หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน

บทที 133 จุนฉูฉูขอละเว้นโทษ



บทที่ 133 จุนฉูฉูขอละเว้นโทษ

เมื่อมองเห็นนางกงชิงวี่หน้าเข้ม เดินมาข้างหน้าดึงนางแล้วก็ไป

อันหลิ่งหยุนพบว่าฝ่ามือของกงชิงวี่มีเหงื่อออก ผลิกฝ่ามือกง ชิง มาเช็ดเหงื่อให้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กงชิงวี่มองแวบเดียวกลับไปที่อันหลิงหยุน ถึงแม้จะมองแบบ อารมณ์ไม่ดีนัก แต่เม้มริมฝีปากไม่ได้พูดอันใด ท่าทางเหมือนจะ กลัวจริงๆ เขาคงรู้สึกกังวลมาก

อันหลิงหยุนไม่สามารถอธิบาย ทำได้แค่ใช้สายตาปลอบ ประโลม กงชิงวี่ดึงเอาคนไปที่พระตำหนักจรุงจิต

“ฝ่าบาท หานางเจอแล้ว ” กงชิงวี่ยกมือคารวะ ฮ่องเต้ชิงหยู่มอง ลงมาแวบหนึ่ง ดูไม่สบอารมณ์

พระชายาเสียน ทำไมเป็นเจ้าทุกครั้ง เจ้ากับพวกอ๋องเสียน “ เข้ามาด้วยกัน ทำไมมีแต่เจ้าที่หายไป พระตำหนักจรุงจิตข้าเล็ก ใหญ่ก็มีแค่นี้ เจ้าก็ยังสามารถหาที่ซ่อนได้?

เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่พอใจ อันหลิงหยุนรู้สึกหมด

หนทาง ทําเป็นทองไม่รู้ร้อนเก่งจริง ตัวเองเป็นคนเรียกข้าไปเองแท้ๆ

ทูลฝ่าบาท เมื่อกี้หม่อมฉันโกรธมาจากข้างนอก ตอนที่เข้ามา คิดจะฟ้องฝ่าบาท เมื่อเห็นทางเดินก็เดินตรงเข้าไปเลย หม่อม ฉันคิดว่าจะได้พบฝ่าบาทให้ฝ่าบาทขอความเป็นธรรม คิดไม่ ถึงว่าพอเงยหน้าขึ้นก็ถึงวิหารบรรทมรองพระตำหนักจรุงจิต

หม่อมฉันก็ไม่รู้ว่าไปได้กระไร เดินวนอยู่ข้างในรอบหนึ่ง กว่า จะหาทางกลับมาได้ก็เสียเวลาไปจริงๆ” คำอธิบายของอันหลิง หยุนทำให้อ๋องตวนไม่พอใจ

อันหลิงหยุน นี่เจ้าหมายความว่าอย่างอันใด ตัวเองหลงทางเอง กลายเป็นความผิดข้าหรือ?” อ๋องตวนรู้สึกไม่เป็นธรรมและโกรธ มาก

อันหลิงหยุนไม่พูดอันใด

ฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่สบอารมณ์ “เกี่ยวอันใดกับเจ้ารึ?”

.. อ๋องตวนรู้ตัวว่าพูดผิดไป เลยไม่พูดอันใดอีก

ฮ่องเต้ชิงหยู่เพิกเฉยความจริงที่ว่าอันหลิงหยุนเดินผิดที่หลง ทางโดยตรง กล่าวถาม “ใครทำให้พระชายาเสียนโกรธ จะฟ้อง ร้องใคร” “ทูลฝ่าบาท ไม่กี่วันก่อนหม่อมฉันไม่สบาย นอนซมไปหลาย วันเพิ่งจะได้ออกมา วันนี้เข้าวังอยากเข้าเฝ้าน้อมทักทายเสด็จ แม่ ท่านอ๋องเห็นว่าหม่อมฉันเพิ่งหายดี ตอนลงจากรถม้าเลยอุ้ม หม่อมฉันลง ไม่คิดว่าอ่องตวนจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ทําให้เสื่อมเสีย เกียรติ ต่อว่าหม่อมฉันไปไม่กี่คำ

หม่อมฉันรู้สึกไม่สบายใจ ปกติอ๋องตวนต่อหน้าลับหลังคนก็ พัวพันอยู่กับพระชายาตวน ทั้งยังกอดกันไปมาเป็นเรื่องปกติ เขาไม่ว่าตัวเอง แต่มาว่าหม่อมฉัน

นี่ไม่ใช่อย่างที่ตาเราว่าไว้ อนุญาตให้เขาจุดไฟทั้งภูเขาแต่ไม่ อนุญาตให้ข้าจุดตะเกียง? ”

“กล้าปรักปรำข้า ” อ๋องตวนชี้ที่อันหลิงหยุน กงชิงวี่ดึงอันหลิง หยุนไว้ มองไปทางอ๋องตวน สีหน้าได้เปลี่ยนไปแล้ว

อ๋องตวนรู้เหตุผลตัวเป็นรอง เห็นสีหน้ากงชิงวี่ไม่พอใจ ถึงยอม หันกลับไป

“ฝ่าบาท ข้าจะไปน้อมทักทายเสด็จแม่ ทูลลาก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

กงชิง โค้งคํานับ ดึงอันหลิงหยุนเดินออกไปข้างนอก อันหลิง หยุนรีบร้อนคํานับฮ่องเต้ชิงหยู่ “หม่อมฉันทูลลา

รอคนออกไปแล้วฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปทางอ๋องตวนกงชิงหยิน “อ๋องตวน มีเรื่องที่พระชายาเสียนกล่าวมาหรือไม่?”

ฮ่องเต้ชิงหยู่สีหน้าเคร่งขรึม ถึงแม้อ่องตวนจะเป็นที่โปรดปราน ของฮ่องเต้ชิงหยู่แต่เด็ก แต่ต่อหน้าพระพักตร์เขาก็ไม่กล้าปิดบัง

ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันแค่ทนดูไม่ได้ เลยกล่าวตักเตือนไปใคร จะคิดว่านางจะเจ้าคิดเจ้าแค้น” อ๋องตวนรู้เหตุผลตัวเป็นรอง เวลาพูดจึงดูไร้น้ำหนัก

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองอ๋องตวนสักครู่อย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าก็ไม่รู้ จะว่าเจ้ากระไรดี

พระชายาตอน เจ้าออกไปก่อน ข้าต้องอบรมเขาให้ดี วันนี้ฮั้ว ไทเฟยบ่นถึงเจ้าอยู่ ไปน้อมทักทายซะ ”

“หม่อมฉันน้อมรับเพคะ” จุนฉูฉูมองอ๋องตวนครู่หนึ่ง ขอตัวทูล ลา ถอยกลับออกไป

ประตูปิดลงฮ่องเต้ชิงหยู่กวาดหินหมึกที่อยู่บนโต๊ะลงไป อ๋องต วนเงยหน้าขึ้นมองสักครู่ จากนั้นก็ก้มหัวลง

ไม่ได้กลัวฮ่องเต้ชิงหยู่ แต่เขารู้ว่าครั้งนี้เขาทำไม่ถูกจริงๆ

ถึงแม้เขากับฮ่องเต้ชิงหยู่จะไม่ได้เกิดจากแม่เดียวกัน แต่ ฮ่องเต้ปฏิบัติต่อเขาเหมือนน้องแท้ๆ อันใดที่อ่องเสียนมีเขาก็มี ด้วย อ่องเสียนเป็นน้อง เขาก็เป็นน้องเหมือนกัน

ที่ผ่านมาฮ่องเต้ปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียมมาตลอด น้อยครั้งที่ฮ่องเต้จะโกรธเกรี้ยวอย่างวันนี้

ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินลงจากแท่นสูง เดินไปหน้าอ๋องตวน “เจ้ารู้หรือ ไม่พระชายาตวนกับอ๋องเสียนเป็นเพื่อนรักในวัยเด็ก?”

“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ”

อ๋องตวนไม่ได้เป็นคนโง่ เขาแค่ชอบจุนฉูฉูมาก เลยไม่อยาก สนใจเรื่องนี้

“ถึงแม้ว่าพระชายาเสียนจะก่อกวนจนกลายเป็นพระชายาเสีย น พระชายาตวนแต่งงานกับเจ้าไป

แต่เรื่องนี้หากอ๋องเสียนยืนยันไม่ยินยอม วันนี้เจ้าจะได้แต่งกับ พระชายาตวนหรือ” ฮ่องเต้ชิงหยู่สีหน้าเคร่งขรึม

ไป อ๋องตวนส่ายหัว “ไม่ได้แต่ง ข้าไม่แย่ง ถ้าเขาไม่ยอม ก็ไม่ อาจจะได้สมใจหวัง”

เจ้ายังไม่ถือว่าเลอะเลือน เสด็จพ่อมีลูกชายแค่สามคน ข้าเกิด “ มาก่อน ถูกสถาปนาให้เป็นองค์รัชทายาท ตั้งแต่วันที่เริ่ม เป็นองค์รัชทายาทก็ต้องแยกจากพวกเจ้าไป เรียนรู้วิถีการเป็น พระราชา แต่เจ้าทั้งสองอายุไล่เลี่ยกัน เรียนการอ่านเขียนมา พร้อมกัน อยู่ด้วยกันมาหลายปี

ความผูกพันแบบไหน นิสัยเป็นกระไร เจ้ายังไม่เข้าใจหรือ?

ถึงแม้จะเขาไม่พูด แต่เขาถือว่าพระชายาตวนเป็นคนขอเขา

นานแล้ว

แต่เพราะเจ้าชอบ เขาเลยยอมถอยก้าวหนึ่ง เจ้าคิดจริงๆหรือว่า อันลือซานกับข้าจะเข้าไปยุ่งพลการ ข้าจะแยกคนที่มีความรัก ต่อกันได้

อ๋องตวนตะลึง “ฝ่าบาท?”

“ตอนแรกข้าไม่คิดจะบอกเจ้าเรื่องนี้ แต่วันนั้นที่เขาบอกข้า ข้า ก็ตกใจมากเช่นกัน ถามเขาถึงเหตุผล เขาบอกว่า ฉูฉูอยากจะ แต่งกับเจ้า เจ้าเองก็ชอบฉูฉู เป็นการแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ

เขาเอาของเขาให้เจ้า ทำไมเจ้าถึงไม่คิดจะยอมให้เขาหน่อยล่ะ

การแต่งงานของเจ้ากับอ๋องเสียน แต่เดิมก็เป็นความต้องการ ของทั้งสองวังอยู่แล้ว หากเจ้าไม่ได้แต่งกับจุนฉูฉู จุนฉูฉูแต่งกับ อ๋องเสียนไป เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าต้องแต่งกับใคร? อ่องตวนคิดสักพัก ตื่นตกใจ “อันหลังหยุน?”

“ฮี เจ้ายังไม่ถือว่าโง่” ฮ่องเต้ชิงหยู่หันกลับไปบนแท่นสูง นั่งลง บนบัลลังก์มังกรมองอองตวนด้วยความไม่พอใจ

อ่องตวนยังคิดว่าอาจจะโชดดี “บ้านอื่นก็มีลูกสาว เสด็จแม่อาจ จะไม่ทำแบบนี้ก็ได้”

“เจ้ายังจะมาเลอะเลือนกับข้า หากอ่องเสียนกลายเป็นเขย ตระกูลจุน แม้อ่องเสียนจะไม่ชอบยุ่งเรื่องการแบ่งพรรคแบ่ง พวกในราชสำนัก ฮั่วไท่เฟยจะปล่อยให้เจ้าไม่มีผู้หนุนหลัง? เจ้า อาจจะไม่มีใจชิงบัลลังก์ แต่ฮั่วไท่เฟยอาจคิดก็ได้ เจ้าคิดว่าข้า ไม่รู้จริงๆหรือ?

“ฝ่าบาท”

อ๋องตวนยกชายกระโปรงเสื้อคุกเข่าลง พูดเรื่องนี้ออกมา นั่น ถือเป็นโทษถึงประหารชีวิตแล้ว

ถึงแม้ฮ่องเต้จะไม่ตั้งใจได้ แต่เขาจะไม่ได้ตั้งใจไม่ได้

ฮ่องเต้ชิงหยู่เบือนหน้าออก “ข้าไม่มีใจในบังบัลลังก์นี้มานาน แล้วติดตรงที่ต้องทำเพื่อราษฎรทั่วหล้าเลยยังอยู่ตรงนี้ อ๋องเสีย นอายุน้อยอ่อนประสบการณ์ เจ้าก็อายุน้อยอ่อนประสบการณ์ หรือจะให้ข้ายกบัลลังก์ของข้าให้ผู้อื่น วิญญาณ บรรพบุรุษบนสวรรค์จะนอนตายตาหลับได้หรือ หรือจะบอกว่า เสด็จพ่อจะไม่โทษข้า?”

อ๋องตวนก้มหน้าไม่พูดอันใด

ฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวต่อ “เพื่อเจ้าแล้ว เขาถึงได้แต่งงานกับอัน หลิงหยุน ข้าไม่รู้ว่าในน้ำเต้าของเขาขายยาอันใด แต่ก็พอจะ เดาได้เจ็ดแปดส่วน เขาก็คงคิดว่ารอให้อันหลิงหยุนเข้าบ้านก่อน แล้วก็คงหาทางจัดการกับอันหลิงหยุน

เสียดายเขาคิดผิดไป เด็กคนนั้นดวงแข็งมาก อีกอย่างแม่ทัพ อันมีหรือจะยอมปล่อยเขาไป

ถึงตอนนี้เขาจะยอมรับชะตากรรมก็ดี ไม่ยอมรับก็ช่าง เจ้ายัง จะไปก้าวก่ายอีก หรือเจ้าคิดว่าเขายังถูกรังแกไม่พอ?

ยังอันใดเจ้าก็เป็นพี่ชาย เจ้าจะนำเอาเรื่องเล็กพวกนี้กลับบ้าน ไปไม่ได้หรือ?

บางครั้งข้าก็คิด เขาก็พอมีความสามารถอยู่ ถ้าข้าไม่อยู่แล้ว เขาจะช่วยให้เจ้านั่งบัลลังก์นี้ได้อย่างมั่นคงนี่ก็ถือเป็นโชคดีของ ประเทศต้าเหลียง แต่วันๆเจ้ากลับไม่คิดถึงความก้าวหน้า เป็น อ๋องตวนดีๆไม่ชอบ เจ้ามัวหมกมุ่นอยู่แต่กับผู้หญิง เจ้าจะทำลาย บัลลังก์ของข้า หรือจะให้ข้าอกแตกตายทั้งเป็น ฮ่องเต้ชิงหยู่ตบบัลลังก์มังกรด้วยความโมโห อ่องตวนจึงตอบ ไปว่า “ฝ่าบาท ข้าก็ไม่อยากเป็นฮ่องเต้”

ฮ่องเต้ชิงหยู่โมโหจนหีออกมาคำหนึ่งด้วยความเย็นชา

อ๋องตวนกล่าวต่อ “ฝ่าบาทยังหนุ่มแน่นอยู่ในช่วงวัยที่ดีที่สุด เวลานี้ฮองเฮากับเซียวกุ้ยเฟยก็ทรงพระครรภ์ ข้ายินดีจะช่วย เหลือองค์ชายทั้งสองพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าไม่อยากให้พวกเขาเป็นฮ่องเต้ แล้วเจ้ากับอ๋องเสียนต้องมี คนหนึ่งมาเป็นฮ่องเต้”

“ฝ่าบาท………………อองตวนไม่อยากเป็นจริงๆ

ฮ่องเต้ไม่อยากฟัง ลุกขึ้นกล่าวว่า “พอแล้ว ไปหาฮั่วไท่เฟย เถอะ ได้ยินมาว่าพักนี้อันกั๋วกงไปสามสี่ครั้งแล้ว บอกแต่จะ ยกเลิกงานแต่งทั้งวัน อันกั๋วกงยังมาหาข้าอีก ข้าบอกปัดแล้ว บอกปัดอีก ถ้าเจ้าไม่อยากให้ฮั่วไท่เฟยโกรธ ก็อย่าไปสร้าง ความรำคาญอันกั๋วกงอีก

เจ้าเป็นถึงท่านอ๋องผู้ทรงเกียรติ จะให้พระชายารองคนหนึ่งมา ยกเลิกการแต่งงาน เจ้าไม่คิดอับอาย ข้ายังรู้สึกไม่มีหน้าไปกับ เจ้าด้วยเลย ประเทศต้าเหลียงเรามีอ่องแค่สองคน ปล่อยให้พระชายาพระ ชายารองยกเลิกงานแต่งทั้งวัน พวกเจ้าทําให้ข้าเสียหน้าหมด แล้ว

ฮ่องเต้พูดจบก็เดินจากไป อ๋องตวนลงขึ้นจากพื้นอย่างอึดอัดใจ อันกั๋วกงต้องการยกเลิกงานแต่ง?

จุนฉูฉูเดินเข้าประตูก็ถูกชั่วไท่เฟยกล่าวโทษไปรอบหนึ่ง พอ ฮั่วไทเฟยคิดถึงเรื่องที่สองสามวันมานี้อันกั๋วกงมาหานางเพื่อยก งานแต่ง นางก็ยิ่งโกรธไปอีก

ท่านอ๋องผู้ทรงเกียรติ จะให้พระชายารองคนหนึ่งมายกเลิกงาน

แต่ง

หลังจากนี้ไปคนที่ฐานะทางสังคมในราชสำนักยังจะมีลูกสาว บ้านไหนแต่งกับอ๋องตวนอีก

โดยเฉพาะอันกั๋วกงมาร้องเรียนที่นี่ บอกว่าปกติอ่องตวนก็ไม่มี ความน่าเกรงขามอันใดอยู่แล้ว ตอนอยู่ข้างนอกยังต้องฟังพระ ชายาชี้ไม้ชี้มือสั่งนั่นนี่อีก

อันกั๋วกงกล่าวสั้นๆแต่มีความหมายชัดเจนว่าอ๋องตวนน่าสมเพช ไม่เอาไหน ครั้งนี้จุนฉูฉูก็รู้สึกผิดอยู่มาก ปากหวานพูดดีเรื่องตอนอยู่ใน จวนอ๋องเสียน พลักเรื่องทุกอย่างไปให้อันหลิงหยุนในครั้งเดียว

ฮั่วไท่เฟยก็ไม่ใช่คนโง่ นางเข้าวังตั้งแต่อายุสิบกว่า ในสภาพ แวดล้อมที่ไร้ญาติมิตร โดดเด่นท่ามกลางเหล่านางสนมมากมาย ยังสามารถแบ่งปันใต้หล้ากับฮองเฮาอย่างสง่าผ่าเผย ต้องไม่ใช่ เพราะนางบังเอิญโชคดีแน่

ตอนแรกฮั่วไท่เฟยไม่ได้โกรธอันใดมาก พอจุนฉูฉูแก้ตัวแบบ นั้นก็ทำยิ่งโกรธเข้าไปอีก

ยกเอาถ้วยชาโยนออกไป จุนฉูฉูไม่ทันได้หลบเลี่ยง ถ้วยชา โยนมาโดนหัวนาง น้ำร้อนที่ร้อนมากลวกบนหัวจนพุพอง จุนฉูฉู ร้องตะโกน กุมหัวเจ็บจนสั่น

ฮั่วไท่เฟยลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้นอนกุ้ยเฟย สองข้างมีคนนำผ้า คลุมมาคลุมให้นางทันที หลายวันก่อนฮั่วไท่เฟยรู้สึกไม่สบาย นอนพักอยู่ตลอด วันนี้ถือว่านางได้ระบายความโกรธ

จุนฉูฉูคุกเข่าลงทันที “เสด็จแม่อย่าทรงกริ้ว ลูกสะใภ้ผิดไป แล้ว”

“ผิด ?เจ้าผิดตรงไหน? ” ฮั่วไท่เฟยเป็นแค่สนม และยังไม่ได้ เป็นพระชายาเอกเหมือนฮองเฮา ที่นี่คือวังหลวง ถ้าอยู่นอกวัง นางก็เป็นแค่พระชายารองสนมคนหนึ่ง

นางเกลียดคนที่ดูถูกพระชายารองที่สุด ความรู้สึกที่จุนฉูฉูให้ นาง ก็คือการดูถูกนางที่เป็นนางสนม

หยุนโล่ชวนเป็นคนที่นางคัดเลือกมาอย่างดีเพื่อมาเป็นพระ ชายารองให้กับลูกชาย หากจุนฉูฉูเข้ามาขัดขวาง นางไม่ยอม ปล่อยไปแน่ๆ

จุนฉูฉูครุ่นคิดสักครู่ “หม่อมฉันไม่ควรทำตัวเป็นใหญ่ต่อหน้า คนนอก และยังปัดความรับผิดชอบอีก”

“เจ้าก็เข้าใจนิ ข้ารู้ ตระกูลจุนเจ้ามีอำนาจ แต่ว่าเจ้าแต่งกับอ๋อง ตวนแล้ว ก็เป็นคนของอ๋องตวน ทำอันใดต้องเห็นแก่อ๋องตวนเป็น หลัก

หยินเอ๋อของข้า ในวันข้างหน้าจะมีอนาคตที่ไร้ขอบเขต จะให้ เจ้ามาจำกัดได้กระไร หากเจ้าไม่อยากเป็นพระชายาเอก ข้าจะ บอกราชครูจุน ส่งเจ้ากลับไปเอง”

ฮั่วไท่เฟยสีหน้าบึ้งตึง จุนฉูฉูดีก็จริงอยู่ แต่ลูกสาวตระกูลจุนมี เยอะแยะ หากนางไม่รู้ความ คงทำได้แค่ให้นางหย่า

นางสามารถทำให้ราชครูจุนส่งคนมาให้ได้ ก็สามารถทำให้ ราชครูจุนส่งคนอื่นมาได้เช่นกัน พระชายาตวนไม่ขาดพระชายาเอก ที่ขาดคือสะใภ้จากตระกูล

จุนต่างหาก

ไม่อยากเป็นพระชายาเอก แม้แต่พระชายารองก็ไม่ให้เจ้าได้ เป็น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ