หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน

บทที่ 114 ใครเป็นปีศาจร้ายกันแน่



บทที่ 114 ใครเป็นปีศาจร้ายกันแน่

บทที่ 114 ใครเป็นปีศาจร้ายกันแน่

ตอนนี้อ๋องตวนกำลังมองจนฉุนอยู่ ถึงแม้จนฉูฉูจะมีสีหน้าไม่

ค่อยดี แต่กลับไม่ได้พูดอะไร

ตอนนี้อ๋องตวนเองก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดปลอบใจกระไรดี ในเมื่อ เรื่องการสู่ขอพระชายารองเป็นเรื่องที่นางคิดขึ้นมาเอง ตอนนี้ ถึงเขาจะอยากขอโทษนาง ก็ไม่รู้ว่าจะใช้ข้ออ้างกระไรดี

รถม้าวิ่งตรงมาทางจวนอ๋องตวน ตลอดทางทั้งสองคนไม่ได้

พูดคุยอะไรกัน คนมาถึงด้านหน้าประตูของจวนอ๋องตวน จนฉ

จึงเปิดปากพูด

“ท่านอ๋อง วันนี้ข้าคิดถึงท่านแม่แล้ว อยากจะกลับไปดูสัก

หน่อย ท่านกลับไปก่อนเถอะ”

จนฉูฉูอยากจะกลับไปถามราชครูจน ว่าเรื่องนี้จะทำเช่นไร

ดี?”

อ๋องตวนรู้สึกกังวล: “เช่นนั้นให้ข้าไปกับเจ้าด้วยเถอะ”
“ไม่เป็นไรเพคะ ท่านอ๋องกลับไปก่อนเถอะ หม่อมฉันจะรีบ ไปรีบกลับ” จนฉูฉูมองออกไปนอกรถม้า แล้วสั่งว่า: “เชิญท่าน อ๋องกลับจวน”

คนที่อยู่ด้านนอกรถม้าไม่กล้าเรไร รีบเปิดผ้าม่านของรถม้า รอให้อ๋องตวนลงจากรถม้า อ๋องตวนไม่มีทางเลือก จึงได้ลงมา จากรถม้า

ผ้าม่านของรถม้าถูกปล่อยลง จนฉูฉกลับไปที่ตระกูลจุน

อ๋องตวนยืนอยู่ที่ด้านหน้าประตูจวน แล้วมองดูรถม้าที่เคลื่อน ตัวไกลออกไป อย่าได้มีความรู้สึกใดๆ อย่าได้สูญเสียรอยยิ้ม

ไป

การได้ขึ้นเป็นฮองเฮา สำหรับนางแล้วนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ มาก สำหรับเขาผู้ซึ่งเป็นสามีนั้น ในสายตาของนางไม่คุ้มค่าที่

จะกล่าวถึงแล้ว

ก่อนจะเข้าวังนางยังอยู่ดีมีสุขอยู่ แต่เมื่อได้ยินว่าทั้งสอง

ตำหนักมีข่าวดี นางกลับขวัญหนีดีฝ่อ จึงได้มองเขาเป็นไอโง่

แล้วจริงๆ

รถม้าของจนมาถึงจวนจน ลงจากรถม้าเตรียมตัวที่จะ เข้าไปข้างใน พ่อบ้านของจวนจนก็เดินออกมาจากด้านในเมื่อเห็นจนฉูฉก็รีบเดินเข้าไปหา แล้วจึงทำความเคารพ: “พระ ชายาตวน หม่อมฉันถวายบังคมพระชายาตวน

“พ่อบ้านไม่ต้องมากพิธี ที่ข้ามาวันนี้ ก็เพื่อที่จะมาพบท่าน พ่อ เขาอยู่บ้านหรือเปล่า?” จนเห็นราชครูจนออกมาจากวัง ตอนนี้คงจะต้องอยู่บ้านแน่นอน

“ทูลพระชายา ท่านราชครูยังไม่กลับมาพ่ะย่ะค่ะ หากมีเรื่อง อะไรรับสั่ง ฝากความไว้ก็ได้ รอท่านราชครูกลับมา หม่อมฉัน

จะไปเรียนให้ทราบ

จนฉูฉูหน้าซีด: “พ่อบ้าน ไม่เชิญข้าเข้าไปหรือ?”

“พระชายา เชิญเสด็จกลับไปเถอะพ่ะย่ะค่ะ!” พ่อบ้านไม่ได้

สนใจ

จุนฉูฉูถอยหลังมาหนึ่งก้าว รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

จนฉูฉกลับจากจวนจนไปยังจวนอ๋องตวน เกิดความโกรธ เกลียดขึ้นขณะที่อยู่ในรถม้า เรื่องนี้จะให้จบแบบนี้ไม่ได้

หากไม่สามารถพบกับท่านพ่อได้ นางก็ไม่พบแล้ว หากถึง เวลานั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ไม่ใช่ความผิดของนาง
เรื่องที่จวนอ๋องตวนจะขอพระชายารอง ลือสะพัดไปทั่ว เมืองหลวงอย่างรวดเร็ว อันหลิงหยุนกำลังดูหนอนหรือไม่อยู่ ในห้องของนาง สีหน้าไม่ได้แสดงความประหลาดใจเลยแม้แต่

น้อย

คิดผลที่จะเกิดขึ้นออกตั้งนานแล้ว ขอเพียงแค่ไม่ได้ให้กงชิง วี่สู่ขอพระชายารอง เรื่องอื่นนางก็สามารถทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

ได้

หงเถาถามว่า: “พระชายา ท่านไม่ทรงรู้สึกเป็นห่วงบ้างหรือ

เพคะ?”

สาวใช้สนิทสนมกับอันหลิงหยุนแล้ว รู้ว่าอันหลิงหยุนเป็นเจ้า นายเอาใจง่าย คอยอยู่ต่อหน้าพระชายาทุกวันก็มีความสุข แล้ว ใจกล้ามากขึ้นแล้ว มีเรื่องอะไรที่ไม่เข้าใจก็กล้าที่จะเอ่ย มากถามอันหลิงหยุน

แต่อันหลิงหยุนกลับรู้สึกขำ: “ให้ข้าเป็นห่วงเรื่องอะไรกัน?

“พระชายาทรงแต่งเข้ามาพร้อมกับพระชายาอ๋องตวน ตอน นี้พระชายาอ๋องตวน เป็นเพราะไข้ทับระดูไม่สามารถตั้งครรภ์ ได้ จึงต้องจัดการเรื่องแต่งตั้งพระชายารองขึ้น หากว่ากันตาม เหตุผล ท่านก็ควรจะเป็นห่วมิใช่หรือเพคะ?” หงเถาทำหน้างง แต่เมื่อมองพระชายากลับไม่มีสีหน้าตื่นตระหนกเลย

แม้แต่น้อย

อันหลิงหยุนอดไม่ได้ที่จะชื่นชม ในสมัยโบราณเช่นนี้ แม้แต่ สาวใช้ยังมีความเฉลียวฉลาดเช่นนี้ นางซึ่งเป็นถึงพระชายา กลับไม่ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังไม่ฉลาดด้วย ทำ อะไรไม่สําเร็จสักอย่าง แล้วจะใช้ชีวิตต่อไปได้กระไรกัน!

“เรื่องของจวนอ๋องตวนพวกเราคงไม่สะดวกที่จะเข้าไปถาม แต่จวนอ๋องเสียนของพวกเราไม่ใช่ว่าจะต้องเตรียมการเรื่อง การมีลูกหรอกหรือ ช่วงนี้ข้ากำลังศึกษายาที่เร่งให้ตั้งท้อง กิน เข้าไปแล้วก็จะตั้งท้อง เช่นนั้นจะสู่ขอพระชายารองได้กระไร อีกเล่า?” มีลูกก็เท่ากับมีต้นทุนแล้ว

ลุ่ยหลิ่วแปลกใจ: “แต่ว่าหลายวันมานี้ พวกเราเห็นพระชายา เอาแต่เลี้ยงหนอนหรือไม่ ส่วนเรื่องอื่นไม่เห็นว่าจะทรงทำ

อะไรเลย เพคะ”

“ข้ากำลังแอบทำอยู่ อย่าพูดเหลวไหล

สาวใช้ทั้งสองหันมองหน้ากัน ไม่พูดอะไรอีก พระชายาโกหก

เดิมทีคิดว่าไม่ออกไปก็คงไม่เกิดเรื่อง แต่สุดท้ายช่วงบ่ายก็ มีพระราชโองการขององค์ฮ่องเต้ส่งมายังจวนอ๋องเสียน สอง สามวันนี้อันหลุยหยุนรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก คิดว่าคงจะ ไม่มีอะไรเกี่ยวพันมาถึงกงชิงวี่ แต่ตอนนี้พระราชโองการมาถึง แล้ว จึงรู้สึกตื่นตกใจเล็กน้อย

เมื่อเรื่องราวจัดการเสร็จสิ้นแล้ว กงชิงก็ไม่ได้ออกไปไหน

เอาแต่อยู่เล่นกับนกในจวนทั้งวัน

อันหลิงหยุนเพิ่มจะพบว่า ตำแหน่งอ๋องเสียนของกงชิงวี่ที่

แปลว่าสบายนั้น ให้ไม่ผิดคนจริงๆ

สบายมากจริง!

อันหลิงหยุนรับราชโองการแล้ว กงกงก็จากไป นางเปิดอ่าน

ด้านในไม่ได้เขียนไว้อย่างเจาะจงนัก เขียนแค่เพียงว่าต้องการ

เรียกนางเข้าวัง

“ฮ่องเต้ต้องการให้เข้าเฝ้า โดยไม่มีเหตุผลอย่างนั้นหรือ?”

อันหลิงหยุนมองไปที่กงชิง กงชิงวี่วางถ้าวยน้ำชาลง

“ในเมื่อเรียกให้ไปเข้าเฝ้า ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปกับเจ้าด้วย
“อืม”

อันหลิงหยุนเข้าวังพร้อมกับกงชิงวี่ เมื่อมาถึงพระตำหนักจริง จิตก็พบว่าสวีกงกงมายืนรออยู่นานแล้ว เมื่อพบหน้าก็เชิญให้ อันหลิงหยุนเข้าไป: “เชิญพระชายาเสียนด้านใน ส่วนอ๋องเสีย น เชิญรอก่อน”

กงชิงวี่ทำสายตาเย็นชา: “ทำไม ข้าจะเข้าเฝ้าด้วยไม่

ได้หรือ?”

“อ๋องเสียน ฮ่องเต้ทรงต้องการให้พระชายาเสียนตรวจชีพจร ให้แก่ฮองเฮาและเซียวกุ้ยเฟย” สวีกงกงรีบตอบ

อย่างนั้นหรอกหรือ ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปรอที่วิหารบรรทมรอง” “

กงชิงวี่มองอันหลิงหยุนหนึ่งครั้งแล้วจึงหันหลังเดินจากไป

อันหลิงหยุนถอนหายใจหนึ่งครั้ง แล้วจึงตามสวีกงกงเข้าไปใน

พระตำหนักจรุงจิต

วันนี้พระตำหนักจรุงจิตคึกคักเป็นอย่างมาก ฮ่องเต้ชิงอยู่และ

ทั้งสองตำหนักล้วนอยู่

ฮองเฮาเสินหยุนชูนั่งลงอยู่ด้านบนของบัลลังก์มังกร ส่วนด้านล่างเป็นเก้าอี้ของกุ้ยเฟย ซึ่งมีเซียวกุ้ยเฟยนั่งอยู่

เมื่อเห็นฮ่องเต้ชิงหยู่ อันหลิงหยุนจึงรีบเดินเข้าไปหา ยืน อยู่ด้านล่างบันได ยกกระโปรงขึ้นเล็กน้อยแล้วจึงคุกเข่าลง ฮ่องเต้ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆปี ฮองเฮาทรงพระเจริญ พันปี พันๆปี กุ้ยเฟยทรงพระเกษมสำราญ

“ลุกขึ้นเถอะ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสเบาๆ: “วันนี้ที่ให้เจ้ามา ก็เพื่อให้เจ้าตรวจดู

ชีพจรให้กับฮองเฮาและกุ้ยเฟย”

“เพคะ” อันหลิงหยุนพูดพลางถอนสายบัว

สวีกงกงเดินนำขึ้นบันไดไป ขันทีน้อยยกเก้าอี้มาให้ อันหลัง หยุนนั่งลง แล้วตรวจดูชพจรให้แก่ฮองเฮาก่อน

เอานิ้วมือแตะลงบนข้อมือ แล้วจึงเริ่มสแกนโดยอัตโนมัติ อัน หลิงหยุนใจเต้นตึกตัก นางเก็บมือกลับ แล้วหันไปมองฮ่องเต้ ชิงหยู่ ฮ่องเต้ชิงหยู่ยิ้มอย่างสงบ: “เป็นกระไรบ้าง ปกติดีหรือ

ไม่?”

“ปกติเเพคะ ฝ่าบาททรงวางพระทัยเถอะเพคะ โอรสในครรภ์ ของฮองเฮาเป็นปกติ มีแค่เพียงร่างกายที่อ่อนแอเล็กน้อยเท่านั้น จําเป็นจะต้องเสวยของบำรุงเพิ่ม แต่เนื่องจากเพิ่ง จะทรงพระครรภ์ จึงไม่ควรจะบำรุงมากเกินไป จะเสวยอะไรก็ ต้องระมัดระวัง หม่อมฉันกำลังคิดว่าควรจะแนะนำอาหารอะไร

ให้ฮองเฮาทรงเสวยเพคะ

“อืม ไม่เลว ฮองเฮาจำเป็นจะต้องบำรุงเพิ่ม ปกติแล้วข้าก็ ต้องการให้นางกินของบำรุงมากๆ แต่นางไม่ค่อยยอมฟัง ข้า เองก็จนใจ” ฮ่องเต้ชิงหมองฮองเฮาเงินหยุนซู เงินหยุน ค่อยๆก้มหน้าไม่พูดอะไร ฮ่องเต้จึงหันไปมองเซียวกุ้ยเฟย นั่งอยู่ทางด้านล่าง

เช่นนั้นก็ตรวจดูให้เซียวกุ้ยเฟยด้วย”

อันหลยหยุนลุกขึ้นไปตรวจให้เซียวกุ้ยเฟย เมื่อตรวจเสร็จ

อันหลิงหยุนก็ยกมือขึ้นคำนับเพื่อกราบทูล: “ทูลฝ่าบาท ชีพจร ของฮองเฮาและเซียวกุ้ยเฟยเป็นปกติดีทั้งคู่เพคะ”

“อืม สวีกงกง นำสร้อยมือลูกหยกเขียวของข้าเมื่อวานออก มาซิ นำมาตกรางวัลให้แก่พระชายาเสียน” ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้สึกมี ความสุข จึงมอบของรักของหวงให้เป็นรางวัล

“พ่ะย่ะค่ะ” สวีกงกงรีบไปน่าลูกหยกเขียวออกมา แล้วมองให้ แก่อันหลังหยุน
ลูกเขียวหยกอยู่ในมือ อันหลิงหยุนรู้สึกหนักใจมาก จึงรีบ

ขอบพระทัยเพื่อจะได้รีบกลับ

ตอนนี้เองฮ่องเต้ชิงยู่ก็พูดขึ้นว่า “พระชายาเสียน ข้ามีเรื่อง จะถามเจ้า เกี่ยวกับแม่ทัพอัน

“ทูลเชิญถามเพคะฝ่าบาท” อันหลิงหยุนพูดพลางถอน สายบัว

“ช่วงนี้แม่ทัพอันมักจะมาอยู่เป็นเพื่อนข้าบ่อยๆ ข้าเห็นเขาดู หดหู เกรงว่าเป็นเพราะเจ้าแต่งไปจวนอ๋องเสียนทำให้เขารู้สึก โดดเดี่ยว ดังนั้นจึงได้เป็นเช่นนี้ ข้าจึงคิดว่า จะหาภรรยาใหม่

ให้แก่เขาสักคนดีหรือไม่?”

“ฝ่าบาท หม่อมฉันว่าเรื่องนี้ควรจะต้องคุยกันเป็นการส่วนตัว นะเพคะ หม่อมฉันเองก็มีความลับจะกราบทูล

“อย่างนั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นข้าก็อยากรู้แล้วว่าความลับอะไร ฮ่องเต้ชิงหยู่ลุกขึ้นจากบัลลังก์มังกร แล้วค่อยๆเดินลงจาก

บันได

“วันนี้อากาศไม่เลว เดินเป็นเพื่อนข้าสักหน่อยเถอะ” ฮ่องเต่ ชิงหยู่เดินออกมาจากพระตำหนักจรุงจิต อันหลังหยุนเดินตาม

หลังเขาออกมา
สวีกงกงเตรียมที่จะเดินตามออกมาด้วย แต่ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัส ขึ้นทันทีว่า: “ในเมื่อเป็นความลับ แล้วเจ้าจะตามมาทำไม?”

สวีกงกงรีบถอยหลัง: “หม่อมฉันมิกล้า”

เดินขึ้นมาเถอะ ไม่ต้องตามหลังหรอก”

ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินต่อไปด้านหน้า ในใจของอันหลิงหยุนรู้สึก อ้างว้าง ทำไมเรื่องแย่ๆต้องมาเกิดขึ้นกับนางด้วย

เมื่อเดินมาถึงลานตรงกลางพระราชวังที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งผู้คน ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงหันหลังกลับมามองอันหลิงหยุน ด้วยสีหน้า

เคร่งขรึม

“เจ้าคงจะเข้าใจความหมายของข้าดี?” ฮ่องเต้ชิงหยู่เริ่มพูด ขึ้นในตอนนี้ ด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

อันหลังหยุนรีบยกมือขึ้นคารวะแล้วพูดว่า: “หม่อมฉันเข้าใจ พระประสงค์ดี แต่ก็ไม่กล้าที่จะดูแคลนตัวเอง”

“เช่นนั้นข้าจะเป็นคนพูดเอง” ฮ่องเต้ชิงหยู่หันกลับไป ยืน เอามือไขว้หลัง ตอนนี้ฮ่องเต้ชิงหยู่เต็มไปด้วยความเย็นชา ราวกับว่าโลกอันกว้างใหญ่นี้ ก็ยังปิดบังความเยือกเย็นของเขาเอาไว้ไม่มิด

แต่น้ำเสียงของเขายังคงเป็นปรกติ

“ข้าเคยพูดไว้ว่า ข้าอยากให้เด็กคนนี้เกิดจากฮองเฮา แต่ ว่า……ฮองเฮาเสวยยามาหลายปี ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ข้า เองก็รู้สึกว่าไร้ความสามารถ

การที่ให้เซียวกุ้ยเฟยเข้าวัง ถือเป็นหนทางเดียวของข้า ร่างกายของนางยังอ่อนเยาว์ การจะตั้งครรภ์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ดังนั้นข้าจึงอยากให้นางประสูติพระโอรสให้แก่ฮองเฮาหนึ่ง

พระองค์”

ในเมื่อพูดออกมาชัดเจนขนาดนี้แล้ว อันหลิงหยุนก็ไม่กล้า

ที่จะแสร้งทำเป็นไม่รู้ได้อีกต่อไป เรื่องนี้ฮ่องเต้ชิงหยู่คงจะ เตรียมการมาอย่างสมบูรณ์แล้ว

“ฝ่าบาท แต่ว่าเรื่องที่ฮองเฮาไม่ได้ทรงพระครรภ์ เรื่องนี้…….

“ข้ารู้ว่าเจ้ามีวิธี ทำให้ฮองเฮาดูเหมือนคนท้อง ไม่มีประจำ เดือน และมีท้องที่ใหญ่ขึ้น รอจนกระทั่งเซียวกุ้ยเฟยให้ประสูติ พระโอรส ข้าจะเป็นคนอุ้มไปให้ฮองเฮาเอง แล้วบอกฮองเฮา ว่า นั้นคือเด็กที่นางประสูติออกมา ส่วนเซียวกุ้ยเฟยนั้น นางยังอ่อนเยาว์อยู่ ยังคงมีโอกาส แต่บังลังก์ของข้า จะ

ต้องมองให้แก่พระโอรสของข้าและฮองเฮ้เท่านั้น

ในใจของอันหลิงหยุนรู้สึกอ้างว้างเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าควร

จะตอบเช่นไรดี

ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้ดีว่า สาเหตุที่เขามีบุตรยากนั้น เป็นเพราะ ฮองเฮาแต่เขาก็ยังคงปฏิบัติต่อฮองเฮาเช่นนี้ ดูแล้วช่างเป็น ความรักที่จริงใจ

แต่ฮ่องเต้กลับทำให้อันหลิงหยุนรู้สึกว่า เขาไม่ได้รักฮองเฮา

ส่วนเซียวกุ้ยเฟยนั้น เรียกได้ว่าเป็นผู้เคราะห์ร้ายใน

เหตุการณ์ครั้งนี้

บุตรที่เกิดออกมาก็ต้องยกให้ฮองเฮา แล้วนางจะใช้ชีวิตต่อ

ไปได้กระไร?

ฮ่องเต้ชิงหยู่เองคงจะไม่ได้คิดที่จะให้ความรักแก่เซียว

กุ้ยเฟยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เมื่อลูกไม่มีแล้ว เขาสามารถส่งเซียง กุ้ยเฟยเข้าไปอยู่ในวังเย็นได้ ถึงเวลานั้น ชีวิตวัยสาวของเซียว กุ้ยเฟยก็คงจะต้องจบลงเพียงเท่านี้
อันหลิงหยุนรู้สึกโศกเศร้า เดิมทีคิดว่าหวางฮองไทเฮาเป็น ปีศาจร้ายที่ยากที่จะต่อกรด้วยได้ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า เหนือฟ้า ยังมีฟ้า คนที่ปกติแล้วดูไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา แต่จริงๆแล้วกลับ

น่ากลัวกว่ามาก!

*ฝาบาท หม่อมฉันจะพยายามคิดหาวิธีเพคะ แต่คงต้องใช้ เวลาสักระยะ” อันหลิงหยุนทำได้แค่เพียงยอมรับปาก

“เรื่องนี้ให้เจ้าเป็นคนรับผิดชอบ ข้าเองก็วางใจ เจ้ากลับไป ก่อนเถอะ ข้าอยากจะอยู่ที่นี่คนเดียวสักพัก หากมีคนถามถึง

เรื่องนี้ ก็ให้เจ้าบอกไปว่า ข้าอยากจะหาภรรยาให้แก่แม่ทัพอัน สักคน จึงลองถามความเห็นเจ้าดู เจ้าอ้างว่าแม่ทัพอันมีความ รักที่ลึกซึ้งต่อแม่ของเจ้า หากบังคับให้เขาแต่งงานใหม่ คงจะ

ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่

“หม่อมฉันของพระทัยที่ฝ่าบาททรงช่วยคิดแทนหม่อมฉัน

แต่ความจริงก็เป็นเช่นนี้จริงๆ

“ไปเถอะ” ฮ่องเต้ชิงหยู่หันหลังกลับ ยืนเอามือไขว้หลัง มอง ไปยังเส้นขอบฟ้า อันหลิงหยุนทูลลาแล้วจึงเดินจากไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ