนี้มีบางอย่างผิดปกติ แต่ ก็ไม่ได้เปิดโปงอะไร ซือคงเสียงนั้นจำเป็นต้องมีวิธีที่ดีในการก ลับไปยังราชสำนัก

อีกทั้งท่าทีที่ท่านอ๋องมีต่อข้า ช่วยตอกย้ำความคิดของฮูหยิง ซือคง” อันหลิงหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน
กงชิง เข้าไปยังลานโอวหลานและหยุดลง เขาหันกลับมา มองอันหลังหยุน “เหตุใดจึงพูดเช่นนั้น?

“ฮูหยิงชื่อคงรู้จักชื่อคงเลี้ยงตั้งแต่นางยังเด็ก นางบอกว่า พวกเขาตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ แต่นางเกิดในครอบครัวที่ มีชื่อเสียงและมีพื้นฐานทางครอบครัวที่โดดเด่น แต่ตอนนั้นซือ คงเสียงกลับเป็นเพียงช่างไม้ผู้หนึ่งเท่านั้น

ด้วยสถานะเช่นนี้แน่นอนว่าย่อมไม่เหมาะสม แต่ว่าฮูหยิง ซือคงกลับไม่ยอมแพ้ จนกระทั่งซื้อคงเลี้ยงอายุสามสิบปีได้ เข้าไปเป็นขุนนางในราชสำนัก นางถึงค่อยแต่งให้กับเขา เนื่องจากในตอนนั้นนางอายุมากแล้ว ครอบครัวของนางรู้สึก ว่าการส่งนางแต่งงานออกไปก็ถือเป็นการแก้ปัญหาใหญ่ ปัญหาหนึ่งลง

กระไรก็ตาม หลังแต่งงานนางได้บุตรทายาท แต่เดิมซือคงเสี้ ยงสามารถรับภรรยารองเข้ามาได้ แต่กลับปฏิเสธเพราะนาง

พวกเขาสามีและภรรยามีความรักหนักแน่นลึกซึ้ง อีกทั้งยังมี ความรู้สึกที่ดีต่อความรักล้ำลึกระหว่างชายหญิง

ฮูหยิงซือคงกล่าวว่า นางซาบซึ้งอย่างยิ่งกับวิธีที่ท่านอ๋อง ปฏิบัติต่อข้า และจึงเชื่อว่าท่านอ๋องทรงไว้วางใจได้ ดังนั้นพวกนางจึงทบทวนใหม่อีกครั้งเรื่องการกลับเข้าราชสำนัก”

“อ๋อ?” กงชิงตอบกลับด้วยคำเดียว จากนั้นจึงหันหลังกลับ

ห้องไป

อันหลิงหยุนตามไปกับเขา ประตูถูกปิดลง กงชิงกอดนาง จากด้านหลัง อันหลิงหยุนกุมมือของเขาเอาไว้และพยายาม ดึงมันออก แต่กลับถูกเขาอุ้มขึ้นมาจนนางตกใจ

“ท่านกำลังทำอะไร? ”

“ข้าจะ

บทที่ 121 สามีภรรยาห้ามยุ่งเกี่ยวกัน

หลังจากเข้าประตูแล้ว อันหลิงหยุน ก็ไปพบฮูหยิงแก่ วันนี้ ฮูหยิงแก่ดูดีขึ้นมาก เมื่อเห็นหน้าอันหลิงหยุนแล้วก็พยักหน้า ให้น้อยๆ

อันหลิงหยุนเข้าไปดูอาการให้นางก่อน

“วันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานมาก หากใช้ยาต่อไป อีกในหนึ่งเดือน ท่านก็จะดีขึ้น ก็ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถควบคุมเอาไว้ได้” อันหลิงหยุนมองไปที่ลุ่ย หลิ่ว ลุ่ยหลิ่วใส่หน้ากากที่อันหลิงหยุนเตรียมไว้ และเข้าไป ดูแลด้วยตัวเอง

“สิ่งนี้จะช่วยได้กระไร?” ฮูหยิงแก่ไม่ยินยอม กลัวว่าจะติดต่อ ไปยังคนอื่น

อันหลิงหยุนเอ่ย “ในเมื่อข้ามาแล้ว ย่อมมิอาจเพิกเฉยได้ ข้า เป็นหมอ ท่านเป็นคนป่วย ดังนั้นท่านต้องเชื่อฟังข้า

“ได้”

ฮูหยิงแก่เหลือบมองไปที่ซือคงเสียงที่ยืนอยู่กุมมือประสาน กันอยู่ที่ประตูด้วยความรู้สึกล้ำลึก

ซือคงเสียงหันหลังกลับและออกไปข้างนอก เมื่อวานอันหลัง หยุนไปสอบถามมาแล้ว พวกเขาสามีภรรยาไม่มีบุตรธิดา ช่าง น่าสงสารอย่างยิ่ง ดังนั้นถึงได้ตกต่ำมาถึงจุดนี้

เกิดเรื่องขึ้น แม้กระทั่งความหวังเพียงเล็กน้อยยังไม่มี

ช่วงเช้าใกล้จะผ่านพ้นไป หน้าประตูจวนของซือคงเลี้ยง มีคน กลุ่มหนึ่งมาเยือน เกิดเป็นเสียงดังวุ่นวายขึ้นมา
อันหลังหยุนกำลังคุยกับฮูหยิงแก่อยู่ หงเถาที่อยู่ด้านนอกก็ วิ่งเข้ามา พระชายา ท่านอ๋องมาที่นี่แล้วเพคะ”

“นี่ออกจะไม่มีอยู่บ้างแล้ว จะจับขาไม่เห็นจะต้องมาด้วยตัว เอง” สีหน้าของอันหลิงหยุนอึมครึม นี่มันมากเกินไปแล้ว

“ไม่ใช่ ท่านอ๋องเสด็จมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ราวกับว่ากำลัง มาหาท่านซ๊อคงเสี้ยง” หงเถาคิดเช่นนี้

อันหลิงหยุนแปลกใจ หรือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานจะมีส่วน เกี่ยวข้องกับซ๊อคงเสียง?

ซ๊อคงเลี้ยงเป็นรองเสนาบดีกรมโยธาธิการแต่เดิมอยู่ภายใต้ ความดูแลของกรมโยธาธิการ แต่เขาถูกลดตำแหน่งเพราะ เรื่องเขื่อนตูฟางจุ้น หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้น?

หลิงหยุนและฮูหยิงแก่พูดคุยสองสามคำและเดินไปที่ประตู เพื่อดู แต่นางไม่ได้ออกไป ทำแค่เพียงมองดูจากตรงประตู เท่านั้น

กงชิงวี่สวมชุดของราชสำนัก ดูออกว่าเขามายังที่นี่ทันทีหลัง จากออกมาจากวัง แม้กระทั่งรองเท้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยน

คนที่อยู่ด้านหลังเขาเหล่านั้น ล้วนอยู่ในชุดราชสำนักเช่นกัน บ่งบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของราชสํานัก

ในเวลานี้ กงชิง กำลังพูดอะไรบางอย่างกับซ๊อคงเสียง แต่ ใบหน้าของซ๊อคงเลี้ยงนั้นเยือกเย็นอย่างยิ่ง และดูไม่ได้ใส่ใจ กับเรื่องนี้แต่อย่างใด ยากนักที่กงชิงจะมีความอดทนเช่นนี้ เขาเอ่ยพูดต่อ แต่ซือคงเสี้ยงทำเพียงแค่ขับไล่ผู้คนออกไป ด้วยใบหน้าที่เย็นชาเช่นเดิม

กงชิงวี่กำลังคิดจะออกไป แต่มองเห็นอาหยูที่กำลังรอคนอยู่

อาหยูรีบเข้าไปพบเขา กงชิงหันกลับไปมองเจ้าหน้าที่ที่ตาม มา และมองไปยังห้องตรงด้านหนึ่ง สีหน้าของอันหลิงหยุน สลดลง และเดินออกไปอย่างหมดหนทาง

“หม่อมฉันถวายบังคมท่านอ๋อง” อันหลิงหยุนย่อตัวคํานับ กง ชิงวี่เอามือไพล่หลังและยืนตัวตรง ท่าทางสง่างาม แต่ความ สงสัยในดวงตาของเขานั้นชัดเจนอย่างยิ่ง

ทำไมพระชายาถึงได้ออกมาอีกแล้ว?” คุมเอาไว้ไม่อยู่แล้ว?

“ทูลท่านอ๋อง เมื่อวานหม่อมฉันบังเอิญพบกับน้องชายผู้หนึ่ง ด้านนอก เห็นเขากำลังร้องห่มร้องไห้จึงได้ตามมาดูจากนั้นจึงพบกับฮูหยิงแก่ของจวน ทั้งตัวของนางกำลังติดเชื้อ วัณโรค ดังนั้นจึงได้มาดู” อันหลิงหยุนตอบตามความเป็นจริง

กงชิง เงยหน้าขึ้นและมองเข้าไปในห้อง “ข้าจะไปดู”

เชิญท่านอ๋อง”

อันหลิงหยุนเปิดทางให้เขา ซือคงเสียงยกมือขึ้นคิดที่จะห้าม แต่กงชิงวี่กลับก้าวเข้าไปก่อนแล้ว

ระหว่างทางเขามองดูอันหลังหยุนที่อยู่ข้างกาย แต่อันหลัง หยุนไม่ได้เอ่ยพูดอะไร

ถ้านางช่วยเหลือ นั่นแปลว่าช่วยคนอย่างมีเป้าหมาย หาก นางไม่ช่วย เขาก็ดูคล้ายจะรับมือลำบากอย่างยิ่ง

เมื่อเข้าไปในห้อง หงเถาและลุ่ยหลิ่วก็รีบน้อมตัวคำนับ

อันหลิงหยุนนำหน้ากากมาให้กงชิง “ท่านอ๋องโปรดสวมมัน เอาไว้”

“ไม่จําเป็น ข้าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” กงชิงวี่เดินไปพบฮูหยิงแก่ และทักทายนาง

“สวัสดีฮูหยิน”

ฮูหยิงแก่มองไปที่กงชิง และกล่าวว่า “ร่างกายคนชราไม่ สะดวก อ๋องเสียนโปรดอภัย

“ไม่ใช่เรื่องสําคัญ ข้าแค่ถือโอกาสมาดู คิดซะว่าข้าเป็น เหมือนคนอื่นๆ ก็พอ”

กงชิง นั่งลงทันที และเอ่ยอย่างลำบากใจ “แต่เดิมข้าไม่ได้ สนใจเรื่องนี้ อีกทั้งยังไม่รู้เรื่องบางอย่างของราชสํานักเบื้อง บน เรื่องของเสนาบดีสำนักตรวจสอบราชการนั้นข้าเองก็รู้สึก ผิดอย่างยิ่ง ฮูหยินโปรดรักษาตัวให้ดี ข้าจะคิดหาหนทาง จัดการตาแหน่งให้เสนาบดีสํานักตรวจสอบราชการและ หยิน”

“ขอบพระทัยเสียนอ๋อง”

ฮูหยิงแก่กล่าวขอบคุณ กงชิงเองก็ไม่ได้พูดอะไร เขาลุกขึ้น

และออกไปข้างนอกโดยไม่พูดอะไรอีก

อันหลิงหยุนอดไม่ได้ที่จะมองแผ่นหลังของเขาที่จากไปด้วย ความแปลกใจ คนๆนี้ช่างที่น่าสนใจจริงๆ
เข้าใจอย่างยิ่ง แต่เมื่อเขายิ่งเข้าใจ เรื่องนี้กลับยิ่งยากที่จะ

จัดการ

หลังทานอาหารเย็นเสร็จอันหลิงหยุนก็ค่อยออกจากจวนซือ

นางออกจากจวนและขึ้นรถม้า จากนั้นจึงตรงกลับไปยังจวน อ๋องเสียน

ในเวลานี้เองกงชิงกำลังยืนรออยู่ที่ประตู อันหลิงหยุนเมื่อ เห็นเขา ก็รีบเข้าไปกุมมือของเขาเอาไว้ และทำการตรวจสอบ เขาทันที

เมื่อแน่ใจว่าเขาไม่ได้ติดเชื้อนางก็ยังไม่ค่อยวางใจ นางหยิบ ยาลูกกลอนสําหรับป้องกันโรคขึ้นมาและป้อนให้กับเขา ถึง ค่อยรู้สึกโล่งใจ

“ท่านอ๋อง หรือเรื่องที่ท่านพบจะเกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำ?” อัน หลิงหยุนถามเขา กงชิงจับมือนางเอาไว้

“หากวันนี้ไม่มีความดีของพระชายา ข้าคงต้องใช้ไม้อ่อน หว่านล้อม วันหนึ่งไปหาเจ็ดแปดครั้ง ภายในสามวัน ข้าก็จะสา มารถบอกซื้อคงเสียงให้ไปได้ด้วยอารมณ์และเหตุผล แต่วันนี้ คงไม่ดีนักที่ข้าจะไปอีกครั้ง”
กงชิง กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

ถ้าอย่างนั้นท่านก็ยังคงไปต่อของท่าน ข้าก็ไปของข้า พวก ” เราไม่ยุ่งเกี่ยวกัน” อันหลิงหยุนกอดแขนของกงชิงเอาไว้ และพิงลงบนตัวเขา

กงชิง หยุดนิ่งชั่วครู่ จากนั้นจึงมองไปที่ด้านซ้ายและขวา หง เถาลุ่ยหลิ่วรีบถอนตัวออกไปทันที อาหยูเองก็ไม่กล้าที่จะอยู่ ต่อ เขารีบหันหลังและจากไปอย่างรวดเร็ว

“ช่างไม่ละอาย” จนกระทั่งคนจากไป กงชิงก็ประณามนาง

อันหลิงหยุนหดหู่ “ท่านกอดข้าเอาไว้ท่ามกลางที่สาธารณะ อีกทั้งยังไม่พูดถึงเรื่องที่ท่านทั้งดึงทั้งหยุดข้าเอาไว้ ข้ากอด ท่านข้าก็ไม่อายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นขาเองก็ไม่ได้กอดตัวท่าน เอาไว้ ข้าก็แค่กอดแขนท่านเท่านั้น ท่านกำลังคิดอะไรอยู่ กัน?”

“ข้าเป็นบุรุษ เจ้าเป็นสตรี สตรีเดิมก็ควรสงวนกิริยาไว้บ้าง จะ มาจู่โจมกอดผู้อื่นก่อนต่อหน้าคนอื่นได้กระไร? * กงชิงวี่เอา เหตุผลมาพูด

อันหลิงหยุนได้ยินเพียงไม่กี่คำเท่านั้นคือ ผู้ชายเป็นใหญ่
“งั้นข้าปล่อยก็จบแล้ว”

หลิงหยุนปล่อยมือและเดินเอามือไขว้หลัง

กงชิงวี่เดินตามไป จากนั้นจึงยื่นมือออกไปจับมือของนางเอา ไว้ และรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและดึงอันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนรู้สึกขบขัน ผู้ชายโบราณนี้ช่างผิดปกติอยู่บ้าง

จริงๆ

ใครดึงใครเอาไว้แล้วทำไมกัน?

แต่นั่นทําให้เขาภูมิใจ

เมื่อกลับเข้ามาในห้อง อันหลิงหยุนก็พูดเรื่องเก่าอีกครั้ง พรุ่งนี้ท่านจะไปจวนซือคงหรือไม่?”

“ข้าไม่อยากไป” กงชิงวี่ต้องการหาวิธีอื่น

“ท่านไปยังคงดีกว่า ถ้าหากท่านไม่ไป ข้าก็จะยิ่งถูกระแวง มากขึ้น ท่านไปของท่าน ข้าไปช่วยของข้า หากซือคงเสียง บอกว่าตกลงก็แปลว่าเขาตกลง หากไม่ตกลงก็คือไม่ตกลง
ไม่ว่าจะกระไรข้าล้วนไม่เข้าไปแทรกแซง มีเพียงวิธีนี้ ถึง พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้าได้ มิเช่นนั้นขาคงได้กลายเป็น คนร้ายที่วางแผนไป

อันหลังหยุนกล่าวขณะที่เอื้อมมือไปปลดคอเสื้อของกงชิง และช่วยเขาปลดเสื้อผ้าลงมา

“วันนี้กลับช่างฉลาดนัก” กงชิงเอยอย่างอารมณ์เสีย

“เมื่อคืนท่านอ๋องยังไม่ได้ส่งน้ำอสุจิ วันนี้คิดจะส่งแล้ว อัน หลังหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เจ้าพูดได้ดี”

กงชิงวอุ้มอันหลิงหยุนไปบนเตียง ค่ำคืนแห่งฤดูใบไม้ผลิ ล้ำค่าเฉกเช่นพันตำลึงทอง ดังนั้นเมื่อขึ้นไปบนเตียงแล้วอัน หลังหยุนก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป

เมื่อถึงยามเช้าอันหลิงหยุ่นรู้สึกปวดเอว นางลงจากเตียงและ นวดไปบนตัว จากนี้ไปอย่าได้ไปยั่วโมโหเขาอีกเลยจะดีกว่า

หลังออกจากจวนนางก็ตรงไปยังจวนซือคง เมื่อถึงประตูอัน หลังหยุนก็ลงจากรถม้าและเห็นว่าคงชิงกำลังยืนรออยู่ที่ประตูพร้อมกับผู้คน ประตูใหญ่ถูกปิดสนิท ไม่ยอมให้เขา

สองคนสบตากัน อันหลิงหน คำนับคงชิง ท่านอ๋อง”

พระชายาไม่ต้องสนใจช้าวันนี้ที่ข้ามาเป็นเรื่องของ ทางการ” คำพูดนี้เอ่ยเพื่อบอกคนด้านหลัง

“เช่นนี้หม่อมฉันขอตัวก่อนเพคะ” อันหลังหยุนเดินไปที่ประตู

อาหนูเข้าไปเคาะประตูสวน

หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนรับใช้มาเปิดประตู เมื่อเห็นเป็นอัน หลังหมุนก็รีบเชิญเข้าไป

จากนั้นประตูก็ปิดลง

อันหลังหยุมจัดการเรื่องเสร็จ เป็นเวลาเที่ยวก็ขอตัว

ฮูหยิงแก่เรียกนางเอาไว้ “พระชายาโปรดรอก่อน”

อันหลังหยุนหันไปมองฮูหยิงแก่ และน้อมตัวคำนับ

“ฮูหยิงแก่”
“พระชายาเกรงใจแล้ว พระชายา ท่านจะไม่เอ่ยอะไรกับข้า หน่อยหรือ?” ฮูหยิงแก่มีเรื่องบางอย่างอยู่ในใจและรอให้อัน หลังหมุนพูดเอง แต่นางกลับไม่ได้พูดมันออกมา อีกทั้งยังจะ จากไปอีกด้วย

“ข้าไม่มีอะไรอยากจะพูด ฮูหยิงแก่โปรดวางใจดูแลรักษาตัว ขาของท่านอีกไม่กี่วันก็จะสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว” อันหลัง หนพูดจบก็หันหลังจากไป

เมื่อออกมาจากประตูก็เห็นซือคงเสียงกำลังเหม่อลอยอยู่ใน ส่วนท่าทางดูแตกต่างออกไป

“นายท่าน

อันหลังหยุนเริ่มทักท่านก่อน ซื้อคงเสียงหันมามองนางอยู่ ครู่หนึ่ง “ข้าสมควรขอบคุณท่าน เป็นท่านที่ทำให้ภรรยาของข้า ไม่ต้องทนลำบากขนาดนั้นอีกแล้ว

“ข้าเป็นหมอ นี่เป็นเพียงหน้าที่เท่านั้น นายท่านไม่จำเป็นต้อง ใส่ใจ” อันหลิงหยุนเอ่ยเสียงเรียบ

ซือคงเสียงหัวเราะ “แต่ในปีที่ผ่านมานี้ กลับไม่มีหมอสักคนที่ เข้ามา”
อันหลิงหยุนฟังเข้าใจอย่างชัดเจน เขาคิดว่าการปรากฏตัว ของนางมีจุดมุ่งหมายบางอย่าง

“นั่นเป็นเพราะพวกเขาโชคไม่ดี ข้าเชื่อว่า การกระทำในวัน นี้ คือพรที่จะส่งไปยังท่านพ่อในอนาคต สวรรค์มีเมตตาต่อทุก สรรพสัตว์ และจะต้องอวยพรให้แก่ตัวข้าด้วยอย่างแน่นอน อีกทั้งตัวข้าเองก็เพียงแค่หวังอยากให้ท่านพ่อของข้ามีอายุ ยืนยาวไร้ความกังวล

ซือคงเลี้ยงไม่ได้ตอบ อันหลิงหยุนรู้ว่าเขาไม่เชื่อ นางเองก็ ไม่ได้พูดอะไรมาก จากนั้นจึงหันหลังหลับและเดินไปที่ประตู

ออกจากประตูไปอันหลิงหยุนก็ทันไปคำนับให้แก่กงชิงวี่ จาก นั้นจึงตรงไปขึ้นรถม้าและจากไปทันที

คนที่ตามมารู้สึกค่อนข้างแปลกใจ สามีภรรยาคู่นี้ผลัดกันมา

พระชายาอยู่ในนั้นตั้งนาน เหตุใดจึงไม่มีข่าวอะไร?

กงชิงวี่ยังคงรอต่อไป ซือคงเสียงเดินไปที่ประตูและมองออก

ไปข้างนอก

ช่วย เขาเคยเอ่ยไปแล้วว่าจะไม่เข้าไปลำบากแรงใจกับเรื่องของราชสํานักอีก ไม่ช่วย เขาก็จะได้เห็นภรรยาของเขาดี

ขึ้นมาด้วยตัวเอง

ช็อคงเลี้ยงกลับไป ฮูหยิง อคงเอ่ย นายท่าน ท่านดูขาของ

ข้าสิ

ฮูหยิง อคงขยับขา จากนั้นจึงเคลื่อนตัวไปข้างหน้า นางลุก จากเตียงและลงมายืน แม้ว่ามือทั้งสองของนางจะยังจับขอบ เตียงเอาไว้ แต่นางก็ยืนได้แล้ว

สีหน้าของซ๊อคงเสียงตกตะลึง “ฮูหยิน! เจ้าสามารถลงมาได้ แล้วหรือ?”

“ใช่!” ฮูหยิงซ๊อคงน้ำตาซึม เป็นเวลาสามปีแล้ว ในที่สุดนาง ก็ลงมาได้ นางเคยคิดว่าทั้งชีวิตนี้นางจะต้องเป็นเช่นนั้นไป ตลอดเสียแล้ว

อคงเสียงรีบเดินไปตรงหน้าฮูหยินของตน จากนั้นจึงประ คองฮูหยิงซื้อคงเอาไว้และเช็ดน้ำตาให้นาง

“นายท่าน ข้ารู้ว่าท่านไม่อยากทํางานให้กับราชสำนักอีกต่อ ไป เป็นพวกเขาที่รังแกท่าน แต่พระชายาช่วยพวกเราเอาไว้

ท่านจงถือเรียกว่าเป็นการตอบแทน ใจนางเถอะ”
ซือคงอดไม่ได้ที่จะร้องขอ ซื้อคงเลี้ยงรู้สึกลำบากใจ “ข้า ไม่ใช่ไม่ช่วย แต่เมื่อคิดคิดมาก็โมโห นางมาที่นี่เพราะวางแผน เอาไว้แล้วล่วงหน้า หากไม่ใช่เรื่องเขื่อนตูฟางจุ้นนางจะมาที่นี่ หรือ?”

“นายท่าน แต่ขากลับคิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ” ฮูหยิงซือคง รู้สึกว่าอันหลิงหยุนไม่ได้เป็นคนเจ้าเล่ห์เช่นนั้น

“ใครจะรู้? ” ซือคงเลี้ยงช่วยประคองภรรยาของเขานั่งลง สองสามีภรรยาก็นั่งลงบนเตียงอย่างเหม่อลอย

อันหลิงหยุนออกมาจากจวนแล้วก็ยังไม่ได้กลับไปทันที นาง คิดจะไปหาตุ๊กแก

แต่เมื่อคิดว่าออกไปแล้วอาจจะต้องลำบากอาหยูอีก นางจึง ไล่อาหยูกลับไป และออกไปด้วยตัวเอง

ลุ่ยหลิ่วไม่กล้าที่จะฝ่าฝืน ดังนั้นจึงได้แต่เข้าไปห้ามอาหยูเอา ไว้ จากนั้นอันหลิงหยุนจึงแต่งตัวเป็นผู้ชายและออกไปนอก เมือง เพื่อตามหาตุ๊กแก

ระหว่างทางอันหลิงหยุนมักจะรู้สึกว่ามีคนติดตามนาง แต่เมื่อ นางมองย้อนกลับไปก็ไม่เห็นใคร เมื่อเวลาผ่านไปนางก็ยิ่งรู้สึก แปลกๆ นางมีความรู้สึกไวมาโดยตลอด คราวนี้จะต้องไม่ผิดพลาดแน่ แต่เป็นใครที่ตามมานั้น นางกลับยังไม่พบ

ที่ริมน้ำ อันหลิงหยุนหยุดลง นางรู้สึกได้ถึงคนที่อยู่ด้านหลัง ทันใดนั้นอันหลิงหยุนก็หันกลับมาและมองไปไม่ไกล มีชายคน หนึ่งยืนอยู่ที่นั่น อีกทั้งนางก็รู้จักเขา

นับตั้งแต่กงชิงวี่เห็นอันหลิงหยุน ในใจของเขาพลันเหม่อ ลอย แม้ว่าเขาจะได้ยินคำพูดของอันหลิงหยุนอยู่บ้าง แต่ส่วน มากก็ไม่ได้ฟังใส่อะไร

สิ่งที่เขาคิดมีแค่การส่งน้ำอสุจิเท่านั้น

“ช่างหน้าไม่อาย” อันหลิงหยุนถูกวางลง เสื้อผ้าของนางขาด ออกจากกัน ดวงตามีเสน่ห์ของกงชิงเต็มไปด้วยอารมณ์ เขา

ก้มลงและดึงนางเอาไว้

อันหลิงหยุนทั้งเตะและถีบ เมื่อเห็นว่าผลักไม่ไปจึงได้แต่ ยอมแพ้

ด้านนอกประตูอาหยูเหมือนมองเข้าไปด้านใน จากนั้นจึง โบกมือให้หงเถาและลุ่ยหลิ่วล่าถอยไป
หงเถาหยหลิ่วจากไป อาหยูเดินออกไปคนเดียวด้วยความ เหม่อลอย อาซิวยังคงอยู่ในคุกใต้ดิน หากยังไม่เข้าไปจัดการ เกรงว่าคงไม่รอดแล้วแน่

กงชิง ตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปยังราชสำนัก อันหลิงหยุน ลุกขึ้นจากเตียงด้วยร่างกายที่อ่อนล้าและง่วงงุน นางสวมเสื้อ คลุมตัวยาวสีขาว ด้านในใส่ตู้โตว(ผ้าปิดหน้าอกสีแดง)นางไม่ ชอบแต่งตัวแบบนี้ แต่หากไม่ใส่ นางก็ต้องเปลือย

หงชิง ด้านหนึ่งจัดการด้านหนึ่งเอ่ยถาม “มีเรื่องหรือ?”

อันหลิงหยุนง่วงนอนจนไม่สามารถลืมตาได้ แต่เดิมนาง วางแผนที่จะพูดก่อนเข้านอน แต่พอหลับไปแล้วนางกลับนึก ขึ้นมาได้จึงได้แต่ลุกขึ้นมา

นางเดินไปตรงหน้าของกงชิงวี่ อันหลิงหยุนช่วยจัดเสื้อผ้า ราชสำนักให้เขา “เรื่องของอาซิว ถือเสียว่าท่านฮ่องประทาน ความเมตตาเถอะ มิเช่นนั้นก็ให้ข้าคุกเข่าให้ท่านก็ได้

ใบหน้าของกงชิง มืดลง “ความทรงจําสั้นนัก! ”

…..” อันหลังหยุนเศร้าโศก ความจำของนางดีกว่าใครๆ ทั้ง

นั้นแต่มีบางคนไม่ยอมปล่อยไป
อา…”

กง งวี่เพิ่งจะเปิดปาก อันหลังหยุนกวางมือบนปากของกงชิง วี่ และปิดกั้นสิ่งที่เขาต้องการจะพูดเอาไว้

ดวงตาของกงชิง เย็นชา อันหลังหยุนยืนเขย่งเท้าและจูบริม ฝีปากของเขา นางเกาะร่างของนางไว้กับเขา มือของกงชิง ยกขึ้นและกอดอันหลังหยุนเอาไว้

วงแขนของเขาโอบล้อมนางเอาไว้ ตัวนางแอบสนิทไปกับ อกของเขา และเพลิดเพลินไปกับท่าทางออดอ้อนราวกับลูก ตะขอของอันหลิงหยุน

หลังจากจูบไปสักพัก อันหลิงหยุนก็ผละออก

ผู้ชายคนนี้ช่างไม่น่าสนใจ นางพยายามเกลี้ยกล่อมเขาแทบ ตาย แต่เขาไม่แม้แต่จะขยับ

“ท่านอ๋อง หากอาซิวฆ่าข้า และท่านอ๋องไม่มีข้า ท่านอ๋องจะ

เป็นเช่นไร?”

อันหลิงหยุนค่อยๆ ก้าวเข้าไปทีละก้าวๆ แขนของกงชิงวี่เกร็ง ขึ้น ใบหน้าของเขาเย็นชาอย่างยิ่ง “หึ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ